ภาวะอวัยวะเพศจม (Buried Penis) ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อรูปลักษณ์ภายนอก แต่ยังก่อให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพกายและสุขภาพใจตามมาอีกมากมาย ปัจจุบันมีวิธีการรักษาที่หลากหลาย รวมถึงการผ่าตัดแก้ไข ซึ่งสามารถช่วยให้อวัยวะเพศยื่นออกมาได้ตามปกติ
บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกทุกเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับการผ่าตัดแก้ไขอวัยวะเพศจม ตั้งแต่สาเหตุ ขั้นตอนการรักษา การเตรียมตัว การดูแลหลังผ่าตัด รวมถึงคำถามที่พบบ่อย เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกแนวทางการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตัวคุณเอง
สารบัญ
อวัยวะเพศจมคืออะไร?
อวัยวะเพศจม คือ ภาวะที่องคชาตถูกดึงรั้งเข้าไปอยู่ใต้ผิวหนังบริเวณหัวหน่าวหรือหน้าท้องส่วนล่าง ทำให้ดูเหมือนว่าอวัยวะเพศมีขนาดเล็กกว่าปกติหรือหายไปทั้งหมด โดยอาจมีเพียงส่วนปลายของหนังหุ้มปลายหรือหัวองคชาตที่โผล่พ้นออกมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ภาวะนี้อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น ภาวะอ้วนมากเกินไป ซึ่งทำให้มีไขมันสะสมบริเวณหัวหน่าวมาก หรืออาจเกิดจากความผิดปกติของโครงสร้างผิวหนังและเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน
ผลกระทบของอวัยวะเพศจมต่อการใช้ชีวิต
การปล่อยให้อวัยวะเพศจมโดยไม่ได้รับการรักษาอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตในหลายด้าน ได้แก่
- ปัญหาเกี่ยวกับการขับถ่าย: ทำให้ปัสสาวะรดถุงอัณฑะ ต้นขา หรือเสื้อผ้าได้ง่าย และไม่สามารถยืนปัสสาวะได้ตามปกติ
- ปัญหาด้านสุขอนามัยและการติดเชื้อ: ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศจะชื้นตลอดเวลา ทำให้เป็นแหล่งสะสมของสิ่งสกปรกและเชื้อโรค นำไปสู่การอักเสบ การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ หรือการติดเชื้อที่ผิวหนังได้ง่าย
- ปัญหาทางเพศสัมพันธ์: ไม่สามารถแข็งตัวได้เต็มที่ หรือหากแข็งตัวก็ไม่สามารถสอดใส่อวัยวะเข้าช่องคลอดได้ ทำให้เกิดความไม่พึงพอใจทั้งกับตัวเองและคู่ครอง
- ปัญหาสุขภาพจิต: ผู้ป่วยอาจรู้สึกอับอาย ขาดความมั่นใจ วิตกกังวล หรือนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าได้
วิธีการรักษาอวัยวะเพศจม
การแก้ไขปัญหาอวัยวะเพศจมนั้นขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของปัญหาในแต่ละบุคคล โดยมีวิธีการรักษาที่หลากหลาย
1. การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
สำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะอ้วน การลดน้ำหนักและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออาจช่วยลดปริมาณไขมันบริเวณหัวหน่าวและทำให้อวัยวะเพศยื่นออกมาได้มากขึ้น
2. การผ่าตัดแก้ไข
การผ่าตัดเป็นวิธีหลักในการรักษาอวัยวะเพศจม โดยมีเทคนิคต่างๆ ที่แพทย์จะพิจารณาเลือกใช้ตามปัญหาของผู้ป่วย
- การดูดไขมัน (Liposuction): เป็นการกำจัดไขมันส่วนเกินที่สะสมอยู่ใต้ผิวหนังบริเวณหัวหน่าวและรอบๆ อวัยวะเพศชายออก เพื่อให้อวัยวะเพศยื่นออกมามากขึ้น
- การผ่าตัดปลดเส้นเอ็น (Suspensory Ligament Release): เป็นการผ่าตัดปลดเส้นเอ็นที่ยึดอวัยวะเพศกับกระดูกหัวหน่าวออก เพื่อให้อวัยวะเพศสามารถยื่นออกมาได้ยาวขึ้น
- การผ่าตัดตกแต่งช่องท้อง (Abdominoplasty): ในกรณีที่มีไขมันและผิวหนังส่วนเกินบริเวณหน้าท้องส่วนล่างและหัวหน่าวมาก แพทย์อาจพิจารณาผ่าตัดตกแต่งช่องท้อง เพื่อกำจัดไขมันและผิวหนังส่วนเกินออกไป
- การปลูกถ่ายผิวหนัง (Skin Grafting): หากปัญหาอวัยวะเพศจมเกิดจากการขริบ หรือมีปัญหาผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศไม่เพียงพอ แพทย์อาจพิจารณาการปลูกถ่ายผิวหนังเพื่อเสริมสร้างเนื้อเยื่อที่หายไป
การผ่าตัดแก้ไขอวัยวะเพศจม
การผ่าตัดแก้ไขอวัยวะเพศจมเป็นการทำหัตถการที่ช่วยให้อวัยวะเพศที่จมอยู่ภายในกลับมายื่นออกมาได้ตามปกติ เทคนิคการผ่าตัดจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสาเหตุและปัญหาเฉพาะของแต่ละบุคคล ในบางกรณีอาจจำเป็นต้องดูดไขมันบริเวณท้องน้อยร่วมด้วย โดยส่วนใหญ่แล้วการผ่าตัดมักจะมีแผลบริเวณหัวหน่าว
ข้อดีของการผ่าตัด
- ผลลัพธ์ที่ชัดเจน โดยหลังผ่าตัด อวัยวะเพศสามารถยืดออกมาได้ยาวขึ้นประมาณ 2-8 เซนติเมตร หรืออาจถึง 7-10 เซนติเมตรในบางราย ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
- ไม่ต้องกังวลเรื่องความเจ็บปวดระหว่างการผ่าตัด เนื่องจากมีวิสัญญีแพทย์ระงับความรู้สึกด้วยการดมยาสลบ
- ฟื้นตัวเร็ว โดยทั่วไปแล้ว ประมาณ 2-3 สัปดาห์หลังการผ่าตัด ผู้ป่วยก็สามารถกลับมามีกิจกรรมทางเพศได้ตามปกติ
ขั้นตอนการผ่าตัดแก้ไขอวัยวะเพศจม
ขั้นตอนการผ่าตัดแก้ไขอวัยวะเพศจมโดยทั่วไปมีดังนี้
- แพทย์และพยาบาลจะทำความสะอาดและเตรียมอวัยวะเพศและบริเวณที่เกี่ยวข้องให้พร้อมสำหรับการผ่าตัด
- วิสัญญีแพทย์จะระงับความรู้สึกด้วยการดมยาสลบ (ในบางกรณีอาจต้องย้ายสถานที่ทำหัตถการไปยังโรงพยาบาลที่มีความพร้อม)
- แพทย์จะผ่าตัดแก้ไขปัญหาอวัยวะเพศจมตามเทคนิคที่ได้วางแผนไว้สำหรับผู้ป่วยแต่ละคน ซึ่งอาจรวมถึงการดูดไขมัน การปลดเส้นเอ็น หรือการผ่าตัดตกแต่งผิวหนัง
- เมื่อแก้ไขปัญหาเรียบร้อยแล้ว แพทย์จะเย็บปิดแผลและตรวจดูความเรียบร้อยทั้งหมด
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
การเตรียมตัวที่ดีมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จของการผ่าตัดและการฟื้นตัว แพทย์มักแนะนำให้ผู้ป่วยเตรียมตัว ดังนี้
- ควรนัดหมายเพื่อปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการก่อนทำหัตถการเสมอ เพื่อประเมินสภาพร่างกาย วินิจฉัยอาการ และวางแผนการรักษาที่เหมาะสม
- แจ้งให้แพทย์ทราบถึงประวัติการเจ็บป่วย การแพ้ยา โรคประจำตัว ยาและอาหารเสริมที่กำลังรับประทานอยู่ในปัจจุบันทั้งหมด รวมถึงประวัติการทำหัตถการหรือศัลยกรรมเกี่ยวกับอวัยวะเพศ เช่น การขริบ การฉีดสารแปลกปลอม หรือสารเติมเต็ม
- งดยาละลายลิ่มเลือด ยากลุ่มแอสไพริน (Aspirin) หรือไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) รวมถึงยาอื่นๆ ที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น ยารักษาโรคไซนัส ยาแก้ไอที่มีส่วนผสมของยาดังกล่าว วิตามิน น้ำมันปลา สมุนไพร และอาหารเสริมทุกชนิด อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
- ควรงดสูบบุหรี่อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 72 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด เนื่องจากสิ่งเหล่านี้อาจส่งผลต่อการหายของแผล
- ควรพักผ่อนให้เพียงพอ 8-10 ชั่วโมงก่อนวันผ่าตัด
- ในวันผ่าตัด ควรมีญาติมาด้วยอย่างน้อย 1 คน เพื่อช่วยดูแลและเป็นผู้รับกลับบ้านหลังจากผ่าตัด
การดูแลหลังผ่าตัด
การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดอย่างถูกวิธีจะช่วยให้แผลหายเร็ว ลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน และได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
- นัดหมายเพื่อแกะผ้าก๊อซออก 3-5 วันหลังการผ่าตัด
- หลังแกะผ้าก๊อซออกไปแล้ว 7 วัน สามารถอาบน้ำได้ตามปกติ แต่ควรงดการถูสบู่บริเวณแผล
- สวมใส่กางเกงในที่ใส่สบาย ไม่รัดแน่นในช่วง 2-3 วันแรก เพื่อลดการเสียดสีและกดทับ
- หากรู้สึกปวดหรือเจ็บแผล ให้ประคบเย็น หรือรับประทานยาแก้ปวดที่แพทย์สั่งจ่ายเพื่อบรรเทาอาการ
- ซับแผลให้แห้งอยู่เสมอ จากนั้นทายาขี้ผึ้งบางๆ บริเวณแผล ทำความสะอาดแผลด้วยน้ำเกลือล้างแผล ไม่ควรใช้แอลกอฮอล์เช็ดแผล
- งดการมีเพศสัมพันธ์ การช่วยตัวเอง รวมถึงกิจกรรมที่ต้องมีการกดทับบริเวณอวัยวะเพศ เช่น การขี่จักรยาน ไปก่อนในช่วง 1-2 เดือน เพื่อให้แผลหายสนิทและลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บ
ความรู้สึกระหว่างและหลังผ่าตัด เจ็บไหม?
ในช่วงระหว่างการผ่าตัด ผู้ป่วยจะไม่รู้สึกเจ็บปวดเลย เนื่องจากวิสัญญีแพทย์จะระงับความรู้สึกด้วยการดมยาสลบตลอดการผ่าตัด ส่วนหลังการผ่าตัด เมื่อฤทธิ์ยาสลบหมดลง ผู้ป่วยอาจเริ่มรู้สึกปวดบริเวณแผลผ่าตัดได้บ้าง แต่สามารถบรรเทาได้ด้วยยาแก้ปวดที่แพทย์จ่ายให้
นอกจากนี้การประคบเย็นบริเวณแผลในช่วง 2-3 วันแรกยังช่วยลดอาการปวดและบวมได้อีกด้วย โดยอาการปวดจะค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ และจะทุเลาลงจนหายไปในที่สุด
ผ่าตัดแก้ไขอวัยวะเพศจม อันตรายไหม?
การผ่าตัดแก้ไขอวัยวะเพศจมถือเป็นการผ่าตัดใหญ่ที่ต้องทำโดยศัลยแพทย์ผู้ชำนาญการ ดังนั้นจึงมีความปลอดภัยสูง อย่างไรก็ตามการผ่าตัดอาจมีความเสี่ยงและอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่นเดียวกับการผ่าตัดทุกประเภท ซึ่งผู้ป่วยควรทำความเข้าใจก่อนตัดสินใจ
- ภาวะแทรกซ้อนทั่วไปจากการผ่าตัด เช่น การติดเชื้อ เลือดออก อาการบวมช้ำ หรือปฏิกิริยาต่อยาสลบ ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้กับการผ่าตัดทุกชนิด แต่แพทย์จะมีการเตรียมพร้อมและป้องกันอย่างเต็มที่
- รอยแผลเป็น เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จากการผ่าตัด แต่แพทย์จะพยายามทำให้แผลเล็กที่สุดและอยู่ในตำแหน่งที่สังเกตเห็นได้ยาก
- แม้จะมีการการันตีว่าผลลัพธ์และรูปทรงจะดีขึ้นอย่างแน่นอน แต่ผลลัพธ์สุดท้ายจะขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล และขนาดที่ยืดออกมาได้สูงสุดก็แตกต่างกันไป อย่างไรก็ตาม โอกาสที่อวัยวะเพศจะกลับไปจมเหมือนเดิมนั้น มีน้อยมาก หากเกิดปัญหาสั้นลงอีกครั้งในอนาคต ก็สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาการดูดไขมันหัวหน่าวเพิ่มเติมได้
- ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้แต่พบน้อย เช่น ปัญหาเกี่ยวกับการรับความรู้สึกที่อวัยวะเพศ หรือปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะ แต่สิ่งเหล่านี้พบน้อยมากและสามารถป้องกันได้ด้วยการผ่าตัดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์
สิ่งสำคัญคือการเลือกเข้ารับการผ่าตัดกับคลินิกหรือโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐานและมีศัลยแพทย์ผู้ชำนาญการ ที่มีประสบการณ์ในการผ่าตัดประเภทนี้โดยเฉพาะ เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการผ่าตัดแก้ไขอวัยวะเพศจม
อวัยวะเพศสามารถยืดออกมาได้สูงสุดเท่าไหร่?
ตอบ: ผลลัพธ์จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล โดยทั่วไปแล้วสามารถยืดออกมาได้ประมาณ 2-8 เซนติเมตร
มีโอกาสกลับไปเป็นอีกหรือไม่?
ตอบ: โอกาสน้อยมากที่จะกลับไปสั้นเหมือนเดิม แต่หากพบว่ามีอาการสั้นลงเล็กน้อยในอนาคต สามารถกลับมาปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาการดูดไขมันบริเวณหัวหน่าวเพิ่มเติมได้
การผ่าตัดแก้ไขอวัยวะเพศจมเป็นทางเลือกที่ช่วยแก้ไขปัญหาทางกายภาพที่ส่งผลกระทบต่อสุขอนามัยและการใช้ชีวิตประจำวัน และยังช่วยฟื้นฟูความมั่นใจและสุขภาพจิตของผู้ป่วยอีกด้วย หากคุณมีภาวะอวัยวะเพศจม อย่าลังเลที่จะปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการ เพื่อรับการวินิจฉัยและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม
วิธีรักษาแบบไหนเหมาะกับเรามากที่สุด? ผ่าตัดแล้วผลลัพธ์จะเป็นยังไง? นัดคุยกับคุณหมอเฉพาะทาง ผ่านทีม HDcare สะดวกรวดเร็ว ทันใจ หรือค้นหาแพ็กเกจผ่าตัดแก้ไขอวัยวะเพศชายจม จาก รพ. หรือคลินิกใกล้คุณได้ทันที คลิกที่นี่เลย