การรักษาโรคปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบ (De Quervain’s Tenosynovitis) มีทั้งแบบไม่ต้องผ่าตัด และการรักษาโดยการผ่าตัด แล้วอาการที่เราเป็นอยู่ต้องรักษาแบบไหน แต่ละวิธีมีข้อดี ข้อเสียอย่างไร เหมาะกับใคร บทความนี้จะพามาหาคำตอบ
สารบัญ
การรักษาแบบไม่ต้องผ่าตัด (Non-Surgical Treatment)
การรักษาโรคปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบมักเป็นแนวทางแรกในการรักษาโรคนี้ โดยเน้นลดการอักเสบและบรรเทาอาการปวด เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ วิธีการรักษาในกลุ่มนี้ ได้แก่
1. การพักการใช้งานข้อมือ
หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ใช้ข้อมือหนัก เช่น กำมือ บิดข้อมือ หรือยกของหนัก นอกจากนี้ควรลดการใช้มือทำกิจกรรมที่ต้องออกแรงมาก เช่น พิมพ์งาน ใช้โทรศัพท์มือถือ หรือเล่นกีฬา เพื่อป้องกันการอักเสบที่รุนแรงขึ้น
2. การใส่เฝือกหรือสายรัดข้อมือ
แพทย์อาจพิจารณาให้ผู้ป่วยใส่เฝือกที่ช่วยพยุงข้อมือและนิ้วหัวแม่มือ เพื่อลดการเคลื่อนไหวของเอ็นที่อักเสบ เป็นระยะเวลา 2-4 สัปดาห์ วิธีนี้ช่วยให้เอ็นมีเวลาฟื้นตัวและลดอาการปวดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. การประคบเย็น
การใช้เจลเย็นหรือผ้าห่อน้ำแข็งประคบบริเวณข้อมือ ครั้งละ 15-20 นาที วันละ 2-3 ครั้ง สามารถช่วยลดอาการบวมและอักเสบได้ วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายและสามารถทำได้ที่บ้าน
4. การใช้ยาแก้ปวดและต้านการอักเสบ
แพทย์อาจแนะนำให้ใช้ยาแก้อักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) เช่น ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) หรือ นาโพรเซน (Naproxen) ซึ่งช่วยลดอาการปวดและอักเสบได้ดี ควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียง
5. การทำกายภาพบำบัด
กายภาพบำบัดช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของเอ็นและลดอาการตึงข้อมือ โดยมีเทคนิค เช่น
- การยืดกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นอย่างถูกต้อง
- การฝึกใช้งานข้อมืออย่างเหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงต่อการกลับมาเป็นซ้ำ
6. การฉีดยาสเตียรอยด์
เป็นการฉีดยาเข้าไปบริเวณที่อักเสบโดยตรงเพื่อบรรเทาอาการอย่างรวดเร็ว วิธีนี้มักได้ผลดีในกรณีที่อาการไม่ตอบสนองต่อการรักษาวิธีอื่น อย่างไรก็ตาม อาจต้องฉีดซ้ำหากอาการกลับมาอีก
การรักษาโดยการผ่าตัด (Surgical Treatment)
หากการรักษาแบบไม่ผ่าตัดไม่ได้ผล หรืออาการรุนแรงจนกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน แพทย์อาจพิจารณาการผ่าตัดปลอกหุ้มเอ็น (De Quervain’s Release Surgery) โดยมีรายละเอียดดังนี้
ขั้นตอนการผ่าตัดปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบ
การผ่าตัดปลอกหุ้มเอ็น ใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 30-45 นาที และสามารถกลับบ้านได้ในวันเดียวกัน มีขั้นตอน ดังนี้
- ศัลยแพทย์จะฉีดยาชาเฉพาะที่บริเวณข้อมือเพื่อลดความเจ็บปวด
- กรีดผิวหนังบริเวณข้อมือเล็กน้อย เพื่อเข้าถึงปลอกหุ้มเอ็น
- เปิดปลอกหุ้มเอ็นที่อักเสบ เพื่อลดแรงกดที่เอ็น APL และ EPB ทำให้เอ็นเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระขึ้น
- เย็บแผลและปิดด้วยผ้าพันแผล
การฟื้นตัวหลังผ่าตัด
โดยทั่วไป ผู้ป่วยจะใช้เวลาฟื้นตัวประมาณ 4-6 สัปดาห์ แพทย์มักจะแนะนำให้ทำกายภาพบำบัดหลังการผ่าตัด เพื่อป้องกันข้อมือติดแข็งและฟื้นฟูการเคลื่อนไหวให้เป็นปกติ
การป้องกันไม่ให้อาการกลับมาเป็นซ้ำ
แม้ว่าการรักษาจะช่วยบรรเทาอาการได้ดี แต่ก็มีโอกาสที่โรคปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบจะกลับมาได้ หากไม่ดูแลข้อมืออย่างเหมาะสม วิธีป้องกันที่แนะนำ ได้แก่
1. ปรับพฤติกรรมการใช้งานข้อมือ
- หลีกเลี่ยงการใช้ข้อมือในลักษณะที่ต้องบิดหรือออกแรงซ้ำๆ
- หยุดพักระหว่างทำงานที่ต้องใช้ข้อมือหนัก เช่น การพิมพ์งานหรือใช้เมาส์เป็นเวลานาน
2. การออกกำลังกายข้อมือ
- ฝึกยืดเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อรอบข้อมืออย่างสม่ำเสมอ
- บริหารข้อมือ โดยหมุนข้อมือเป็นวงกลมช้าๆ วันละ 2-3 ครั้ง
3. การเลือกใช้อุปกรณ์เสริม
- ใช้อุปกรณ์ช่วยจับ เช่น ปากกาที่มีด้ามจับใหญ่ขึ้นเพื่อลดแรงกดที่ข้อมือ
- ใส่อุปกรณ์พยุงข้อมือเมื่อต้องทำงานที่ใช้มือหนัก
4. ควบคุมน้ำหนักตัว
น้ำหนักตัวที่มากเกินไปอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการอักเสบของข้อต่อและเส้นเอ็นได้ ดังนั้น ควรรักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมเสมอ
การเลือกวิธีรักษาโรคปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของอาการ หากอาการยังไม่รุนแรงมาก อาจเริ่มจากการรักษาแบบไม่ต้องผ่าตัด แต่หากอาการไม่ดีขึ้นหรือรุนแรงมาก จนส่งผลกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวัน แพทย์อาจแนะนำให้รักษาด้วยการฉีดยาสเตียรอยด์ หรือการผ่าตัด ทั้งนี้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกแนวทางการรักษาที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุด
รักษาโรคปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบด้วยวิธีไหนดี? วิธีไหนได้ผลลัพธ์ดีที่สุดสำหรับเรา? นัดคุยกับคุณหมอเฉพาะทาง ผ่านทีม HDcare สะดวกรวดเร็ว ทันใจ หรือค้นหาแพ็กเกจรักษาโรคปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบจาก รพ. หรือคลินิกใกล้คุณได้ทันที คลิกที่นี่เลย