เคยไหม…เวลาที่รับประทานอาหารเข้าไปแล้วอยู่ดีๆ ก็มีอาการชา หรือคันที่ปาก มีผื่นคัน รู้สึกไม่สบายตัว หรือวิงเวียนศีรษะ นั่นเป็นสัญญาณของอาการภูมิแพ้อาหารที่เมื่อเกิดขึ้นแล้วควรรีบไปหาหมอ เพราะหากแพ้อาหารอย่างรุนแรงก็อาจเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้!
สารบัญ
ภูมิแพ้อาหาร หนึ่งในโรคภูมิแพ้ที่อันตรายมากกว่าที่คิด!
ภูมิแพ้อาหาร (Food allergy) เป็นปฏิกิริยาที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายตอบสนองต่ออาหารบางชนิดมากผิดปกติ ตั้งแต่ในระดับเล็กน้อยไปจนถึงรุนแรง
เมื่อคุณกินอาหารที่แพ้เข้าไป ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจะคิดว่าเป็นสิ่งอันตราย จากนั้นก็กระตุ้นเซลล์แอนติบอดี้ (Antibody) หรือ Immunoglobulin E (IgE) ออกมาเพื่อจัดการกับสารอาหารนั้น
ผู้ที่เป็นภูมิแพ้อาหารบางรายอาจมีอาการแพ้เพียงเล็กน้อยในครั้งแรกที่รับประทาน แต่จะเพิ่มระดับความรุนแรงในครั้งถัดๆ ไป โดย IgE จะตรวจจับและทำให้ระบบภูมิคุ้มกันหลั่งสารฮีสตามีน (Histamine) ออกมาตามกระแสเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการแพ้ต่างๆ ที่รุนแรงขึ้น
จึงเป็นเหตุผลสำคัญว่า ทำไมภูมิแพ้อาหารถึงอันตรายมากกว่าที่คิด และทำไมถึงควรรีบไปพบแพทย์เมื่อเกิดอาการแพ้ เพราะระดับความรุนแรงของอาการแพ้อาหารคาดการณ์เองได้ยาก
สาเหตุของภูมิแพ้อาหาร
สาเหตุของภูมิแพ้อาหารอาจเกิดได้จากหลายปัจจัย ดังนี้
- คนในครอบครัวเป็นมาก่อน หากคนในครอบครัวมีประวัติเป็นภูมิแพ้ หอบหืด กลาก และลมพิษ ก็มีโอกาสมากขึ้นที่คุณจะเป็นภูมิแพ้อาหารด้วยเช่นกัน
- เป็นภูมิแพ้ประเภทอื่นมาก่อน หากคุณเป็นภูมิแพ้ประเภทอื่น หรือแม้แต่แพ้อาหารชนิดใดชนิดหนึ่ง ก็มีโอกาสที่คุณจะเป็นภูมิแพ้อาหารเพิ่มเติมในภายหลังได้
- อายุ ภูมิแพ้อาหารนั้นมักพบได้บ่อยในเด็กโดยเฉพาะทารก เมื่อเด็กอายุเยอะขึ้น ระบบย่อยอาหารจะดูดซึมสารอาหารได้น้อยลง ซึ่งจะกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้น้อยลงด้วย อย่างไรก็ตาม อาการแพ้ถั่ว สัตว์ทะเลเปลือกแข็ง และอาการแพ้แบบรุนแรง มีแนวโน้มจะเป็นไปตลอดชีวิต
- หอบหืด ภูมิแพ้อาหารและหอบหืดมีแนวโน้มจะเกิดขึ้นร่วมกัน ส่งผลให้อาการรุนแรงมากขึ้น ผู้ที่มีประวัติเคยเป็นโรคหอบหืดจึงควรระมัดระวังเป็นพิเศษ
ตัวอย่างอาหารที่หลายคนแพ้
อาหารต่อไปนี้เป็นอาหารที่มักทำให้เกิดอาการแพ้อาหาร แต่ไม่ใช่ทุกคนจะแพ้อาหารชนิดเดียวกันเสมอไป
- สัตว์ทะเลเปลือกแข็ง เช่น กุ้ง ล็อบสเตอร์ ปู
- ถั่วต่างๆ เช่น วอลนัท พีแคน
- ปลา
- ไข่ไก่
- นมวัว
- ข้าว
- ถั่วเหลือง
แนะนำวิธีสังเกตอาการของภูมิแพ้อาหารเบื้องต้น
อาการของภูมิแพ้อาหารสามารถเกิดขึ้นได้หลายระบบในร่างกายตั้งแต่ผิวหนัง ทางเดินหายใจ ทางเดินอาหาร หรือหัวใจและหลอดเลือด โดยอาจเกิดเพียงแค่ระบบเดียว หรือเกิดขึ้นพร้อมกันหลายระบบก็ได้
อาการของภูมิแพ้อาหารจะเกิดขึ้นภายในไม่กี่นาทีไปจนถึง 2, 4 และ 6 ชั่วโมงหลังรับประทานอาหาร
การวัดระดับความรุนแรงของอาการแพ้ง่ายๆ คือ ยิ่งเกิดขึ้นเร็วเท่าไหร่ หรือเกิดขึ้นพร้อมกันหลายระบบในร่างกาย นั่นแสดงว่า เป็นอาการแพ้อาหารรุนแรงที่ต้องรีบไปพบแพทย์ทันที เพราะอาจทำให้เสียชีวิตได้
อาการภูมิแพ้อาหารที่ควรไปพบแพทย์
หากมีอาการของภูมิแพ้อาหารเกิดขึ้นหลังจากกินอาหารไปไม่นาน ควรไปปรึกษาแพทย์ทันที จะได้ให้แพทย์สังเกตอาการ และวินิจฉัยได้ง่ายขึ้น
โดยเฉพาะหากมีอาการดังต่อไปนี้ ถือเป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องพบแพทย์ทันที
- ทางเดินหายใจหดตัว ทำให้หายใจลำบาก
- ช็อก จากความดันโลหิตที่ลดลง
- ชีพจรเต้นเร็วผิดปกติ
- เวียนศีรษะ หน้ามืด
ตัวอย่างอาการภูมิแพ้อาหาร
- ชา หรือคันที่ปาก ใบหู หรือในลำคอ
- มีผื่นคันเหมือนเป็นลมพิษ หรือมีผิวหนังแดง รู้สึกคัน แต่ไม่มีผื่น
- กลืนอาหารลำบาก
- บวมบริเวณใบหน้า เช่น รอบดวงตาม ริมฝีปาก ลิ้น เพดานปาก หรือในลำคอ
- วิงเวียนศีรษะ รู้สึกไม่สบาย และคลื่นไส้อาเจียน
- มีอาการปวดท้องน้อย หรือท้องเสีย
- มีอาการคล้ายเป็นไข้ละอองฟาง หรือที่นิยมเรียกกันว่า ภูมิแพ้อากาศ เช่น จาม คันรอบดวงตาและเยื่อบุตา
การดูแลตัวเองสำหรับคนเป็นภูมิแพ้อาหาร
เมื่อรู้ว่าตนเองเป็นภูมิแพ้อาหาร วิธีป้องกันที่ดีที่สุดจึงเป็นการหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้เกิดอาการแพ้ขึ้น อาหารบางชนิดอาจหลีกเลี่ยงได้ง่าย แต่บางชนิดต้องระวังมากเป็นพิเศษเพราะเป็นส่วนผสมในเมนูอาหารต่างๆ ได้
- อ่านฉลากสินค้าก่อนทุกครั้ง ไม่ว่าจะเลือกซื้ออาหารหรือเครื่องดื่มก็ตาม ว่ามีส่วนผสมใดที่ทำให้เกิดอาการแพ้หรือไม่
- ทำสัญลักษณ์บอกว่าแพ้อาหาร ในกรณีที่รู้ว่าตนเองมีอาการแพ้อาหารอย่างรุนแรง อาจหาที่สวมสัญลักษณ์ทางการแพทย์บ่งบอกว่าตนเองแพ้อาหาร เช่น สร้อยข้อมือ สร้อยคอ เพราะหากเกิดอาการแพ้รุนแรงขึ้น คนอื่นจะได้ทราบสาเหตุในกรณีที่คุณไม่สามารถสื่อสารได้
- ระวังการสั่งอาหารในร้าน หากเป็นไปได้ควรแจ้งกับผู้ประกอบอาหารหรือพนักงานในร้านอาหารทราบว่าคุณแพ้ส่วนประกอบอะไรบ้าง เพื่อให้ผู้ประกอบอาหารหลีกเลี่ยง และแน่ใจว่าอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบอาหารนั้นไม่ปนเปื้อนสิ่งที่คุณแพ้
- วางแผนการกินล่วงหน้า หากมีการเดินทางไปท่องเที่ยวหรือทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่น อาจเตรียมอาหารที่มั่นใจแพ็กเย็นไปกินด้วยตัวเอง
- ปรึกษาแพทย์ ผู้ที่มีอาการแพ้ทั้งรุนแรงและไม่รุนแรง ควรปรึกษาแพทย์ถึงข้อควรปฏิบัติในกรณีที่เกิดอาการแพ้ขึ้น
อาการของภูมิแพ้อาหารยังมีอีกมากมาย หากคุณมีอาการดังกล่าว หรือมีอาการผิดปกติอื่นๆ หลังรับประทานอาหาร ให้จดบันทึกลักษณะอาการ ระยะเวลาที่เกิด และชนิดของอาหารที่รับประทานเข้าไป แล้วนำไปให้แพทย์ตอนที่เข้ารับการตรวจภูมิแพ้อาหาร
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้ สามารถตรวจยืนยันชนิดของอาหารที่แพ้ ระดับความรุนแรง ไปจนถึงให้คำแนะนำในการรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้ เพื่อความปลอดภัยในการใช้ชีวิตของคุณ