Norfloxacin หรือนอร์ฟลอกซาซิน เป็นยาปฏิชีวนะสำหรับรักษาการติดเชื้อแบคทีเรียต่างๆ โดยนิยมนำมาใช้รักษาผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ และต่อมลูกหมากอักเสบจากการติดเชื้อ
สารบัญ
- รูปแบบและส่วนประกอบของยา Norfloxacin
- กลไกการออกฤทธิ์ของยา Norfloxacin
- ข้อควรระวังในการใช้ยา Norfloxacin
- ข้อบ่งใช้ของยา Norfloxacin
- ข้อปฏิบัติเมื่อลืมรับประทานยา Norfloxacin
- ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Norfloxacin
- ข้อมูลการใช้ยา Norfloxacin ในสตรีมีครรภ์และสตรีให้นมบุตร
- ประเภทของยา ตามข้อมูลจากองค์การอาหารและยา ประเทศไทย
- การเก็บรักษายา
รูปแบบและส่วนประกอบของยา Norfloxacin
Norfloxacin เป็นยาปฏิชีวนะสำหรับรับประทาน อยู่ในรูปแบบยาเม็ด มี 3 ขนาดด้วยกัน ได้แก่ นอร์ฟลอกซาซินขนาด 100 มิลลิกรัม 200 มิลลิกรัม และ 400 มิลลิกรัม
กลไกการออกฤทธิ์ของยา Norfloxacin
Norfloxacin เป็นยาปฏิชีวนะในกลุ่มฟลูออโรควิโนโลน (Fluoroquinolone) มีกลไกการออกฤทธิ์โดยยับยั้งการสังเคราะห์ DNA ผ่านกระบวนการยับยั้งเอนไซม์ดีเอ็นเอ ไจเรส (DNA gyrase) และเอนไซม์โทพอยโซเมอเรส 4 (Topoisomerase IV) ยานี้มีฤทธิ์ในการต้านเชื้อได้กว้างขวาง ทั้งต่อเชื้อแบคทีเรียแกรมบวก และแบคทีเรียแกรมลบ
ข้อควรระวังในการใช้ยา Norfloxacin
- ไม่ใช้ยา Norfloxacin ในผู้ป่วยที่แพ้ยานี้ หรือแพ้ยาในกลุ่มควิโนโลน (Quinolones)
- ไม่ใช้ยานี้ในผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงชนิด Myasthenia gravis ผู้ป่วยเอ็นอักเสบ หรือมีประวัติเอ็นเสียหายเนื่องจากการใช้ยาควิโนโลน
- ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพต่อไปนี้ ควรใช้ยา Norfloxacin อย่างระมัดระวัง
- ผู้ที่มีประวัติการแพ้ยากลุ่มเบต้า-แลคแตม (Beta-lactam)
- ผู้ป่วยที่มีปัญหาการเต้นของหัวใจแบบ QT interval prolongation
- ผู้ป่วยที่มีภาวะโพแทสเซียมต่ำ
- ผู้ที่มีความผิดปกติของระบบประสาทส่วนกลาง หรือมีปัจจัยที่อาจก่อให้เกิดการชัก
- ผู้ที่มีการปลูกถ่ายไต ปอด หรือหัวใจ
- ผู้ป่วยโรคไต
- สตรีมีครรภ์ และสตรีที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร
- ยานี้อาจก่อให้เกิดอาการมึนงงและวิงเวียนศีรษะได้ จึงไม่ควรขับรถหรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้เครื่องจักรหลังจากรับประทานยา
- ผู้ป่วยอาจไวต่อแสงมากยิ่งขึ้นในระหว่างที่ใช้ยานี้ จึงควรหลีกเลี่ยงการสัมผัส หรืออยู่ท่ามกลางแดดจ้า
ข้อบ่งใช้ของยา Norfloxacin
- รักษาต่อมลูกหมากอักเสบจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ชนิดเรื้อรัง ปริมาณการใช้ยาในผู้ใหญ่ รับประทานครั้งละ 400 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 28 วัน
- รักษาการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะชนิดเรื้อรังที่กลับมาเป็นซ้ำ ปริมาณการใช้ยาในผู้ใหญ่ รับประทานครั้งละ 400 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 12 สัปดาห์ อาจลดปริมาณยาเหลือวันละ 1 ครั้ง หากการรักษาสามารถต้านทานเชื้อได้ดีพอภายในช่วง 4 สัปดาห์แรก
- รักษาการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ ชนิดมีภาวะแทรกซ้อน ปริมาณการใช้ยาในผู้ใหญ่ รับประทานครั้งละ 400 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 10-21 วัน
- รักษาการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ ชนิดไม่มีภาวะแทรกซ้อน สำหรับการติดเชื้อ E. coli, Klebsiella pneumoniae, และ Proteus mirabilis รับประทานครั้งละ 400 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 3 วัน สำหรับการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดอื่น ให้รับประทานครั้งละ 400 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 7-10 วัน
- รักษาอาการอุจจาระร่วง อาหารเป็นพิษในนักท่องเที่ยว (Traveler’s diarrhea) ปริมาณการใช้ยาในผู้ใหญ่ รับประทานครั้งละ 400 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 3 วัน
ข้อปฏิบัติเมื่อลืมรับประทานยา Norfloxacin
หากลืมรับประทานยา Norfloxacin ให้รับประทานยาทันทีที่นึกได้ตามปริมาณปกติ แต่หากใกล้ถึงเวลารับประทานในครั้งถัดไป ให้ข้ามไปรับประทานยาในมื้อถัดไปได้เลย และไม่ต้องเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า
ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Norfloxacin
การใช้ยา Norfloxacin อาจทำให้มีอาการข้างเคียงที่ไม่รุนแรง เช่น มึนงง ปวดศีรษะ ง่วงซึม คลื่นไส้ ปวดเกร็งท้อง ท้องเสีย อาเจียน เบื่ออาหาร ท้องผูก แน่นท้อง แต่หากอาการเหล่านี้ไม่หายไป หรือรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ควรปรึกษาแพทย์
ในกรณีที่มีผลข้างเคียงที่รุนแรงดังต่อไปนี้ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
- อาการแพ้ยา เช่น ลมพิษ หน้าบวม ปากบวม คอบวม แน่นหน้าอก หรือหายใจลำบาก
- ปัญหาเกี่ยวกับตับอ่อน เช่น ปวดท้องหรือปวดหลังอย่างมาก ถ่ายท้อง หรืออาเจียนอย่างรุนแรง
- ปัสสาวะขัด หรือปัสสาวะไม่ออก มีเลือดปนในปัสสาวะ
- ชาปลายมือปลายเท้า ปวดข้อ ชัก กล้ามเนื้อหดเกร็ง
- การเต้นของหัวใจผิดปกติแบบ QT prolongation
- น้ำตาลในเลือดต่ำ
- มีอาการของตับอักเสบ เช่น ปัสสาวะสีเข้ม อุจจาระสีซีด รู้สึกเหนื่อย ไม่อยากอาหาร และดีซ่าน (ตาขาว และผิวหนังมีสีออกเหลือง)
- มีอาการท้องเสียที่เกิดจากการติดเชื้อ Clostridium difficile (CDAD) เช่น ปวดท้องอย่างรุนแรง ร่วมกับถ่ายเหลวมาก หรืออุจจาระปนเลือด
ข้อมูลการใช้ยา Norfloxacin ในสตรีมีครรภ์และสตรีให้นมบุตร
ตัวยา Norfloxacin จัดอยู่ในกลุ่มยาประเภท C คือควรระมัดระวังการใช้ยาในสตรีมีครรภ์และสตรีที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร โดยจะต้องปรึกษาแพทย์เพื่อชั่งน้ำหนักระหว่างประโยชน์และความเสี่ยงจากยาก่อนใช้
ประเภทของยา ตามข้อมูลจากองค์การอาหารและยา ประเทศไทย
ยา Norfloxacin จัดอยู่ในกลุ่มยาอันตราย จำหน่ายเฉพาะในร้านขายยาแผนปัจจุบันที่มีเภสัชกรชั้นหนึ่งเป็นผู้จ่ายยาเท่านั้น
การเก็บรักษายา
ควรเก็บรักษายา Norfloxacin ที่อุณหภูมิ 15-30 องศาเซลเซียส และเก็บไว้ให้พ้นจากแสงแดด
คุณจะเห็นได้ว่า ผลข้างเคียงจากยา Norfloxacin หลายอย่างมีความร้ายแรงจนเสี่ยงถึงชีวิตได้ ดังนั้นคุณควรปรึกษาแพทย์ และเภสัชกรเกี่ยวกับยารักษาอาการเจ็บป่วยมากกว่าซื้อยามารับประทานเอง เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพ และเพื่อให้การรักษาโรคเป็นไปอย่างเหมาะสม