ลูกเหม็น เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ดับกลิ่นและไล่แมลงในบ้านที่นิยมใช้กัน เนื่องจากมีราคาไม่แพง หาซื้อได้ง่าย โดยมักนำไปวางในห้องน้ำเพื่อดับกลิ่น หรือนำไปวางในตู้เสื้อผ้าเพื่อไล่แมลง
อย่างไรก็ตาม ลูกเหม็นผลิตจากสารเคมีที่สามารถระเหยกลายเป็นไอได้ หากสูดดมเข้าไปในปริมาณมากก็อาจทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้ จึงควรใช้ในปริมาณเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
สารบัญ
ทำความรู้จักกับลูกเหม็น
ลูกเหม็น ผลิตมาจากสารแนพทาลีน (Naphthalene) หรือ พาราไดคลอโรเบนซีน (Paradichlorobenzene)
ลักษณะเป็นของแข็งหรือผลึกสีขาว มีกลิ่นแรง ไม่ละลายน้ำ แต่สามารถระเหิดหรือเปลี่ยนสถานะจากของแข็งกลายเป็นไอได้ในอุณหภูมิห้อง
แนพทาลีนเกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติ พบในถ่านหิน น้ำมันปิโตรเลียม หรือการเผาไหม้ของสารประกอบอินทรีย์ เช่น ไม้ บุหรี่
นอกจากนำไปทำเป็นลูกเหม็นโดยตรงแล้ว ยังนำไปใช้เป็นส่วนประกอบในการผลิตพลาสติกพีวีซี (PVC) เรซิน (Resin) สารฟอกหนัง สีย้อม และสารฆ่าแมลงคาร์บาริล (Carbaryl) อีกด้วย
ประโยชน์ของลูกเหม็น มีอะไรบ้าง?
ลูกเหม็น ถูกนำมาใช้ในดับกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ ไล่สัตว์ที่มารบกวนภายในบ้าน เช่น จิ้งจก ตุ๊กแก หนู และแมลงสาบ โดยนำไปห่อใส่ผ้าแล้วนำไปวางในบริเวณที่ต้องการ
นอกจากนำไปใช้ในบ้านแล้ว ลูกเหม็นยังสามารถนำไปใช้ป้องกันแมลงในสวนได้อีกด้วย โดยการนำลูกเหม็นใส่ในขวดพลาสติกที่ถูกเจาะรูไว้รอบขวดแล้วนำไปแขวนบริเวณต้นไม้ที่ต้องการไล่แมลง
อาการเกิดพิษจากการใช้ลูกเหม็นเป็นอย่างไร?
ลูกเหม็นหรือแนพทาลีนสามารถดูดซึมได้ดีทั้งทางระบบทางเดินอาหาร ทางผิวหนัง และระบบทางเดินหายใจ หากได้รับในปริมาณมากก็จะทำให้เกิดพิษที่เป็นอันตราย โดยจะมีอาการแตกต่างกันไปดังนี้
- หากเกิดจากการสูดดมกลิ่นเข้าไปเป็นปริมาณมาก จะทำให้ปวดศีรษะ มึนงง ตื่นเต้น คลื่นไส้ อาเจียน เหงื่อออกมาก ปัสสาวะขัด
- หากสัมผัสผิวหนังหรือนัยน์ตา จะทำให้เกิดการระคายเคือง และอาจดูดซึมได้ทางผิวหนัง
- หากเกิดจากการรับประทานลูกเหม็นเข้าไป จะมีอาการเป็นตะคริวที่กล้ามเนื้อหน้าท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ปวดศีรษะ เหงื่อออกมาก ปัสสาวะขัด ปัสสาวะเป็นเลือด โลหิตจาง มีไข้ ดีซ่าน ไตไม่สามารถทำงานตามปกติ ในรายที่มีอาการรุนแรงอาจทำให้เสียชีวิตได้ จึงควรเก็บให้พ้นมือเด็ก
- สารแนพทาลีนอาจทำให้เกิดภาวะเม็ดเลือดแดงแตก (Hemolysis) ในผู้ที่ไวต่อสาร เช่น ผู้ที่มีภาวะ G6PD
- ผลกระทบต่อสัตว์เลี้ยง สร้างความระคายเคืองต่อตาและผิวหนัง อาจส่งผลต่อระบบประสาท ทำให้ชัก หมดสติ หากกินเข้าไปอาจเสียชีวิตได้
วิธีแก้พิษลูกเหม็นเบื้องต้น เป็นอย่างไร?
1. กรณีที่รับประทานลูกเหม็นเข้าไป
หากรับประทานลูกเหม็นเข้าไป ให้ดื่มน้ำสะอาด 2 แก้ว หรือประมาณ 240-300 มิลลิลิตร ห้ามทำให้อาเจียนเพราะอาจสร้างความเสียหายให้กับช่องคอได้ หากผู้ป่วยอาเจียนให้บ้วนปากแล้วดื่มน้ำตาม หลังจากนั้นให้รีบพาผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาล
แพทย์จะทำการรักษาโดยการล้างกระเพาะอาหาร (Gastric lavage) ร่วมกับให้ยาต้านพิษที่ทำจากถ่านกัมมันต์ (Activated charcoal)
ข้อควรระวัง คือ แนพทาลีนละลายได้ดีในน้ำนมและอาหารประเภทไขมัน จึงไม่ควรให้ผู้ป่วยดื่มนมหรือสารอาหารที่มีไขมัน เพราะจะทำให้แนพทาลีนถูกดูดซึมได้ดีขึ้น
2. กรณีที่สูดดมไอระเหยของลูกเหม็นเข้าไป
หากเกิดพิษจากการสูดดมไอระเหยของลูกเหม็นแสดงว่าใช้ลูกเหม็นในปริมาณที่มากเกินไป ให้รีบออกจากบริเวณนั้นทันที
หลังจากนั้น ให้คุณสวมใส่หน้ากากเพื่อป้องกันการสูดดมกลิ่นแล้วเข้าไปกำจัดลูกเหม็นออก โดยการเก็บใส่ภาชนะที่ปิดมิดชิด และเปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศ
โดยปกติแล้ว ความชื้นและแสงแดดในอากาศสามารถทำให้แนพทาลีนสลายตัวได้ภายใน 1 วัน
3. กรณีที่ผิวหนังหรือนัยน์ตาสัมผัสกับลูกเหม็น
หากผิวหนังหรือนัยน์ตาสัมผัสกับลูกเหม็นให้ล้างด้วยน้ำสะอาดจนกว่าอาการระคายเคืองจะทุเลา หากอาการไม่ดีขึ้น หรือเกิดผื่นแพ้ทั่วร่างกายให้ไปพบแพทย์ทันที
วิธีลดความเสี่ยงการเกิดอันตรายจากการใช้ลูกเหม็น
ควรปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้ เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดอันตรายจากการใช้ลูกเหม็น ซึ่งได้แก่
- เก็บลูกเหม็นและก้อนดับกลิ่นให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง โดยเก็บในตู้ที่ปิดสนิทหรือภาชนะที่มีฝาปิดเพื่อป้องกันการรั่วไหลของไอระเหยของลูกเหม็นสู่อากาศ
- หลีกเลี่ยงการใช้ลูกเหม็นกับเสื้อผ้าและเครื่องนุ่งห่มของทารก เด็ก สตรีมีครรภ์ และผู้ป่วยโรคโลหิตจาง เนื่องจากบุคคลเหล่านี้จัดอยู่ในกลุ่มไวต่อการเกิดพิษจากการใช้ลูกเหม็น
- ไม่ใช้ลูกเหม็นสัมผัสกับเนื้อผ้าโดยตรง และหากใช้ลูกเหม็นกับเสื้อผ้าหรือผ้าห่ม ให้นำมาตากแดดหรือผึ่งลมก่อนนำมาใช้ เพื่อกำจัดกลิ่นและไอระเหยที่ตกค้างอยู่บนผ้า ถ้าจะให้ดีที่สุดควรนำไปซักอีกครั้งก่อนนำมาใช้
ลูกเหม็นวางไว้ในห้องนอนได้ไหม ?
ลูกเหม็นอาจเป็นอันตรายได้ทั้งต่อคนและสัตว์เลี้ยง ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง ไม่ควรวางลูกเหม็นไว้ในห้องนอนหรือสถานที่ที่อากาศปิด ไม่ถ่ายเท เพื่อป้องกันการสั่งสมของปริมาณแนพทาลีนในอากาศ ควรหมั่นเปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศภายในบ้านเป็นประจำ หากจำเป็นควรหาทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า เช่น การใช้สมุนไพรไล่แมลงแทนลูกเหม็น
แม้ว่าลูกเหม็นจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในบ้านเรือนที่พบได้ทั่วไป แต่ก็จัดเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 2 ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มควบคุมวัตถุอันตราย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข
ลูกเหม็นที่ได้มาตรฐาน ตรงฉลากจะต้องแสดงชื่อและปริมาณสารสำคัญ วิธีใช้ คำเตือน วิธีเก็บรักษา อาการเกิดพิษ วิธีแก้พิษเบื้องต้น ชื่อที่ตั้งและหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ผลิต นำเข้า และจัดจำหน่ายอย่างครบถ้วน
หากฉลากขาดข้อมูลอย่างใดอย่างหนึ่งไปอาจแสดงว่าลูกเหม็นนั้นไม่ได้รับมาตรฐาน ไม่ควรนำมาใช้ เพราะอาจมีค่าความเข้มข้นเกินค่ากำหนดจนทำให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้ได้