Default fallback image

รวม 5 โรคที่พบได้บ่อยเกี่ยวกับไต มีอะไรบ้าง สาเหตุ อาการ

ไต เป็นอวัยวะสำคัญที่ทำหน้าที่ทั้งกรองของเสียออกจากร่างกาย ควบคุมปริมาณน้ำและเกลือแร่ให้สมดุล รวมถึงระดับความเป็นกรด-ด่างและระดับความดันของเลือด ดังนั้นหากเมื่อไรที่ไตทำงานลดประสิทธิภาพลง ภาวะและโรคแทรกซ้อนต่างๆ ที่จะตามมาจึงมากขึ้น แล้วโรคเกี่ยวกับไตที่พบได้บ่อย และเป็นตัวการที่ทำให้ไตไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมีอะไรบ้าง รวมถึงเราจะสาเหตุและสังเกตอาการบ่งชี้ได้อย่างไร อ่านคำตอบได้ในบทความนี้

1. โรคไตเรื้อรัง

โรคไตเรื้อรัง (Chronic Kidney Disease) คือ ภาวะที่ไตมีประสิทธิภาพการทำงานลดลงเป็นระยะเวลาต่อเนื่อง 3 เดือนขึ้นไป ส่งผลให้สมดุลการทำงานหลายส่วนในร่างกายผิดปกติ และเกิดเป็นอาการเจ็บป่วยหลายอย่าง รวมถึงเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ตามมาได้อีกมากมาย

โรคไตเรื้อรังสามารถแบ่งออกได้ทั้งหมด 5 ระยะ แบ่งตามค่า eGFR (estimated Glomerulus Fltration Rate) หรือ ค่าอัตราการคัดกรองของเสียภายในไต ซึ่งโดยปกติจะกรองของเสียได้มากกว่า 90 มล./นาที/1.73 ตร.ม

    • โรคไตระยะที่ 1: ค่า eGFR มากกว่า 90 ไตยังกรองของเสียในระดับปกติ แต่เริ่มมีความเสื่อมเกิดขึ้นแล้ว 
    • โรคไตระยะที่ 2: ค่า eGFR อยู่ที่ 60-90 ไตเสื่อม และเริ่มมีอัตราการกรองของเสียที่ลดลง
    • โรคไตระยะที่ 3A: ค่า eGFR อยู่ที่ 45-59 ไตเสื่อมในระยะปานกลาง
    • โรคไตระยะที่ 3B: ค่า eGFR อยู่ที่ 30-44 ไตเสื่อมเข้าระยะรุนแรง 
    • โรคไตระยะที่ 4: ค่า eGFR อยู่ที่ 15-29 แพทย์จะแนะนำให้ตรวจติดตามอาการด้วยการตรวจเลือดและปัสสาวะอย่างสม่ำเสมอทุก 3 หรือ 6 เดือน
    • โรคไตระยะที่ 5: ค่า eGFR อยู่ที่น้อยกว่า 15 ไตทำงานกรองของเสียโดยอยู่ในภาวะไตวาย หรือหมายถึงไตสูญเสียการทำงานลงแล้ว สามารถเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้

อาการของโรคไตเรื้อรัง

อาการของโรคไตเรื้อรังจะค่อยทวีความรุนแรงขึ้นอย่างช้าๆ ไปตามระยะความเสื่อมของไต โดยอาการที่พบได้บ่อย ได้แก่

  • คลื่นไส้อาเจียน
  • เบื่ออาหาร
  • เหนื่อยล้าง่าย และอ่อนเพลีย
  • มีปัญหาในการนอนหลับ
  • ปัสสาวะมากขึ้นหรือน้อยลง
  • ปวดเอวหรือปวดหลังด้านข้าง
  • ความสามารถในการคิดและความจำลดลง
  • เป็นตะคริว
  • อาการบวมที่ใบหน้า ท้อง เท้า
  • ผิวแห้ง ผิวคล้ำขึ้น และมีอาการคัน
  • ความดันโลหิตสูง 
  • หายใจลำบาก หากมีของเหลวสะสมในปอด
  • เจ็บหน้าอก หากมีของเหลวสะสมรอบเยื่อหุ้มหัวใจ
  • ปัสสาวะมีเลือดปน
  • ปัสสาวะบ่อยช่วงกลางคืน
  • ในผู้หญิงอาจมีประจำเดือนขาดหรือเกิดภาวะมีบุตรยาก ส่วนในผู้ชายอาจมีความรู้สึกทางเพศและปริมาณอสุจิลดลง 
  • เกิดภาวะหรือโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ได้ เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคโลหิตจาง โรคเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ ภาวะน้ำคั่งในปอด ภาวะเลือดออกในกระเพาะอาหารและลำไส้ โรคกระดูกพรุน

สาเหตุของโรคไตเรื้อรัง

โรคไตเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น

  • โรคประจำตัวบางชนิด เป็นปัจจัยหลักที่มักทำให้เกิดโรคไตเรื้อรังตามมาในภายหลัง เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิต โรคนิ่วในไต โรคถุงน้ำในไต การติดเชื้อที่ไตซ้ำๆ การติดเชื้อที่ท่อไต โรคไตอักเสบ
  • ประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคไต
  • การมีโครงสร้างที่ผิดปกติของไต
  • อายุที่มากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่อายุ 60 ปีขึ้นไป
  • ภาวะน้ำหนักเกิน หรือโรคอ้วน
  • พฤติกรรมสูบบุหรี่

2. โรคนิ่วในไต

โรคนิ่วในไต (Kidney Stone) คือ ภาวะที่ในไตหรือในทางเดินปัสสาวะมีก้อนนิ่ว ซึ่งเป็นก้อนของแข็งเข้าไปอุดตันจนทำให้ไตทำงานผิดปกติหรือเสื่อมสภาพลง 

อาการของโรคนิ่วในไต

  • ปวดหลัง หรือปวดท้องข้างใดข้างหนึ่ง อาการปวดมักจะเป็นปวดเสียดหรือปวดบิดเป็นพักๆ 
  • คลื่นไส้ อาเจียน 
  • มีไข้ หนาวสั่น
  • ปัสสาวะสีขุ่นหรือขุ่นแดง 
  • ในผู้ป่วยบางรายอาจพบก้อนนิ่วก้อนชิ้นเล็กๆ คล้ายเศษกรวดหรือเม็ดทรายปนออกมากับปัสสาวะ
  • เกิดภาวะไตวาย ซึ่งสามารถเกิดขึ้นในโรคนิ่วในไตระยะรุนแรง

สาเหตุของโรคนิ่วในไต

โรคนิ่วในไต มีสาเหตุหลักมาจากปริมาณสารบางอย่างที่เข้มข้นเกินไป และมีมากกว่าสารตัวทำลายละลายของสารนั้นๆ จนทำให้เกิดการตกตะกอนกลายเป็นก้อนของแข็งที่สามารถขยายขนาดใหญ่ขึ้นได้ในไต เช่น สารแคลเซียม สารออกซาเลต กรดยูริก

ส่วนปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ที่พบได้บ่อยและสามารถกระตุ้นทำให้เกิดก้อนนิ่วในไต ได้แก่

  • เพศ โดยโรคนิ่วในไตมีโอกาสพบในผู้ชายได้มากกว่าผู้หญิง 
  • พฤติกรรมดื่มน้ำน้อย
  • พฤติกรรมบริโภคเนื้อสัตว์โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ปีก และเครื่องในสัตว์มากเกินไป
  • พฤติกรรมกลั้นปัสสาวะบ่อย
  • ประวัติการใช้ยาหรือวิตามินเสริมบางชนิดเป็นระยะเวลาต่อเนื่อง
  • ประวัติคนในครอบครัวเคยเป็นนิ่วในไต ผู้ใกล้ชิดทางสายเลือดคนอื่นๆ ก็จะมีความเสี่ยงพบนิ่วในไตได้มากกว่าคนทั่วไป

3. ภาวะไตวายเฉียบพลัน

ภาวะไตวายเฉียบพลัน (Acute Kidney Injury) คือ ภาวะที่ไตสูญเสียการทำงานภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว และส่งผลกระทบต่อสมดุลการทำงานหลายส่วนในร่างกาย เป็นภาวะที่มักเกิดในรูปแบบของภาวะแทรกซ้อนจากการเป็นโรคอื่นๆ อยู่ก่อน 

อาการของภาวะไตวายเฉียบพลัน

  • ปัสสาวะน้อยลง
  • หายใจลำบาก
  • มีอาการบวมที่ขา ข้อเท้า หรือเท้า
  • อ่อนเพลีย
  • เบื่ออาหาร
  • สับสน หรือมึนงง
  • คลื่นไส้อาเจียน
  • ปวดท้อง หรือปวดบริเวณด้านข้างใต้ชายโครง
  • หัวใจเต้นผิดจังหวะ
  • คันตามร่างกาย
  • เจ็บหน้าอก หรือรู้สึกหน้าอกถูกแรงกดทับ
  • เกิดอาการชัก

สาเหตุของภาวะไตวายเฉียบพลัน

ภาวะไตวายเฉียบพลันมักเกิดจาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่

  • มีเลือดไหลไปเลี้ยงไตลดลง อาจเกิดจากการสูญเสียน้ำในร่างกายมากเกินไป การติดเชื้อ การเสียเลือดมาก ความดันโลหิตต่ำ ภาวะตับแข็ง ภาวะหัวใจล้มเหลว ภาวะหัวใจวาย การมีแผลไฟไหม้ที่รุนแรง 
  • เกิดความผิดปกติที่ไตโดยตรง อาจเกิดจากการอักเสบที่ไตจากอาการแพ้ยา การติดเชื้อ การสัมผัสสารพิษ โรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง การมีลิ่มเลือดในหลอดเลือดใกล้กับไต ภาวะไขมันอุดตันในหลอดเลือดที่ไต 
  • การอุดตันที่ทางเดินปัสสาวะ อาจเกิดจากโรคนิ่วในไต โรคต่อมลูกหมากโต โรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก โรคมะเร็งลำไส้ การมีลิ่มเลือดในทางเดินปัสสาวะ การมีเนื้องอกไปกดทับท่อไต

4. โรคกรวยไตอักเสบ

โรคกรวยไตอักเสบ (Pyelonephritis) เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อที่กระเพาะปัสสาวะและลุกลามมาที่กรวยไตจนทำให้เกิดการอักเสบ โดยส่วนมากมักเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียอีโคไล (Escherichia Coli: E.Coli) ซึ่งเป็นเชื้อแบคทีเรียช่วยย่อยอาหารที่พบได้ในลำไส้ของมนุษย์

อาการของโรคกรวยไตอักเสบ

  • มีไข้
  • อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร
  • มีอาการปวด มักเป็นบริเวณท้อง บั้นเอว หรือหลังส่วนล่าง 
  • กลั้นปัสสาวะไม่อยู่
  • รู้สึกแสบขัดระหว่างปัสสาวะ
  • มีเลือดหรือมีน้ำหนองปนในปัสสาวะ
  • รู้สึกปวดปัสสาวะตลอดเวลา
  • ปัสสาวะมีกลิ่นผิดปกติ

สาเหตุของโรคกรวยไตอักเสบ

อย่างที่กล่าวไปในข้างต้นว่าโรคกรวยไตอักเสบมีสาเหตุหลักมาจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งปัจจัยกระตุ้นหลักๆ ที่เพิ่มโอกาสทำให้กรวยไตเกิดการติดเชื้อ ได้แก่

  • สรีระทางร่างกาย โรคกรวยไตอักเสบพบได้บ่อยที่สุดในผู้หญิง โดยเฉพาะผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ซึ่งเป็นกลุ่มที่พบการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะมากที่สุด เนื่องจากเพศหญิงมีท่อปัสสาวะสั้นกว่าผู้ชาย และอยู่ใกล้กับทวารหนักมากกว่า จึงส่งผลให้เชื้อแบคทีเรียมีโอกาสปนเปื้อนไปยังท่อปัสสาวะได้มากกว่าไปด้วย และอาจลุกลามขึ้นไปถึงกระเพาะปัสสาวะ เเละกรวยไต 
  • การตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายมีการหลั่งฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) ซึ่งจะทำให้ท่อปัสสาวะหย่อนและคลายตัวออก รวมถึงเพิ่มโอกาสที่มดลูกจะขยายตัวจนบีบกดทางเดินปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะไม่สามารถไหลผ่านได้เต็มที่จนทำให้เชื้อเเบคทีเรียเติบโตได้มากขึ้น 
  • อายุที่มากขึ้น โดยเฉพาะผู้หญิงที่เข้าสู่วัยสูงอายุ และร่างกายมีการผลิตฮอร์โมนเพศหญิงลดลงจนไปเพิ่มโอกาสให้เชื้อแบคทีเรียมีการเจริญเติบโตที่ผิดปกติ และส่งผลให้ร่างกายมีการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
  • โรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคเบาหวาน โรคไตเรื้อรัง โรคความดันโลหิตสูง การติดเชื้อไวรัส HIV ภาวะภูมิคุ้มกันร่างกายบกพร่อง
  • การอุดตันที่ทางเดินปัสสาวะ ทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถถ่ายปัสสาวะออกจากทางเดินปัสสาวะได้หมด และเพิ่มโอกาสให้เชื้อแบคทีเรียเติบโตและไหลย้อนกลับเข้าสู่ไต สามารถเกิดได้จากโรคเกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะอื่นๆ เช่น โรคนิ่วในไต โรคต่อมลูกหมากโต 

5. โรคมะเร็งไต

โรคมะเร็งไต (Kidney Cancer) คือ ภาวะที่เซลล์เนื้อเยื่อภายในไตและกรวยไตเกิดจากเจริญเติบโตผิดปกติและไม่สามารถควบคุมได้ จนเกิดเป็นเซลล์มะเร็งที่สามารถลุกลามแพร่กระจายจากไตไปยังอวัยวะอื่นๆ สามารถแบ่งออกได้ทั้งหมด 4 ระยะ ได้แก่

  • ระยะที่ 1: ก้อนมะเร็งมีขนาดประมาณหรือน้อยกว่า 7 เซนติเมตร และยังอยู่ภายในไต
  • ระยะที่ 2: ก้อนมะเร็งมีขนาดใหญ่กว่า 7 เซนติเมตร แต่ยังคงอยู่ภายในไต 
  • ระยะที่ 3: ก้อนมะเร็งแพร่กระจายจากไตไปยังเนื้อเยื่อ ต่อมน้ำเหลือง รวมถึงเส้นเลือดใหญ่
  • ระยะที่ 4: ก้อนมะเร็งแพร่กระจายไปยังต่อมหมวกไต ต่อมน้ำเหลืองที่อยู่ห่างออกไป รวมถึงอวัยวะอื่นๆ

อาการของโรคมะเร็งไต

โรคมะเร็งไตในระยะเริ่มต้นมักไม่แสดงอาการใดๆ จนเมื่อระยะของโรคเริ่มรุนแรงขึ้น ผู้ป่วยก็จะเริ่มมีอาการแสดงและสัญญาณที่ผิดปกติออกมา เช่น

  • เหนื่อยล้า อ่อนเพลียง่าย
  • ปัสสาวะเป็นเลือด
  • เบื่ออาหาร
  • ปวดเอวหรือปวดหลังเรื้อรัง
  • น้ำหนักลด
  • แคลเซียมในเลือดสูง

สาเหตุของโรคมะเร็งไต

ปัจจุบันยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดถึงสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งไต อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเสี่ยงต่อไปนี้สามารถกระตุ้นโอกาสที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งไตได้ 

  • อายุที่มากขึ้น ทำให้พบโรคนี้ได้บ่อยในกลุ่มผู้สูงอายุ
  • พฤติกรรมสูบบุหรี่
  • โรคอ้วนหรือภาวะน้ำหนักเกินเกณฑ์
  • โรคความดันโลหิตสูง
  • ภาวะไตวายเรื้อรัง มักพบในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะสุดท้าย
  • เพศ โดยโรคมะเร็งไตมีโอกาสพบในผู้ชายได้มากกว่า
  • ประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคมะเร็งไต

โรคไตไม่เพียงแต่ทำลายประสิทธิภาพการทำงานของไตเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบอื่นๆ ในร่างกายด้วย เช่น ระบบหัวใจและหลอดเลือด ระบบภูมิคุ้มกัน ระบบสืบพันธุ์ และสามารถสร้างอันตรายถึงขั้นทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้

เราควรใส่ใจสุขภาพไตให้ดีอยู่เสมอ และหากเกิดอาการผิดปกติใดๆ ควรรีบไปพบแพทย์ เพราะอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบอื่นๆ ในร่างกายไปด้วย

ไม่แน่ใจว่าสุขภาพไตยังแข็งแรงหรือไม่ ปรึกษาทีม HDcare ได้เลย เราพร้อมเป็นผู้ช่วยส่วนตัวดูแลสุขภาพคุณ สอบถามข้อมูลเบื้องต้นกับคุณหมอเฉพาะทาง ทำนัดปรึกษาคุณหมอได้รวดเร็ว หรือค้นหาแพ็กเกจตรวจคัดกรองโรค จาก รพ. หรือคลินิกใกล้คุณได้ทันที คลิกที่นี่เลย

Scroll to Top