ในบรรดาถั่วทั้งหลายถั่วลิสงจัดว่าเป็นพืชที่รู้จักกันเป็นอย่างดี เป็นเพราะคุณประโยชน์จากถั่วลิสงที่มีครบแทบทุกด้านทั้งทางด้านอาหาร สรรพคุณทางยารักษาโรค เป็นพืชเศรษฐกิจที่ต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการภายในประเทศกันเลยทีเดียว
มีคำถามเกี่ยวกับ ถั่วลิสง? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ
สารบัญ [show]
รู้จักถั่วลิสง
ถั่วลิสง จัดเป็นพืชล้มลุก มักมีขนเกิดขึ้นตามส่วนต่างๆ ของต้น ยกเว้นเพียงกลีบดอกที่ไม่มี ลำต้นแบ่งได้เป็น 2 ประเภทคือ ลำต้นเป็นพุ่มตรง มีกิ่งก้านมาก ฝักเป็นกระจุกที่โคนต้น กับอีกชนิดเป็นพุ่มเตี้ย เลื้อย มีฝักกระจายตามข้อของลำต้น การปลูกถั่วลิสงมีทุกภาคในประเทศไทย แต่มักพบมากที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
คุณค่าทางโภชนาการของถั่วลิสง
ถั่วลิสงในปริมาณ 100 กรัม ประกอบด้วย
- พลังงาน 570 กิโลแคลอรี่
- โปรตีน 25 กรัม
- คาร์โบไฮเดรต 21 กรัม
- ไขมัน 48 กรัม
- ไขมันอิ่มตัว 7 กรัม
- ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว 24 กรัม
- ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน 16 กรัม
- น้ำ 4.26 กรัม
- เส้นใย 9 กรัม
- วิตามิน บี1 0.6 มิลลิกรัม
- วิตามินบี3 12.9 มิลลิกรัม
- วิตามินบี6 1.8 มิลลิกรัม
- วิตามินบี9 246 ไมโครกรัม
- แคลเซียม 62 มิลลิกรัม
- ธาตุเหล็ก 2 มิลลิกรัม
- แมกนีเซียม 184 มิลลิกรัม
- ฟอสฟอรัส 336 มิลลิกรัม
- โพแทสเซียม 332 มิลลิกรัม
- สังกะสี 3.3 มิลลิกรัม
ประโยชน์ของถั่วลิสง
ถั่วลิงสง พืชตระกูลถั่วที่เปี่ยมไปด้วยโปรตีนและสารอาหารต่างๆ หลายชนิด กินเป็นอาหารว่างก็ทำให้อิ่มท้องได้ แถมไม่อ้วนง่ายอีกด้วย เราไปดูประโยชน์ของถั่วลิสงเพื่อสุขภาพกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง
1.ช่วยป้องกันโรคต่างๆ
เช่น โรคมะเร็งเต้านมและมะเร็งต่อมลูกหมาก เพราะถั่วลิสงมีสารต้านเอนไซม์โปรติเอส ซึ่งมีฤทธิ์ต่อต้านโรคมะเร็งและยังประกอบไปด้วยสารจีเนสติน ซึ่งเป็นตัวการทำให้เส้นเลือดที่จะไปหล่อเลี้ยงเซลล์มะเร็งตีบเล็กลง อีกทั้งยังช่วยป้องกันโรคหัวใจได้ การรับประทานบ่อยๆ จะช่วยลดปริมาณไขมันเลวในเส้นเลือด นอกจากนี้ ยังปราศจากคอเลสเตอรอลซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแข็งตัวของเลือด อันเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคหัวใจ และยังช่วยลดความดันโลหิตสูงลงได้อีกด้วย
2.ช่วยรักษาโรคบางชนิด
เช่น โรคเกล็ดเลือดต่ำ เพราะเยื่อหุ้มของเมล็ดถั่วลิสงมีฤทธิ์ช่วยยับยั้งการสลายตัวของ Fribrin และยังช่วยกระตุ้นให้กระดูกมีการผลิตเกล็ดเลือด ช่วยให้การหดตัวของเส้นเลือดฝอยดีขึ้น ช่วยในการห้ามเลือด ช่วยรักษาอาการเลือดออกง่าย และรักษาโรคตับอักเสบ
3.ช่วยบำรุงร่างกายรวมทั้งอวัยวะต่างๆ
เช่น บำรุงประสาทตา บำรุงสมอง มีโคลีนช่วยทำให้ความจำดี ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย บำรุงกระเพาะ สมานแผลในกระเพาะอาหาร และยังช่วยเพิ่มความหล่อลื่นในลำไส้ เพราะอุดมไปด้วยเส้นใยอาหารที่สามารถละลายน้ำได้ ทำให้เกิดกระบวนการทำความสะอาดแบบเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ ยังช่วยบำรุงม้าม บำรุงไขข้อ บำรุงเส้นเอ็น และบำรุงน้ำนมในสตรีมีครรภ์ทำให้มีน้ำนมมากเพียงพอ
4.ลดความอ้วน
เมื่อรับประทานถั่วลิสงเข้าไปในปริมาณที่ไม่มากจนเกินไปนักจะช่วยให้ไม่เกิดอาหารหิวบ่อย เพราะถั่วลิสงมีไขมันไม่อิ่มตัว ทำให้อิ่มท้องนาน ทำให้ทานอาหารได้น้อยลง จึงไม่ทำให้อ้วน เหมาะที่จะทานเป็นอาหารว่างอย่างมาก ปริมาณที่แนะนำคือ ไม่ควรทานเกิน 1 กำมือ หรือปริมาณ 30 กรัมต่อวัน
5.ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคบางชนิด
การเจริญเติบโตของเชื้อโรคบางชนิดสามารถยับยั้งได้ โดยนำมาทำเป็นยาฉีด แต่ก็สามารถยับยั้งได้แค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
มีคำถามเกี่ยวกับ ถั่วลิสง? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ
6.ช่วยรักษาสมดุลของฮอร์โมนเพศชาย
เป็นเพราะแมกนีเซียมที่มีในปริมาณมากในถั่วลิสง ที่จะช่วยทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว และยังช่วยให้การทำงานของเอนไซม์ต่างๆ ดีขึ้น
7.ใช้ประโยชน์ด้านการเกษตร
นอกจากให้ผลดีกับสุขภาพแล้ว ยังสามารถนำมาเป็นอาหารสัตว์ นำเปลือกมาทำเป็นปุ๋ย ทำให้ดินดี มีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้น ใช้เพาะเห็ด ทำเชื้อเพลิง เป็นส่วนผสมในวัสดุก่อสร้าง และใช้เป็นยาฆ่าแมลงได้
ไอเดียการนำถั่วลิสงมาใช้เพื่อสุขภาพ
- แก้อาการฟกช้ำ หากเกิดอาการฟกช้ำจากการหกล้ม กระทบกระแทก สามารถนำใบมาตำให้ละเอียดแล้วโปะลงบริเวณที่เป็นได้ แต่หากฟกช้ำภายใน ให้ใช้ก้านใบสดหรือใบแห้ง (เลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง) สำหรับใบแห้งให้กะน้ำหนักปริมาณ 30 กรัม ส่วนใบสดใช้ปริมาณ 40 กรัม โดยนำมาต้ม แล้วกรองเอาน้ำมาดื่มจะช่วยแก้อาการฟกช้ำจากภายในร่างกายได้
- ลดความดันโลหิตสูง ให้ใช้ก้านหรือใบสด ใบแห้ง โดยนำมาต้ม แล้วกรองเอาแต่น้ำมาดื่มจะช่วยลดความดันโลหิตสูงได้
- รักษาโรคเกล็ดเลือดต่ำ ใช้เปลือกถั่วลิสงปริมาณ 10 กรัม ต้มกับน้ำ กรองกากออก เอาแต่น้ำมาดื่มทุกวันก็จะช่วยรักษาโรคเกล็ดเลือดต่ำได้
- รักษาอาการไอกรน ให้นำเมล็ดถั่วมาต้มกับน้ำตาลกรวด แล้วรับประทานจะช่วยรักษาอาการไอกรน อาการนอนกรนในเด็ก
- บรรเทาอาการฝีในท้อง ให้นำเมล็ดถั่วมาต้มกับเกลือรับประทาน ซึ่งจะมีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการฝีในท้องได้
- รักษาอาการไอแห้ง ให้นำเมล็ดแห้งมาบดชงหรือต้มเอาแต่น้ำมาดื่ม จะช่วยมีรสชุ่ม ช่วยในการหล่อลื่นปอด และรักษาอาการไอแห้งได้
- รักษาอาการปลายเท้าชา นำถั่วลิสง ถั่วแดงและพุทราจีนมาต้มรวมกันแล้วรับประทาน จะช่วยรักษาอาการปลายเท้าชาได้ วิธีการทำคือ ใช้เมล็ดที่ยังคงมีเนื้อเยื่ออยู่จำนวน 100 กรัม ถั่วแดง 100 กรัม และเปลือกพุทราจีน 100 กรัม โดยนำส่วนผสมทั้งหมดนี้มาต้มรวมกัน รับประทานหลายๆ ครั้งก็จะเห็นผล
- บำรุงน้ำนมในคุณแม่หลังคลอด นำถั่วลิสงจำนวน 120 กรัม กับขาหมู 1 ขา นำมาต้มรวมกัน ปรุงรสตามชอบ แต่รสชาติไม่ควรให้จัดนัก แล้วนำมารับประทานจะช่วยบำรุงน้ำนม เร่งน้ำนมในคุณแม่หลังคลอดให้เพิ่มปริมาณมากขึ้นได้
- ใช้เป็นยาระบาย ให้นำน้ำมันจากเมล็ดประมาณ 30-60 มิลลิลิตร นำมาใช้ทานก็จะเป็นยาระบาย ช่วยในการหล่อลื่นลำไส้ แก้อาการท้องผูกได้
- แก้อาการปวดเมื่อย โดยใช้น้ำมันสกัดจากเมล็ดถั่วลิงสง มาทาถูนวดภายนอกตรงบริเวณที่มีอาการปวด ก็จะช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยได้เช่นเดียวกัน
ไอเดียการนำถั่วลิสงมารับประทานเพื่อสุขภาพ
เมล็ดถั่วลิสงเราสามารถนำมาประกอบเมนูอาหารทานได้หลายอย่าง โดยเฉพาะเมนูอาหารว่างทานเล่นเพื่อสุขภาพ แต่ก่อนอื่น เราจะต้องคำนึงถึงความสะอาดก่อนเป็นอันดับแรก โดยควรเลือกเมล็ดถั่วลิสงใหม่ สะอาด ปราศจากสารเจือปน และเมื่อคัดสรรเมล็ดที่สะอาดได้คุณภาพตามที่ต้องการแล้ว เราก็ไปดูเมนูน่าทานกันเลย
- ถั่วลิสงต้ม เตรียมถั่วลิสงดิบ เกลือ น้ำเปล่า เริ่มการทำด้วยการล้างถั่วให้สะอาด นำใส่หม้อต้ม เติมเกลือลงไป ต้มให้เดือดจนสุก เมื่อสุกแล้วให้ปล่อยไว้ครึ่งชั่วโมง ตักมาพักให้แห้ง รับประทานได้
- ขนมถั่วกรอบเคลือบน้ำตาล เตรียมถั่วลิสง น้ำตาลทราย น้ำสะอาด เกลือ งาขาวคั่ว เริ่มการทำด้วยการนำน้ำตาลทราย น้ำสะอาด และถั่วมาคนให้เข้ากัน นำลงกระทะ ใช้ไฟกลางคนไป-มา เมื่อน้ำเชื่อมเดือด ให้คนบ่อยๆ ปรับไฟให้อ่อนลงแล้วคนจนน้ำเชื่อมแห้งเกาะบนเมล็ดถั่ว โรยเกลือกับงาขาว คนให้ทั่วอีกครั้ง ปิดไฟ เทถั่วลงบนถาด เกลี่ยให้ถั่วกระจายอย่าให้ติดกัน พอแห้งเย็น ถั่วจะกรอบ หอม ทานอร่อยมากทีเดียว
- ยำถั่วลิสง เหมาะสำหรับทานเป็นอาหารว่าง เป็นกับแกล้ม เพียงนำถั่วลิสงดิบ มะนาวหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ เกลือป่น มาคั่วรวมกัน เมื่อถั่วสุก สามารถนำประทานได้เลยจะได้ทั้งความหอมของถั่วและมะนาว รับรองว่ากลมกล่อมมาก
ข้อควรระวัง
ถึงแม้ประโยชน์ของถั่วลิสงจะมีมากมาย แต่ถั่วลิสงก็ยังคงแฝงไปด้วยสารที่อาจมีผลเสียต่อสุขภาพร่างกาย ดังนั้น ก่อนทานจะต้องศึกษาข้อควรระวังเอาไว้ ดังนี้
1.ถั่วลิสงเป็นพืชที่มีสารอะฟลาทอกซินสูง (Alflatoxin)
ซึ่งนับว่าเป็นสารพิษที่มีความร้ายแรงต่อร่างกายของคนและสัตว์เป็นอย่างมาก หากได้รับในปริมาณที่มาก จะเป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งที่ตับ ตับถูกทำลาย สมองบวม ชัก หายใจไม่ออก ดังนั้นปริมาณที่กำหนดให้ใช้สารชนิดนี้ได้ไม่เกิน 20 ppb ซึ่งอาจเกิดมาจากขบวนการเก็บเกี่ยว การตากแห้ง เจริญเติบโตได้ดีในช่วงฤดูฝน ดังนั้นจึงพบราชนิดนี้มากในฤดูฝนนั่นเอง
2.ผู้ที่แพ้ถั่วควรเลี่ยงทาน
พบว่าใน 1,000 คน จะมีผู้ที่แพ้ถั่วลิสง 2-14 คน ดังนั้นหากมีอาการแพ้เช่น ผื่นคันตามตัว เป็นลมพิษ อาเจียน ไอ หอบ หายใจไม่สะดวก ปวดท้อง หากแพ้รุนแรงเช่น ตาบวม ปากบวม แน่นหน้าอก อาจทำให้ช็อก หมดสติและอาจเสียชีวิตได้ หากเริ่มมีอาการ ควรต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อรักษาให้ทันท่วงที ซึ่งสาเหตุการแพ้อาจเกิดมาจากการแพ้โปรตีนในถั่วลิสง ภูมิคุ้มกันแปรปรวน ไม่สามารถรับโปรตีนจากถั่วได้นั่นเอง
3.หลีกเลี่ยงการทานในบางช่วง
โดยเฉพาะในช่วงที่ร่างกายกำลังเป็นโรคปวดตามกล้ามเนื้อ ปวดตึงตามข้อ ท้องเสีย หากมีอาการรุนแรง ไม่ควรกินถั่วลิสงในช่วงนี้ เพราะอาจจะเร่งทำให้ร่างกายเจ็บป่วยได้ง่าย
4.ถั่วลิสงมีสารพิวรีน (Purine) ในระดับปานกลาง
ผู้ป่วยที่เป็นโรคเกาต์จึงไม่ควรรับประทาน เพราะจะยิ่งกระตุ้นให้อาการของโรคอักเสบขึ้นได้
ถึงแม้จะมีข้อเสียอยู่บ้าง แต่ก็นับว่ายังคงเป็นพืชที่ให้คุณประโยชน์มากกว่าให้โทษ และยังหาซื้อมาทานง่าย ราคาถูก ทำเป็นเมนูอาหารว่างทานได้หลากหลายเมนู หรือจะต้มทานเปล่าๆ ก็อร่อยอิ่มสบายท้องได้ง่ายแล้ว เพราะฉะนั้น หากกำลังมองหาอาหารดีเพื่อสุขภาพกันอยู่ล่ะก็ แนะนำถั่วลิสงรับรองไม่มีผิดหวัง
เปรียบเทียบราคาแพ็กเกจตรวจสุขภาพ
มีคำถามเกี่ยวกับ ถั่วลิสง? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ