ไต เป็นอวัยวะสำคัญที่ทำหน้าที่ทั้งกรองของเสียออกจากร่างกาย ควบคุมปริมาณน้ำและเกลือแร่ให้สมดุล รวมถึงระดับความเป็นกรด-ด่างและระดับความดันของเลือด ดังนั้นหากเมื่อไรที่ไตทำงานลดประสิทธิภาพลง ภาวะและโรคแทรกซ้อนต่างๆ ที่จะตามมาจึงมากขึ้น แล้วโรคเกี่ยวกับไตที่พบได้บ่อย และเป็นตัวการที่ทำให้ไตไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมีอะไรบ้าง รวมถึงเราจะสาเหตุและสังเกตอาการบ่งชี้ได้อย่างไร อ่านคำตอบได้ในบทความนี้
สารบัญ
1. โรคไตเรื้อรัง
โรคไตเรื้อรัง (Chronic Kidney Disease) คือ ภาวะที่ไตมีประสิทธิภาพการทำงานลดลงเป็นระยะเวลาต่อเนื่อง 3 เดือนขึ้นไป ส่งผลให้สมดุลการทำงานหลายส่วนในร่างกายผิดปกติ และเกิดเป็นอาการเจ็บป่วยหลายอย่าง รวมถึงเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ตามมาได้อีกมากมาย
โรคไตเรื้อรังสามารถแบ่งออกได้ทั้งหมด 5 ระยะ แบ่งตามค่า eGFR (estimated Glomerulus Fltration Rate) หรือ ค่าอัตราการคัดกรองของเสียภายในไต ซึ่งโดยปกติจะกรองของเสียได้มากกว่า 90 มล./นาที/1.73 ตร.ม
-
- โรคไตระยะที่ 1: ค่า eGFR มากกว่า 90 ไตยังกรองของเสียในระดับปกติ แต่เริ่มมีความเสื่อมเกิดขึ้นแล้ว
- โรคไตระยะที่ 2: ค่า eGFR อยู่ที่ 60-90 ไตเสื่อม และเริ่มมีอัตราการกรองของเสียที่ลดลง
- โรคไตระยะที่ 3A: ค่า eGFR อยู่ที่ 45-59 ไตเสื่อมในระยะปานกลาง
- โรคไตระยะที่ 3B: ค่า eGFR อยู่ที่ 30-44 ไตเสื่อมเข้าระยะรุนแรง
- โรคไตระยะที่ 4: ค่า eGFR อยู่ที่ 15-29 แพทย์จะแนะนำให้ตรวจติดตามอาการด้วยการตรวจเลือดและปัสสาวะอย่างสม่ำเสมอทุก 3 หรือ 6 เดือน
- โรคไตระยะที่ 5: ค่า eGFR อยู่ที่น้อยกว่า 15 ไตทำงานกรองของเสียโดยอยู่ในภาวะไตวาย หรือหมายถึงไตสูญเสียการทำงานลงแล้ว สามารถเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
อาการของโรคไตเรื้อรัง
อาการของโรคไตเรื้อรังจะค่อยทวีความรุนแรงขึ้นอย่างช้าๆ ไปตามระยะความเสื่อมของไต โดยอาการที่พบได้บ่อย ได้แก่
- คลื่นไส้อาเจียน
- เบื่ออาหาร
- เหนื่อยล้าง่าย และอ่อนเพลีย
- มีปัญหาในการนอนหลับ
- ปัสสาวะมากขึ้นหรือน้อยลง
- ปวดเอวหรือปวดหลังด้านข้าง
- ความสามารถในการคิดและความจำลดลง
- เป็นตะคริว
- อาการบวมที่ใบหน้า ท้อง เท้า
- ผิวแห้ง ผิวคล้ำขึ้น และมีอาการคัน
- ความดันโลหิตสูง
- หายใจลำบาก หากมีของเหลวสะสมในปอด
- เจ็บหน้าอก หากมีของเหลวสะสมรอบเยื่อหุ้มหัวใจ
- ปัสสาวะมีเลือดปน
- ปัสสาวะบ่อยช่วงกลางคืน
- ในผู้หญิงอาจมีประจำเดือนขาดหรือเกิดภาวะมีบุตรยาก ส่วนในผู้ชายอาจมีความรู้สึกทางเพศและปริมาณอสุจิลดลง
- เกิดภาวะหรือโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ได้ เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคโลหิตจาง โรคเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ ภาวะน้ำคั่งในปอด ภาวะเลือดออกในกระเพาะอาหารและลำไส้ โรคกระดูกพรุน
สาเหตุของโรคไตเรื้อรัง
โรคไตเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น
- โรคประจำตัวบางชนิด เป็นปัจจัยหลักที่มักทำให้เกิดโรคไตเรื้อรังตามมาในภายหลัง เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิต โรคนิ่วในไต โรคถุงน้ำในไต การติดเชื้อที่ไตซ้ำๆ การติดเชื้อที่ท่อไต โรคไตอักเสบ
- ประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคไต
- การมีโครงสร้างที่ผิดปกติของไต
- อายุที่มากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่อายุ 60 ปีขึ้นไป
- ภาวะน้ำหนักเกิน หรือโรคอ้วน
- พฤติกรรมสูบบุหรี่
2. โรคนิ่วในไต
โรคนิ่วในไต (Kidney Stone) คือ ภาวะที่ในไตหรือในทางเดินปัสสาวะมีก้อนนิ่ว ซึ่งเป็นก้อนของแข็งเข้าไปอุดตันจนทำให้ไตทำงานผิดปกติหรือเสื่อมสภาพลง
อาการของโรคนิ่วในไต
- ปวดหลัง หรือปวดท้องข้างใดข้างหนึ่ง อาการปวดมักจะเป็นปวดเสียดหรือปวดบิดเป็นพักๆ
- คลื่นไส้ อาเจียน
- มีไข้ หนาวสั่น
- ปัสสาวะสีขุ่นหรือขุ่นแดง
- ในผู้ป่วยบางรายอาจพบก้อนนิ่วก้อนชิ้นเล็กๆ คล้ายเศษกรวดหรือเม็ดทรายปนออกมากับปัสสาวะ
- เกิดภาวะไตวาย ซึ่งสามารถเกิดขึ้นในโรคนิ่วในไตระยะรุนแรง
สาเหตุของโรคนิ่วในไต
โรคนิ่วในไต มีสาเหตุหลักมาจากปริมาณสารบางอย่างที่เข้มข้นเกินไป และมีมากกว่าสารตัวทำลายละลายของสารนั้นๆ จนทำให้เกิดการตกตะกอนกลายเป็นก้อนของแข็งที่สามารถขยายขนาดใหญ่ขึ้นได้ในไต เช่น สารแคลเซียม สารออกซาเลต กรดยูริก
ส่วนปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ที่พบได้บ่อยและสามารถกระตุ้นทำให้เกิดก้อนนิ่วในไต ได้แก่
- เพศ โดยโรคนิ่วในไตมีโอกาสพบในผู้ชายได้มากกว่าผู้หญิง
- พฤติกรรมดื่มน้ำน้อย
- พฤติกรรมบริโภคเนื้อสัตว์โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ปีก และเครื่องในสัตว์มากเกินไป
- พฤติกรรมกลั้นปัสสาวะบ่อย
- ประวัติการใช้ยาหรือวิตามินเสริมบางชนิดเป็นระยะเวลาต่อเนื่อง
- ประวัติคนในครอบครัวเคยเป็นนิ่วในไต ผู้ใกล้ชิดทางสายเลือดคนอื่นๆ ก็จะมีความเสี่ยงพบนิ่วในไตได้มากกว่าคนทั่วไป
3. ภาวะไตวายเฉียบพลัน
ภาวะไตวายเฉียบพลัน (Acute Kidney Injury) คือ ภาวะที่ไตสูญเสียการทำงานภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว และส่งผลกระทบต่อสมดุลการทำงานหลายส่วนในร่างกาย เป็นภาวะที่มักเกิดในรูปแบบของภาวะแทรกซ้อนจากการเป็นโรคอื่นๆ อยู่ก่อน
อาการของภาวะไตวายเฉียบพลัน
- ปัสสาวะน้อยลง
- หายใจลำบาก
- มีอาการบวมที่ขา ข้อเท้า หรือเท้า
- อ่อนเพลีย
- เบื่ออาหาร
- สับสน หรือมึนงง
- คลื่นไส้อาเจียน
- ปวดท้อง หรือปวดบริเวณด้านข้างใต้ชายโครง
- หัวใจเต้นผิดจังหวะ
- คันตามร่างกาย
- เจ็บหน้าอก หรือรู้สึกหน้าอกถูกแรงกดทับ
- เกิดอาการชัก
สาเหตุของภาวะไตวายเฉียบพลัน
ภาวะไตวายเฉียบพลันมักเกิดจาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่
- มีเลือดไหลไปเลี้ยงไตลดลง อาจเกิดจากการสูญเสียน้ำในร่างกายมากเกินไป การติดเชื้อ การเสียเลือดมาก ความดันโลหิตต่ำ ภาวะตับแข็ง ภาวะหัวใจล้มเหลว ภาวะหัวใจวาย การมีแผลไฟไหม้ที่รุนแรง
- เกิดความผิดปกติที่ไตโดยตรง อาจเกิดจากการอักเสบที่ไตจากอาการแพ้ยา การติดเชื้อ การสัมผัสสารพิษ โรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง การมีลิ่มเลือดในหลอดเลือดใกล้กับไต ภาวะไขมันอุดตันในหลอดเลือดที่ไต
- การอุดตันที่ทางเดินปัสสาวะ อาจเกิดจากโรคนิ่วในไต โรคต่อมลูกหมากโต โรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก โรคมะเร็งลำไส้ การมีลิ่มเลือดในทางเดินปัสสาวะ การมีเนื้องอกไปกดทับท่อไต
4. โรคกรวยไตอักเสบ
โรคกรวยไตอักเสบ (Pyelonephritis) เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อที่กระเพาะปัสสาวะและลุกลามมาที่กรวยไตจนทำให้เกิดการอักเสบ โดยส่วนมากมักเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียอีโคไล (Escherichia Coli: E.Coli) ซึ่งเป็นเชื้อแบคทีเรียช่วยย่อยอาหารที่พบได้ในลำไส้ของมนุษย์
อาการของโรคกรวยไตอักเสบ
- มีไข้
- อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร
- มีอาการปวด มักเป็นบริเวณท้อง บั้นเอว หรือหลังส่วนล่าง
- กลั้นปัสสาวะไม่อยู่
- รู้สึกแสบขัดระหว่างปัสสาวะ
- มีเลือดหรือมีน้ำหนองปนในปัสสาวะ
- รู้สึกปวดปัสสาวะตลอดเวลา
- ปัสสาวะมีกลิ่นผิดปกติ
สาเหตุของโรคกรวยไตอักเสบ
อย่างที่กล่าวไปในข้างต้นว่าโรคกรวยไตอักเสบมีสาเหตุหลักมาจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งปัจจัยกระตุ้นหลักๆ ที่เพิ่มโอกาสทำให้กรวยไตเกิดการติดเชื้อ ได้แก่
- สรีระทางร่างกาย โรคกรวยไตอักเสบพบได้บ่อยที่สุดในผู้หญิง โดยเฉพาะผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ซึ่งเป็นกลุ่มที่พบการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะมากที่สุด เนื่องจากเพศหญิงมีท่อปัสสาวะสั้นกว่าผู้ชาย และอยู่ใกล้กับทวารหนักมากกว่า จึงส่งผลให้เชื้อแบคทีเรียมีโอกาสปนเปื้อนไปยังท่อปัสสาวะได้มากกว่าไปด้วย และอาจลุกลามขึ้นไปถึงกระเพาะปัสสาวะ เเละกรวยไต
- การตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายมีการหลั่งฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) ซึ่งจะทำให้ท่อปัสสาวะหย่อนและคลายตัวออก รวมถึงเพิ่มโอกาสที่มดลูกจะขยายตัวจนบีบกดทางเดินปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะไม่สามารถไหลผ่านได้เต็มที่จนทำให้เชื้อเเบคทีเรียเติบโตได้มากขึ้น
- อายุที่มากขึ้น โดยเฉพาะผู้หญิงที่เข้าสู่วัยสูงอายุ และร่างกายมีการผลิตฮอร์โมนเพศหญิงลดลงจนไปเพิ่มโอกาสให้เชื้อแบคทีเรียมีการเจริญเติบโตที่ผิดปกติ และส่งผลให้ร่างกายมีการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
- โรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคเบาหวาน โรคไตเรื้อรัง โรคความดันโลหิตสูง การติดเชื้อไวรัส HIV ภาวะภูมิคุ้มกันร่างกายบกพร่อง
- การอุดตันที่ทางเดินปัสสาวะ ทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถถ่ายปัสสาวะออกจากทางเดินปัสสาวะได้หมด และเพิ่มโอกาสให้เชื้อแบคทีเรียเติบโตและไหลย้อนกลับเข้าสู่ไต สามารถเกิดได้จากโรคเกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะอื่นๆ เช่น โรคนิ่วในไต โรคต่อมลูกหมากโต
5. โรคมะเร็งไต
โรคมะเร็งไต (Kidney Cancer) คือ ภาวะที่เซลล์เนื้อเยื่อภายในไตและกรวยไตเกิดจากเจริญเติบโตผิดปกติและไม่สามารถควบคุมได้ จนเกิดเป็นเซลล์มะเร็งที่สามารถลุกลามแพร่กระจายจากไตไปยังอวัยวะอื่นๆ สามารถแบ่งออกได้ทั้งหมด 4 ระยะ ได้แก่
- ระยะที่ 1: ก้อนมะเร็งมีขนาดประมาณหรือน้อยกว่า 7 เซนติเมตร และยังอยู่ภายในไต
- ระยะที่ 2: ก้อนมะเร็งมีขนาดใหญ่กว่า 7 เซนติเมตร แต่ยังคงอยู่ภายในไต
- ระยะที่ 3: ก้อนมะเร็งแพร่กระจายจากไตไปยังเนื้อเยื่อ ต่อมน้ำเหลือง รวมถึงเส้นเลือดใหญ่
- ระยะที่ 4: ก้อนมะเร็งแพร่กระจายไปยังต่อมหมวกไต ต่อมน้ำเหลืองที่อยู่ห่างออกไป รวมถึงอวัยวะอื่นๆ
อาการของโรคมะเร็งไต
โรคมะเร็งไตในระยะเริ่มต้นมักไม่แสดงอาการใดๆ จนเมื่อระยะของโรคเริ่มรุนแรงขึ้น ผู้ป่วยก็จะเริ่มมีอาการแสดงและสัญญาณที่ผิดปกติออกมา เช่น
- เหนื่อยล้า อ่อนเพลียง่าย
- ปัสสาวะเป็นเลือด
- เบื่ออาหาร
- ปวดเอวหรือปวดหลังเรื้อรัง
- น้ำหนักลด
- แคลเซียมในเลือดสูง
สาเหตุของโรคมะเร็งไต
ปัจจุบันยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดถึงสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งไต อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเสี่ยงต่อไปนี้สามารถกระตุ้นโอกาสที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งไตได้
- อายุที่มากขึ้น ทำให้พบโรคนี้ได้บ่อยในกลุ่มผู้สูงอายุ
- พฤติกรรมสูบบุหรี่
- โรคอ้วนหรือภาวะน้ำหนักเกินเกณฑ์
- โรคความดันโลหิตสูง
- ภาวะไตวายเรื้อรัง มักพบในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะสุดท้าย
- เพศ โดยโรคมะเร็งไตมีโอกาสพบในผู้ชายได้มากกว่า
- ประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคมะเร็งไต
โรคไตไม่เพียงแต่ทำลายประสิทธิภาพการทำงานของไตเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบอื่นๆ ในร่างกายด้วย เช่น ระบบหัวใจและหลอดเลือด ระบบภูมิคุ้มกัน ระบบสืบพันธุ์ และสามารถสร้างอันตรายถึงขั้นทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้
เราควรใส่ใจสุขภาพไตให้ดีอยู่เสมอ และหากเกิดอาการผิดปกติใดๆ ควรรีบไปพบแพทย์ เพราะอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบอื่นๆ ในร่างกายไปด้วย
ไม่แน่ใจว่าสุขภาพไตยังแข็งแรงหรือไม่ ปรึกษาทีม HDcare ได้เลย เราพร้อมเป็นผู้ช่วยส่วนตัวดูแลสุขภาพคุณ สอบถามข้อมูลเบื้องต้นกับคุณหมอเฉพาะทาง ทำนัดปรึกษาคุณหมอได้รวดเร็ว หรือค้นหาแพ็กเกจตรวจคัดกรองโรค จาก รพ. หรือคลินิกใกล้คุณได้ทันที คลิกที่นี่เลย