รู้จัก “หมอเชอร์รี่” คุณหมอหู คอ จมูกกับประสบการณ์รักษาโรคเกี่ยวกับการนอนกรน และประสาทสัมผัสของร่างกาย

เผยชีวิตหมอหู คอ จมูก กับหมอเชอร์รี่ แพทย์หญิงเพชรรัตน์ แสงทอง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหู คอ จมูก และเชี่ยวชาญด้านการนอนหลับ หนึ่งในทีมแพทย์จากบริการ HDcare

แรงบันดาลใจที่ทำให้เลือกมาทำงานเป็นหมอ

แรงบันดาลใจที่ทำให้อยากเป็นหมอก็มาจากเรื่องสุขภาพนี่แหละค่ะ โดยตั้งแต่ยังเด็ก ๆ เวลามีคนในครอบครัวของหมอเจ็บป่วยขึ้นมา หมอก็อยากจะเป็นส่วนหนึ่งของคนที่ช่วยให้พวกเขาหายจากอาการเหล่านั้นได้ และกลับมามีสุขภาพที่ดีเป็นปกติอีกครั้ง ก็เลยเลือกอยากทำงานเป็นหมอค่ะ

การทำงานเป็นหมอช่วยเปลี่ยนแปลงความคิด หรือมุมมองของคุณหมอที่มีต่อโลกใบนี้อย่างไร?

แรกเริ่มเดิมทีหมอเป็นคนที่มุ่งเรียนในสายวิชาการอย่างเดียวเลยค่ะ จนกระทั่งได้เข้ามาเรียนในชั้นคลินิกหรือเป็นนักศึกษาแพทย์ หมอก็ได้พบว่า นอกจากการทำหน้าที่รักษาคนไข้แล้ว เราก็ต้องใส่ความมีเมตตาธรรมเข้าไปด้วย นั่นก็คือให้ความสำคัญกับชีวิตและจิตใจของคนไข้ทุกคนด้วย ใส่ความมีเมตตา และมองคนไข้ทุกคนแบบองค์รวม ไม่ใช่แค่โรคทางกายเท่านั้น 

ในคนไข้หลาย ๆ เคสที่เราใส่ใจรักษาเขามากกว่าแค่จ่ายยาหรือด้วยวิธีผ่าตัด หลายคนก็มีความประทับใจในการรักษาจากเรา และทำให้หายจากโรคได้เร็วขึ้นด้วยค่ะ

ในมุมมองของคุณหมอ คนจะทำอาชีพหมอจะต้องมีคุณสมบัติอย่างไร?

อย่างแรกเลยต้องมีวินัยค่ะ เพราะการมีวินัยจะช่วยให้เราวางแผนชีวิตและแบ่งเวลาที่จะนำมาใช้อ่านหนังสือ เรียนรู้วิชาเพิ่มเติม รวมถึงพัฒนาตนเองได้มากยิ่งขึ้น 

อย่างที่สองรองลงมาก็คือ ความอดทน ทั้งในด้านการงานที่หนัก รวมถึงเรื่องของอารมณ์ คนเป็นหมอควรจะต้องเป็นคนที่มีสภาวะทางอารมณ์ที่ดีด้วย ซึ่งจะช่วยให้พัฒนาทักษะด้านการแพทย์ และการรักษาคนไข้ไปได้มากยิ่งขึ้นค่ะ

ทำไมถึงอยากเป็นหมอด้านหู คอ จมูก?

เพราะสาขาหู คอ จมูก เป็นสาขาที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาทสัมผัสทั้งหมดของร่างกายเราค่ะ ไม่ว่าจะเป็นรูป รส กลิ่น เสียง ถ้าหากเราช่วยรักษาให้คนไข้กลับมามีประสาทสัมผัสทั้งหมดนี้เป็นปกติ ก็จะทำให้ชีวิตมีความสุขมากขึ้นค่ะ

คุณหมอมีวิธีพัฒนาทักษะความรู้ด้านหู คอ จมูก อย่างไรบ้าง?

ส่วนมากหมอก็จะมีการอบรมทางวิชาการ มีการหมั่นศึกษาอ่านงานวิจัยที่เขาพัฒนาขึ้นมาอยู่ตลอดค่ะ และจะออกตรวจคนไข้เป็นประจำ เข้าผ่าตัดคนไข้เป็นประจำสม่ำเสมอเพื่อให้เราชำนาญและสั่งสมประสบการณ์รักษามากขึ้นต่อไป

ปัจจุบันโรคที่คนไข้มารักษากันเยอะกับแผนกหู คอ จมูกคืออะไร?

เนื่องจากหมอเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนกรนและนอนหลับด้วย ดังนั้นโรคที่หมอรักษาอยู่บ่อย ๆ ก็จะเป็นการรักษาแก้อาการกรนค่ะ รองลงมาก็เป็นอาการจมูกตันจากโรคภูมิแพ้ เยื่อบุจมูกอักเสบ ถัดลงมาก็จะเป็นอาการเจ็บคอ เป็นหวัด รวมถึงอาการทอนซิลอักเสบเรื้อรังค่ะ

เล่าประสบการณ์เคสคนไข้ที่ประทับใจหน่อย

ส่วนมากประสบการณ์รักษาที่หมอประทับใจก็จะเป็นการรักษาคนไข้ไปแล้ว ชีวิตคนไข้มีความสุขมากขึ้นค่ะ 

อย่างเช่นล่าสุด มีน้องคนไข้คนหนึ่งอายุประมาณยี่สิบกว่า ๆ อยู่ต่างจังหวัด จู่ ๆ ก็มีอาการเจ็บคอและมีกลิ่นปาก เขาก็เกิดไม่มั่นใจขึ้นมา ก็เลยนั่งรถเข้ามากรุงเทพฯ ตั้งแต่เช้าก่อนวันที่หมอออกตรวจอีก เพื่อมาเตรียมรอเจอหมอและขอคำปรึกษา ซึ่งสุดท้ายเราก็สรุปการรักษาด้วยการผ่าตัดทอนซิลกัน

หลังจากผ่าตัดเสร็จในเย็นวันนั้น น้องเขาก็กลับบ้านไปเตรียมทำงานและเรียนหนังสือต่อได้เลย และชีวิตของเขาหลังจากนั้นก็มีความสุขมากขึ้น เขามีส่งเมสเสจมาหาหมอด้วยค่ะว่า ขอบคุณมากที่ทำให้คุณภาพชีวิตของเขาดีขึ้น

จริงหรือไม่ที่อาการนอนกรนเป็นหนึ่งในอาการที่คนให้ความสำคัญน้อย แต่ความจริงแล้วเป็นสัญญาณอันตรายของสุขภาพได้ด้วย?

จริงค่ะ สมัยก่อนหลายคนมักจะมองว่า อาการนอนกรนก็เป็นแค่เสียงกรนธรรมดาทั่วไป ไม่ได้กระทบอะไรกับชีวิตหรือร่างกายเราขนาดนั้น แต่ในปัจจุบันหากเราศึกษาลงลึกเกี่ยวกับอาการนี้มากขึ้น ก็จะพบว่า มีผู้ที่มีอาการนอนกรนซึ่งนอนหลับไปแล้ว และไม่ฟื้นกลับขึ้นมาอีกเลย 

นั้นก็เพราะความจริงแล้ว อาการนอนกรนเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่า ทางเดินหายใจของเราระหว่างนอนหลับนั้นตีบแคบลงค่ะ บางคนไม่ได้แค่ตีบแคบด้วยซ้ำ แต่อุดกั้นและปิดไปเลย ทำให้ร่างกายขาดออกซิเจนระหว่างนอนหลับ และต้องทำงานหนักขึ้นทุกคืนโดยที่เราไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็นระบบสมองหรือหัวใจ 

และเมื่ออาการนี้สั่งสมมากขึ้นเรื่อย ๆ วันหนึ่งหากหัวใจทำงานไม่ไหวเข้า ก็สามารถทำให้คนไข้ไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลยในเช้าวันรุ่งขึ้น 

นอกจากนี้อาการนี้ก็ทำให้เกิดความรำคาญกับคนที่นอนอยู่ข้าง ๆ ด้วยค่ะ คนไข้หลายคนก็มาหาหมอด้วยเหตุผลนี้กันเยอะเหมือนกัน

แนะนำวิธีดูแลสุขภาพในส่วนระบบหู คอ จมูกในชีวิตประจำวันหน่อย

ปัจจุบันก็มีโรคภัยใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมายและมีความแปลกใหม่มากด้วย ไม่ว่าจะเป็น PM 2.5 เชื้อไวรัสโควิด หรือโรคไข้หวัดใหญ่ที่กำลังระบาดหนักอยู่ตอนนี้ ซึ่งโรคเหล่านี้ล้วนทำให้เยื่อบุทางเดินหายใจของเราอักเสบได้ทั้งนั้นค่ะ และสามารถพัฒนาจนกลายเป็นอาการแบบเรื้อรังได้ด้วย

ดังนั้นสิ่งสำคัญที่หมออยากจะบอกก็คือ เราเป็นหมอคนแรกของตัวเอง เราต้องป้องกันตัวเองให้ได้ค่ะ เมื่อไรก็ตามที่รู้ว่าเสี่ยงต้องสูดดมมลพิษ ฝุ่นละออง หรือต้องไปอยู่ใกล้คนที่มีเชื้อไข้หวัด เราต้องใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้ง หมั่นล้างมือให้สะอาดด้วย และต้องนอนหลับให้เพียงพอด้วยนะคะ เราจะได้ฟื้นฟูสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ

ชีวิตประจำวันของคุณหมอ เวลาที่ไม่ได้เป็นหมอ ชอบทำอะไร?

เวลาที่ไม่ได้ออกตรวจคนไข้ ส่วนมากหมอก็จะแบ่งเวลาไปเข้ายิมออกกำลังกายค่ะ เพื่อให้ตัวเองมีร่างกายแข็งแรงพร้อมต่อการผ่าตัดรักษาคนไข้ได้ และสามารถออกตรวจคนไข้ได้ตลอด รูปแบบการออกก็มีทั้งแนวแอโรบิก หรือเข้ากลุ่มยกเวทเทรนนิ่ง อันนี้จะชอบมากกว่า แบบที่เป็นคลาสซุมบ้าอันนี้ก็มีเข้าบ้างนะคะ สนุกมากเลย 

และอีกกิจกรรมที่หมอชอบทำก็คือ การท่องเที่ยวค่ะ มีทั้งเที่ยวในประเทศและนอกประเทศเลย แต่ส่วนมากจะเป็นแนวเที่ยวตามสถานที่ธรรมชาติค่ะ

จากทุกที่ที่ไปเที่ยวมา ชอบประเทศไหนมากที่สุด?

ถึงแม้สถาปัตยกรรมของต่างประเทศที่สวย ๆ จะมีเยอะมาก แต่สถานที่ท่องเที่ยวที่หมอชอบที่สุดกลับอยู่ในประเทศไทยของเรานี่แหละค่ะ โดยที่ไปมาล่าสุดและชอบมากก็คือ เขื่อนเชี่ยวหลาน หมอมองว่าเป็น Unseen Thailand เลย น้ำสีใสและสวยมาก ตื่นมาตอนเช้าก็จะเห็นหมอกและอากาศดีมาก ๆ ด้วย ใครยังไม่เคยไป หมอขอแนะนำให้ลองไปเลยค่ะ

เวลาไปเที่ยวตามสถานที่ธรรมชาติ คุณหมอชอบเที่ยวแบบเดินในที่ราบ หรือแนวปีนไต่มากกว่า

แน่นอนค่ะว่า เวลาไปเที่ยวแนวธรรมชาติ เราก็จะต้องมีไต่เขาหรือไต่หน้าผากันบ้างอยู่แล้ว และก็มีสลับเดินออกกำลังกันบ้าง ซึ่งหมอก็ชอบนะคะ และอีกกิจกรรมที่หมอชอบทำระหว่างที่เที่ยวแนวนี้ก็คือการล่องแพค่ะ เป็นอะไรที่ทำแล้วมีความสุขมาก ๆ ค่ะ

การไปเที่ยวส่งผลดีต่ออาชีพหมออย่างไร?

ตอนที่ COVID- 19 ระบาดประมาณ 3 ปี ช่วงนั้นหมอทำงานหนักทุกวันเลยค่ะ ทำให้รู้สึกห่อเหี่ยวเหมือนกัน รู้สึกว่าตื่นเช้ามาก็ต้องไปทำงานอีกแล้วเหรอ ทีนี้พอมันสั่งสมมากขึ้นทุกวันก็ทำให้รู้สึกว่า ประสิทธิภาพการทำงานของเราลดลงมานิดหนึ่งเหมือนกันนะ 

ทีนี้พอประเทศเปิด หมอก็เลยจัดทริปให้ตัวเองไปเที่ยวทุกเดือนค่ะ ซึ่งปรากฏว่า พอกลับมาจากเที่ยวและทำงานต่อ เราก็รู้สึกว่า เราได้ไปชาร์จแบตพักผ่อนมาแล้วนะ ทำให้ออกตรวจคนไข้ได้อย่างร่าเริงแจ่มใสขึ้น ทำให้ผลการรักษาคนไข้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยค่ะ

บริการ HDcare ในมุมมองของคุณหมอเป็นอย่างไร?

หมอรู้สึกว่าบริการ HDcare เป็นตัวช่วยให้คนไข้มีทางเลือกที่ยืดหยุ่นเกี่ยวกับการจ่ายค่ารักษาได้ค่ะ และยังเลือกแพทย์ผู้ทำการรักษาได้ด้วย รวมถึงเลือกโรงพยาบาลที่สะดวกใช้บริการได้ เป็นบริการที่สุดท้ายแล้วผู้รับประโยชน์สูงสุดก็คือตัวคนไข้อย่างแท้จริง หมอเลยตัดสินใจเข้าร่วมเป็นทีมแพทย์กับบริการนี้ด้วยค่ะ

สอบถามทุกประเด็นเกี่ยวกับการผ่าตัดที่สงสัย กับทางทีมของ HDcare จนกว่าจะมั่นใจ และหากต้องการผู้ช่วยประสานงานด้านใดในโรงพยาบาล หรืออยากสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับบริการ HDcare สามารถพูดคุยผ่านทางไลน์ @HDcare ได้เลย