hdcare radiofrequency hero

รีวิวรักษานอนกรน ด้วยคลื่นความถี่วิทยุ กับ HDcare

ใครจะคิดว่าผู้หญิงอายุ 28 ที่ไม่ได้อ้วนและดูสุขภาพแข็งแรง แต่มีปัญหานอนกรนหนักมาก รีวิวนี้ดุ๊บจะมาบอกเล่าทุกขั้นตอนที่ได้ไปรักษานอนกรนด้วยการจี้ด้วยคลื่นวิทยุ ผ่านบริการจาก HDcare บอกเลยว่า เจ็บนิดเดียว แต่จบปัญหาได้เลยค่ะ

นอนกรนอันตรายมากนะคะ ใครที่เป็นอยู่อย่าปล่อยทิ้งไว้ อยากรักษานอนกรนแต่ไม่รู้จะรักษาที่ไหนดี รักษานอนกรนแบบไหนดี อยากรักษานอนกรนกับคุณหมอเก่งๆ บริการจากโรงพยาบาลดีๆ รีวิวนี้บอกครบละเอียดทุกขั้นตอนเลยค่ะ

รีวิวชีวิตนอนกรน ปัญหาตอนนอนที่ส่งผลกับทั้งวัน

ดุ๊บรู้ตัวว่านอนกรนก็เพราะว่านอนห้องเดียวกับเพื่อน แล้วเค้าทักว่าเรานอนกรนนะ กรนค่อนข้างน่ากลัวเลย แต่ช่วงแรกเรายังไม่คิดว่าเป็นปัญหาค่ะ

จนกระทั่งมีครั้งนึงที่เผลอหลับบนรถตู้ แล้วตกใจตื่นเพราะสำลักน้ำลายตัวเอง ตื่นขึ้นมาแล้วก็ไอจากการสำลักหนักเลย ซึ่งตอนนั้นก็ตกใจมาก แต่ก็ยังไม่ได้ไปหาหมอที่ไหน

พอกลับมาบ้านแล้วมีอาการแบบเดียวกันคือ สะดุ้งตื่นกลางดึกเพราะสำลักน้ำลายจากการนอนกรน แล้วก็ต้องลุกมาไอสำลักตลอด

บางคืนที่ไม่ได้สำลัก เราก็สะดุ้งตื่นกลางดึกตลอด ตื่นทุกๆ คืนช่วงตีสาม กลายเป็นร่างกายเราชินกับการตื่นตีสามทุกคน แม้ว่าจะกลับไปนอนหลับต่อได้ไม่ยาก แต่ปัญหานี้ก็ส่งผลกับชีวิตประจำวันมากค่ะ

ทุกครั้งที่ตื่นเช้ามาเรารู้สึกอ่อนเพลีย ง่วงหงาวหาวนอน รู้สึกนอนไม่เต็มอิ่มเหมือนไม่ได้นอนเลย แถมระหว่างวันก็ง่วงมากๆ ต้องกินกาแฟหลายแก้วเพื่อให้ตื่นอยู่ได้ค่ะ 

ดุ๊บก็เลยคิดว่าทุกคืนเรานอนกรนหนักมาก แต่บางวันก็แค่สะดุ้งตื่นเฉยๆ เป็นกิจวัตรที่เกิดขึ้นทุกวันและทำลายสุขภาพการนอนหลับพักผ่อนของเรา 

ปัญหานอนกรนอยู่กับเรานานกว่า 2 ปีเลย จนเมื่อ 6 เดือนที่แล้ว เราสำลักน้ำลายตัวเองแล้วสะดุ้งตื่นขึ้นมาบ่อยขึ้น เป็นบ่อยถึง 4 ครั้งต่อสัปดาห์ ก็เลยคิดว่าถึงเวลาที่เราจะต้องหาทางรักษาอาการนอนกรนแบบจริงจังแล้วค่ะ

หยุดหายใจขณะหลับ อันตรายกว่าที่คิด

ปัญหานอนกรนที่เป็นหนัก ดุ๊บก็เลยไปปรึกษากับโรงพยาบาลแห่งนึงมา คุณหมอก็แนะนำให้เราทำ Sleep Test ตรวจการนอนหลับว่าเรามีภาวะหยุดหายใจตอนนอนรึเปล่า

คุณหมออธิบายว่า ภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ (Obstructive Sleep Apnea หรือ OSA) คือ ภาวะที่เราหยุดหายใจตอนที่นอนหลับ เกิดจากทางเดินหายใจปิดกั้นจนไม่มีอากาศผ่านเข้าออกในร่างกาย ทำให้ออกซิเจนในเลือดต่ำ ความดันขึ้นสูง และระบบต่างๆ ก็ทำงานหนักเพื่อไม่ให้ร่างกายหยุดกระบวนการนี้

ภาวะหยุดหายใจขณะหลับอาจจะรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยถ้าไม่รีบรักษา หรือไม่ก็อาจจะทำให้เกิดโรคต่างๆ ไม่ว่าจะ โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และความอ่อนเพลียจากการนอนไม่พอก็อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุตอนขับรถได้ด้วยนะคะ

ซึ่งอาการของดุ๊บที่นอนกรนแล้วตื่นเช้ามาไม่สดชื่น ก็อาจเกิดจากภาวะหยุดหายใจตอนนอนหลับได้ ยิ่งมีอาการสำลักน้ำลายยิ่งเข้าข่ายภาวะหยุดหายใจขณะหลับมากๆ และการทำ Sleep Test ก็จะเป็นการตรวจวินิจฉัยแบบฟันธงให้เลยค่ะ

แต่ในตอนนั้นดุ๊บยังไม่ได้ตัดสินใจตรวจการนอนหลับค่ะ เพราะคุณหมอบอกว่าวิธีรักษาคือการใส่อุปกรณ์ในช่องปากตอนนอน ซึ่งเราไม่อยากทำแบบนั้นค่ะ

ดุ๊บรู้สึกว่า ถ้าจะรักษานอนกรนแล้ว ก็อยากรักษาให้หายเลยทันที ไม่อยากต้องมาใส่อุปกรณ์อะไรให้เกะกะ ก็เลยหาข้อมูลมาเรื่อยๆ ว่า รักษานอนกรนทำยังไงได้บ้าง 

รีวิวรักษาอาการนอนกรนด้วยคลื่นวิทยุ

จนกระทั่งมาเจอกับ HDcare และคุณหมอเชอร์รี่ พญ. เพชรรัตน์ แสงทอง แพทย์เฉพาะทางสาขา โสต ศอ นาสิกวิทยา และเวชศาสตร์การนอนหลับ (เดี๋ยวท้ายบทความดุ๊กมาอธิบายเกี่ยวกับ HDcare เพิ่มนะคะ)

หมอเชอร์รี่ พญ. เพชรรัตน์ แสงทอง

หลังจากพูดคุยปรึกษากับคุณหมอเชอร์รี่ทางออนไลน์ผ่านบริการจาก HDcare เค้าก็จะถามเราว่าสะดวกเข้าไปที่โรงพยาบาลไหน ซึ่งบริการจาก HDcare เราสามารถเลือกโรงพยาบาลที่สะดวกได้ ส่วนครั้งนี้เรานัดเข้ามาตรวจวินิจฉัยกับคุณหมอที่โรงพยาบาลพญาไท พหลโยธินค่ะ 

ตอนที่ตรวจอาการนอนกรนกับคุณหมอเชอร์รี่ คุณหมอก็ตรวจดูโพรงจมูกและช่องปากก็เจอว่า ที่เรานอนกรนหรือหยุดหายใจตอนหลับเพราะมีต่อมทอนซิลโต จมูกบวม และเพดานปากต่ำ 3 สาเหตุนี้ทำให้เรานอนกรนหนักและสำลักน้ำลายจนตื่นกลางดึกค่ะ

คุณหมอเชอร์รี่ก็เลยให้เราตัดสินใจว่าจะรักษาอะไรก่อนดี จะผ่าตัดรักษาทั้ง 3 อาการเลย หรือถ้าไม่อยากนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลนานก็ยังไม่ต้องผ่าต่อมทอนซิลก็ได้ แต่แนะนำให้จี้โพรงจมูกและเพดานปากด้วยคลื่นวิทยุเพื่อให้มันยุบตัวลงก่อน ซึ่งเราก็เลือกจี้ด้วยคลื่นวิทยุก่อนค่ะ

รักษานอนกรนด้วยคลื่นวิทยุทำยังไง?

คุณหมอเชอร์รี่อธิบายให้เราฟังละเอียดมากๆ ว่า สาเหตุที่เรานอนกรนก็เพราะว่าจมูกที่บวม และเพดานปากที่ต่ำ ทำให้ตอนที่เรานอนหลับ ร่างกายก็จะคลายตัว และทำให้ทางเดินหายใจของเราแคบลงกว่าปกติ

รักษาอาการนอนกรน หมอไหนดี

พอเราหายใจไม่สะดวก ร่างกายก็พยายามที่จะปลุกเราขึ้นมา เป็นอาการที่เราสะดุ้งตื่นด้วยการสำลักน้ำลายนั่นเองค่ะ หรือบางครั้งก็อาจจะเกิดเป็นภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับและทำให้ร่างกายทำงานหนักมากๆ จนกลายเป็นว่าเรานอนหลับ แต่ร่างกายไม่หลับพักผ่อน ตื่นเช้ามาก็เลยอ่อนเพลียส่งผลกระทบกับการทำงานทั้งวัน

การรักษานอนกรนด้วยการจี้โพรงจมูกด้วยคลื่นวิทยุ และจี้เพดานปากด้วยคลื่นวิทยุ จะช่วยให้ทางเดินหายใจเปิดกว้างขึ้น ช่วยลดการสั่นสะเทือนของเนื้อเยื่อตอนนอนหลับ และช่วยลดโอกาสการนอนกรนได้ค่ะ

ซึ่งการจี้ด้วยคลื่นวิทยุ คุณหมออธิบายว่าจะใช้อุปกรณ์เล็กๆ เจาะเข้าไปด้านในเนื้อเยื่อที่มีปัญหาผ่านทางช่องปากและโพรงจมูก แล้วปล่อยคลื่นความถี่วิทยุ (Radiofrequency หรือคลื่น RF)

พลังงานที่ส่งเข้าไปจะทำให้เนื้อเยื่อหดตัวเข้าหากัน และช่วยให้จมูกที่บวมหดตัวลง เนื้อเยื่อตรงเพดานอ่อนก็ค่อยๆ ขยายพื้นที่ทำให้ลมหายใจเข้าออกได้สะดวกขึ้นค่ะ

แต่คุณหมอบอกว่า หลังทำทันทีจะยังไม่เห็นผลนะคะ ต้องรอให้ร่างกายปรับตัวประมาณ​ 1 เดือน แล้วก็จะเริ่มหายใจได้สะดวกขึ้น อาการนอนกรนที่เป็นอยู่ก็จะค่อยๆ ลดลงค่ะ

คุณหมออธิบายว่า ข้อดีของการรักษานอนกรนด้วยคลื่นวิทยุ แผลจะเล็กมากๆ และอยู่ในโพรงจมูกกับช่องปาก มองไม่เห็นจากข้างนอก แล้วก็ใช้เวลาทำไม่นาน และเป็นรักษาโดยไม่จำเป็นต้องดมยาสลบด้วยค่ะ

หลังจากคุยกับคุณหมอก็มั่นใจในตัวคุณหมอมากๆ เพราะคุณหมอไม่ได้บอกว่าเราต้องทำอะไร แต่คุณหมอมีตัวเลือกให้เราหลายอย่าง ให้เราเลือกในแบบที่เราสบายใจ เป็นการตัดสินใจร่วมกัน เราก็เลยตัดสินใจรักษานอนกรนด้วยคลื่นวิทยุกับคุณหมอเชอร์รี่เลยค่ะ

ขั้นตอนรักษานอนกรนด้วยคลื่นวิทยุ

หลังจากตกลงรักษานอนกรนด้วยคลื่นวิทยุกับคุณหมอเชอร์รี่ ทาง HDcare ก็ช่วยดูแลประสานงานเรื่องสิทธิ์ประกันให้เราหมดเลย และพอประกันอนุมัติเค้าก็ทำนัดผ่าตัดรักษานอนกรนด้วยคลื่นวิทยุให้เราค่ะ

รักษาอาการนอนกรน ที่ไหนดี

โดยก่อนผ่าตัดรักษานอนกรนด้วยคลื่นวิทยุ คุณหมอแนะนำให้เรางดอาหารตอนช่วง 8 โมงเช้าของวันผ่าตัด เพราะจะต้องผ่าตัดตอนบ่าย 4 โมงค่ะ

และพอมาถึงโรงพยาบาลพญาไท พหลโยธินในช่วงเช้า ทาง HDcare เค้าก็มีผู้ช่วยส่วนตัวมาคอยดูแล คอยจัดการเรื่องเอกสาร การลงทะเบียนต่างๆ ใครที่มาโรงพยาบาลคนเดียวก็ไม่ต้องวลเลยค่ะ HDcare เค้าดูแลทุกขั้นตอนให้เราเลย

จากนั้นทางผู้ช่วยจาก HDcare เค้าก็พาเราไปตรวจสุขภาพก่อนผ่าตัด เจาะเลือด ตรวจเอกซเรย์ปอด และมาส่งเราแอดมิดที่ห้องพักเพื่อรอเวลาผ่าตัดค่ะ ทุกอย่างรวดเร็วเลยเพราะว่าเราไม่ต้องไปมองดูป้ายห้องเองว่าไปตรงไหน ผู้ช่วยจาก HDcare เค้าพาไปหมดเลย เราแค่เดินตามไปเฉยๆ เลยค่ะ

ขั้นตอนการตรวจคัดกรองเบื้องต้น

พอถึงเวลาผ่าตัด ทางโรงพยาบาลก็ส่งพยาบาลมารับ แต่ทีมจาก HDcare ก็คอยดูแลเรา อยู่เป็นเพื่อนตลอด และไปส่งถึงหน้าห้องผ่าตัดเลย 

อธิบายก่อนว่า การรักษานอนกรนด้วยคลื่นความถี่วิทยุ ไม่จำเป็นต้องดมยาสลบนะคะ จะใช้เป็นการระงับความรู้สึกเฉพาะจุดก็ได้ แต่คุณหมอเชอร์รี่เค้าก็ถามเราก่อนว่าอยากจะดมยาสลบไหม ซึ่งเราก็ขอเลือกดมยาสลบเพราะไม่อยากรับรู้เรื่องการผ่าตัดเลยค่ะ

ตอนที่เข้ามาในห้องผ่าตัด วิสัญญีแพทย์ก็เข้ามาอธิบายเกี่ยวกับการทำให้เราหลับค่ะ เล่าว่าจะเป็นการทำให้หลับผ่านทางสายน้ำเกลือ หลังตื่นขึ้นมาอาจจะมีอาการวิงเวียนเล็กน้อย แต่ไม่นานก็จะหายไป ไม่ต้องกังวลค่ะ

ส่วนบรรยากาศในห้องผ่าตัดก็ไม่เหมือนในหนังเลย ทีมพยาบาลของโรงพยาบาลพญาไท พหลโยธินทำงานเป็นมืออาชีพมากๆ เค้าก็จะเข้ามาติดอุปกรณ์ต่างๆ วัดความดัน ความชีพจร สายออกซิเจนต่างๆ พอทุกคนเตรียมพร้อมแล้ววิสัญญีแพทย์ก็ทำให้เราหลับเลยค่ะ

ดุ๊กตื่นขึ้นมาอีกทีก็อยู่ในห้องพักฟื้นแล้วค่ะ ดูจากนาฬิกาถึงรู้ว่าเราอยู่ในห้องผ่าตัดไปประมาณ 1 ชม. เท่านั้น

รักษานอนกรน ด้วยคลื่นความถี่วิทยุ

การดูแลตัวเองหลังรักษานอนกรนด้วยคลื่นความถี่วิทยุ

การดูแลตัวเองหลังรักษานอนกรนด้วยคลื่นความถี่วิทยุ คุณหมอแนะนำให้งดการพูดคุยและกินอาหารอ่อนๆ เพราะแผลของเราอยู่ในช่องปาก

คุณหมอบอกว่า คนไข้ทุกคนจะบอกว่าความเจ็บของการรักษานอนกรนด้วยคลื่นความถี่วิทยุจะอยู่ที่ประมาณ 5 เต็ม 10 แต่โดยส่วนตัวเราให้คะแนนความเจ็บแค่ 4 เต็ม 10 เท่านั้นเองค่ะ

ซึ่งหลังจากการรักษาเรานอนพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลแค่ 1 คืนก็กลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติเลย ส่วนความรู้สึกจะแค่ระคายเคืองคอนิดหน่อย คล้ายๆ กับตอนที่เราเป็นโควิด-19 ที่รู้สึกคันๆ คอเหมือนจะอยากไอ แต่ไม่ได้ไอน่ะค่ะ

หลังรักษาด้วยคลื่นความถี่วิทยุ จะเลิกนอนกรนเลยไหม

จากที่เราถามเพื่อนที่นอนด้วยกัน เพื่อนยังบอกว่าเรายังนอนกรนอยู่นะคะ แต่คุณหมอได้อธิบายเอาไว้แล้วว่า การรักษานอนกรนด้วยคลื่นความถี่วิทยุจะเห็นผลหลังทำประมาณ 2-3 ครั้ง

คุณหมอบอกว่า จะต้องให้ร่างกายปรับตัวก่อน แล้วเนื้อเยื่อตรงโคนลิ้นหรือเพดานอ่อนจะค่อยๆ ขยายพื้นที่ทำให้ลมหายใจเข้าออกได้สะดวกขึ้นค่ะ

หลังจากรักษานอนกรนด้วยคลื่นความถี่วิทยุไปแล้ว 1 เดือนก็กลับมาติดตามผลอีกครั้งกับคุณหมอเชอร์รี่ค่ะ โดยคุณหมอจะตรวจช่องปากและโพรงจมูกเพื่อดูแผลจากการจี้ด้วยคลื่นวิทยุว่าเป็นยังไงบ้าง

ซึ่งแผลจากการจี้คลื่นวิทยุรักษานอนกรนในช่องปากก็หายสนิทแล้ว ส่วนแผลในโพรงจมูกยังเป็นสะเก็ดอยู่เล็กน้อย คุณหมอเลยแนะนำให้ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือต่อจนกว่าแผลจะหายสนิทและนัดติดตามผลอีกครั้งในเดือนถัดไปค่ะ

ส่วนอาการนอนกรนหลังจากรักษาด้วยคลื่นวิทยุไป เพื่อนบอกว่าอาการนอนกรนดีขึ้นมาก ไม่ค่อยกรนแล้ว แต่จะมีบางวันที่เราหายใจแรงเท่านั้นเอง ซึ่งก็ถือว่าผลลัพธ์ค่อยๆ ดีขึ้นตามที่คุณหมอแจ้งเลยค่ะ

รีวิวจองคิวทำนัดผ่าตัดกับ HDcare

สำหรับใครที่มีปัญหานอนกรน ตื่นเช้ามาไม่สดชื่นอ่อนเพลีย อย่าปล่อยทิ้งไว้นะคะ เพราะว่านอนกรนอาจอันตรายถึงชีวิตถ้ามีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ แนะนำให้รักษานอนกรนก่อนที่จะเป็นหนัก ดุ๊กขอแนะนำให้จองคิวทำนัดผ่าตัดกับ HDcare เลยนะคะ บอกเลยว่าประทับใจมากๆ

รีวิว HDcare

ย้อนกลับไปในตอนที่ดุ๊กหาข้อมูลเรื่องวิธีรักษานอนกรน ก็มาเจอกับ HDcare ดุ๊กเห็นว่าเค้าเป็นพาร์ตเนอร์กับหลายๆ โรงพยาบาล และก็มีคุณหมอเก่งๆ หลายท่านเข้าร่วมกับ HDcare ดุ๊กก็เลยมั่นใจค่ะ 

ตอนที่ติดต่อเข้ามา ทีม HDcare ก็ให้คำตอบดุ๊กละเอียดมาก เปรียบเทียบการผ่าตัดแต่ละแบบให้ดุ๊กเห็น และมีราคาของแต่ละโรงพยาบาลเปรียบเทียบมาให้เลย ทำให้ดุ๊กไม่ต้องเข้าไปโทรถามโรงพยาบาลเองเลยค่ะ

และพอดุ๊กตัดสินใจรักษากับคุณหมอเชอร์รี่ ทาง HDcare เค้าก็เดินเรื่องเอกสารประกันต่างๆ ว่าครอบคลุมไหม เสร็จแล้วทำยังไงต่อ HDcare เค้ามีข้อมูลเราครบถ้วน ถามเราแค่ครั้งเดียว พอเจอกับทีมงานก็ไม่ต้องตอบคำถามเรื่องเดิมๆ ซ้ำ ไม่ต้องให้เราให้ข้อมูลใหม่ทุกครั้งที่เรามา รพ. ด้วยค่ะ

ซึ่งการผ่าตัดครั้งนี้ ดุ๊กมาใช้บริการที่โรงพยาบาลพญาไท พหลโยธิน โดย HDcare เค้าจะมีรายละเอียดแต่ละโรงพยาบาลมาให้เราเลือกว่าเราสะดวกที่ไหน และยังเปรียบเทียบราคาของแต่ละที่ให้ด้วย แต่ที่ดุ๊กเลือกที่นี่ก็เพราะว่าเดินทางสะดวก ใกล้บ้าน ประหยัดเวลาเดินทาง แถมยังอยู่ติดกับบีทีเอสสะพานควายด้วยค่ะ

ตอนมาถึงโรงพยาบาลพญาไท พหลโยธินก็รู้สึกว่าโรงพยาบาลทันสมัยมาก พยาบาลทุกคนให้บริการเป็นอย่างดีดูมีมาตรฐานที่สูงจนเราสัมผัสได้จากสายตาเลยค่ะ

และพอถึงวันผ่าตัด ดุ๊กบอกเลยว่าค่อนข้างกังวลพอสมควร แต่ HDcare เค้าก็ส่งผู้ช่วยส่วนตัวเข้ามาดูแล คอยจัดการธุระสำคัญๆ ให้เรา เพราะเค้ามี PriorityCare ให้ตลอดการรักษา มีผู้ช่วยส่วนตัวจาก HDcare คอยดูแลอยู่กับเราตลอด เวลาเรามีคำถามจะหันไปหาก็เจอเค้าคอยตอบทุกข้อสงสัย

ไม่ว่าจะต้องไปตรวจคัดกรองสุขภาพ หรือว่าเดินเรื่องเอกสารอะไร PriorityCare เค้าก็จัดการเรื่องคิวให้รวดเร็วสะดวกสบาย ไม่ต้องรอต่อคิวเลย ไม่ว่าจะเรื่องเอกสารประกัน ค่าใช้จ่าย และประสานงานกับฝ่ายต่างๆ เค้าดูแลแทนเราตั้งแต่ต้นจนจบเลยค่ะ

ใครมีอาการคล้ายๆ เรา อยากรักษานอนกรน ดุ๊กขอแนะนำให้ HDcare เป็นหนึ่งในตัวเลือกกับทุกคนเลยนะคะ เพราะเค้ามีบริการที่ทำให้เรารู้สึกสะดวกสบายตั้งแต่ขั้นตอนการปรึกษาที่ได้ข้อมูลละเอียด ไปจนถึงความสบายในวันผ่าตัดและการดูแลต่อเนื่องหลังผ่าตัดเลยค่ะ

ใครที่ยังไม่แน่ใจว่าจะรักษานอนกรนที่ไหนดี ทักไลน์หา HDcare มาปรึกษาหรือแค่มาประเมินทางออนไลน์กับคุณหมอก่อน อาจจะไม่ต้องผ่าตัดก็ได้ เพราะคุณหมอจะให้คำแนะนำก่อนว่าอาการของแต่ละคนควรจะดูแลตัวเองแบบไหน ถ้าใครกังวลอยู่ไม่ต้องกังวลน้า ทักไลน์หา HDcare เลย

Scroll to Top