รวมคำถามที่ถูกถามบ่อยเกี่ยวกับโรคทางเพศสัมพันธ์ (STD) ทั้งหญิง และชาย

หลังประกอบกิจกรรมร่วมรัก มีอาการแปลกๆ ที่ไม่เคยเกิดขึ้น กังวลแต่ไม่รู้จะถามใครดี? อยากรู้ แต่ไม่อยากถาม? HDmall ไม่อยากให้ความกังวลเหล่านี้ขัดขวางสุขภาพอนามัยที่ดีของคุณ

ปัญหาดังกล่าว ไม่ต้องอาย ไม่ได้มีคุณเป็นคนเดียว ลองอ่านคำถามจากทางบ้านท่านอื่นๆ ได้เลย หากยังไม่เจออาการที่ตรงกับคุณ เพียงหาถามแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเราได้เลยทาง @hdcoth  (เราจะไม่เปิดเผยชื่อ และข้อมูลส่วนตัวของคุณ)

คำถามที่ถูกถามบ่อยจากผู้หญิง

ทำไมถึงเจ็บและแสบหลังมีเพศสัมพันธ์?

ทั้งที่แฟนก็ทำออรัลเซ็กส์ให้จนมีน้ำออกมามากพอ

คำตอบ: ถ้ามีน้ำหล่อลื่นมากพอและมั่นใจว่าไม่ได้เกิดจากช่องคลอดที่แห้งเกินไป ควรไปพบนรีแพทย์ค่ะ อาจสงสัยภาวะช่องคลอดอักเสบหรือมีการติดเชื้อ หรือมีพยาธิสภาพอื่นๆ – ตอบโดย นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (พญ.)

เวลามีเพศสัมพันธ์เลือดออกเป็นอะไร?

คำตอบ: ต้องพิจารณาสาเหตุที่เกิดครับเช่น น้ำหล่อลื่นไม่พอ ความไม่เหมาะสมของขนาดอวัยวะ หรือมีโรคติดเชื้ออื่นๆ – ตอบโดย ชยากร พงษ์พยัคเลิศ (นพ.)

คำตอบ 2: ถ้ามีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกสามารถเลือดออกได้ค่ะ แต่ถ้าครั้งหลังๆ อาจเกิดจากช่องคลอดแห้งหรือหลั่งสารหล่อลื่นไม่พอค่ะ และอาจเกิดจากมีพยาธิสภาพอื่นๆในช่องคลอดได้ด้วย เช่นติ่งเนื้อ ก้อนเนื้อ หรือเกิดจากช่องคลอดอักเสบจากการติดเชื้อได้ค่ะ ถ้าลองใช้เจลหล่อลื่นแล้วยังมีเลือดออกอยู่ควรไปพบแพทย์ค่ะ – ตอบโดย นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (พญ.)

น้ำหล่อลื่นทั้งสองฝ่ายโดนอวัยวะเพศ มีส่วนติดเชื้อหรือเกิดอาการข้างเคียงหรืออันตรายอะไร? 

คำตอบ: ความสัมพันธ์ทางเพศในระหว่างหญิงกับหญิง ถือว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการติดกามโรค เพราะมีความหลากหลายมาก เช่น รสนิยมและพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงเพียงอย่างเดียวหรือทั้งกับผู้ชายและผู้หญิง คู่นอนคนก่อนของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอาจพฤติกรรมเสี่ยง ได้แก่ ใช้อุปกรณ์ประกอบในกิจกรรมทางเพศร่วมกับผู้อื่น เคยมีคู่นอนเป็นผู้ชาย เป็นต้น โรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ในกลุ่มนี้จะแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ โรคติดเชื้อระหว่างผู้หญิงกันเอง และโรคที่เกิดจากอดีตคู่นอนคนที่เป็นผู้ชาย โรคที่เกิดจากการติดเชื้อระหว่างผู้หญิงกันเอง ได้จากการสัมผัสเป็นหลัก ได้แก่ ไวรัสเอชพีวีที่ทำให้เกิดหูดหงอนไก่ เริม และตกขาวกลิ่นเหม็นในช่องคลอด ส่วนโรคที่ติดจากอดีตคู่นอนที่เป็นผู้ชาย ก็เป็นได้ทุกโรค ตั้งแต่หนองใน หนองในเทียม ซิฟิลิส และอื่นๆ และเนื่องจากปัจจุบัน มีการใช้อุปกรณ์เสริมทางเพศ (Sex toy) ซึ่งสามารถใช้เสมือนเป็นองคชาตจริงๆ หากใช้ร่วมกันหลายคนโดยทำความสะอาดไม่ดี ผลจะเหมือนกับพฤติกรรมสำส่อนทางเพศกับผู้ชายได้ค่ะ – ตอบโดย สุนิสา โพธิ์พันธ์ (พว.)

คำตอบ 2:ถ้าคนใดคนหนึ่งมีเชื้อ สารคัดหลั่งที่ออกมาก็สามารถติดต่อไปสู่อีกคนได้ค่ะ เช่น เชื้อไวรัสเริม – ตอบโดย ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)

แสบๆ คันๆ ช่องคลอด มีตกขาวไหลเป็นสีเขียว เสี่ยงจะเป็นหนองในไหม?

คำตอบ: สงสัยมีการติดเชื้อครับ ต้องไปพบแพทย์ทำการตรวจร่างกายเพื่อหาสาเหตุื้อเพื่อที่จะได้ทำการรักษาต่อไปครับ ไม่แนะนำให้ซื้อยากินเองครับ – ตอบโดย ชยากร พงษ์พยัคเลิศ (นพ.)

เวลาปัสสาวะแสบมาก และมีน้ำขาวๆ เหลืองๆ ออกตลอด และตรงแคมเป็นตุ่มๆ ก่อนแล้วกลายเป็นเหมือนแผล

 ปวดท้องน้อย ใกล้ๆ มดลูกทั้งสองข้างเลย เป็นหนองในไหม?

คำตอบ: ให้ไปพบนรีแพทย์ค่ะ เพราะจากอาการที่เล่ามาสงสัยช่องคลอดอักเสบจากการติดเชื้อ ทั้งนี้ทั้งนั้นอาจต้องตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ด้วยค่ะ และอาจต้องให้คู่นอนมาตรวจด้วย และถ้ามีการติดเชื้อจริงแพทย์จะให้ยาฆ่าเชื้อมากินค่ะ – ตอบโดย นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (พญ.)

ถ้าไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ จะมีโอกาสการติดเชื้อเอชพีวีได้ไหม?

คำตอบ: ถ้าไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ โอกาสติดเชื้อ HPV น้อยมาก แต่ถ้าตรวจแล้วให้ผลบวก ตอบว่า มีความเป็นไปได้สองอย่าง ๑. เป็นผลบวกเทียม หมายความว่าจริง ๆแล้วไม่ได้ติดเชื้อ HPV แต่ผลตรวจ หลอกเอา เพราะความแม่นยำทางแล็บของการตรวจ HPV-DNA นี้มีประมาณ 95% อีก 5% ที่เหลือเป็นผลเก๊ (ผลบวกลวง) ซึ่งก็ถือว่าแม่นพอควรแล้วในทางการแพทย์ ในทางการแพทย์ไม่มีอะไร 100% ๒. คุณติดเชื้อไวรัส HPV มาจริง ๆ แต่ผ่านทางอื่นที่ไม่ใช่การมีเพศสัมพันธ์ ไวรัส HPV มีประมาณ 100 สายพันธุ์ ส่วนใหญ่ติดต่อการทางการสัมผัสผิวหนัง เชื้อ HPV บางชนิดเช่นหูดผิวหนัง ทนแดดทนฝน ชนิดที่คนเป็นหูดเดินเท้าเปล่าบนพื้นดินนั้นตั้งหลายวันผ่านไปแล้วคุณไปเดินเท้าเปล่าบนตินนั้นต่อ คุณก็ติดเชื้อได้แล้ว หรือเป็นการสัมผัสกันทางผิวหนังต่อผิวหนัง หรือใช้ของใช้ เช่นผ้าเช็ดตัวร่วมกัน ก็ทำให้ติดเชื้อนี้ได้ อย่างไรก็ตามในบรรดาเป็นร้อยสายพันธุ์ นี้ มีเพียงไม่กี่สายพันธุ์ ที่เป็นต้นเหตุให้เป็นมะเร็ง เรียกว่าเป็นสายพันธุ์ เสี่ยงสูงหรือ high risk การตรวจคัดกรอง HPV DNA เป็นการตรวจแบบไม่ได้แยกว่าเป็นสายพันธ์เสี่ยงสูงหรือไม่ – ตอบโดย Dr.Chaiwat​ J.(หมอเปี๊ยก) ((นพ.))

คำตอบ 2: มีโอกาสน้อยมากครับ เพราะการติดเชื้อจะติดทางผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ – ตอบโดย ชยากร พงษ์พยัคเลิศ (นพ.)

คำตอบ 3: ส่วนใหญ่การติดเชื้อ HPV มาจากการสัมผัสโดยการมีเพศสัมพันธ์ค่ะ(ทั้งเพศเดียวกัน/ต่างเพศ) บริเวณที่มักติดเชื้อ ได้แก่ ปาก ทวารหนัก ช่องคลอด และในเด็กสามารถติดเชื้อได้ผ่านทางมารดาในขณะที่ตั้งครรภ์ หากไม่เคยมีเพศสัมพันธ์(ทุกรูปแบบ) ก็ไม่น่าจะมีโอกาสติดเชื้อนะคะ อย่างไรก็ตามควรตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกอย่างน้อยปีละ 1 ครั้งด้วยค่ะ – ตอบโดย ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)

มีเพศสัมพันธ์แบบ ญ กับ ญ มีโอกาสติด ไวรัสตับอักเสบบี ไหม?

คำตอบ: ไวรัสตับอักเสบบีสามรถติดต่อได้ในกรณีที่มีเพศสัมพันธ์ได้ก็จริงครับ แต่หากไม่ได้มีแผลหรือรอยถลอกหรือมีการสอดใส่อวัยวะใดๆ เข้าไปแล้วสัมผัสกับสารคัดหลั่งหรือเลือด ก็มีความเสี่ยงที่จะติดน้อยมากครับ ในที่นี้คือ การมีเพศสัมพันธ์ระหว่างชาย-หญิง หรือ ชาย-ชาย ที่จะมีโอกาสแพร่เชื้อติดเชื้อได้มากกว่าครับ – ตอบโดย Rattapon Amampai (Dr.)

คำตอบ 2: ติดได้ค่ะ หากมีการสัมผัสถูกันของอวัยวะเพศแล้วเกิดรอยถลอก เชื้อจากเลือดหรือสารคัดหลั่งก็เข้าทางรอยถลอกนั้นได้ค่ะ – ตอบโดย นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (พญ.)

เป็นมะเร็งปากมดลูก สามารถมีบุตรและมีเพศสัมพันธ์ได้ไหม?

คำตอบ: ขึ้นอยู่กับระยะของมะเร็งและวิธีการบำบัดรักษาของแพทย์นะคะ ถ้าเป็นระยะ0-1 สามารถรักษาให้หายได้ เมื่อรับการรักษาแล้วก็สามารถมีเพสสัมพันธ์และมีบุตรได้ แต่ถ้าเป็นระยะรุนแรงจำเป็นต้องรักษาโดยการผ่าตัดมดลูกทิ้งไป แบบนี้ก็ไม่สามารถมีบุตรได้ ***แนะนำปรึกษาแพทย์ก่อนจะดีกว่านะคะ – ตอบโดย ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)

มะเร็งปากมดลูก หากมีเพศสัมพันธ์แล้ว ฉีดยาทีหลังจะช่วยป้องกันได้ไหม?

คำตอบ: โดยทั่วไปแนะนำให้ฉีดก่อนถึงวัยที่จะมีเพศสัมพันธ์ เพื่อป้องกันการติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด องค์การอาหารและยาของอเมริกาได้แนะนำให้เริ่มฉีดเมื่ออายุประมาณ 11-12 ปี แต่อาจจะฉีดเมื่ออายุ 9 ขวบก็ได้เนื่องจากเด็กจะสามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้อย่างเต็มที่ (มีการศึกษาพบว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อ HPV ในสตรีช่วงอายุ 9-26 ปี) **หากยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ก็สามารถฉีดได้เลย (ในคนที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์จะมีโอกาสติดเชื้อ HPV น้อยมาก จึงไม่จำเป็นต้องตรวจหาเชื้อก็ได้) แต่หากเคยมีเพศสัมพันธ์แล้วควรตรวจแปปสเมียร์เพื่อหาเชื้อ HPV ก่อน เพราะถ้าได้รับเชื้อไวรัส HPV มาแล้ว วัคซีนนี้จะไม่สามารถช่วยป้องกันหรือรักษาได้ จึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องฉีด – ตอบโดย ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)

คำถามที่ถูกถามบ่อยจากคุณผู้ชาย  

เป็นโรคซิฟิลิสฉีดยาห่างกันเป็นเดือนๆ มีโอกาสหายขาดไหม

คำตอบ: มันต้องไปตรวจอย่างสม่ำเสมอนะคะ ถ้าไม่สะดวกไปตรวจที่รพ. ก็ไปคลินิคเอกชนด้านนอกได้ค่ะ เดี๋ยวนี้มีบริการหลายที่ อย่างที่ V-med Clinic เราแนะนำเลยค่ะ ป้าเราไปตรวจเลือดมา ที่นี่ให้บริการดี โทรไปสอบถามก่อนได้ค่ะ 052-001119 หรือเข้าไปอ่านรายละเอียดการบริการในเว็บ www.vmedclinic.com ได้ค่ะ

โรคซิฟิลิส มียารักษา ที่ทำให้หายขาดไหม?

คำตอบ: โรคซิฟิลิส เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย จึงสามารถใช้ยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อรักษาให้หายขาดได้ ไม่ว่าจะอยู่ในระยะใดของโรค แต่ถ้าปล่อย​ทิ้ง​ไว้​ในระยะยาว เช่นที่ลามเข้าสู่ประสาทหรือสมองหรืออวัยวะ​อื่น อาจทิ้งร่องรอยโรค ความพิการ (sequelae) เอาไว้ได้ หรือแม้แต่ถึงแก่ชีวิต ต้องระวังการแพร่เชื้อ เพราะอาจถ่ายทอดไปสู่คู่ร่วมเพศได้ จึงต้องรักษาคู่ร่วมเพศไม่ว่ามีกี่คนด้วย – ตอบโดย Dr.Chaiwat​ J.(หมอเปี๊ยก) (นพ.)

คำตอบ 2:โรคซิฟิลิสรักษาได้ครับ แต่การรักษาขึ้นอยู่กับระยะของโรคด้วยแนะนำให้รีบไปพบแพทย์เพื่อที่จะได้วินิจฉัยและตรวจรักษา อ้อ..ต้องรักษาคู่นอนด้วยนะครับ – ตอบโดย ชยากร พงษ์พยัคเลิศ (นพ.)

โรคซิฟิลิสขณะตั้งครรภ์ สามารถทำให้บุตรเป็นโรคซิฟิลิสแต่กำเนิดหรือไม่?

คำตอบ: ซิฟิลิสโดยกำเนิดมักจะเกิดกับการติดเชื้อหลังอายุครรภ์ 18 สัปดาห์ ซึ่งเป็นช่วงที่ระบบสร้างภูมิคุ้มกันของทารกทำงานแล้วเนื่องจากพยาธิสภาพของโรคเกิดจากปฏิกิริยาตอบสนองทางภูมิคุ้มกัน การรักษาซิฟิลิสจึงต้องรักษาทุกอายุครรภ์ ผลเสียของการติดเชื้อในมารดาที่ไม่ได้รับการรักษาคือ เพิ่มอัตราการแท้งหลัง 4 เดือน ทารกตายคลอด คลอดก่อนกำหนดและทารกในครรภ์โตช้า ทารกบวมน้ำ ทารกเป็นซิฟิลิสโดยกำเนิด ทารกบวมน้ำ เกิดจากระบบการทำงานของตับผิดปกติ ส่งผลให้มีภาวะซีดและเกล็ดเลือดต่ำในทารก มีน้ำในท้อง และเกิดการบวมน้ำได้ ดังนั้นการติดเชื้อจะส่งไปที่ทารกได้ คุณแม่ต้องทำการรักษาและติดตามผลหลังการรักษากับแพทย์อย่างใกล้ชิดครับ – ตอบโดย ชยากร พงษ์พยัคเลิศ (นพ.)

เป็นหนองในเทียมควรปฏิบัติตัวอย่างไร มีวิธีรักษาเบื้องต้นอย่างไรบ้าง?

คำตอบ: หนองในเทียมรักษาโดยการกินยาครับ แต่ไม่ควรซื้อยากินเอง ควรปรึกษาแพทย์ก่อนอาการแยกยากกับหนองในแท้ การตรวจยืนยันคือนำหนองที่อวัยวะเพศไปย้อมสีครับ – ตอบโดย กิตติศัพท์ สินน้อย (นพ.)

เอดส์ ใส่ถุงมีสิทธิ์ติดเชื้อได้มั้ย

คำตอบ: ถ้าถุงแตกหรือรั่วก็มีค่ะ และก็ต้องระวังการใช้ปาก เพราะเชื้อจะอยู่ในสารคัดหลั่ง ถ้าช่องปากมีแผล ก็มีโอกาสติดเชื้อ ถึงจะน้อยมากก็ตามค่ะ – ตอบโดย นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (พญ.)

มีเพศสัมพันธ์โดยใช้ถุงยางมีสารฆ่าอสุจิ แล้วถุงยางเกิดแตกแต่หลั่งนอก มีโอกาสท้องไหม?

คำตอบ: ในกรณีที่ถุงยางอนามัยแตก ถึงแม้จะหลั่งข้างนอกแต่ก็อาจจะมีสารคัดหลั่งเล็ดลอดออกไปได้ค่ะ ซึ่งจากคัดหลั่งของเพศชายแม้เพียงปริมาณน้อย ก็ทีอสุจิหลายล้านตัว ดังนั้นหากมีอสุจิเล็ดลอดออกไปปฏิสนธิกับไข่ของผู้หญิง ฝ่ายหญิงก็มีโอกาสตั้งครรภ์ แต่โอกาสก็น้อยกว่าคนที่ไม่ได้ใส่ถุงยางค่ะ – ตอบโดย วิภา สุวรรณชีวะศิริ (พญ.)

ถามกลับ: แต่ใช้ถุงยางที่มีสารฆ่าอสุจิก็ไม่ได้ช่วยใช่ไหมครับ

คำตอบ: ช่วยได้ค่ะ ในแง่ที่ฆ่าอสุจิ แต่ในความเป็นจริงสารเคมีที่ผสมเข้าไป อาจจะไม่ได้ฆ่าอสุจิตายทั้งหมดทุกตัวในหลายสิบล้านตัว (สารคิดหลั่งในเพศชายที่ปกติจะมีอสุจิมากกว่าหรือเท่า15ล้านตัวต่อมิลลิลิตร) มันก็อาจจะมีบางตัวที่เล็ดลอดและมีชีวิต จึงป้องกันไม่ได้ 100% ซึ่งอาจจะเหลือโอกาสการตั้งครรภ์ที่ต่ำ แต่ก็ยังมีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้ค่ะ – ตอบโดย วิภา สุวรรณชีวะศิริ (พญ.)

ขณะตอนสอดใส่ถุงยางแตก เลยรีบเอาออกมาโดยที่ไม่มีน้ำหรือการหลั่ง มีโอกาสติดโรคเอดส์ได้ไหม? 

คำตอบ: เอดส์สามารถตรวจพบได้หลังจากรับเชื้อมาแล้ว 2-6สัปดาห์ หรือหากกังวลใจมากสามารถตรวจได้ด้วยวิธี Nucleic Acid Technology ซึ่งเป็นวิธีที่สามารถตรวจพบเชื้อได้ภายหลังจากการรับเชื้อ 3-7วัน – ตอบโดย ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)

ปลายอวัยวะเพศชายเป็นแผลสีแดง แสบและเลือดไหลเวลาแข็งตัวเมื่อเปิดหนังหุ้มออก อยากทราบว่าเกิดจากอะไรและรักษาอย่างไร?

คำตอบ: การที่มีแผลบริเวณปลายอวัยวะเพศ น่าจะมีเส้นเลือดที่อวัยวะเพศชายฉีกขาด เกิดจากเพศสัมพันธ์ที่ทำให้อวัยวะเพศชายโค้งงอหรือทำมุมมาก ลักษณะพิเศษคือมีเลือดหยดออกมาเป็นหยดๆ หลังมีเพศสัมพันธ์โดยไม่เจ็บ หรือ อาจเกิดจากอวัยวะเพศชายได้รับบาดเจ็บ ในกรณีที่มีเพศสัมพันธ์ที่มีความรุนแรง มีความฝืดมาก อาจมีเลือดออกจากการถลอกของอวัยวะเพศชาย, เส้นสองสลึงขาด มักจะมีความรู้สึกเจ็บ หรืออีกกรณี คือ หนังหุ้มปลายและปลายอวัยวะเพศอักเสบ เมื่อมีเพศสัมพันธ์อาจทำให้รู้สึกเจ็บมีเลือดออกได้ สรุป สาเหตุที่เลือดออกหลังมีเซ็กส์ที่ถามมา น่าจะเกิดจากการฉีกขาดของเส้นเลือดมากที่สุด หากเกิดรุนแรงคือมีเลือดออกมาก ออกไม่หยุด หรือมีเลือดออกน้อยหยุดได้เองแต่เกิดซ้ำสอง หรือมีไข้ ปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะไม่สะดวก ปัสสาวะไม่ออก ปัสสาวะเป็นเลือดร่วมด้วย ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและให้การรักษาครับ และ งด การมีเซ็กซ์จนกว่าแผลจะหายครับ – ตอบโดย DR.somsong Nillprayoon (นพ.)

---

เปรียบเทียบราคาแพ็กเกจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์