เสริมหน้าผาก กับข้อควรรู้ต่างๆ ก่อนตัดสินใจ

มิติของหน้าผากที่โค้งพอดีกับโครงสร้างทั้งใบหน้าเป็นอีกตัวเสริมความมั่นใจต่อองค์รวมของใบหน้าทั้งหมด หลายคนที่มีหน้าผากแบน แคบ หรือโค้งไม่พอดีกับใบหน้าต้องไว้หน้าม้าหรือทรงผมที่ปกปิดหน้าผากเอาไว้ บางคนต้องหลีกเลี่ยงที่จะถ่ายรูปมุมเอียงหรือมุมข้าง เพื่อไม่ให้หน้าผากซึ่งเป็นจุดด้อยของตนเองดูเด่นเกินไป ปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ผ่านการ “เสริมหน้าผาก (Forehead Augmentation)” ซึ่งเป็นวิธีเสริมความงามเพื่อแก้ปัญหามิติของหน้าผากโดยเฉพาะ

มีคำถามเกี่ยวกับ เสริมหน้าผาก? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

สารบัญ [show]

การเสริมหน้าผากช่วยแก้ปัญหาอะไรบ้าง?

การเสริมหน้าผากเป็นวิธีรักษาความงามเพื่อแก้ปัญหาหน้าผากสำหรับผู้ที่ไม่มั่นใจ โดยรูปแบบหน้าผากที่เหมาะต่อการเสริมหน้าผาก ได้แก่

  • หน้าผากแบน ไม่นูน ไม่เรียบ
  • หน้าผากแคบ กินพื้นที่ใบหน้าค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับส่วนประกอบของใบหน้าส่วนอื่น
  • มิติของหน้าผากไม่สมส่วนกับมิติของส่วนประกอบใบหน้าส่วนอื่น เช่น ดั้งจมูก โหนกแก้ม โหนดคิ้ว คาง
ผู้ที่เหมาะกับการเสริมหน้าผาก

เสริมหน้าผากทำได้กี่วิธี?

การเสริมหน้าผากสามารถทำได้หลายวิธี โดยวิธีที่ได้รับความนิยมอยู่ในท้องตลาดปัจจุบันมีอยู่ 2 วิธี ได้แก่

  1. การฉีดฟิลเลอร์เสริมหน้าผาก
  2. การผ่าตัดเสริมซิลิโคนหน้าผาก

โดยในบทความนี้จะให้ข้อมูลเบื้องต้นสำหรับการเสริมหน้าผากทั้ง 2 วิธีดังกล่าว

การฉีดฟิลเลอร์เสริมหน้าผาก

การฉีดฟิลเลอร์ (Filler) เป็นการฉีดสารฟิลเลอร์หรือสารไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารเติมเต็มและตกแต่งมิติให้กับใบหน้า

ฟิลเลอร์จัดเป็นสารเติมเต็มที่สามารถรักษาความสวยงามของใบหน้าได้หลายส่วน เช่น ลดความชัดของโหนกแก้ม เสริมมิติของปากให้เป็นรูปกระจับและหนาเต่งตึงขึ้น ลดร่องลึกใต้ตา เสริมมิติและรูปทรงบริเวณคาง

ส่วนการฉีดฟิลเลอร์เสริมหน้าผากจะเป็นการฉีดสารเติมเต็มเพื่อปรับมิติของหน้าผากให้เป็นทรงนูนรับกับมิติใบหน้าส่วนอื่นๆ รวมถึงเพื่อลดร่องลึกระหว่างหน้าผากกับหัวคิ้วที่อาจมองเห็นได้แม้มองในมุมหน้าตรง

จุดเด่นของการฉีดฟิลเลอร์เสริมหน้าผาก

จุดเด่นที่การฉีดฟิลเลอร์ได้รับความนิยมในการเสริมผาก อาจมีดังนี้

  • การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากสามารถช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับมิติของหน้าผากได้แทบทั้งหมด
  • เห็นผลลัพธ์ได้เร็วภายใน 1-2 สัปดาห์หลังรับบริการ ไม่ต้องพักฟื้น ช่วงเวลาที่แผลบวมค่อนข้างสั้น หรืออาจไม่บวมเลย
  • สารฟิลเลอร์มีส่วนช่วยปรับสภาพผิวหลังฉีดให้ดูอิ่มน้ำและบรรเทาริ้วรอยได้ในระดับหนึ่งด้วย
  • การฉีดฟิลเลอร์เพื่อแก้ไขมิติหน้าผากยังสามารถทำได้ทั้งเพิ่มและลด โดยหากฉีดฟิลเลอร์ไปแล้วผู้เข้ารับบริการอยากจะลดมิติของหน้าผากลง ก็สามารถฉีดสารเพื่อสลายสารฟิลเลอร์ภายหลังได้

จุดด้อยของการฉีดฟิลเลอร์เสริมหน้าผาก

แม้จะมีจุดเด่นหลายข้อ แต่การเสริมหน้าผากด้วยการฉีดฟิลเลอร์ก็มีจุดด้อยที่ควรพิจารณาร่วมกันด้วย

โดยผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์เสริมหน้าผากจะไม่คงอยู่ถาวร ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของฟิลเลอร์และพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้เข้ารับบริการซึ่งอาจมีส่วนทำให้สารฟิลเลอร์สลายตัวเร็วขึ้นได้ โดยเฉลี่ยจะอยู่ได้ประมาณ 8 เดือนถึง 2 ปี

การฉีดฟิลเลอร์ยังควรอยู่ในการดูแลของแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการตกแต่งและปั้นมิติของใบหน้า มิเช่นนั้น ทั้งสัดส่วนและมิติของหน้าผากที่เปลี่ยนไปอาจไม่เข้ากับโครงหน้าของผู้เข้ารับบริการ และทำให้รูปหน้าผากดูไม่สวยงามหรือดูแปลกตาไปจากเดิมได้

การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์เสริมหน้าผาก

ผู้เข้ารับบริการควรเตรียมตัวตามคำแนะนำต่อไปในนี้ ก่อนรับบริการฉีดฟิลเลอร์เสริมหน้าผาก

  • งดบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหารหมักดอง เครื่องดื่มหรืออาหารที่มีส่วนผสมของแปะก๊วย และงดสูบบุหรี่ประมาณ 24 ชั่วโมงก่อนรับบริการ
  • งดยาบางกลุ่มที่อาจส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น ยากลุ่มแอสไพริน (Aspirin) ยากลุ่มไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) ยาต้านอักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์ (Non-Steroidal Anti-Inflammatory Drugs: NSAIDs) อาหารเสริมกลุ่มวิตามินอี กระเทียม (Garlic) น้ำมันพริมโรส (Primrose oil) น้ำมันปลา (Fish oil)
    หรือหากไม่แน่ใจเกี่ยวกับยาประจำตัว อาหารเสริมชนิดใด ให้ปรึกษาแพทย์ล่วงหน้าก่อนรับบริการ
  • งดยาทาผิวหรือสารกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว เช่น ยากลุ่ม Tretinoin (Retin-A) สารเรตินอล (Retinols) สารเรตินอยด์ (Retonoid) กรดไกลโคลิก (Glycolic Acid) ครีมหรือยาทาในกลุ่ม Anti-Aging ทุกชนิดประมาณ 3 วัน
  • นอนพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงก่อนรับบริการ
  • งดกิจกรรมกระตุ้นการสูบฉีดเลือด เช่น อบซาวน่า ทำสปา แช่น้ำร้อน การออกกำลังกายหนักๆ
  • งดการทำทรีตเมนต์ สครับผิว ขัดผิว โกน ถอนขน หรือการบำรุงผิวใดๆ ประมาณ 3 วันก่อนรับบริการ

ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์เสริมหน้าผาก

กระบวนการฉีดฟิลเลอร์เสริมหน้าผากจะเริ่มจากแพทย์กำหนดปริมาณของสารฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดเพื่อเสริมหน้าผาก หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะทำความสะอาดผิวให้กับผู้เข้ารับบริการ แล้วตามด้วยทาและฉีดยาชาให้กับผู้เข้ารับบริการ เพื่อป้องกันอาการเจ็บเมื่อเริ่มฉีดฟิลเลอร์

เมื่อยาชาออกฤทธิ์แล้ว เจ้าหน้าที่จะใช้น้ำแข็งวางบนผิวส่วนที่ฉีดเพื่อให้ผิวชาขึ้นอีกชั่วขณะ แล้วแพทย์จะเริ่มฉีดฟิลเลอร์เพื่อเสริมหน้าผากให้ทีละส่วน

การดูแลตนเองหลังฉีดฟิลเลอร์เสริมหน้าผาก

เพื่อให้สารฟิลเลอร์ได้ออกฤทธิ์เสริมมิติของหน้าผากได้มากที่สุด และเพื่อป้องกันผลข้างเคียงอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้น ผู้เข้ารับบริการควรปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้

  • งดการสัมผัส เกา แกะ หรือกดนวดใดๆ บริเวณผิวที่ฉีดฟิลเลอร์
  • อาการบวมผิวหรือผิวมีรอยเขียวช้ำอาจเกิดขึ้นประมาณ 3-7 วันหลังรับบริการ หลังจากนั้นจะค่อยๆ บรรเทาขึ้นเอง
  • รับประทานยาฆ่าเชื้อ ยาแก้อักเสบ หรือยาที่แพทย์จ่ายให้อย่างเคร่งครัด
  • งดอยู่ในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูง รวมถึงกิจกรรมที่ต้องสัมผัสกับความร้อน เช่น การตากแดด ซาวน่า ทำสปา ออกกำลังกาย ประมาณ 2-3 วัน
  • งดการเลเซอร์ผิว หรือการทำหัตถการที่สร้างความร้อนให้กับผิวประมาณ 1 เดือน
  • หลีกเลี่ยงการขยับผิวในส่วนที่เพิ่งฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งในกรณีการเสริมหากผาก อาจต้องหลีกเลี่ยงการย่นคิ้วยักคิ้ว หรือขมวดคิ้ว เพราะจะทำให้สารฟิลเลอร์ที่ฉีดบริเวณนั้นกระจายตัวออกได้
  • งดการบริโภคของร้อนหรืออาหารที่ต้องอยู่หน้าเตา หม้อต้ม เช่น อาหารปิ้งย่าง ชาบู หมูกระทะ รวมถึงอาหารหมักดอง อาหารรสจัดหรือเผ็ดมาก อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะจะยิ่งทำให้สารฟิลเลอร์สลายตัวเร็ว และปรับมิติของหน้าผากได้ช้าลงอีก

นอกเหนือจากการใช้สารฟิลเลอร์ฉีดเติมเต็มแล้ว บางสถานพยาบาลยังใช้วิธีการดูดไขมันจากร่างกายของผู้เข้ารับบริการมาเติมมิติที่หน้าผากอีกด้วย เช่น บริเวณต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง เอว หรือสะโพก

มีคำถามเกี่ยวกับ เสริมหน้าผาก? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

อย่างไรก็ตาม การดูดไขมันเสริมหน้าผากจำเป็นอาศัยความชำนาญของแพทย์เป็นอย่างมาก เพราะมีกระบวนการที่ค่อนข้างซับซ้อน ต้องดูดไขมันหลายครั้งจึงจะเห็นผล และเสี่ยงเกิดผลข้างเคียงได้หลายส่วน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้การฉีดฟิลเลอร์เป็นวิธีที่มักได้รับความนิยมมากกว่าการดูดไขมัน

การผ่าตัดเสริมซิลิโคนหน้าผาก

การเสริมหน้าผากด้วยการผ่าตัดซิลิโคน คือ การผ่าตัดศัลยกรรมเพื่อนำแผ่นซิลิโคนที่มีรูปร่างโค้งงอเหมือนหน้าผากใส่เข้าไปยังพื้นที่หน้าผากเดิมของผู้เข้ารับบริการ เพื่อเสริมมิติของหน้าผากให้มีความสมส่วนกับใบหน้ามากขึ้น

รูปแบบของซิลิโคนที่ใช้เสริมหน้าผากก็จะผ่านการออกแบบและวิเคราะห์จากแพทย์มาก่อนผ่าตัด รวมถึงผ่านการพูดคุยปรึกษากับตัวผู้เข้ารับบริการเอง เพื่อให้ได้ทรงหน้าผากแบบที่ต้องการ และเหมาะกับโครงสร้างใบหน้ามากที่สุด

การเสริมหน้าผากด้วยซิลิโคน

จุดเด่นของการผ่าตัดเสริมซิลิโคนหน้าผาก

จุดเด่นที่หลายคนเลือกใช้การผ่าตัดเสริมซิลิโคนหน้าผาก อาจมีดังนี้

  • การผ่าตัดเสริมซิลิโคนเป็นวิธีเสริมหน้าผากแบบถาวร และแผ่นซิลิโคนที่ใส่เข้าไปยังจะได้รับการออกแบบล่วงหน้าก่อนผ่าตัด จึงจัดเป็นการเสริมหน้าผากที่ทำให้ผู้เข้ารับบริการสามารถเห็นขนาด ความสูง ความกว้าง และความนูนของหน้าผากที่จะเปลี่ยนไปล่วงหน้าก่อนรับบริการ
  • วัสดุที่ใช้ทำซิลิโคนสำหรับเสริมหน้าผากในปัจจุบันยังมีอยู่หลายแบบ เพื่อแก้ปัญหาการแนบตัวของซิลิโคนกับเนื้อผากเดิมที่อาจไม่สนิท ความเป็นธรรมชาติของทรงหน้าผากหลังการผ่าตัด รวมถึงเนื้อสัมผัสของหน้าผากหลังใส่ซิลิโคนที่จะคล้ายกับกระโหลกหน้าผากจริง
  • การผ่าตัดเสริมซิลิโคนหน้าผากในปัจจุบันมีโอกาสโกนผมก่อนผ่าตัดค่อนข้างน้อย ผู้เข้ารับบริการจึงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับภาพลักษณ์หลังผ่าตัดที่ไม่ต้องเสียผมส่วนไหนไป หรือต้องใส่หมวกหลังผ่าตัด

จุดด้อยของการผ่าตัดเสริมซิลิโคนหน้าผาก

ถึงแม้จะมีจุดเด่นหลายข้อ แต่การผ่าตัดเสริมซิลิโคนหน้าผากก็ยังมีจุดด้อยที่ต้องพิจารณาร่วมกับแพทย์ด้วย ดังนี้

  • การผ่าตัดเสริมซิลิโคนหน้าผากยังมีความเสี่ยงเรื่องผลกระทบต่อเส้นประสาทและเนื้อเยื่อที่หน้าผากอยู่
  • ต้องใช้เวลาพักฟื้นและอาจมีอาการแผลบวมไประยะหนึ่งจึงจะเริ่มเห็นผลของการรักษา อาจอยู่ที่ประมาณ 1-3 เดือน

นอกจากนี้หากผู้เข้ารับบริการผ่าตัดกับแพทย์ที่ไม่มีความชำนาญในการปั้นแต่งทรงซิลิโคนเสริมหน้าผาก รูปทรงหน้าผากหลังผ่าตัดก็อาจดูไม่สมดุลกับโครงสร้างใบหน้า ซึ่งก็อาจยิ่งบั่นทอนความมั่นใจของมิติใบหน้าลงไปอีกได้

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดเสริมซิลิโคนหน้าผาก

เพื่อเตรียมสุขภาพให้พร้อมก่อนการผ่าตัด ผู้เข้ารีบบริการควรปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้

  • งดรับประทานอาหารและงดดื่มน้ำ 6-8 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด (กรณีเลือกการผ่าตัดแบบดมยาสลบ)
  • งดยากลุ่มต้านการอักเสบ วิตามินที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด หรือทำให้เลือดออกมากระหว่างผ่าตัด ประมาณ 2 สัปดาห์ถึง 1 เดือน เช่น ยากลุ่มแอสไพริน วิตามินอี น้ำมันปลา กระเทียม ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง หรือหากไม่แน่ใจเกี่ยวกับตัวยาหรืออาหารเสริมใด ให้สอบถามแพทย์ก่อนล่วงหน้า
  • หากเจ็บป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับระบบไหลเวียนเลือดหรือโรคหัวใจ ให้ปรึกษาแพทย์ก่อนรับบริการ
  • งดบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
  • ลางานประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อให้มีระยะเวลาในการพักฟื้นหลังผ่าตัด
  • หากก่อนวันรับบริการมีอาการเจ็บป่วย ให้แจ้งแพทย์ก่อน เพราะอาจต้องเลื่อนนัดผ่าตัดออกไปจนกว่าสุขภาพจะแข็งแรง
  • ควรพาญาติหรือคนสนิทมาในวันผ่าตัดด้วย เพื่อให้ช่วยดูแลอำนวยความสะดวก เนื่องจากหลังจากผ่าตัดผู้เข้ารับบริการอาจรู้สึกไม่สบายตัว จนไม่สามารถเดินทางกลับไปพักผ่อนที่บ้านได้ตามลำพัง
  • ควรสระผมก่อนเดินทางมารับบริการ เนื่องจากหลังจากผ่าตัด ผู้เข้ารับบริการอาจไม่สามารถสระผมได้ในระยะหนึ่งเพื่อป้องกันการติดเชื้อและอักเสบของแผล
  • สวมใส่เสื้อผ้าที่ถอดง่ายหรือเป็นเสื้อแบบติดกระดุมหน้า
  • งดแต่งหน้า ใส่คอนแทคเลนส์ ทาเล็บ หรือใส่เล็บปลอมมาในวันผ่าตัด

อย่างไรก็ตาม โดยปกติแล้วแพทย์หรือผู้ให้บริการจะบอกวิธีการเตรียมตัวที่เหมาะสมสำหรับแต่ละคนก่อนถึงวันนัดอยู่แล้ว ควรยึดถือและปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด

ขั้นตอนการผ่าตัดเสริมซิลิโคนหน้าผาก

ขั้นตอนการผ่าตัดเสริมซิลิโคนหน้าผากจะแตกต่างกันไปตามสถานพยาบาล โดยมักใช้ระยะเวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง มีกระบวนหลักๆ ดังต่อไปนี้

  1. แพทย์ทาบซิลิโคนเสริมหน้าผากลงกับหน้าผากจริงเพื่อวาดตำแหน่งในการวางซิลิโคนก่อนผ่าตัด
  2. แพทย์ทำความสะอาดใบหน้าและหนังศีรษะด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ
  3. แพทย์เริ่มการฉีดยาให้กับผู้เข้ารับบริการ (บางสถานพยายาลอาจเป็นการวางยาสลบ)
  4. แพทย์เริ่มกรีดเปิดผิวหนังบริเวณไรผม 1-2 จุดจนถึงโหนกคิ้ว ความยาวจุดละประมาณ 2-4 เซนติเมตร
  5. แพทย์วางซิลิโคนให้พอดีกับหน้าผากตามที่กำหนดเอาไว้
  6. เย็บปิดแผล

การดูแลตนเองหลังผ่าตัดเสริมซิลิโคนหน้าผาก

ระยะเวลาพักฟื้นหลังผ่าตัดเสริมซิลิโคนหน้าผากจะอยู่ที่ประมาณ 1 สัปดาห์ ในระหว่างนี้ก็อาจมีอาการบวมที่แผลผ่าตัด หรือมีแผลผ่าตัดมีรอยเขียวช้ำเกิดขึ้นได้ แต่อาการเหล่านี้จะค่อยๆ บรรเทาลงไปเอง เมื่อผ่านไปประมาณ 2 สัปดาห์ถึง 1 เดือนหลังผ่าตัด

ซึ่งในระหว่างนี้ผู้เข้ารับบริการจะต้องดูแลสุขภาพและแผลผ่าตัดอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันอาการข้างเคียงอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้น เช่น

  • กินยาที่แพทย์สั่งจ่ายให้อย่างเคร่งครัด
  • งดสระผมหรือทำให้แผลสัมผัสน้ำ 3 วันหลังผ่าตัด หลังจากนั้นสามารถสระผมเบาๆ ได้
  • ประคบเย็นเพื่อลดอาการปวดแผลใน 1-2 แรกหลังผ่าตัด หลังจากนั้นให้เปลี่ยนเป็นประคบอุ่น
  • นอนหมอนสูงเพื่อให้แผลอยู่เหนือตำแหน่งของหัวใจ เพื่อลดอาการบวมและเขียวช้ำประมาณ 1-2 สัปดาห์แรก
  • งดบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ 2-4 สัปดาห์
  • งดทำกิจกรรมที่ออกแรงเยอะ รวมถึงการออกกำลังกาย 2-4 สัปดาห์เพื่อไม่ให้แผลกระทบกระเทือนหรือเกิดเลือดคั่งในแผล
  • ใส่สายรัดหน้าผากไว้ตลอดเวลาประมาณ 3 วันแรกหลังผ่าตัด
  • งดแต่งหน้าและทาครีมบำรุงบริเวณแผลจนกว่าแพทย์จะอนุญาต แต่ส่วนอื่นๆ ของใบหน้านั้นสามารถแต่งได้ตามปกติ

หลังผ่าตัดเสริมซิลิโคนหน้าผาก เมื่อไรซิลิโคนจะเข้าที่?

หลังจากผ่าตัดไปประมาณ 3 เดือน ซิลิโคนที่เสริมหน้าผากก็จะเริ่มปรับเข้ารูปกับขนาดหน้าผากเดิมของผู้เข้ารับบริการ ส่งผลให้ใบหน้าดูกลมกลืนเป็นธรรมชาติมากขึ้น

ในระยะแรกหลังผ่าตัดผู้เข้ารับบริการจำเป็นต้องอยู่กับความรู้สึกไม่ชินตา และโครงสร้างใบหน้าที่อาจยังไม่เข้าที่มากนัก หลังจากนั้นผลลัพธ์ของการรักษาก็จะค่อยๆ เปลี่ยนแปลงดีขึ้นเอง

ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยหลังเสริมหน้าผาก

การเสริมหน้าผากไม่ว่าจะวิธีฉีดฟิลเลอร์หรือผ่าตัดเสริมซิลิโคน หากรับบริการกับแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญหรือในสถานพยาบาลที่ไม่ได้มาตรฐาน ก็จะเสี่ยงเกิดผลข้างเคียงหลังการรักษาได้หลายอย่าง ซึ่งกรณีที่พบได้บ่อย ได้แก่

  • เนื้อหน้าผากใส เกิดจากการหล่อซิลิโคนที่มีขนาดตึงหรือคับแน่นกับหน้าผากเกินไป
  • หน้าผากมีรอยย่น เป็นคลื่น ผิวไม่เรียบ หรือเสียทรง แบบเกิดได้จากการใช้สารฟิลเลอร์ปลอมหรือไม่ได้มาตรฐาน รวมถึงการออกแบบซิลิโคนเสริมหน้าผากที่ไม่พอดี
  • หน้าผากมีขอบระหว่างซิลิโคนกับเนื้อหน้าผากจริงอย่างชัดเจน เกิดจากการหล่อซิลิโคนที่ขนาดไม่พอดีกับขนาดหน้าผากของผู้เข้ารับบริการ หรือการใช้วัสดุซิลิโคนที่ไม่ได้มาตรฐาน
  • หน้าผากมีรอยเหี่ยวย่นไม่ตึงกระชับ แบบเกิดจากอายุผิวหนังที่มากขึ้นตามวัยจนเกิดความหย่อนคล้อย ซึ่งการใช้วิธีเสริมหน้าผากเข้ามาแก้ปัญหานี้จัดเป็นวิธีแก้ที่ไม่ตรงจุดนัก เพราะไม่ได้ช่วยลดเลือนส่วนของริ้วรอยแห่งวัยที่เกิดขึ้น ผู้เข้ารับบริการควรลองเปลี่ยนไปใช้วิธีฉีดโบท็อกซ์หรือทำไฮฟู่ (HIFU) หรือ ทำเทอร์มาจ (Thermage) แทน

หากเคยเสริมหน้าผากด้วยวิธีฉีดฟิลเลอร์มาแล้ว สามารถเสริมหน้าผากด้วยการผ่าตัดเสริมซิลิโคนด้วยได้หรือไม่?

สามารถทำได้ แต่ต้องรอให้สารฟิลเลอร์เดิมสลายตัวไปให้หมดเสียก่อนจะผ่าตัดได้ หรืออาจลองปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการฉีดสารเพื่อสลายฟิลเลอร์

หากคุณสนใจอยากรับบริการเสริมหน้าผากด้วยสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานและมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลตลอดทุกขั้นตอน เช็กราคาแพ็กเกจเสริมหน้าผากได้ผ่านทางเว็บไซต์ HDmall.co.th เพื่อให้คุณได้มีรูปทรงหน้าผากอย่างที่ตนเองต้องการ และอยู่ภายใต้การรักษาที่ปลอดภัย

มีคำถามเกี่ยวกับ เสริมหน้าผาก? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

หากคุณติดตั้ง LINE บนคอมพิวเตอร์ของคุณแล้ว ระบบจะเปิดบัญชีทางการ LINE ของ Jib AI ผู้ช่วยสุขภาพ โดยอัตโนมัติ

หากคุณยังไม่ได้ติดตั้ง LINE บนเดสก์ท็อป โปรดสแกน QR โค้ดด้วย LINE บนโทรศัพท์มือถือของคุณเพื่อเริ่มแชทกับ Jib AI ผู้ช่วยสุขภาพ