การติดเชื้ออะซินีโตแบ็กเตอบอมมานนิไอ (Acinetobacter Baumannii infection)

Acinetobacter Baumannii เป็นเชื้อที่มักจะทำให้เกิดการติดเชื้อในผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล เชื้อแบคทีเรียชนิดนี้สามารถทำให้เกิดโรคได้หลากหลาย โดยเชื้อ Acinetobacter Baumannii เป็นสายพันธุ์ที่พบบ่อยที่สุด โดยพบมากถึง 80% ของการติดเชื้อ Acinetobacter ทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา อ้างอิงจากศูนย์ป้องกันและควบคุมโรค (Centers for Disease Control and Prevention – CDC) นอกจากนี้เชื้อ Acinetobacter สายพันธุ์ที่ดื้อยายังสามารถทำให้เกิดโรครุนแรงอย่างปอดอักเสบและโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบได้

ความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ Acinetobacter

เชื้อกลุ่มนี้ติดต่อโดยการสัมผัสเชื้อผ่านพื้นผิว สิ่งของ หรือผิวหนังของผู้ป่วยที่ปนเปื้อนเชื้อ Acinetobacter Baumannii อย่างไรก็ตามคนที่มีสุขภาพแข็งแรงจะมีความเสี่ยงในการติดเชื้อชนิดนี้ต่ำมาก แต่ปัจจัยดังต่อไปนี้จะเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อสายพันธุ์นี้มากขึ้น

  • มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
  • เป็นโรคปอดเรื้อรัง
  • เป็นเบาหวาน
  • ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นเวลานาน
  • มีความเจ็บป่วยที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
  • มีแผลเปิดที่ต้องรักษาในโรงพยาบาล
  • ต้องได้รับการรักษาที่ต้องใช้เครื่องมือทางการแพทย์ เช่น สายสวนปัสสาวะ

อาการของการติดเชื้อ Acinetobacter

เชื้อนี้เป็นเชื้อฉวยโอกาสที่สามารถทำให้เกิดโรคได้หลายโรคและหลายอาการ โดยโรคที่สามารถเกิดขึ้นจากการติดเชื้อชนิดนี้ประกอบด้วย

อาการของการติดเชื้อชนิดนี้มักจะไม่สามารถแยกจากการติดเชื้อฉวยโอกาสสายพันธุ์อื่นได้ เช่น Klebsiella pneumoniae และ Streptococcus pneumoniae โดยหากเป็นการติดเชื้อในกระแสเลือดมักเริ่มต้นจากการมีอาการ เช่น ไข้และหนาวสั่น มีผื่น และสับสน หรือมีความเปลี่ยนแปลงทางการรู้สึกตัว และมักเกี่ยวข้องกับการมีระดับของกรดแลคติกในกระแสเลือดสูงอีกด้วย

การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะมักทำให้เกิดอาการทางระบบปัสสาวะ เช่น ปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะมีกลิ่นเหม็น ปัสสาวะขุ่นขึ้นหรือมีเลือดปน และปัสสาวะบ่อย ส่วนโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบนั้นสามารถทำให้เกิดอาการลักษณะคล้ายไข้หวัดได้ เช่น มีไข้ ปวดหัว มึนงง แพ้แสงจ้าๆ และคลื่นไส้ อาจจะมีหรือไม่มีอาเจียนก็ได้

ส่วนอาการในลักษณะโรคปอดอักเสบอาจสังเกตได้ดังต่อไปนี้

  • หนาวสั่น
  • มีไข้
  • ปวดหัว
  • มีปัญหาเกี่ยวกับการหายใจ
  • ปวดกล้ามเนื้อและเจ็บหน้าอก
  • ไอ บางครั้งมีเสมหะเป็นสีเหลือง เขียว หรือเป็นมูกเลือด

ในบางกรณีเชื้อ Acinetobacter Baumannii อาจเข้าไปอาศัยอยู่ที่ตำแหน่งต่างๆ ของร่างกาย เช่น แผลเปิด หรือที่ท่อเจาะคอ โดยที่ไม่ทำให้เกิดการติดเชื้อหรือเกิดโรค

การรักษาการติดเชื้อ Acinetobacter Baumannii

CDC ได้กล่าวว่าเชื้อกลุ่ม Acinetobacter ซึ่งรวมถึงเชื้อ Acinetobacter Baumannii เป็นปัญหาทางสาธารณสุขที่รุนแรง เนื่องจากเชื้อกลุ่มนี้มักมีการดื้อต่อยาหลายตัว โดยพบว่าเชื้อกลุ่ม Acinetobacter ถึง 63% เป็นสายพันธุ์ที่ดื้อต่อยาหลายชนิด

มีรายงานในวารสาร Clinical Microbiology Reviews ได้กล่าวว่า ในช่วงก่อนยุคปี 1970 เชื้อกลุ่มนี้สามารถรักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะหลายชนิด เช่น กลุ่ม Aminoglycosides Beta-lactams และ Tetracyclines แต่ในปัจจุบัน เชื้อ Acinetobacter Baumannii บางสายพันธุ์เกิดการดื้อต่อยาปฏิชีวนะที่ใช้ในลำดับแรกๆ และกลุ่ม Carbapenems ที่มักใช้เป็นลำดับสุดท้าย การรักษาการติดเชื้อ Acinetobacter Baumannii จึงมักต้องใช้การทดสอบการดื้อยาของเชื้อ ที่ดูว่ายาตัวไหนยังสามารถรักษาการติดเชื้อดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในผู้ป่วยบางราย ยาในกลุ่ม Sulbactam และ Polymyxin ยังคงสามารถใช้รักษาการติดเชื้อ Acinetobacter Baumannii ที่มีการดื้อต่อยาตัวอื่นๆ ได้

Scroll to Top