ผ่าตัดรักษาไส้ติ่งอักเสบแบบส่องกล้องแผลเดียว

เมื่อพูดถึงการรักษาภาวะไส้ติ่งอักเสบ หลายคนมักจะนึกถึงการผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้องที่อาจทิ้งรอยแผลเป็นขนาดใหญ่ไว้ แต่ในปัจจุบัน วงการแพทย์ได้พัฒนาเทคนิคการผ่าตัดที่ทันสมัยขึ้น เพื่อให้ผู้ป่วยเจ็บน้อยลง ฟื้นตัวเร็วขึ้น และทิ้งรอยแผลเป็นให้น้อยที่สุด หนึ่งในนั้นคือการผ่าตัดส่องกล้องแผลเดียว ซึ่งกำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย

บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกถึงการผ่าตัดรักษาไส้ติ่งอักเสบด้วยวิธีนี้ ตั้งแต่ขั้นตอน ข้อดี ข้อจำกัด การเตรียมตัว และการดูแลตัวเองหลังการผ่าตัด

ผ่าตัดส่องกล้องแผลเดียว คืออะไร?

การผ่าตัดส่องกล้องแผลเดียว หรือ Single Incision Laparoscopic Appendectomy (SILA) คือการผ่าตัดไส้ติ่งอักเสบโดยใช้เทคนิคการผ่าตัดส่องกล้องขั้นสูง 

ศัลยแพทย์จะเจาะเปิดแผลเพียงแผลเดียวบริเวณสะดือ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ซ่อนรอยแผลได้ดีที่สุด โดยขนาดของแผลจะอยู่ที่ประมาณ 2 เซนติเมตร จากนั้นจึงใช้เครื่องมือผ่าตัดและกล้องขนาดเล็กสอดเข้าไปในช่องท้องเพื่อตัดไส้ติ่งที่อักเสบออก แล้วจึงนำไส้ติ่งออกมาทางแผลที่เจาะไว้

ขั้นตอนการผ่าตัดไส้ติ่งแบบส่องกล้องแผลเดียว

การผ่าตัดรักษาไส้ติ่งอักเสบแบบส่องกล้องแผลเดียวต้องทำโดยศัลยแพทย์ที่มีความชำนาญด้านการผ่าตัดส่องกล้องโดยเฉพาะ และใช้เครื่องมือที่มีความจำเพาะ โดยมีขั้นตอนดังนี้

1. วิสัญญีแพทย์จะทำการดมยาสลบเพื่อให้ผู้ป่วยหลับและไม่รู้สึกเจ็บระหว่างการผ่าตัด
2. แพทย์จะเปิดแผลขนาดเล็กเพียงแผลเดียวที่ผิวหนังบริเวณสะดือ ขนาดประมาณ 2 เซนติเมตร
3. แพทย์จะสอดอุปกรณ์ที่มีลักษณะคล้ายท่อ ซึ่งประกอบด้วยช่องหลายขนาดเข้าไปในแผล อุปกรณ์นี้จะทำหน้าที่เป็นช่องทางสำหรับใส่เครื่องมือผ่าตัดและกล้องขนาดเล็ก
4. แพทย์จะปล่อยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไปในช่องท้อง เพื่อทำให้ผนังหน้าท้องพองตัวขึ้น ทำให้มองเห็นอวัยวะภายในได้ชัดเจนและมีพื้นที่ในการผ่าตัดมากขึ้น
5. จากนั้นจะใช้เครื่องมือพิเศษสอดผ่านช่องในอุปกรณ์ เพื่อเข้าไปตัดไส้ติ่งที่อักเสบออกอย่างแม่นยำ จากนั้นจะนำไส้ติ่งที่ตัดแล้วออกมาทางแผลที่สะดือ
6. เมื่อนำไส้ติ่งออกเรียบร้อยแล้ว แพทย์จะเย็บปิดแผลที่สะดืออย่างประณีต เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามที่สุด และส่งชิ้นเนื้อไส้ติ่งไปตรวจในห้องปฏิบัติการเพื่อยืนยันว่าไม่มีโรคหรือเนื้อร้ายอื่นๆ แฝงอยู่

ข้อดีของการผ่าตัดส่องกล้องแผลเดียว

การผ่าตัดด้วยวิธีนี้มีข้อดีที่โดดเด่นหลายประการเมื่อเทียบกับการผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้อง ได้แก่

• แผลเล็กมากและซ่อนรอยแผลเป็นจนมองไม่เห็นรอยแผลเป็นเลย
• เจ็บน้อยกว่า เนื่องจากแผลมีขนาดเล็ก ทำให้เนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อได้รับความเสียหายน้อยกว่า ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการปวดหลังผ่าตัดน้อยกว่า
• ฟื้นตัวเร็ว โดยผู้ป่วยสามารถลุกเดินได้ภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังการผ่าตัด และกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติภายใน 2-3 วัน
• โอกาสในการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อที่แผลผ่าตัดมีน้อยกว่าเมื่อเทียบกับการผ่าตัดแบบเปิด

ข้อจำกัดและการพิจารณาเลือกการรักษา

แม้ว่าการผ่าตัดส่องกล้องแผลเดียวจะมีข้อดีมากมาย แต่ก็มีข้อจำกัดที่ควรทราบ ได้แก่

• เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะไส้ติ่งอักเสบชนิดไม่ซับซ้อนเท่านั้น หากไส้ติ่งแตก มีหนองมาก หรือมีก้อนฝีขนาดใหญ่ แพทย์อาจต้องพิจารณาการผ่าตัดแบบส่องกล้องแบบปกติ (3 แผล) หรือการผ่าตัดแบบเปิดแทน
• การผ่าตัดชนิดนี้เป็นเทคนิคขั้นสูงที่ต้องทำโดยศัลยแพทย์ที่มีความชำนาญและมีประสบการณ์สูงในการผ่าตัดส่องกล้องแผลเดียวเท่านั้น
• ค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดแบบนี้มักจะสูงกว่าการผ่าตัดแบบเปิด เนื่องจากต้องใช้อุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย

การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัดไส้ติ่งอักเสบ

• แจ้งประวัติสุขภาพ โรคประจำตัว ยาที่รับประทานประจำ และการแพ้ยาให้แพทย์ทราบอย่างละเอียด
• งดน้ำและอาหารอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัด เพื่อป้องกันการสำลักอาหารเข้าสู่ปอดระหว่างการดมยาสลบ
• แพทย์จะตรวจร่างกายและตรวจเลือด เพื่อประเมินความพร้อมของผู้ป่วยสำหรับการผ่าตัด

การดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดไส้ติ่งอักเสบ

• โดยทั่วไปผู้ป่วยจะต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาลประมาณ 1-2 วัน ขึ้นอยู่กับอาการของผู้ป่วย
• รักษาแผลให้สะอาดและแห้งอยู่เสมอ ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ในการทำความสะอาดแผลและเปลี่ยนผ้าปิดแผล
• ควรลุกเดินในระยะเวลาสั้นๆ ตั้งแต่หลังการผ่าตัด เพื่อกระตุ้นการทำงานของลำไส้และลดโอกาสเกิดลิ่มเลือดอุดตัน
• รับประทานอาหารอ่อนๆ เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม หรือซุป แล้วค่อยๆ ปรับเป็นอาหารปกติเมื่ออาการดีขึ้น
• พบแพทย์ตามนัดหมายเพื่อตรวจดูอาการและสภาพแผล เพื่อให้แน่ใจว่าการฟื้นตัวเป็นไปตามแผนการรักษา

การผ่าตัดไส้ติ่งแบบส่องกล้องแผลเดียวเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ป่วยไส้ติ่งอักเสบ เพราะช่วยให้ฟื้นตัวเร็ว กลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้รวดเร็ว อีกทั้งยังได้ผลลัพธ์เรื่องรอยแผลที่สวยงาม อย่างไรก็ตาม ก่อนตัดสินใจเลือกวิธีใด ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างละเอียด เพื่อให้ได้การรักษาที่เหมาะสมและปลอดภัยที่สุด

รักษาไส้ติ่งอักเสบด้วยวิธีไหนดี? วิธีไหนเสี่ยงน้อย และได้ผลลัพธ์ดีที่สุด? นัดคุยกับคุณหมอเฉพาะทาง ผ่านทีม HDcare สะดวกรวดเร็ว ทันใจ หรือค้นหาแพ็กเกจรักษาไส้ติ่งอักเสบ จาก ร.พ. หรือคลินิกใกล้คุณได้ทันที คลิกที่นี่เลย