ผักชี (Coriander) ผักชีไทยเป็นผักก้นครัวที่เรารู้จักกันดีแม้จะมีกลิ่นแรงเป็นเอกลักษณ์ แต่ผักชีก็เปี่ยมด้วยสรรพคุณหลายอย่างตั้งแต่รากจรดใบ เมื่อรู้อย่างนี้แล้วเราไม่ควรมองข้ามการรับประทานผักชีอีกต่อไป ว่าแล้วก็ตามไปทำความรู้จักผักชีให้มากขึ้นกันเลยดีกว่า
สารบัญ
คุณค่าทางโภชนาการ
ผักชี 100 กรัม ให้พลังงานเพียง 23 แคลอรี่ และอุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญ ได้แก่
- คาร์โบไฮเดรต 3.67 กรัม
- น้ำตาล 0.87 กรัม
- ใยอาหาร 2.8 กรัม
- ไขมัน 0.52 กรัม
- โปรตีน 2.13 กรัม
นอกจากนี้ ผักชียังมี วิตามินและแร่ธาตุ ที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น
- วิตามินเอ, เบต้าแคโรทีน, ลูทีน, ซีแซนทีน (ช่วยบำรุงสายตา)
- วิตามินบี1, บี2, บี3, บี5, บี9 (ช่วยการทำงานของระบบประสาทและเผาผลาญพลังงาน)
- วิตามินซี (เสริมภูมิคุ้มกัน)
- วิตามินอี (ช่วยต้านอนุมูลอิสระ)
- แคลเซียม (เสริมสร้างกระดูกและฟัน)
ประโยชน์ของผักชี
1. ต่อต้านอนุมูลอิสระ
ใบผักชีมีกลุ่มสารต้านอนุมูลอิสระสูง ได้แก่ สารกลุ่มฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) สารกลุ่มแลคโตน (Lactones) สารกลุ่มฟีโนลิก (Phenolic acids) สารกลุ่มแทนนิน (Tannins) และน้ำมันหอมระเหย จากผลการศึกษาวิจัยพบว่า ใบและลำต้นของผักชีมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระสูง มีสรรพคุณต่อต้านอาการชัก ป้องกันเซลล์สมองจากการถูกทำลาย ต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และช่วยย่อยอาหาร
2. ส่งเสริมระบบการทำงานของกระเพาะอาหารและลำไส้
ผักชีจัดว่า เป็นเครื่องเทศชนิดหนึ่งที่ช่วยเพิ่มกลิ่นหอมให้อาหาร ตำรายาแผนไทยนิยมใช้ส่วนผล ซึ่งมีสรรพคุณในการกระตุ้นกระเพาะอาหารและลำไส้ ให้ขับน้ำดี และขับน้ำย่อยออกมามากขึ้น ช่วยย่อยอาหาร และช่วยให้เจริญอาหารมากขึ้น นอกจากนั้น น้ำมันหอมระเหยของลูกผักชียังมีสารยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
3. ลดน้ำตาลในเลือด
ส่วนของเมล็ดและน้ำมันหอมระเหยของผักชี มีส่วนช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด โดยเพิ่มการหลั่งสารอินซูลิน อย่างไรก็ตาม ในผู้ป่วยที่มีระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ หรือรับประทานยาลดระดับน้ำตาลในเลือดอยู่แล้ว ควรรับประทานอย่างระมัดระวัง
4. ลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง
ผักชีเป็นเครื่องเทศที่มีรสชาติเผ็ดร้อน มีคุณสมบัติช่วยยับยั้งสารก่อมะเร็งกลุ่มเฮเทอโรไซคลิกเอมีน (Heterocyclic amine: HCA) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งที่เกิดจากการรับประทานอาหารปิ้งย่าง จากงานศึกษาวิจัยหลายๆ ชิ้นก็ยืนยันตรงกันว่า ผักชีสามารถทำให้การก่อตัวของสารกลุ่ม HCA ให้ลดลงได้อย่างมีนัยสำคัญ
5. บำรุงสายตา ต่อต้านการอักเสบ
ในผักชี 100 กรัม จะมีเบต้าแคโรทีนสูงถึง 3,930 ไมโครกรัม และเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ จากการศึกษาพบว่า สารต้านอนุมูลอิสระปริมาณสูงในผักชีมีสรรพคุณที่ช่วยต่อต้านการอักเสบของเซลล์ในร่างกาย สารเบต้าแคโรทีนยังมีส่วนบำรุงสายตาและทำให้การทำงานของสายตาเป็นปกติ
ไอเดียการใช้ผักชีเพื่อสุขภาพ
มีการนำผักชีมาใช้เป็นตำรับยาแผนโบราณมานานแล้ว เนื่องจากสามารถใช้เป็นยาได้ทั้งต้นตั้งแต่ใบ เมล็ด และราก การนำผักชีมาใช้เพื่อสุขภาพตามตำรายาไทยมีดังนี้
- ใบผักชี เป็นยาบำรุงธาตุในร่างกาย ช่วยบรรเทาอาหารคลื่นไส้อาเจียน แก้หวัด ลดอาการวิงเวียนศีรษะ รักษาอาหารเป็นพิษ แก้กระหายน้ำ และช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้
- เมล็ดผักชี สามารถใช้รักษาแผล บรรเทาอาการปวดฟัน รักษาโรคบิด แก้ริดสีดวงทวารหนัก บรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อ ช่วยให้เจริญอาหารมากขึ้น กระตุ้นต่อมในกระเพาะอาหารและลำไส้ เพิ่มน้ำดีให้มากขึ้น แก้อาการถ่ายเป็นเลือด และถ่ายเป็นมูก
- ต้นสด ทำให้เจริญอาหาร ช่วยขับเหงื่อ ขับลม ทำให้เจริญอาหาร ละลายเสมหะ และใช้รักษาโรคริดสีดวงทวารได้
- รากผักชี ใช้เป็นน้ำกระสายยา ช่วยขับพิษไข้หัว รักษาโรคหิด รักษาโรคอีสุกอีใส และไข้อีดำอีแดง
ข้อควรระวังการบริโภคผักชี
- สำหรับผู้ที่มีประวัติแพ้พืชวงศ์ผักชี เช่น คื่นช่าย ยี่หร่า เทียนข้าวเปลือก กระเทียม และหอมใหญ่ ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานผักชีจะดีที่สุด เนื่องจากผักชีจะก่อให้เกิดอาการแพ้
ได้ เช่น ผื่นแพ้สัมผัส (Contact dermatitis) ผดผื่นคัน ทำให้ผิวไวต่อแสงแดด เพิ่มความเสี่ยงโรคมะเร็งผิวหนัง ทำให้เยื่อบุจมูกและตาอักเสบ อาจทำให้เกิดหลอดลมเกร็งตัว - ผู้ที่เป็นโรคไตไม่ควรรับประทานผักชีในปริมาณที่มากเกินไปเพราะผักชีจะมีโพแทสเซียมสูง อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้ ดังนั้นข้อมูลที่มีการแชร์กันว่า หากดื่มน้ำผักชีต้ม หรือปั่นเป็นประจำทุกวันจะสามารถช่วยล้างไตให้สะอาดได้นั้นจึงไม่เป็นความจริงเลย ผู้ป่วยโรคไตควรเลี่ยงเด็ดขาด
- สำหรับคนทั่วไป การรับประทานผักชีในปริมาณมากอาจทำให้มีกลิ่นตัวแรงขึ้น ทำให้เกิดอาการตาลายและหลงลืมง่าย ดังนั้นควรรับประทานแต่พอดีในขนาดที่ใช้ประกอบอาหาร
ผักชีเป็นผักพื้นบ้านที่ใช้เพิ่มกลิ่นหอมชวนรับประทานและเพิ่มรสชาติในอาหารด้วย มีสารอาหารที่ดีต่อร่างกายหลายด้าน แถมยังอัดแน่นไปด้วยสรรพคุณที่เป็นยา เพราะเต็มไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุสำคัญโดยมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ใช้เป็นยาได้ทั้งต้น ช่วยบำรุงร่างกายได้เป็นอย่างดี แต่ควรรับประทานผักชีในปริมาณพอเหมาะและหลีกเลี่ยงหากมีอาการแพ้