IUI คืออะไร มีขั้นตอนอย่างไร ข้อดี ข้อจำกัด ราคาเท่าไหร่ scaled

IUI คืออะไร มีขั้นตอนอย่างไร ข้อดี-ข้อจำกัด ราคาเท่าไหร่?

ปัจจุบันมีเทคโนโลยีช่วยรักษาภาวะมีบุตรยากได้หลายวิธี หนึ่งในนั้นคือการฉีดเชื้อผสมเทียม หรือ IUI ซึ่งเป็นเหมือนด่านแรกของการรักษาภาวะมีบุตรยาก ที่แพทย์มักจะแนะนำให้กับผู้เริ่มต้นรักษา เพราะเป็นการเลียนแบบการมีเพศสัมพันธ์ตามธรรมชาติ มีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก และที่สำคัญคือไม่เจ็บตัว หากคุณและคนรักกำลังศึกษาเรื่อง IUI บทความนี้น่าจะตอบข้อสงสัยได้เป็นอย่างดี

วิธีการรักษาภาวะมีบุตรยาก ด้วยวิธี IUI คืออะไร?

IUI (Intra – Uterine Insemination) คือ หนึ่งในวิธีการรักษาภาวะมีบุตรยาก ที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด โดยแพทย์จะคัดกรองเชื้ออสุจิตัวที่แข็งแรง แล้วฉีดเข้าไปในโพรงมดลูกโดยตรง ในช่วงที่ไข่ตก หรือใกล้ช่วงที่ไข่ตก โดยใช้ท่อพลาสติกขนาดเล็กสอดผ่านปากมดลูกเข้าไป แล้วปล่อยให้ตัวอสุจิว่ายไปปฏิสนธิกับไข่ที่ท่อนำไข่เอง

วิธีนี้จะช่วยลดระยะทางที่อสุจิเดินทางไปผสมกับไข่ จึงเป็นเหมือนทางลัดในการเคลื่อนตัวไปหาไข่ เพื่อช่วยให้อสุจิมีโอกาสผสมกับไข่ได้มากกว่าวิธีตามธรรมชาติ โดยวิธีนี้ช่วยเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ประมาณ 5-15%

วิธีการรักษาภาวะมีบุตรยาก ด้วยวิธี IUI เหมาะกับใคร?

โดยปกติแล้ว ในการหลั่งน้ำเชื้อแต่ละครั้งของผู้ชาย จะมีอสุจิประมาณ 200 ล้านตัว แต่เนื่องจากปากมดลูกมีขนาดเล็ก แคบ และช่องคลอดมีสภาวะเป็นกรด จึงทำให้อสุจิส่วนใหญ่ตาย หรืออ่อนแรงไปก่อน ไม่สามารถเดินทางไปถึงท่อนำไข่ได้

การทำ IUI เป็นวิธีที่ช่วยแก้ไขปัญหาที่ว่ามานี้ โดยทำให้น้ำเชื้อของผู้ชายเข้มข้นมากยิ่งขึ้น ด้วยการคัดกรองอสุจิที่แข็งแรงไม่ต่ำกว่า 5 ล้านตัว และฉีดเข้าสู่โพรงมดลูกโดยตรง วิธีนี้จะช่วยให้อสุจิมีอัตราการรอดชีวิตมากกว่าวิธีตามธรรมชาติ เพราะเป็นการทำให้ระยะทางการเคลื่อนไปหาไข่สั้นลง

ดังนั้น วิธีการทำ IUI จึงเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับฝ่ายชายที่มีอสุจิที่ไม่แข็งแรง มีปัญหาเกี่ยวกับน้ำเชื้อ เช่น น้ำเชื้อมีความเข้มข้นน้อย ปริมาณน้ำเชื้อน้อย เชื้ออสุจิไม่แข็งแรง

นอกจากนี้ ยังเหมาะสำหรับฝ่ายหญิงที่ไข่ตกน้อย หรือมูกช่องคลอดเหนียวข้นเกินไป จนทำให้อสุจิว่ายเข้าไปไม่ได้ รวมไปถึงฝ่ายหญิงที่มีปัญหาแพ้อสุจิด้วย

วิธี IUI เหมาะกับคู่ของเราจริงมั้ย? อยากขอความเห็นที่สอง จากคุณหมอเฉพาะทาง เพื่อเลือกวิธีรักษาที่เหมาะกับเรามากที่สุด ติดต่อทีม HDcare ช่วยทำนัดเข้าปรึกษาคุณหมอ ดูแลกันตั้งแต่ต้นจบ ทำให้การรักษาภาวะมีบุตรยากไม่ยุ่งยากและไม่น่ากลัวอย่างที่คิด คลิกเลย

ขั้นตอนการรักษาภาวะมีบุตรยาก ด้วยวิธี IUI

ขั้นตอนที่ 1 กระตุ้นไข่

ในช่วง 2-3 วันแรกของรอบเดือน แพทย์จะนัดให้ฝ่ายหญิงเข้ามากระตุ้นไข่ โดยจะใช้ยาต่อเนื่องประมาณ 9-12 วัน เพื่อให้ไข่ขยายตัวเต็มที่ โดยการกระตุ้นไข่นั้นจะมีตัวยาทั้งแบบรับประทานและแบบฉีด โดยแพทย์จะเป็นผู้กำหนดให้ อาจใช้เพียงตัวยาแบบเดียว หรืออาจใช้ร่วมกันทั้งคู่ก็ได้

จากนั้นแพทย์จะนัดอัลตราซาวด์ เพื่อดูขนาดและจำนวนฟองไข่ทุกๆ 3-4 วัน เมื่อไข่พร้อมสำหรับการทำ IUI แล้ว แพทย์จะนัดหมายเข้ามาเก็บน้ำเชื้อ และฉีดเชื้อเข้าสู่โพรงมดลูก ซึ่งจะเป็นวันเดียวกัน และเป็นวันที่ไข่ตกพอดี

ขั้นตอนที่ 2 เก็บน้ำเชื้อ และคัดกรองอสุจิ

ในขั้นตอนนี้แพทย์จะให้ฝ่ายชายเก็บน้ำเชื้ออสุจิ ด้วยวิธีการช่วยตัวเอง โดยให้หลั่งออกมาใส่ภาชนะปลอดเชื้อ

จากนั้นแพทย์จะนำน้ำเชื้อส่งไปยังห้องปฏิบัติการ เพื่อแยกเชื้ออสุจิออกจากน้ำ และส่วนประกอบอื่นๆ ที่ไม่ใช่ตัวเชื้ออสุจิ ต่อมาก็จะคัดเลือกอสุจิที่สมบูรณ์และแข็งแรงออกมา 

ขั้นตอนที่ 3 ฉีดเชื้อเข้าสู่โพรงมดลูก

หลังจากได้น้ำเชื้อมาแล้ว แพทย์จะให้ฝ่ายหญิงนอนบนเตียงตรวจทางสูตินรีเวช เช่นเดียวกับการตรวจภายใน

จากนั้นแพทย์จะสอดเครื่องมือขยายช่องคลอด เพื่อให้เห็นปากมดลูก แล้วใส่สายพลาสติกขนาดเล็กผ่านปากมดลูก โดยปลายสายอีกด้านจะต่อเข้ากับกระบอกฉีดยา แพทย์จะดูดน้ำเชื้ออสุจิเข้ามาในกระบอกฉีดยานั้น แล้วค่อยๆ ฉีดเชื้ออสุจิเข้าสู่โพรงมดลูกอย่างช้าๆ ขั้นตอนนี้ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที 

เมื่อฉีดเชื้อเข้าสู่โพรงมดลูกเรียบร้อยแล้ว แพทย์จะนำสายสวนและถอดเครื่องถ่างออก แล้วให้ผู้รับบริการนอนหงายอยู่เฉยๆ สักครู่ จากนั้นก็สามารถกลับมาทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามปกติ

ขั้นตอนที่ 4 ทดสอบการตั้งครรภ์

หลังจากทำ IUI แล้ว ต้องรอประมาณ 2 สัปดาห์ จึงจะสามารถทำการทดสอบการตั้งครรภ์ด้วยชุดตรวจครรภ์

หลังจากนั้นแพทย์จะนัดให้กลับมาตรวจเลือดเพื่อยืนยันผล หากยังไม่เกิดการตั้งครรภ์ อาจต้องทำ IUI ใหม่อีกครั้ง หรือหากทำหลายครั้งแล้วยังไม่สำเร็จ แพทย์อาจแนะนำให้เปลี่ยนไปรักษาด้วยวิธีอื่น

วิธีการปฏิบัติตัวหลังทำ IUI

  1. หลังจากทำ IUI เสร็จ แพทย์จะให้นอนพักนิ่งๆ บนเตียง ประมาณ 30 นาที โดยพยายามลดการเคลื่อนไหวให้มากที่สุด
  2. งดกิจกรรมที่ต้องออกแรง 2-3 วัน สามารถออกกำลังกายได้ แต่ควรงดเว้นการออกกำลังกายที่หักโหม หรือว่ายน้ำ
  3. รับประทานอาการได้ตามปกติ ไม่จำเป็นต้องงดอาหาร หรือหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารชนิดใดเป็นพิเศษ
  4. งดการมีเพศสัมพันธ์หลังจากทำ IUI วันแรก แต่หลังจากนั้นสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ และการมีเพศสัมพันธ์ในระยะนี้สามารถช่วยเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ได้
  5. หลีกเลี่ยงยาที่มีผลต่อการตั้งครรภ์ เช่น ยารักษาสิว ในกรณีที่จำเป็นต้องใช้ยารักษาโรค หรือไม่แน่ใจเรื่องยา ควรปรึกษาแพทย์

ข้อดีของการทำ IUI

  1. เป็นวิธีที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด วิธีการไม่ยุ่งยาก
  2. ไม่เจ็บตัวเท่ากับการทำเด็กหลอดแก้ว
  3. ค่าใช้จ่ายถูกกว่าการทำเด็กหลอดแก้ว

ข้อจำกัดของการทำ IUI

  1. อาจทำให้ระคายเคืองที่ช่องคลอดได้ แต่ไม่มีผลใดๆ กับการตั้งครรภ์ 
  2. การฉีดยากระตุ้นไข่ตกอาจทำให้ไข่ตกออกมามากกว่า 1 ฟอง จึงอาจเกิดการตั้งครรภ์แฝด ซึ่งเป็นอันตรายกว่าครรภ์ปกติ
  3. ฝ่ายหญิงที่มีปัญหาเกี่ยวกับท่อนำไข่ เช่น ท่อนำไข่อุดตัน เคยตัดท่อนำไข่ ไม่สามารถใช้วิธีนี้ได้

อยากรักษาภาวะมีบุตรยาก ควรรักษาแบบไหน วิธีไหนเหมาะกับเรามากที่สุด ปรึกษาแอดมิน หาแพ็กเกจราคาดีใกล้คุณได้ ที่นี่ 

รักษาภาวะมีบุตรยาก ด้วยวิธี IUI ราคาเท่าไหร่?

การทำ IUI ราคาอยู่ที่ประมาณ 8,800-36,000 บาทต่อครั้ง ขึ้นอยู่กับแต่ละสถานที่ และแต่ละแพ็กเกจว่าครอบคลุมรายการใดบ้าง แต่ถ้าอยากอยากเช็กราคาให้แน่ชัด สามารถทักหา HDcare ได้ทันที

จะเห็นได้ว่า การรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยวิธี IUI เป็นวิธีการที่ไม่ยุ่งยาก ซับซ้อน และยังราคาไม่แพง อย่างไรก็ตาม IUI มีทั้งข้อดี และข้อจำกัด และอาจไม่เหมาะกับทุกคน ดังนั้น แนะนำให้ปรึกษาคุณหมอเฉพาะทาง เพื่อเลือกวิธีการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับคุณ

ยังลังเลใช่ไหม ไม่รู้ว่าควรเลือกวิธีไหนดี? วิธีไหนเพิ่มโอกาสท้องได้ดีที่สุด? นัดคุยกับคุณหมอเฉพาะทาง ผ่านทีม HDcare สะดวกรวดเร็ว ทันใจ หรือค้นหาแพ็กเกจตรวจคัดกรองภาวะมีบุตรยาก จาก ร.พ. หรือคลินิกใกล้คุณได้ทันที คลิกที่นี่เลย

Scroll to Top