Acetazolamide (อะเซตาโซลาไมด์)

Acetazolamide เป็นยาในกลุ่มยาขับปัสสาวะ ยาต้านอาการชัก และยารักษาต้อหิน กลไกการออกฤทธิ์ของยา Acetazolamine คือ ออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์คาร์โบนิก แอนไฮเดรส (Carbonic Anhydrase) แบบผันกลับได้ เป็นผลให้เกิดการลดการหลั่งของไฮโดรเจนไอออนที่บริเวณท่อไต เพิ่มการขับออกของโซเดียม โพแทสเซียม ไบคาร์บอเนต และน้ำ ยามีฤทธิ์ลดการสร้างของน้ำในดวงตา ลดระดับความดันในลูกตา จึงมีการใช้ยา Acetazolamine ในการรักษาโรคต้อหิน การยับยั้งเอนไซม์ Carbonic Anhydrase ของยาในระบบประสาทส่วนกลาง ส่งผลต่อการหลั่งของสารสื่อประสาทที่ตัวเซลล์ประสาทมากเกินไปได้

สรรพคุณของยา Acetazolamide

ยาของ Acetazolamide ใช้รักษาโรคและบรรเทาอาการได้หลายรูปแบบ ดังนี้

  • โรคต้อหิน ลดความดันลูกตาโดยลดการผลิตน้ำหล่อเลี้ยงลูกตา
  • ภาวะน้ำคั่งในสมอง ลดความดันในกะโหลกศีรษะ
  • โรคความผิดปกติของการหายใจขณะหลับ ช่วยกระตุ้นการหายใจ ลดปัญหาการหยุดหายใจขณะหลับ
  • ภาวะเลือดเป็นกรดจากโรคไต ช่วยปรับสมดุลกรด-ด่าง
  • โรคภูเขา ป้องกันอาการปวดหัว หายใจลำบาก จากการปรับตัวที่ระดับความสูง เช่น เดินทางขึ้นภูเขา
  • ภาวะบวมจากหัวใจล้มเหลว หรือโรคไต มีฤทธิ์ขับปัสสาวะช่วยลดอาการบวม

ขนาดและวิธีการใช้ยา Acetazolamide

โรคต้อหินมุมเปิด หรือให้ยาก่อนการผ่าตัดในผู้ป่วยต้อหินมุมปิด

  • การใช้ยาในรูปแบบยาฉีดเข้าหลอดเลือดดำ ขนาดการใช้ยาในผู้ใหญ่ ขนาด 250-1000 มิลลิกรัมต่อวัน ถ้าให้ขนาดยามากกว่า 250 มิลลิกรัม ควรพิจารณาแบ่งขนาดการใช้ยา
  • การใช้ยาในรูปแบบยาเม็ดรับประทาน ขนาดการใช้ยาในผู้ใหญ่ ขนาด 250-1000 มิลลิกรัม ต่อวัน ถ้าให้ขนาดยามากกว่า 250 มิลลิกรัม ควรพิจารณาแบ่งขนาดการใช้ยา
  • การใช้ยาในรูปแบบยาแคปซูลชนิดออกฤทธิ์นาน (extended release) ขนาดการใช้ยาในผู้ใหญ่ ขนาด 500 มิลลิกรัม วันละสองครั้ง

ใช้เพื่อขับปัสสาวะ

  • การใช้ยาในรูปแบบยาฉีดเข้าหลอดเลือดดำ ขนาดการใช้ยาในผู้ใหญ่ ขนาด  250-375 มิลลิกรัม วันละครั้ง หรือวันเว้นวัน ควรมีการเว้นช่วงหยุดการใช้ยาระหว่างการรักษา เพื่อให้ยายังคงประสิทธิภาพในการขับปัสสาวะในกรณีต้องมีการใช้ยาอย่างต่อเนื่อง
  • การใช้ยาในรูปแบบยารับประทาน ขนาดเดียวกันกับยาในรูปแบบยาฉีด โดยขนาดการใช้ยาในผู้ใหญ่ ขนาด 250-375 มิลลิกรัม วันละครั้ง หรือวันเว้นวัน ควรมีการเว้นช่วงหยุดการใช้ยาระหว่างการรักษา เพื่อให้ยายังคงประสิทธิภาพในการขับปัสสาวะในกรณีต้องมีการใช้ยาอย่างต่อเนื่อง

โรคลมชัก การใช้ยาในรูปแบบยาฉีดเข้าหลอดเลือดดำ

  • ขนาดการใช้ยาในผู้ใหญ่ ขนาด 250-1000 มิลลิกรัมต่อวัน โดยแบ่งให้ยา สามารถใช้เป็นยาเดี่ยวหรือใช้ร่วมกับยาต้านอาการชักกลุ่มอื่นได้
  • ขนาดการใช้ยาในเด็ก ขนาด 8-30 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัวป็นกิโลกรัมต่อวัน โดยแบ่งให้ยา ขนาดการใช้ยาสูงสุดคือ 750 มิลลิกรัมต่อวัน

โรคลมชัก การใช้ยาในรูปแบบยารับประทาน

  • ขนาดเดียวกันกับยาในรูปแบบยาฉีด โดยขนาดการใช้ยาในผู้ใหญ่ ขนาด 250-1000 มิลลิกรัมต่อวัน โดยแบ่งให้ยา สามารถใช้เป็นยาเดี่ยวหรือใช้ร่วมกับยาต้านอาการชักกลุ่มอื่นได้
  • ขนาดเดียวกันกับยาในรูปแบบยาฉีด โดยขนาดการใช้ยาในเด็ก ขนาด 8-30 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัวป็นกิโลกรัมต่อวัน โดยแบ่งให้ยา ขนาดการใช้ยาสูงสุดคือ 750 มิลลิกรัมต่อวัน

ป้องกันการเกิดความผิดปกติในผู้ที่ต้องเดินทางขึ้นที่สูง

  • การใช้ยาในรูปแบบยารับประทาน ขนาดการใช้ยาในผู้ใหญ่ ขนาด 500-1000 มิลลิกรัมต่อวัน โดยแบ่งให้ยา แนะนำให้รับประทานยาครั้งแรก 24-48 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง และใช้ยาต่อไปอีกอย่างน้อย 48 ชั่วโมงในระหว่างการเดินทางขึ้นที่สูง

ข้อควรระวังในการใช้ Acetazolamide

  • ห้ามใช้ยานี้ในผู้ป่วยที่มีการแพ้ยา Acetazolamide และยาในกลุ่มซัลโฟนาไมด์ (Sulfonamide)
  • ห้ามใช้ยานี้ในผู้ป่วยภาวะพร่องโซเดียม และโพแทสเซีบม
  • ห้ามใช้ยานี้ในผู้ป่วยต่อมหมวกไตวาย
  • ห้ามใช้ยานี้ในผู้ป่วยภาวะเลือดเป็นกรดจากระดับคลอไรด์ในกระแสเลือด
  • ห้ามใช้ยานี้ในผู้ป่วยโรคตับแข็ง
  • ห้ามใช้ยานี้ในผู้ป่วยต้อหินมุมปิดเรื้อรัง
  • ห้ามใช้ยานี้ในผู้ป่วยโรคตับ โรคไต ระดับรุนแรง
  • ไม่แนะนำให้ใช้ยานี้ในเด็ก
  • ควรระวังการใช้ยานี้ในผู้ป่วยโรคเบาหวาน
  • ควระวังการใช้ยานี้ในผู้ป่วยภาวะเลือดเป็นกรดจากระบบหายใจ (respiratory acidosis)
  • ควรระวังการใช้ยาในผู้ป่วยสูงอายุ สตรีมีครรภ์ และสตรีให้นมบุตร

ผลข้างเคียงของการใช้ Acetazolamide

  • อ่อนเพลีย ปวดกล้ามเนื้อ ส่งผลต่ออารมณ์ ปวดศีรษะ น้ำหนักลด รบกวนระบบทางเดินอาหาร ง่วงซึม ความรู้สึกสัมผัสผิดปกติ (parasthesia) ปัสสาวะบ่อย เลือดเป็นกรด รบกวนระดับอิเล็กโทรไลต์ในกระแสเลือด ทำให้ระดับโซเดียมและโพแทสเซียมในกระแสเลือดลดลง เกิดนิ่วในไต มีไข้ กระหายน้ำ สับสน มึนงง ส่งผลต่อการได้ยิน และการรับรส
  • ผลข้างเคียงที่พบได้น้อย ได้แก่ ไวต่อแสง ดีซ่าน อาการชัก
  • ผลข้างเคียงที่รุนแรงถึงชีวิต ได้แก่ ความผิดปกติต่อระบบเลือด เกร็ดเลือด การแพ้ยารุนแรง ชนิด SJS ซึ่งพบได้น้อย

ข้อควรทราบอื่นๆของยา Acetazolamide

  • ยาถูกจัดอยู่ในกลุ่ม category C ตามดัชนีความปลอดภัยการใช้ยาในหญิงตั้งครรภ์ (Pregnancy Safety Index) ควรใช้ยานี้เฉพาะเมื่อแพทย์มีความเห็นว่า ผู้ป่วยจะได้รับประโยชน์จากยามากกว่าความเสี่ยงรุนแรงที่จะเกิดขึ้นต่อทารกในครรภ์
  • ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยานี้ร่วมกับยาแอสไพริน (Aspirin) ขนาดสูง เนื่องจากอาจทำให้เกิดภาวะอะนอเร็กเซีย (anorexia) หายใจเร็ว เลือดเป็นกรด โคม่า และเสียชีวิตได้
  • ผู้ป่วยโรคต้อหินมุมปิด ไม่แนะนำให้ใช้ยานี้ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน การใช้ยาในผู้ป่วยกลุ่มนี้ควรอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของแพทย์
  • ยาสามารถรับประทานก่อนหรือหลังอาหารก็ได้
  • ยานี้แนะนำให้เก็บรักษาที่อุณหภูมิไม่เกิน 30 องศาเซลเซียส เก็บให้พ้นจากแสงแดด และความชื้น

Scroll to Top