คนส่วนใหญ่คุ้นเคยกับคำว่าแพ้อาหารกันอยู่แล้ว อย่างอาการแพ้ปู แพ้กุ้ง หรือแพ้ถั่ว แต่ช่วงหลังเราอาจได้ยินคำว่าภูมิแพ้อาหารแฝงกันมากขึ้น ทำให้เกิดสับสนและอาจความเข้าใจว่าเหมือนกัน
ความต่างของภูมิแพ้อาหารแฝง และอาการแพ้อาหาร
แน่นอนว่าแพ้อาหารและภูมิแพ้อาหารไม่ใช่ภาวะเดียวกัน แม้จะมีอาการบางอย่างที่อาจคล้ายกัน แต่ความรุนแรงกลับต่างกัน บทความนี้ จะพามารู้จักกับ 2 ภาวะแพ้ให้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น เพื่อความปลอดภัย
ความหมาย ภูมิแพ้อาหารแฝง และอาการแพ้อาหาร
ภูมิแพ้อาหารแฝง (Food Intolerance) เป็นภาวะที่ร่างกายไม่สามารถย่อย หรือดูดซึมส่วนประกอบบางอย่างในอาหารได้ตามปกติ เนื่องจากร่างกายขาดเอนไซม์ หรือโปรตีนที่ใช้ในการย่อยอาหารชนิดนั้น ๆ ไม่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
อาการแพ้อาหาร (Food allergy) เป็นการตอบสนองมากผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันต่อโปรตีนในอาหาร หรือส่วนประกอบของอาหารที่แพ้ เพราะระบบภูมิคุ้มกันเข้าใจว่าสารนั้นเป็นอันตราย จึงสร้างแอนติบอดีขึ้นมาทำลายสารเหล่านั้น ส่งผลให้เกิดเป็นอาการแพ้อาหารขึ้น
อาการภูมิแพ้อาหารแฝง และอาการแพ้อาหาร
ภูมิแพ้อาหารแฝงมักไม่เกิดอาการทันที จะเกิดเมื่อรับประทานอาหารชนิดนั้นบ่อย ๆ หรือในปริมาณมาก ถึงเริ่มแสดงอาการ ส่วนใหญ่จะพบหลังรับประทานอาหารไปแล้วอย่างน้อย 48 ชั่วโมง อาการจะไม่ค่อยรุนแรง แต่มักเป็นเรื้อรัง และหาสาเหตุไม่ได้ เช่น ท้องอืด ท้องเสีย ปวดท้อง และปวดศีรษะ
อาการแพ้อาหารมักเกิดทันทีหรือภายใน 2–4 ชั่วโมงหลังรับประทานอาหาร เช่น ผื่นลมพิษ ผื่นแพ้ผิวหนัง คลื่นไส้ อาเจียน ถ่ายเหลว มีน้ำมูก หอบ รวมถึงอาจเกิดอาการแพ้หลายระบบพร้อมกัน (Anaphylaxis) เช่น ผื่นลมพิษ หน้าบวม ตัวบวม แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก กลืนลำบาก หน้ามืด หมดสติ ช็อก และเสียชีวิตได้
การรักษาภูมิแพ้อาหารแฝง และอาการแพ้อาหาร
ภูมิแพ้อาหารแฝงไม่จำเป็นต้องใช้ยาแก้แพ้ เพียงแค่หลีกเลี่ยงอาหารที่แพ้ประมาณ 6 เดือน ค่อยกลับไปรับประทานอาหารชนิดนั้น แต่ควรเริ่มรับประทานในปริมาณน้อย ๆ ก่อน เพื่อดูว่ารับประทานได้แค่ไหน โดยไม่ทำให้อาการภูมิแพ้แฝงกำเริบอีก
อาการแพ้อาหารที่ไม่รุนแรงสามารถใช้ยาแก้แพ้บรรเทาอาการได้ แต่รักษาไม่หายขาด หากอาการรุนแรง หรือมีสัญญาณอาการแพ้แบบรุนแรง จำเป็นต้องพบแพทย์ทันที เพราะอาจอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้
การตรวจภูมิแพ้อาหารแฝง และอาการแพ้อาหาร
การตรวจภูมิแพ้อาหารแฝงทราบได้จากการตรวจเลือด เพื่อดูปฏิกิริยาต่ออาหารแต่ละชนิด ส่วนอาการแพ้อาหารทราบได้จากการตรวจอาการแพ้ทางผิวหนัง (Skin prick test) หรือการตรวจเลือดก็ได้เช่นกัน
คนที่ไม่แน่ใจว่าตนเองมีภาวะภูมิแพ้อาหารแฝงหรืออาการแพ้อาหารหรือไม่ การตรวจทางการแพทย์เหล่านี้ จะช่วยให้วางแผนการรับประทานอาหารได้ง่ายขึ้น และลดโอกาสเกิดอาการแพ้ที่อาจเป็นอันตรายได้
สรุปความแตกต่างภูมิแพ้อาหารแฝงกับอาการแพ้อาหาร
มาดูความแตกต่างในภาพรวมของทั้งสองอาการนี้กันอีกที
ภูมิแพ้อาหารแฝง (Food Intolerance)
- เกิดจากปัญหาทางระบบทางเดินอาหารที่เกี่ยวข้องกับการย่อยหรือดูดซึมอาหาร ไม่ได้เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน
- อาการจะเกิดขึ้นค่อยเป็นค่อยไป ไม่อันตราย ส่วนใหญ่เป็นอาการทางเดินอาหาร และอาการในระบบอื่น ๆ ที่ไม่เจาะจง เช่น ท้องอืด ท้องเสีย ปวดท้อง ผื่นลมพิษ คลื่นไส้ อาเจียน
- การตรวจหาภูมิแพ้อาหารแฝงทำได้ด้วยการตรวจเลือด
อาการแพ้อาหาร (Food Allergy)
- เกิดจากการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันที่ต่อโปรตีนในอาหาร หรือส่วนประกอบในอาหารบางอย่าง
- อาการมักเกิดขึ้นทันทีหลังรับประทานอาหาร อาการมักรุนแรงกว่าภูมิแพ้อาหารแฝง เช่น ผื่นคัน บวม แน่นหน้าอก หายใจลำบาก ช็อก หรือเสียชีวิต
- การตรวจอาการแพ้อาหารทำได้หลายวิธี หลัก ๆ เป็นการทดสอบอาการแพ้ทางผิวหนัง (Skin prick test) และการตรวจเลือด
อาการแพ้เป็นสิ่งที่หลายคนไม่รู้ และไม่ได้วางแผนรับมือ การเข้าใจความแตกต่างระหว่างภูมิแพ้อาหารแฝงและอาการแพ้อาหาร จะช่วยให้สังเกตอาการ และเตรียมรับมือได้ทันท่วงที
ภูมิแพ้อาหารแฝงไม่อันตราย แต่หากแพ้อาหารล่ะ อันตรายถึงชีวิต ตรวจก่อนรู้ก่อน แพ้แบบไหนกันแน่นะ! ลองดู แพ็กเกจตรวจภูมิแพ้และภาวะแพ้ แพ็กเกจตรวจภูมิแพ้อาหารแฝง ราคาโปรไม่ต้องใส่โค้ดลดที่ HDmall.co.th พร้อมเลือกสถานพยาบาลใกล้บ้านได้เลย