โรคต้อกระจก อันตรายไหม รู้ได้ยังไงว่าเป็น ทำให้ตาบอดได้หรือเปล่า เป็นแล้วต้องผ่าตัดเท่านั้นหรือใช้วิธีหยอดยาได้ไหม กินอะไรแล้วรักษาได้บ้าง สารพัดข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องต้อกระจก รวมเอาไว้ที่นี่แล้ว
สารบัญ
1. โรคต้อกระจก อันตรายไหม?
ตอบ: โรคต้อกระจก จะทำให้การมองเห็นของผู้ป่วยบกพร่องไป เช่น มองเห็นในที่สว่างลดลง มองเห็นแสงกระจายในเวลากลางคืน มองเห็นภาพซ้อน เห็นสีต่างๆ ผิดเพี้ยนไปจากปกติ ซึ่งอาการเหล่านี้ ส่งผลต่อชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะการขับขี่ยานพาหนะ ทั้งกลางวันและกลางคืนลำบากขึ้น และเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
นอกจากนี้โรคต้อกระจกที่ไม่ได้รับการรักษา ยังสามารถพัฒนาเป็นโรคต้อหิน ซึ่งเป็นโรคต้อที่มีความร้ายแรง ทำให้การมองเห็นของผู้ป่วยแคบลงทีน้อยและสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวรได้ในที่สุด
2. รู้ได้ยังไงว่าเป็นโรคต้อกระจก?
ตอบ: อาการบ่งชี้ที่เด่นชัดของโรคต้อกระจกมีดังต่อไปนี้
- สายตามัว ภาพที่เห็นจะคล้ายกับมีหมอกหรือฝ้ามาบดบัง
- มองเห็นในที่สว่างได้น้อย แต่มองในที่มืดหรือสลัวได้ดีกว่า
- เมื่อเห็นแสงไฟในเวลากลางคืนจะเห็นเป็นลักษณะของแสงแตกกระจาย
- สายตาสั้นขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ต้องเปลี่ยนแว่นสายตาบ่อย
- หากส่องกระจกจะเห็นฝ้าขาวบริเวณตรงรูม่านตา
หากพบอาการเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม
3. โรคต้อกระจก ทำให้ตาบอดไหม?
ตอบ: โรคต้อกระจกในระยะรุนแรงหรือต้อกระจกขุ่นขาวมากๆ สามารถลุกลามจนกลายเป็นโรคต้อหิน ทำให้ความกว้างในมองเห็นของผู้ป่วยค่อยๆ แคบภายใน 5-10 ปี ซึ่งกินระยะเวลานาน และหากผู้ป่วยไม่ทันสังเกตตนเองจนรีบทำการรักษา ก็สามารถสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวรได้
4. โรคต้อกระจก เป็นแล้วต้องผ่าตัดไหม?
ตอบ: วิธีรักษาโรคต้อกระจกที่ได้รับการยอมรับในปัจจุบันมีเพียงวิธีเดียว คือ วิธีผ่าตัด เพื่อเปลี่ยนเลนส์ตาของผู้ป่วยที่ขุ่นมัว เป็นเลนส์แก้วตาเทียม โดยการผ่าตัดรักษาโรคต้อกระจกนี้ ยังช่วยแก้ไขปัญหาค่าสายตาสั้น ยาว และเอียงให้กับผู้ป่วยได้ด้วย ขึ้นอยู่กับชนิดของเลนส์แก้วตาเทียมที่เลือกใช้
ส่วนการรักษาด้วยวิธีใช้ยา ปัจจุบันการแพทย์ยังไม่ได้ยอมรับวิธีนี้ให้เป็นวิธีที่ทำให้โรคต้อกระจกหายหรือชะลออาการของโรคได้
5. ใส่แว่นแทนผ่าตัดรักษาโรคต้อกระจกได้ไหม?
ตอบ: สำหรับผู้ป่วยโรคต้อกระจกในระยะแรกๆ ผู้ป่วยยังสามารถใส่แว่นสายตา แว่นกันแดด เพื่อบรรเทาอาการได้บ้าง
แต่การใส่แว่นไม่สามารถรักษาโรคต้อกระจกได้ ดังนั้นเมื่อตรวจพบโรคนี้ และระยะของโรคอยู่ในระดับปานกลางขึ้นไปแล้ว แพทย์ก็จะแนะนำให้ผู้ป่วยผ่าตัดเพื่อรักษาโรคต้อกระจก
6. โรคต้อกระจก กินอะไรหาย?
ตอบ: ยังไม่มีอาหารใด ที่ช่วยรักษาโรคต้อกระจกได้ แต่ผู้ป่วยยังสามารถกินอาหารกลุ่มที่มีวิตามินหรือแร่ธาตุช่วยบำรุงสุขภาพสายตาให้แข็งแรงได้ เช่น
- วิตามินเอ เสริมเกราะป้องกันกระจกตา ช่วยด้านการมองเห็นภาพในที่มืดหรือแสงน้อย มักพบในผักผลไม้สีเหลือง ส้ม หรือเขียว เช่น ฟักทอง แครอท มะละกอ แคนตาลูป รวมถึงในนม ไข่แดง ตับ
- วิตามินซี ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ พบได้ในอาหารประเภทผักและผลไม้ เช่น ส้มโอ ฝรั่ง กีวี ผักโขม คะน้า
- กรดไขมันโอเมกา 3 (Omega-3 Fatty Acid) ช่วยบำรุงสมองและจอประสาทตา พบได้มากในอาหารประเภทเนื้อปลา เช่น ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน ปลาทู รวมถึงพืชตระกูลถั่ว เช่น เมล็ดแฟลกซ์ ถั่วพีแคน ถั่วเฮเซลนัท
- แร่ธาตุสังกะสี (Zinc) ช่วยชะลอความเสื่อมของจอประสาทตา และยังเสริมภูมิคุ้มกันร่างกาย พบได้ในอาหารทะเล เช่น หอยนางรม หอยแมลงภู่ กุ้ง ปู ปลาซาร์ดีน ปลาแซลมอน รวมถึงตับ ขนมปังธัญพืช ถั่วดำ ถั่วแดง เมล็ดฟักทอง
7. ถ้าเป็นโรคต้อกระจกแล้วยังทำเลสิกได้ไหม?
ตอบ: แพทย์จะไม่แนะนำให้ผู้ป่วยโรคต้อกระจกทำเลสิก เนื่องจากการทำเลสิกเป็นการยิงเลเซอร์ลงไปที่ชั้นกระจกตา ซึ่งไม่ได้ช่วยเปลี่ยนแปลงความขุ่นมัวของเลนส์ตาอันเกิดจากโรคต้อกระจก ดังนั้นถึงแม้จะทำเลสิกไปแล้ว แต่การมองเห็นของผู้ป่วยก็จะยังคงพร่าเบลออยู่เช่นเดิม
8. โรคต้อกระจก หยอดน้ำตาเทียมได้ไหม?
ตอบ: หากเป็นการหยอดน้ำตาเทียมเพื่อรักษาโรคต้อกระจก ทางการแพทย์ยังไม่ได้ยอมรับการรักษาด้วยวิธีนี้เป็นวิธีรักษามาตรฐาน หากตรวจพบโรค จะแนะนำให้รักษาด้วยวิธีผ่าตัดเท่านั้น
แต่ในกรณีที่ต้องการหยอดน้ำตาเทียมเพื่อบรรเทาอาการตาแห้ง ซึ่งเกิดขึ้นได้หลังผ่าตัดต้อกระจก ผู้ป่วยสามารถหยอดได้ แต่ต้องหยอดตามคำแนะนำและด้วยยาที่สั่งจ่ายโดยแพทย์เท่านั้น
โรคต้อกระจก นอกจากจะส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวันแล้ว ยังอาจก่อให้เกิดโรคแทรกซ้อนที่ทำให้เสี่ยงสูญเสียการมองเห็นได้ด้วย ดังนั้นเราควรดูแลสุขภาพดวงตา และหมั่นสังเกตคุณภาพการมองเห็นอย่างสม่ำเสมอ
ยังมีคำถามเรื่องโรคต้อกระจก หรือรู้สึกตนเองมีอาการ แต่ไม่รู้จะถามใคร ปรึกษาทีม HDcare ได้เลย เราพร้อมเป็นผู้ช่วยส่วนตัวดูแลสุขภาพคุณ สอบถามข้อมูลเบื้องต้นกับคุณหมอเฉพาะทาง ทำนัดปรึกษาคุณหมอได้รวดเร็ว หรือค้นหาแพ็กเกจตรวจคัดกรองโรคต้อกระจก จาก รพ. หรือคลินิกใกล้คุณได้ทันที คลิกที่นี่เลย
