การทำเลสิกถือเป็นหนึ่งในหัตถการยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาสายตาในปัจจุบัน ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องทำให้มีเทคนิคการทำเลสิกให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละวิธีก็มีทั้งจุดเด่น ข้อจำกัด และความเหมาะสมที่แตกต่างกันออกไป หนึ่งในเทคนิคที่ได้รับความสนใจอย่างมากก็คือ “SBK LASIK” ซึ่งเป็นการใช้เครื่องมือเฉพาะทางในการแยกชั้นกระจกตาให้บางได้อย่างแม่นยำ
ในบทความนี้ได้รับเกียรติจาก รศ.นพ. อัมพร จงเสรีจิตต์ (ว.14220) จักษุแพทย์เฉพาะทางสาขาจอประสาทตา-เลสิก มาให้ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับ SBK LASIK เพื่อให้ผู้ที่กำลังสนใจได้รู้ข้อมูลก่อนตัดสินใจทำ
สารบัญ
SBK LASIK คืออะไร?
SBK LASIK (Sub-Bowman’s Keratomileusis) คือเทคนิคการผ่าตัดแก้ไขสายตาในกลุ่มของ Blade LASIK ซึ่งเป็นการใช้ใบมีดในการแยกชั้นกระจกตา (Corneal Flap) ก่อนทำการปรับความโค้งของกระจกตาด้วยเลเซอร์ โดยจุดเด่นของเทคนิคนี้คือการใช้เครื่องมือ SBK รุ่นใหม่ที่ออกแบบมาให้สามารถเปิดชั้นกระจกตาได้บาง สม่ำเสมอ และแม่นยำกว่าการทำเลสิกแบบเดิม
โดยทั่วไปแล้วเลสิกแบบเดิมจะสามารถแยกชั้นกระจกตาได้ในระดับประมาณ 130-150 ไมโครเมตร ในขณะที่ SBK LASIK สามารถเปิดชั้นกระจกตาให้บางลงเหลือประมาณ 90-110 ไมโครเมตรได้ ซึ่งจะช่วย รักษาความแข็งแรงของกระจกตาชั้นลึกเอาไว้ได้มากกว่า ลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน และทำให้เหมาะกับผู้ที่มีความหนากระจกตาจำกัดมากขึ้น
ใครเหมาะกับการทำ SBK LASIK บ้าง?
การทำ SBK LASIK เหมาะกับผู้ที่มีลักษณะดังนี้
- ผู้ที่มีความหนาของกระจกตาปกติ
- ผู้ที่มีดวงตาใหญ่ เบ้าตาไม่ลึก กระบอกตากว้างพอสำหรับใช้เครื่องมือใบมีด
- ผู้ที่ไม่มีโรคตาอื่นๆ และสุขภาพดวงตาโดยรวมดี
ข้อจำกัดของการทำ SBK LASIK มีอะไรบ้าง?
ถึงแม้ว่าการทำ SBK LASIK จะเป็นวิธีแก้ไขค่าสายตาที่มีประสิทธิภาพ แต่วิธีนี้อาจไม่เหมาะกับคนบางกลุ่มดังนี้
- ผู้ที่มีดวงตาดำเล็กกว่า 11 มิลลิเมตร
- ผู้ที่มีดวงตาลึก หนังตาเปิดได้น้อย
- ผู้ที่มีกระจกตาบางมากหรือมีความโค้งผิดปกติ
- ผู้ที่มีโรคตา เช่น กระจกตาย้วย, ต้อหิน, ต้อกระจก หรือจอประสาทตาผิดปกติ
- ผู้ที่เคยผ่าตัดตาหรือมีแผลเป็นที่กระจกตา
ค่าสายตาเท่าไรถึงควรทำ SBK LASIK
SBK LASIK สามารถแก้ไขค่าสายตาผิดปกติได้ทั้งสายตาสั้น สายตายาว และสายตาเอียง โดยคุณหมอแนะนำว่าผู้ที่สนใจทำ SBK LASIK ควรมีค่าสายตาอยู่ในช่วงเหล่านี้
- สายตาสั้น (Myopia) : ตั้งแต่ -1.00 ถึงประมาณ -10.00 D
- สายตายาว (Hyperopia) : ไม่เกิน +5.00 D และต้องเป็นสายตายาวตั้งแต่กำเนิด หากเป็นสายตายาวตามอายุ (Presbyopia) จะไม่สามารถรักษาด้วยเลสิกได้
- สายตาเอียง (Astigmatism) : ตั้งแต่ -1.50 ถึงประมาณ -5.00 D
อย่างไรก็ตาม หากไม่มั่นใจว่าสามารถแก้ไขค่าสายตาด้วยวิธี SBK LASIK ได้ไหม แนะนำให้เข้าพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพดวงตาและทำการประเมินอย่างละเอียดก่อน
การเตรียมตัวก่อนทำ SBK LASIK
การเตรียมตัวให้พร้อมถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้ผลลัพธ์หลังทำ SBK LASIK ออกมามีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยคุณหมอแนะนำให้เตรียมตัวก่อนทำเลสิก ดังนี้
- งดใส่คอนแทคเลนส์ชนิดนิ่ม 5-7 วัน และคอนแทคเลนส์ชนิดแข็ง (RGP) ให้ควรงดอย่างน้อย 3 สัปดาห์
- งดการใช้ยาที่ทำให้กระจกตาแห้ง เช่น ยาภูมิแพ้หรือยารักษาสิวอย่างน้อย 7 วันก่อนทำเลสิก
- พักผ่อนให้เพียงพอ เพราะดวงตาที่อ่อนล้าอาจทำให้เกิดอาการตาแห้งมากขึ้นและทำให้รู้สึกไม่สบายตาหลังผ่าตัดได้ง่าย
ขั้นตอนการทำ SBK LASIK มีอะไรบ้าง?
โดยทั่วไปแล้วก่อนทำ SBK LASIK แพทย์จะตรวจตาเบื้องต้นก่อน เช่น วัดค่าสายตา, วัดความหนาและความโค้งของกระจกตา รวมถึงตรวจลักษณะกระจกตาชั้นลึก เพื่อดูว่ามีความเสี่ยงต่อการย้วยหรือไม่ หากประเมินแล้วอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถทำ SBK LASIK ได้ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการผ่าตัดต่อไป ดังนี้
- แพทย์หยอดยาชาบริเวณดวงตาเพื่อให้ไม่รู้สึกเจ็บระหว่างการผ่าตัด รวมถึงทำความสะอาดรอบดวงตาให้ก่อน
- แพทย์ใช้วงแหวนดูดสุญญากาศ (Suction Ring) เพื่อยึดลูกตาให้อยู่กับที่ และใช้ใบมีด SBK ในการเปิดกระจกตาออกบางๆ
- หลังจากเปิดกระจกตาแพทย์จะใช้ Excimer Laser ขัดผิวกระจกตาพร้อมกับยิงเลเซอร์เพื่อปรับความโค้งและความเอียงของกระจกตาตามค่าสายตา
- เมื่อปรับค่าสายตาเรียบร้อยแล้ว แพทย์จะปิดฝากระจกตาที่เปิดอยู่กลับลงในตำแหน่งเดิมโดยไม่ต้องเย็บแผลและปล่อยไว้ 1-3 นาที เพื่อให้กระจกตากลับมาสมานแน่นเอง
- ขั้นตอนสุดท้ายแพทย์จะปิดฝาครอบตาเพื่อป้องกันการขยี้ตาและสัมผัสดวงตา
การทำ SBK LASIK สำหรับดวงตา 2 ข้าง จะใช้เวลาทำประมาณ 10-15 นาที หลังจากนั้นควรพักฟื้นประมาณ 24-48 ชั่วโมง ก่อนกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ
หลังทำเลสิกทันที ภาพที่คนไข้เห็นจะเป็นอย่างไร?
หลังทำเลสิกทันที ภาพที่คนไข้เห็นจะเริ่มชัดเจนมากขึ้น เนื่องจากได้มีการแก้ไขค่าสายตาเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม หลังทำอาจมีอาการกระจกตาบวมอยู่และทำให้การมองเห็นในช่วงแรกยังไม่ชัดเจน 100% ซึ่งอาจมองเห็นภาพเป็นลักษณะคล้ายหมอกบดบังและขอบภาพยังไม่คมชัด
แต่หลังจากผ่านไปประมาณ 4-6 ชั่วโมง อาการกระจกตาบวมจะดีขึ้น เห็นภาพคมชัดขึ้น ก่อนจะให้ผลลัพธ์ได้ดีที่สุดเมื่อผ่านไปประมาณ 24 ชั่วโมง
ดวงตามีเพียงคู่เดียว การเลือกวิธีการทำเลสิกหรือการแก้ไขสายตาที่เหมาะสมไม่เพียงแต่จะช่วยให้มองเห็นชัดขึ้น แต่ยังลดความเสี่ยงจากการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้
สอบถามทุกประเด็นเกี่ยวกับการทำเลสิกที่สงสัย กับทางทีมของ HDcare จนกว่าจะมั่นใจ และหากต้องการผู้ช่วยประสานงานด้านใดในโรงพยาบาล หรืออยากสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับบริการ HDcare สามารถพูดคุยผ่านทางไลน์ @HDcare ได้เลย






