การดูแลช่องปากระหว่างจัดฟันให้ถูกวิธี scaled

การดูแลช่องปากระหว่างจัดฟันให้ถูกวิธี

การจัดฟัน เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับความผิดปกติของการเรียงตัวของฟัน ไม่ว่าจะเป็นฟันห่าง ฟันเก ฟันซ้อน ฟันยื่น หรือฟันไม่สบกัน รวมทั้งในกลุ่มวัยรุ่นและวัยหนุ่มสาวที่ต้องการเสริมบุคลิกภาพ และความมั่นใจ เนื่องจากการจัดฟันจะทำให้ฟันเคลื่อนที่ไปยังตำแหน่งใหม่ที่มีความเหมาะสม

อย่างไรก็ดี ระหว่างจัดฟันซึ่งส่วนมากมักใช้เวลา 2-3 ปีนั้น (ระยะเวลาขึ้นอยู่กับความผิดปกติของฟันและชนิดของเครื่องมือที่ใช้) ก็มีโอกาสเกิดปัญหาในช่องปากได้มากมาย เช่น ฟันผุ มีกลิ่นปาก เหงือกร่น มีหินปูนเกาะ ดังนั้นการดูแลช่องปากและฟันให้ถูกวิธีจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก

4 ปัญหาช่องปากที่ควรระวังระหว่างจัดฟัน

1. ทำความสะอาดยากและฟันผุง่าย   

ขณะจัดฟันต้องมีการใส่เครื่องมือจัดฟันอย่างเข้าไปในช่องปาก ส่งผลให้เกิดช่องว่างหรือซอกเล็กๆ ระหว่างฟันและเครื่องมือ ที่แปรงสีฟันธรรมดาไม่สามารถทำความสะอาดได้ทั่วถึง

เมื่อมีเศษอาหารติดบริเวณเครื่องมือ การทำความสะอาดฟันจึงทำได้ยากจำเป็นต้องใช้ความใส่ใจ เวลา และวิธีทำความสะอาดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น แปรงขนาดเล็กที่สามารถชอนไชไปตามซอกฟันได้ ไหมขัดฟัน

หากไม่เคร่งครัดเรื่องความสะอาดมากพอ ฟันก็จะผุ หินปูนเกาะจนเหงือกอักเสบได้  หรืออาจทำให้เกิดกลิ่นปากตามมาได้

2. เหงือกอักเสบ หินปูน โรคเหงือก โรคปริทันต์ และเหงือกร่น 

เกิดขึ้นได้จากขณะจัดฟันที่ไม่มีการรักษาความสะอาดดีพอ มีหินปูนเกาะเป็นเวลานาน ไม่ได้ขูดหินปูนสม่ำเสมอ อาจนำไปสู่การอักเสบ การทำลายของกระดูก ฟันโยก อาจนำไปสู่การสูญเสียฟันได้

หากมีอาการของโรคปริทันต์ ทันตแพทย์อาจต้องยุติการจัดฟันเพื่อให้คนไข้รักษาโรคปริทันต์ก่อน

3. ฟันไม่แข็งแรง คอฟันสึก

เนื่องจากมีการเคลื่อนของตำแหน่งฟัน บางรายพบว่า เหงือกอักเสบ เกิดเลือดออกตามไรฟัน มีคราบหินปูนเกิดขึ้น ฟันเหลือง การไม่ทำความสะอาดให้ดีพอ เกิดคราบแบคทีเรียสะสม แบคทีเรียย่อยน้ำตาลและเกิดเป็นกรดกัดฟัน มีการสูญเสียแร่ธาตุที่เคลือบบริเวณผิวฟัน ก่อให้เกิดฟันผุได้

4. เจ็บและมีแผลในช่องปาก 

เครื่องมือจัดฟันแบบโลหะเมื่อใส่ใหม่ๆ ร่างกายยังไม่ชิน จึงมีโอกาสถูกบาด หรือเกี่ยวจนเป็นแผลได้ อีกทั้งเครื่องมือจัดฟันแบบโลหะยังมีส่วนสำคัญคือ ลวดเพื่อให้ฟันเคลื่อนไปในตำแหน่งที่สวยงาม

เมื่อฟันเคลื่อนที่ไปจากตำแหน่งเดิมจึงทำให้เกิดอาการเจ็บปวดตามมาได้ อีกทั้งเมื่อฟันเคลื่อนไปชิดกันก็จะเหลือปลายลวดยื่นมาทิ่มแก้มได้ กรณีนี้สามารถไปพบทันตแพทย์ให้ตัดปลายลวดได้

5 หลักการดูแลตัวเองระหว่างจัดฟัน

1. แปรงฟันให้สะอาด 

จำเป็นต้องให้ความสำคัญและพิถีพิถันอย่างสูง เพราะเป็นเรื่องที่ส่งผลให้เกิดฟันผุ มีกลิ่นปาก เหงือกอักเสบ และเสียบุคลิกภาพ เมื่อฟันผุแล้วก็อาจทำให้การจัดฟันล่าช้าออกไปอีก เพราะต้องอุดฟัน หรือถ้าผุจนปวด ก็ต้องรักษารากฟัน และทำครอบฟัน

ดังนั้นเราควรแปรงฟันนอกเหนือจากตอนเช้าและก่อนนอนโดยต้องแปรงฟันทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร รวมทั้งใช้แปรงสีฟันสำหรับการจัดฟัน ใช้แปรงซอกฟันทำความสะอาดใต้ลวดและรอบๆ แบร็คเก็ต

ใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดซอกฟัน โดยเลือกใช้ไหมที่ออกแบบมาสำหรับการจัดฟันโดยเฉพาะ

2. ไม่กัดของแข็ง หรือเหนียวเกินไป 

หากรับประทานอาหาร หรือผลไม้ ที่มีความแข็ง หรือเหนียวเกินไป จะทำให้อุปกรณ์ที่ใช้จัดฟันเกิดความเสียหาย หรือหลุดออกได้ รวมทั้งฟันที่กำลังจัดมีโอกาสเกิดการแตกและบิ่นได้เช่นกัน

นอกจากนี้ยังรวมถึงการกัดวัสดุต่างๆ แม้กระทั่งการกัดเล็บ การกัดฉีกถุง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอยู่แล้วทั้งฟันปกติและขณะจัดฟัน

3. ไม่ทำพฤติกรรมที่มีผลกับการจัดฟัน

พฤติกรรมดังกล่าวได้แก่ ใช้ลิ้นดุนเครื่องมือจัดฟันเล่น ขยับลวดจัดฟันเอง

4. หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้ฟันผุ 

ควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทของหวาน ขนม ทอฟฟี่ น้ำหวาน และน้ำอัดลม ป้องกันการสะสมของจุลินทรีย์ในช่องปาก อันทำให้เกิดฟันผุ

5. รับการตรวจฟันทุก 6 เดือน 

เพื่อขูดหินปูนและตรวจฟันผุ

การจัดฟันไม่ใช่แฟชั่น แต่เป็นการรักษารูปแบบหนึ่งที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากตัวผู้ป่วยในการดูแลความสะอาดและต้องมีวินัยในการมาพบทันตแพทย์ตามนัดทุกครั้ง

ดังนั้นก่อนตัดสินใจที่จะจัดฟันก็ควรศึกษารายละเอียดให้มากที่สุด ปรึกษาทันตแพทย์ถึงปัญหาของฟัน การเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นหลังใส่เครื่องมือจัดฟัน และเข้ารับการบริการจากคลินิกทันตกรรมที่ได้มาตรฐาน ทันตแพทย์มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง

เนื่องจากแต่ละคนมีปัญหาก่อนจัดฟันไม่เหมือนกัน เมื่อมั่นใจแล้วจึงค่อยตัดสินใจจัดฟัน การจัดฟันจึงไม่มีปัญหาแทรกซ้อนมากวนใจ และได้ผลลัพธ์คุ้มค่าสมการรอคอยจริงๆ


ตรวจสอบความถูกต้องโดย ทพญ. สิริพัชร ชำนาญเวช


บทความที่เกี่ยวข้อง


ที่มาของข้อมูล

Scroll to Top