เราเป็นคนนึงที่บ้างาน ทำงานหนักมาก จนไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อนและไม่มีเวลาดูแลตัวเอง ทำให้ช่วงหลังๆ เริ่มรู้สึกว่ามีสัญญาณเตือนแปลกๆ ขึ้นมา รู้สึกเหนื่อยง่าย เจ็บป่วยบ่อยขึ้น แถมยังนอนหลับไม่ค่อยสนิทอีก
ถึงแม้ตอนนี้เราจะอายุแค่ 30 ต้นๆ แต่ก็ไม่สามารถรับรู้ได้เลยค่ะว่าจริงๆ แล้วสุขภาพของเราอายุเท่าไหร่กันแน่ เพราะส่วนใหญ่ช่วง Gen X และ Gen Y มักจะมีพฤติกรรมทำลายสุขภาพของตัวเองอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการนอนดึกหรือไม่ค่อยโฟกัสเรื่องอาหารการกิน ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ก็เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้สุขภาพของเราเสื่อมโทรมลงได้
ด้วยความที่เรายังอยากมีชีวิตและสุขภาพที่ดีต่อไปนานๆ เราเลยตัดสินใจหาเวลาว่างเพื่อมาตรวจสุขภาพทันที โดยโปรแกรมที่เราเลือกใช้บริการก็คือ ตรวจสุขภาพ โปรแกรม Basic 49 รายการ ที่ โรงพยาบาลอินทรารัตน์ รามอินทรา กม. 9 ค่ะ
สาเหตุที่เลือกโปรแกรมนี้ก็เพราะว่าเป็นโปรแกรมตรวจสุขภาพที่คุ้มค่ามากๆ มีรายการตรวจครบจัดเต็มถึง 49 รายการ ที่สำคัญคือได้ตรวจกับโรงพยาบาลเอกชนที่ได้มาตรฐาน ใช้เวลาตรวจไม่นาน แถมอยู่ใกล้บ้าน เดินทางสะดวกด้วย เราเลยตัดสินใจเลือกใช้บริการที่นี่ค่ะ
สารบัญ
การเตรียมตัวก่อนตรวจสุขภาพ
ก่อนที่จะเข้าไปใช้บริการตรวจสุขภาพ แน่นอนว่าเราก็ต้องเตรียมตัวเตรียมความพร้อมกันก่อนค่ะ โดยการเตรียมตัวก่อนตรวจสุขภาพที่อยากแนะนำ มีดังนี้
- งดน้ำและอาหารอย่างน้อย 8-12 ชั่วโมง
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ก่อนตรวจสุขภาพอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ประมาณ 6-8 ชั่วโมง
- ควรสวมเสื้อผ้าหลวมๆ สบายตัว เพื่อความสะดวกในการตรวจ
นอกจากนี้ในวันที่เข้ามาตรวจสุขภาพ สำหรับสาวๆ คนไหนที่กำลังตั้งครรภ์หรือสงสัยว่าตั้งครรภ์ก็ควรแจ้งให้เจ้าหน้าที่หรือพยาบาลทราบก่อนตรวจด้วยนะคะ
รีวิวตรวจสุขภาพโปรแกรม Basic ที่ รพ. อินทรารัตน์ รามอินทรา กม. 9
พอถึงวันนัดหมายและเข้ามาที่โรงพยาบาลแล้ว ก็ไปติดต่อเจ้าหน้าที่หน้าเคาน์เตอร์ลงทะเบียนว่ามาใช้บริการตรวจสุขภาพโปรแกรม Basic ได้เลยค่ะ
จากนั้นเจ้าหน้าที่จะขอบัตรประชาชนเพื่อนำไปลงทะเบียนทำประวัติคนไข้ใหม่ก่อน เสร็จแล้วก็ไปที่ศูนย์ตรวจสุขภาพกันค่ะ
พอขึ้นมาที่ศูนย์ตรวจสุขภาพแล้ว พี่พยาบาลจะพาเราไปชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง วัดความดัน พร้อมกับซักประวัติการแพ้ยาเล็กน้อยก่อน เสร็จแล้วก็ไปเจาะเลือดและเก็บปัสสาวะกันต่อเลย
ขั้นตอนการเจาะเลือดและเก็บปัสสาวะ
สำหรับขั้นตอนการเจาะเลือดก็ไม่มีอะไรมากค่ะ พี่พยาบาลจะพาเราเข้ามาในห้องสำหรับเจาะเลือดโดยเฉพาะ จากนั้นก็ให้นั่งแล้วนำแขนขึ้นมาวางไว้บนเบาะรองพร้อมกับนำสายมารัดที่ต้นแขนเพื่อหาเส้นเลือด
พอพี่พยาบาลเจอเส้นเลือดแล้ว ขั้นตอนต่อมาก็จะเช็ดทำความสะอาดบริเวณข้อพับแขนและเริ่มเจาะเลือดเลยทันที
ใครที่กังวลเรื่องความเจ็บหรือกลัวเข็ม บอกเลยว่าพี่พยาบาลที่นี่มือเบามากๆ ไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิดค่ะ แถมใช้เวลาไม่ถึง 5 นาทีก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว
หลังจากเจาะเลือดเสร็จ พี่พยาบาลก็จะให้กระบอกเก็บปัสสาวะมาเพื่อนำไปตรวจคัดกรองหาความผิดปกติหรือโรคที่เกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะ รวมไปถึงความเสี่ยงเกี่ยวกับโรคไตด้วย
โดยขั้นตอนการเก็บปัสสาวะพี่พยาบาลก็แนะนำให้เก็บปัสสาวะเฉพาะช่วงกลาง ส่วนช่วงแรกกับช่วงท้ายให้ทิ้งไป พอเก็บปัสสาวะเรียบร้อยแล้วก็นำกระบอกมาส่งคืนพี่พยาบาลได้เลยค่ะ
ขั้นตอนการตรวจเอกซเรย์ปอด
ขั้นตอนต่อมาจะเป็นการตรวจเอกซเรย์ปอดค่ะ สำหรับขั้นตอนนี้จะเป็นการตรวจดูความผิดปกติของอวัยวะระบบทางเดินหายใจ ทรวงอก เส้นเลือดในปอด รวมถึงกระดูกซี่โครง กระดูกไหปลาร้า และกะบังลม
โดยก่อนที่จะเริ่มตรวจ เราก็ต้องไปเปลี่ยนชุด ถอดชุดชั้นใน และถอดเครื่องประดับที่เป็นโลหะทั้งหมดออกจากตัวก่อน หลังจากเตรียมตัวเสร็จแล้วก็เข้าไปที่ห้องเอกซเรย์ได้เลย
สำหรับขั้นตอนนี้จะมีนักรังสีเทคนิคเป็นคนตรวจให้นะคะ โดยขั้นตอนการตรวจก็ง่ายมากๆ เพียงแค่ยืนเอาตัวแนบกับเครื่องเอกซเรย์ จากนั้นนักรังสีเทคนิคจะให้หายใจเข้าลึกๆ และกลั้นหายใจค้างไว้ประมาณ 5 วินาที
ช่วงระหว่างที่เรากลั้นหายใจ นักรังสีเทคนิคจะถ่ายฟิล์มเอกซเรย์เลยทันที โดยรวมใช้เวลาไม่ถึง 5 นาทีก็เสร็จแล้วค่ะ ต่อไปก็ไปตรวจวัดระดับการมองเห็นและทดสอบตาบอดสีกันต่อเลย
ขั้นตอนการตรวจวัดระดับการมองเห็นและทดสอบตาบอดสี
มาถึงขั้นตอนสุดท้ายนั่นก็คือการตรวจวัดระดับการมองเห็นและทดสอบตาบอดสีค่ะ สำหรับการตรวจวัดระดับการมองเห็น พี่พยาบาลจะนำที่ปิดตามาปิดให้ทีละข้าง จากนั้นก็ให้เรามองแผ่นป้ายด้านหน้าที่จะมีตัวเลขอยู่หลากหลายขนาด
ระหว่างนั้นพี่พยาบาลจะถามเราไปเรื่อยๆ ว่ามองเห็นแถวไหนชัดสุด มองเห็นครบทุกเลขมั้ย เพื่อที่พี่พยาบาลจะได้วัดค่าสายตา
หลังจากตรวจวัดระดับการมองเห็นเสร็จแล้ว ต่อมาจะเป็นการทดสอบตาบอดสีค่ะ โดยขั้นตอนนี้พี่พยาบาลจะเปิดตัวแบบทดสอบที่มีลักษณะเป็นแผ่นวงกลมและมีตัวเลขอยู่ในนั้นให้ดู เราก็จะต้องอ่านตัวเลขในวงกลมไปเรื่อยๆ เพื่อเช็กอาการตาบอดสีค่ะ
โดยรวมทั้งสองขั้นตอนนี้ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีก็เสร็จแล้ว รวดเร็วมากๆ หลังจากเสร็จทุกขั้นตอนเราก็ไปพบคุณหมอเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับผลตรวจคัดกรองสุขภาพกันได้เลย
สำหรับเล่มผลตรวจสุขภาพทั้งหมด 49 รายการ ทางโรงพยาบาลจะจัดส่งให้ภายหลังอีกทีประมาณ 7-14 วันหลังจากวันที่เข้ารับการตรวจค่ะ โดยเราสามารถเลือกรับผลตรวจได้ทั้งรูปแบบไฟล์ PDF ผ่านทางอีเมล หรือจะให้โรงพยาบาลส่งรูปเล่มผ่านไปรษณีย์ไทยก็ได้เช่นกันนะคะ สะดวกสบายมาก
บรรยากาศของโรงพยาบาลอินทรารัตน์ รามอินทรา กม. 9
หลังจากได้เข้าไปใช้บริการที่ โรงพยาบาลอินทรารัตน์ รามอินทรา กม. 9 เราก็รู้สึกประทับใจกับบรรยากาศของที่นี่มากเลยค่ะ เพราะด้านในโรงพยาบาลตกแต่งสวยงาม หรูหรา ทันสมัย ทำให้ไม่รู้สึกน่ากลัวหรืออึดอัดเหมือนกับโรงพยาบาลสมัยก่อน ที่สำคัญคือพื้นที่กว้างขวาง สะอาดสะอ้านมากๆ ถูกใจสุดๆ ไปเลยค่ะ
และนอกจากบรรยากาศที่ดีแล้ว ด้านการให้บริการของที่นี่ก็ดีไม่แพ้กัน พี่ๆ เจ้าหน้าที่และพี่พยาบาลทุกคนน่ารัก สุภาพ พูดจาดี และให้บริการได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องรอคิวนานๆ ส่วนคุณหมอก็ให้คำแนะนำละเอียด พูดคุยเป็นกันเอง มีอะไรสงสัยสามารถสอบถามได้หมดเลย คิดไม่ผิดจริงๆ ค่ะที่เลือกมาใช้บริการที่นี่
การตรวจสุขภาพประจำปีก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญมากๆ ทำให้เราได้รู้ว่าตอนนี้สุขภาพของตัวเองเป็นยังไงบ้าง มีความเสี่ยงอะไรรึเปล่า ต้องดูแลตัวเองด้านไหนเพิ่มเติมบ้าง เพื่อที่เราจะได้มีสุขภาพที่ดีและมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ยาวๆ
สำหรับใครที่กำลังตามหาโปรแกรมตรวจสุขภาพแบบครบครัน จัดเต็ม สถานที่สวยงาม สะอาดสะอ้าน ไม่น่ากลัวเหมือนโรงพยาบาลแบบเดิมๆ เราแนะนำให้เข้ามาใช้บริการที่ รพ. อินทรารัตน์ รามอินทรา กม. 9 เลยค่ะ รับรองถูกใจแน่นอน
และถ้าจะให้คุ้มสุดๆ ก็อย่าลืมเข้าไปจองแพ็กเกจผ่าน HDmall.co.th ด้วยนะคะ เพราะในนี้เค้ามีโปรโมชันร่วมกับ รพ.อินทรารัตน์ รามอินทรา กม. 9 อยู่ ราคาดีมากกก แถมขั้นตอนการจองก็ไม่ยุ่งยาก สะดวกสบาย มีแอดมินคอยให้บริการอยู่ตลอด คุ้มค่า คุ้มราคาแบบนี้ห้ามพลาดเด็ดขาดเลยค่ะ