ยากระตุ้นความดันโลหิต (Vasopressor) คือ กลุ่มยาที่ทำให้เกิดการหดตัวของเส้นเลือดและสามารถทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น เนื่องจากภาวะความดันในเลือดต่ำ อาจทำให้อวัยวะในร่างกายเสียหายจนกระทั่งเสียชีวิต นอกจากนี้ ยากระตุ้นความดันโลหิตยังสามารถใช้รักษาผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะช็อกและผู้ป่วยที่อยู่ในระหว่างการผ่าตัดได้ โดยยากระตุ้นความดันเริ่มใช้ครั้งแรกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1940 ซึ่งมักจะใช้ร่วมกับยากระตุ้นให้กล้ามเนื้อหัวใจบีบตัว (Inotropic)
สารบัญ
ยากระตุ้นความดันโลหิตที่ใช้บ่อย
ยากระตุ้นความดันที่ใช้บ่อย รวมไปถึงฮอร์โมนที่มีฤทธิ์ในการกระตุ้นความดันโลหิต ได้แก่
- Norepinephrine
- Epinephrine
- Vasopressin (Vasostrict)
- Dopamine
- Phenylephrine
- Dobutamine
คำเตือนข้อระวังในการใช้ยากระตุ้นความดันโลหิต
การใช้ยากระตุ้นความดันโลหิต จะต้องได้รับการดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด เนื่องจากยากลุ่มนี้มีประสิทธิภาพในการออกฤทธิ์สูงจนอาจเป็นอันตรายแก่ชีวิตได้หากใช้ไม่ถูกวิธี เพราะยาดังกล่าวจะไปลดปริมาณเลือดที่ไหลเวียนลงในบางส่วนของร่างกาย เพราะฉะนั้นจึงมักใช้ยานี้ในสถานการณ์ฉุกเฉินเท่านั้น และถ้าหากจำเป็นจะต้องใช้ยาในกลุ่มนี้ โดยมีภาวะดังต่อไปนี้ จะต้องแจ้งแพทย์ก่อนใช้ยาทุกครั้ง
- ความดันโลหิตสูง
- เบาหวาน
- โรคหัวใจ
- ระบบไหลเวียนเลือดผิดปกติ
- มีประวัติการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ
- ระดับฮอร์โมนไทรอยด์สูง (Hyperthyroidism)
- เส้นเลือดดำโป่งพอง (Varicose veins)
- เป็นโรคหอบหืด (Asthma)
- มีประวัติแพ้ยา
- อยู่ในช่วงตั้งครรภ์
ผลข้างเคียงของยากระตุ้นความดันโลหิต
หากมีอาการดังต่อไปนี้ ภายหลังจากรับประทานยากระตุ้นความดันโลหิตให้รีบแจ้งแพทย์ทันที
- หัวใจเต้นช้าลง
- ริมฝีปากหรือเล็บมีสีคล้ำ
- มีอาการปวด แสบ คัน หรือมีการเปลี่ยนแปลงของสีผิวหนัง
- มีอาการชา อ่อนแรง หรือรู้สึกเย็นบริเวณใดบริเวณหนึ่งของร่างกาย
- หายใจลำบาก ปัสสาวะน้อย หรือปัสสาวะไม่ออก
- มีปัญหาด้านการพูด การมองเห็น และการทรงตัว
- มีอาการแสดงถึงความดันโลหิตสูงที่ร้ายแรง เช่น ปวดหัวรุนแรง ได้ยินเสียงที่หู มองเห็นภาพไม่ชัด สับสน กังวล เจ็บหน้าอก หรือชัก
- มีอาการแสดงของภาวะแพ้อย่างรุนแรง เช่น มีผื่นขึ้น มีตุ่มนูน หายใจไม่ออก บวมที่ปาก ริมฝีปาก ใบหน้า หรือลิ้น