เห็ดจากธรรมชาติที่กินได้มีมากมาย แต่บางชนิดก็เป็นอันตรายและยังผิดกฎหมาย บทความนี้จะมาเล่าถึงความน่ากลัวของเห็ดเมาหรือเห็ดวิเศษ (Magic mushrooms) หรือในไทยเรียกกันว่า “เห็ดขี้ควาย” ซึ่งถูกจัดให้เป็นยาเสพติด เพราะมีสารจากธรรมชาติที่ทำให้ประสาทหลอน
สารบัญ
เห็ดขี้ควายคืออะไร
เห็ดขี้ควาย มีหลายชื่อ เช่น เห็ดเมา เห็ดพิษ เห็ดขี้วัว เห็ดมหัศจรรย์ เห็ดไข่เจียว เห็ดพิเศษ เป็นเห็ดพิษที่มีสารซิโลไซบิน (Psilocybin) และซิโลซีน (Psilocin) ส่งผลให้ประสาทหลอน มึนเมา และอาจถึงขั้นวิกลจริตได้
ลักษณะทั่วไปของเห็ดขี้ควาย คือ มีสีเหลืองซีด คล้ายสีฟางแห้ง บนหัวของร่มเป็นสีน้ำตาลเข้มจนถึงดำ บริเวณก้านใกล้ตัวร่มมีแผ่นเนื้อเยื่อบาง ๆ สีขาวแผ่ขยายออกรอบก้าน สามารถพบเห็ดขี้ควายได้ทั่วภูมิภาคของประเทศไทย โดยเฉพาะตามกองมูลควายแห้ง
ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 เห็ดขี้ควายจัดอยู่ในกลุ่มยาเสพติดประเภทที่ 5 ถ้าใครมีอยู่ในครอบครอง ทั้งปลูกเพื่อผลิต มีหัวเชื้อ หรือซื้อขาย ถือว่าทำผิดกฎหมาย และมีโทษถึงขั้นจำคุกได้
อาการเมายาจากเห็ดขี้ควาย เมาเห็ดเมา เป็นยังไง
อาการเมายามีหลายแบบ ทั้งทำให้รู้สึกสนุกสนาน เพลิดเพลิน แต่บางครั้งยาก็ส่งผลให้ควบคุมความคิดตัวเองไม่ได้ จนเกิดอาการหวาดระแวง ตื่นตระหนก กลัวถูกทำร้ายร่างกาย โดนฆ่า หรือเกิดภาพหลอน
คาดคะเนยากว่าใครจะมีอาการยังไง แต่ที่แน่ ๆ คือผู้เสพจะควบคุมอาการไม่ได้เลย ยิ่งกับเห็ดขี้ควาย จนกว่าฤทธิ์จะหมดลงไปเอง ซึ่งอาจกินเวลาหลายชั่วโมง
หลังเห็ดขี้ควายหมดฤทธิ์แล้ว จะเกิดอะไรขึ้น
อาการขั้นต้นที่อาจเกิดขึ้นหลังจากเห็ดเมาหมดฤทธิ์ คือ คลื่นไส้ และง่วงหาวอย่างหนัก ถ้าเสพในปริมาณน้อย อาการข้างเคียงก็จะไม่มาก จะรู้สึกง่วงซึม และผ่อนคลาย
กลับกัน ถ้าเสพในปริมาณมาก อาจทำให้เกิดภาพหลอน กระวนกระวาย รู้สึกวิตก และหวาดระแวง บางคนอาจเกิดภาวะสับสนหรือความจำเสื่อมชั่วขณะร่วมด้วย
ระยะเวลาและความรุนแรงจากการเมาเห็ดขี้ควายจะขึ้นอยู่กับปริมาณการใช้และฤทธิ์ของเห็ดแต่ละต้น ส่วนระยะเวลาหมดฤทธิ์จะขึ้นอยู่กับอารมณ์ พฤติกรรม และความคาดหวังของผู้เสพเองด้วย
ผลข้างเคียงจากการเสพเห็ดขี้ควายในระยะสั้น และระยะยาว
เมื่อเสพเห็ดเมาเข้าไปในร่างกาย สารซิโลไซบินจะแปลงเป็นสารซิโลซีน นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า สารซิโลซีนจะออกฤทธิ์กับสารเซโรโทนิน (Serotonin) ในสมอง เพราะมีโครงสร้างคล้ายกัน ทำให้มีอาการเคลิ้ม รู้สึกสนุกสนาน เพลิดเพลิน เห็นภาพลวงตา โดยฤทธิ์ของเห็ดเมาจะออกฤทธิ์ภายใน 30–45 นาที และอยู่ในร่างกายราว ๆ 6 ชั่วโมง
ในระยะยาว ผู้เสพมักจะดื้อยาต่อสารซิโลไซบินและสารซิโลซีน ทำให้ต้องใช้เห็ดมากขึ้นอีกเรื่อย ๆ เพื่อให้เกิดอาการเมา ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพและชีวิต ผู้เสพจะทรมานจากการติดยามากกว่าที่จะรู้สึกมีความสุข เพราะมักจะมีปัญหากับการใช้ชีวิตประจำวัน และการควบคุมอารมณ์ของตัวเอง
ผลข้างเคียงด้านร่างกายจากการเสพเห็ดขี้ควาย เช่น
- คลื่นไส้ อาเจียน
- หัวใจเต้นเร็ว ความดันโลหิตสูง อุณหภูมิร่างกายเพิ่มสูงขึ้นผิดปกติ
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง
- เซื่องซึม
- กล้ามเนื้อและการประสานงานของสมองผิดปกติ
- รูม่านตาขยาย
ถ้าเสพเห็ดอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดอาการป่วยทางจิต อย่างโรคจิตเภท หรือเป็นโรคจิตได้ด้วย แม้ผู้เสพจะไม่ได้เสพเห็ดแล้ว แต่ก็ยังเกิดอาการข้างเคียงได้ โดยอาการต่าง ๆ อาจเกิดขึ้นหลายวัน หรือหลายเดือนหลังจากการเสพ รวมทั้งการเสพเห็ดเมาในปริมาณมากเกินไปจะทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายอย่างรุนแรง และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ในที่สุด
ปัญหาอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้จากการเสพเห็ดขี้ควาย
ถ้าเกิดอาการปวดท้องรุนแรง อาเจียน หรือท้องร่วงหลังกินเห็ด ให้สงสัยไว้ก่อนว่าอาจเป็นเห็ดพิษ ให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วน แต่ไม่ควรขับรถเอง เพราะเห็ดขี้ควายหรือเห็ดเมาจะส่งผลต่อระบบการทำงานของสมอง ทั้งการรับรู้ความเป็นจริง ความคิด การตัดสินใจ ทำให้มีแนวโน้มที่จะเกิดอุบัติเหตุได้
วิธีเลิกเสพเห็ดขี้ควาย
ปัญหาใหญ่นั้นอยู่ในช่วง “กำลังจะเลิก” เพราะเห็ดมีฤทธิ์ทำให้สนุกสนาน เพลิดเพลิน เลยยิ่งทำให้คนที่เสพติดเห็ดขี้ควายมาก ๆ ยิ่งเลิกยากกว่าเดิม
สัญญาณที่บอกว่าบุคคลนั้น ๆ เสพติดเห็ดขี้ควายคือ อาการเมายาอยู่ตลอด แม้จะไม่ได้ใช้เห็ดอยู่ตอนนั้นก็ตาม อาจพ่วงด้วยการมีปัญหาที่โรงเรียน ที่ทำงาน หรือมีอาการอยากยา และต้องการเสพเห็ดขี้ควายอย่างรุนแรง
ปัจจุบันยังไม่มีการรักษาโดยเฉพาะสำหรับการเสพติดเห็ดขี้ควาย จะมีเพียงการเข้าร่วมการบำบัดรักษา เข้าศูนย์บำบัดยาเสพติด หรือปรึกษาแพทย์
เห็ดขี้ควาย อันตราย เลี่ยงได้เลี่ยง!
การเสพเห็ดเมาอาจดูไม่ร้ายแรงเหมือนกับการเสพยาเสพติดชนิดอื่น แต่ผู้เสพหลายคนกลับไม่ได้คิดถึงผลกระทบที่เกิดจากอาการเมาเห็ด ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะฝันร้าย เกิดภาพหลอน และอาการดังกล่าวจะไม่หายไปจนกว่าฤทธิ์ของเห็ดจะหมดลง
แต่ที่แย่กว่านั้นคือ อาจเกิดอันตรายต่อผู้เสพจนต้องนำส่งโรงพยาบาล เพราะเกิดภาวะเห็ดเป็นพิษได้ และผู้เสพเห็ดเมาบางรายอาจมีอาการทางจิตที่เกิดขึ้นหลังจากการเสพแตกต่างกันไป ดังนั้น ควรเลี่ยงการเสพ หรือการทดลองเห็ดเมาใดๆ จะปลอดภัยที่สุด
ตรวจสอบความถูกต้องโดย นพ. พิสุทธิ์ พงษ์ชัยกุล