Default fallback image

ผ่าตัดสอดใส่หลอดเลือดเทียมผ่านสายสวน (EVAR) กับ นพ. ชินะภูมิ ด้วยบริการจาก HDcare

ปวดหน้าอก ปวดท้อง แน่นหน้าอกแบบเป็นๆ หาย ๆ หรือคลำเจอก้อนเต้นตามจังหวะหัวใจที่ท้อง สัญญาณเหล่านี้สามารถบ่งชี้ถึงอาการของโรคหลอดเลือดแดงโป่งพองได้ ซึ่งเป็นโรคที่พบได้บ่อยในกลุ่มผู้สูงอายุ และยังเกิดได้จากหลายปัจจัยที่ยากจะควบคุม นอกจากนี้หากไม่รีบรักษา ก็อาจถึงแก่ชีวิตแบบฉับพลันได้

ซึ่งในปัจจุบันได้มีการคิดค้นเทคนิคการผ่าตัดเพื่อรักษาโรคหลอดเลือดแดงโป่งพองแบบใหม่ขึ้น เพื่อให้คนไข้มีแผลผ่าตัดที่เล็กไม่กี่เซนติเมตร เจ็บแผลน้อยลง รวมถึงฟื้นตัวหลังผ่าตัดได้เร็ว นั่นก็คือ “การผ่าตัดสอดใส่หลอดเลือดเทียมผ่านสายสวน”

ร่วมเจาะลึกเทคนิคการผ่าตัดรูปแบบนี้พร้อมกัน ผ่านการให้ข้อมูลโดย “หมอบอส” นพ. ชินะภูมิ วุฒิวณิชย์ ศัลยแพทย์เฉพาะทางด้านการศัลยกรรมหัวใจและทรวงอก หนึ่งในทีมแพทย์จากบริการ HDcare

อ่านประวัติหมอบอสได้ที่นี่ [รู้จัก “หมอเบส” และ “หมอบอส” 2 คุณหมอฝาแฝดกับความเชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดหลอดเลือด หัวใจ และทรวงอก]

สารบัญ

โรคหลอดเลือดแดงโป่งพอง คืออะไร?

โรคหลอดเลือดแดงโป่งพอง (Aortic Aneurysm) คือ ภาวะที่ขนาดของหลอดเลือดแดงขยายตัวใหญ่ขึ้น ในขณะที่ยังต้องรับแรงดันจากการไหลเวียนของเลือดเท่าเดิม รวมถึงมีการอ่อนกำลังลงจากความเสื่อมตัวของผนังหลอดเลือด จนเสี่ยงทำให้หลอดเลือดปริแตก และทำให้คนไข้มีอาการผิดปกติหรือถึงขั้นเสียชีวิตได้

โดยตำแหน่งที่มักพบรอยโรคหลอดเลือดแดงโป่งพองจะแบ่งออกได้ 2 ตำแหน่ง ได้แก่ 

  • หลอดเลือดแดงในช่องอก
  • หลอดเลือดแดงในช่องท้อง

อาการของโรคหลอดเลือดแดงโป่งพอง

อาการของโรคหลอดเลือดแดงโป่งพองจะแตกต่างกันไปตามตำแหน่งที่เกิดความผิดปกติขึ้น 

  • โรคหลอดเลือดแดงโป่งพองบริเวณช่องอก 
      • ปวดหน้าอกหรือแน่นหน้าอกแบบเป็น ๆ หาย ๆ
      • หายใจไม่อิ่มหรือหายใจไม่สุดแบบเป็น ๆ หาย ๆ
      • ปวดหลังส่วนบนแบบเป็น ๆ หาย ๆ
      • เสียงแหบ โดยเกิดจากหลอดเลือดไปกดเบียดเส้นเสียง
      • กลืนอาหารลำบาก โดยเกิดจากหลอดเลือดไปกดเบียดหลอดอาหาร
  • โรคหลอดเลือดแดงโป่งพองบริเวณช่องท้อง
    • ปวดท้องแบบเป็น ๆ หาย ๆ
    • คลำพบก้อนใหญ่แถวช่องท้อง และเต้นตามจังหวะการเต้นของหัวใจ
    • ปวดหลังส่วนล่างแบบเป็น ๆ หาย ๆ

นอกจากอาการผิดปกติที่สังเกตได้ ในคนไข้บางรายก็อาจไม่มีอาการผิดปกติใด ๆ  แต่ตรวจพบโรคนี้จากผลเอกซเรย์ระหว่างการตรวจสุขภาพประจำปี และพบหลอดเลือดแดงใหญ่มีเงาใหญ่ขึ้นผิดปกติ 

ซึ่งเมื่อตรวจพบความผิดปกติไม่ว่าจะด้วยอาการแสดง หรือพบโดยบังเอิญระหว่างตรวจสุขภาพ แพทย์ก็จะแนะนำให้คนไข้รับการตรวจเพิ่มเติมด้วยการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ หรือการทำ CT Scan หรือต่อไป

ใครเสี่ยงเป็นโรคนี้บ้าง?

เราทุกคนมีโอกาสเป็นโรคหลอดเลือดแดงโป่งพองกันได้ทั้งหมด เนื่องจากโดยทั่วไป หลอดเลือดแดงใหญ่ในร่างกายของมนุษย์จะขยายขนาดใหญ่ขึ้นทุกปีอยู่แล้ว เพียงแต่จะมีกลุ่มผู้เสี่ยงบางกลุ่มที่มีโอกาสหลอดเลือดแดงขยายใหญ่ภายในเวลาอันรวดเร็วกว่าปกติ และเสี่ยงเกิดโรคนี้ได้มากกว่า ได้แก่

  • กลุ่มผู้ที่สูบบุหรี่จัด ซึ่งเป็นพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้ผนังหลอดเลือดแดงอ่อนแอลง และเกิดการโป่งพองจนปริแตกได้ง่ายขึ้น
  • กลุ่มคนไข้โรคความดันโลหิตสูง และไม่รักษาระดับความดันให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
  • กลุ่มคนไข้โรคไตที่ต้องฟอกไต ซึ่งเป็นโรคที่ทำให้ผนังหลอดเลือดอ่อนแอได้ง่ายขึ้นเช่นกัน
  • กลุ่มผู้ที่มีพ่อแม่เป็นโรคหลอดเลือดแดงโป่งพองและถ่ายทอดทางพันธุกรรมมาสู่รุ่นลูก โดยคนกลุ่มนี้จะตรวจพบหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพองหรือปริแตกได้ตั้งแต่อายุยังน้อย 

หากหยุดสูบบุหรี่จะช่วยหยุดหลอดเลือดแดงไม่ให้โป่งพองได้หรือไม่?

ไม่ได้ เนื่องจากหลอดเลือดแดงในร่างกายมนุษย์จะมีการขยายตัวขึ้นทุกปีอยู่แล้ว เพียงแต่การหยุดสูบบุหรี่จะช่วยลดปัจจัยเร่งทำให้หลอดเลือดแดงไม่ขยายตัวเร็วเกินไปจนเสี่ยงปริแตกได้อย่างฉับพลัน

การตรวจโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพองทำได้อย่างไร?

การตรวจโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพองอย่างแม่นยำต้องใช้วิธีการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ หรือการทำ CT Scan ในการตรวจวินิจฉัยเท่านั้น

โรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง หากไม่รีบรักษาหรือดูแลอาการอย่างถูกวิธี จะส่งผลกระทบอย่างไร?

การประวิงเวลาไม่รักษาโรคหลอดเลือดแดงโป่งพองจะทำให้อาการผิดปกติของคนไข้รุนแรงขึ้นกว่าเดิม เช่น อาการแน่นหน้าอก ปวดท้อง ปวดหลัง และทำให้ความเสี่ยงที่เส้นเลือดแดงปริแตกเพิ่มมากขึ้น

หรือในกรณีที่แย่ที่สุดก็คือ หลอดเลือดแดงใหญ่ได้ปริแตกอย่างฉับพลัน ทำให้คนไข้เสียชีวิตอย่างฉับพลัน โดยจะหมดสติไปอย่างไม่ทราบล่วงหน้า และไม่สามารถปั๊มหัวใจเพื่อกู้ชีพได้ 

การรักษาโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง แบ่งได้กี่รูปแบบ?

การรักษาโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพองแบ่งออกได้ 2 วิธีหลัก ๆ ได้แก่

  • การผ่าตัดแบบเปิด
  • การผ่าตัดใส่หลอดเลือดเทียมแบบสายสวน 

ผ่าตัดสอดใส่หลอดเลือดเทียมผ่านสายสวน (EVAR) คืออะไร?

การผ่าตัดสอดใส่หลอดเลือดเทียมผ่านสายสวน คือ การผ่าตัดเปิดแผลบริเวณขาหนีบ 2 ข้างเพื่อทำทางเบี่ยง หรือบายพาสให้กับหลอดเลือดแดงใหญ่ที่โป่งพอง ผ่านการใช้ “สายสวนหลอดเลือด” หรือที่เรียกได้อีกชื่อว่า หลอดเลือดเทียมชนิดขดลวดค้ำยัน ทำให้หลอดเลือดแดงใหญ่เดิมไม่โป่งพองเพิ่มขึ้นหรือฝ่อตัวลง และลดโอกาสการปริแตกจนทำให้คนไข้เสียชีวิตได้

การผ่าตัดสอดใส่หลอดเลือดเทียมผ่านสายสวนเป็นการผ่าตัดผ่านทางหลอดเลือด ไม่จำเป็นต้องผ่าเปิดแผลใหญ่แบบการผ่าตัดแบบเปิดแต่อย่างใด ทำให้คนไข้มีแผลขนาดเล็กลง และเจ็บแผลได้น้อยลงกว่าเดิมมากด้วย

ประโยชน์ของหลอดเลือดเทียม มีอะไรบ้าง?

  • ลดโอกาสปริแตกของหลอดเลือดแดงใหญ่ในอนาคต
  • สามารถผ่าเปิดแผลบริเวณขาหนีบในขนาดเพียงข้างละไม่เกิน 2 เซนติเมตรได้ ทำให้เจ็บแผลได้น้อยกว่า
  • ระยะเวลานอนโรงพยาบาลสั้นขึ้น โดยหากไม่มีอาการแทรกซ้อน เพียง 3-4 วันหลังผ่าตัดก็สามารถเดินทางกลับบ้านได้

สายสวนหลอดเลือดแดงใหญ่แบ่งออกได้กี่แบบ?

สายสวนหลอดเลือดแดงใหญ่ หรือหลอดเลือดเทียมชนิดขดลวดค้ำยัน เป็นวัสดุทางการแพทย์ที่ผลิตขึ้นเพื่อทำหน้าที่ค้ำยันหลอดเลือดที่มีการโป่งพองจนเสี่ยงปริแตก โดยสามารถแบ่งออกได้ 2 รูปแบบตามตำแหน่งที่มักตรวจพบการโป่งของหลอดเลือดแดงใหญ่ ได้แก่

  • สายสวนหลอดเลือดแดงที่ช่องอก หรือ TEVAR (Thoracic Aortic Aneurysm Repair)
  • สายสวนหลอดเลือดแดงที่ช่องท้อง หรือ EVAR (Endovascular Aoritc Aneurysm Repair)

ใครเหมาะต่อการผ่าตัดสอดใส่หลอดเลือดเทียมผ่านสายสวน

  • กลุ่มคนไข้ที่แพทย์พิจารณาจากผลการตรวจ CT Scan และประเมินว่า สามารถรักษาด้วยการใส่สายสวนค้ำยันทางการแพทย์ได้
  • กลุ่มคนไข้ที่อายุมาก มีโรคประจำตัว หรือร่างกายไม่แข็งแรง เนื่องจากการผ่าตัดสอดใส่หลอดเลือดเทียมจะช่วยลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน หรือผลข้างเคียงได้มากกว่า
  • กลุ่มผู้ที่มีอาการผิดปกติจากหลอดเลือดแดงใหญ่ที่โป่งพองไม่ว่าที่ช่องอกหรือช่องท้อง เช่น
    • แน่นหน้าอกแบบเป็น ๆ หาย ๆ
    • เสียงแหบ
    • กลืนอาหารลำบาก
    • ปวดท้องแบบเป็น ๆ หาย ๆ 
    • คลำพบก้อนที่ช่องท้องซึ่งเต้นตามจังหวะหัวใจ
    • ปวดหลังส่วนล่างแบบเป็น ๆ หาย ๆ 
  • กลุ่มผู้ที่ไม่มีอาการ แต่ตรวจสุขภาพและพบการโป่งพองของหลอดเลือดแดงใหญ่ หากพิจารณาจากผลการตรวจเพิ่มเติมแล้วสามารถผ่าตัดได้ แพทย์ก็จะแนะนำให้ผ่าตัดเช่นกัน

จุดเด่นของการผ่าตัดสอดใส่หลอดเลือดเทียมผ่านสายสวน 

  • โอกาสเสียเลือดน้อยกว่า ทำให้การผ่าตัดมีความปลอดภัยกว่า 
  • แผลผ่าตัดเล็กกว่า โดยมีขนาดเพียงข้างละไม่เกิน 2 เซนติเมตร เทียบกับแผลผ่าตัดแบบเปิด ซึ่งจะมีขนาดเกินกว่า 10 เซนติเมตรขึ้นไป ไม่ว่าจะผ่าตัดที่ช่องอกหรือช่องท้องก็ตาม
  • โอกาสเจ็บแผลน้อยกว่ามาก

ผลข้างเคียงจากการผ่าตัดสอดใส่หลอดเลือดเทียมผ่านสายสวน มีอะไรบ้าง?

ผลข้างเคียงจากการผ่าตัดใส่หลอดเลือดเทียมจะแตกต่างไปตามตำแหน่งที่ทำการผ่าตัด 

  • การผ่าตัดที่ช่องอก
      • ภาวะแขน 2 ข้างอ่อนแรงหลังผ่าตัด โดยเกิดจากเลือดจะไหลไปเลี้ยงไขสันหลังน้อยลงหลังผ่าตัด 
      • ภาวะอัมพฤกษ์หรืออัมพาต เนื่องจากในระหว่างผ่าตัด แพทย์จะต้องใส่สายค้ำยันต่าง ๆ เข้าหลอดเลือดแดงใหญ่ และในบางครั้งก็มีโอกาสที่ตะกรันหรือแคลเซียมซึ่งอยู่ด้านในหลอดเลือดแดงใหญ่จะหลุดไปอุดตันอยู่ที่หลอดเลือดซึ่งทำหน้าที่เลี้ยงสมอง แต่มีโอกาสเกิดได้ค่อนข้างน้อย
  • การผ่าตัดที่ช่องท้อง
    • หลอดเลือดแดงใหญ่ที่โป่งพองเกิดการรั่วซึม โดยเกิดจากหลอดเลือดเทียมที่ใส่เข้าไปไม่ได้วางแนบสนิทกับผนังหลอดเลือดแดงใหญ่ นี่จึงเป็นอีกสาเหตุที่แพทย์จะต้องมีการติดตามอาการของคนไข้หลังผ่าตัดอยู่เสมอ เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่า หลอดเลือดแดงใหญ่ที่โป่งพองมีการยุบตัวลงหรือไม่ หรือมีขนาดโป่งพองขึ้นอีกหลังผ่าตัด

หลังจากผ่าตัด มีโอกาสเป็นซ้ำได้หรือไม่?

มีโอกาส แต่ส่วนมากมักจะเป็นที่ตำแหน่งอื่นที่ยังไม่เคยรับการผ่าตัดมาก่อน แต่ขณะเดียวกัน หากคนไข้ยังไม่มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่กระตุ้นให้หลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพองหลังการผ่าตัด ก็มีโอกาสที่จะเกิดหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพองซ้ำได้ทั้งตำแหน่งที่เคยผ่าตัด และยังไม่เคยผ่าตัดมาก่อน 

ด้วยเหตุผลนี้หลังการผ่าตัด แพทย์จึงจะนัดคนไข้ให้กลับมาตรวจติดตามอาการอยู่เรื่อย ๆ เพื่อให้แน่ใจว่า ไม่มีหลอดเลือดแดงส่วนอื่นหรือตำแหน่งเดิมโป่งพองขึ้นอีก

รายละเอียดการผ่าตัดที่ควรรู้

  • เป็นการผ่าตัดที่ต้องดมยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์
  • หลังผ่าตัดคนไข้จะนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลประมาณ 3-4 วัน ขึ้นอยู่กับการประเมินจากแพทย์
  • ตำแหน่งของแผลจะอยู่ที่ขาหนีบทั้ง 2 ข้าง โดยหลังผ่าตัดเปิดแผล แพทย์ก็จะใส่ขดลวดหรือหลอดเลือดเทียมเข้าทางหลอดเลือดที่ขาหนีบ
  • ระยะเวลาผ่าตัดอยู่ที่ประมาณ 2-3 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนในการผ่าตัด
  • หลังผ่าตัดเสร็จสิ้น แพทย์จะเย็บปิดแผลและปิดแผลด้วยวัสดุกันน้ำ
  • หลังกลับไปพักฟื้นที่บ้าน คนไข้สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ สามารถเดินทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ สามารถให้แผลโดนน้ำเบา ๆ ได้

การใส่หลอดเลือดเทียมที่ช่องอกหรือช่องท้อง มีจำนวนการใส่อุปกรณ์ต่างกันหรือไม่?

การผ่าตัดใส่หลอดเลือดเทียมไม่ว่าที่ช่องอกหรือช่องท้องจะมีจำนวนแผลเท่ากัน แต่จำนวนอุปกรณ์ที่ใส่จะแตกต่างกัน โดยหากผ่าตัดที่ช่องอก จำนวนของหลอดเลือดเทียมที่ใส่เข้าไปจะอยู่ที่ประมาณ 1-2 ชิ้น แต่หากผ่าตัดที่ช่องท้อง จำนวนของหลอดเลือดเทียมที่ใส่เข้าไปจะอยู่ที่ประมาณ 3 ชิ้น 

ระหว่างผ่าตัด แพทย์จะมองเห็นหลอดเลือดภายในร่างกายคนไข้ได้อย่างไร?

ก่อนการผ่าตัดใส่หลอดเลือดเทียม แพทย์จะฉีดสีเข้าหลอดเลือดแดงใหญ่ของคนไข้ และใช้เครื่องฉายรังสีทางการแพทย์ หรือเครื่อง Fluoroscopy ในการช่วยชี้ตำแหน่งของหลอดเลือดแดงใหญ่ที่โป่งพอง ทำให้สามารถผ่าตัดวางหลอดเลือดเทียมได้อย่างแม่นยำ 

ระหว่างการผ่าตัด ต้องระมัดระวังอะไรเป็นพิเศษบ้าง?

ระหว่างการผ่าตัด แพทย์จะต้องระมัดระวังตั้งแต่การใส่หลอดเลือดเทียมเข้าขาหนีบ เนื่องจากหลอดเลือดของคนไข้บางรายจะมีขนาดเล็ก ทำให้ต้องใส่อย่างนุ่มนวลเพื่อป้องกันไม่ให้หลอดเลือดแดงฉีกขาด รวมถึงต้องมีจังหวะในการปล่อยหลอดเลือดเทียมอย่างถูกตำแหน่ง มิฉะนั้นอาจทำให้มีเลือดไหลเข้าไปในกระเปาะหลอดเลือดแดงใหญ่ที่โป่งพองได้

หลังการผ่าตัดต้องพักฟื้นกี่วัน

หลังการผ่าตัด แพทย์จะให้คนไข้นอนโรงพยาบาลประมาณ 3-4 วัน หากไม่มีภาวะแทรกซ้อนใด ๆ เกิดขึ้นก็สามารถเดินทางกลับบ้านได้ 

ในส่วนของการใช้ชีวิตประจำวันช่วงแรกหลังผ่าตัด คนไข้สามารถเดินทำงานหรือกิจกรรมเบา ๆ ได้ตามปกติ สามารถทำงานบ้านเบา ๆ ได้ เดินเข้าห้องน้ำเองได้ แต่ในช่วง 1 สัปดาห์แรกจะยังต้องระมัดระวังไม่ให้แผลกระทบกระเทือน รวมถึงงดการถูสบู่ที่แผลแรง ๆ จนเสี่ยงทำให้แผลรั่วซึม แต่สามารถให้แผลโดนน้ำเบา ๆ ได้

คนไข้ต้องเปลี่ยนผ้าก๊อสปิดแผลให้แห้งและสะอาดอยู่เสมอ โดยสามารถไปทำแผลที่โรงพยาบาลหรือสถานีอนามัยใกล้บ้านได้ตามสะดวก

อาการผิดปกติที่ควรรีบกลับมาพบแพทย์

อาการผิดปกติหลังผ่าตัดที่คนไข้ควรรีบกลับมาพบแพทย์โดยทันจะแบ่งออกได้ 2 รูปแบบ

  • อาการที่สังเกตได้จากแผลผ่าตัด โดยหากพบแผลบวมแดง เลือดออกไม่หยุด มีน้ำหนองไหล หรือมีของเหลวรั่วซึมจนชุ่มผ้าก๊อสปิดแผล ให้รีบกลับมาพบแพทย์ทันที เนื่องจากมีโอกาสที่จะเกิดอาการติดเชื้อ
  • อาการผิดปกติที่ยังไม่ดีขึ้นหลังผ่าตัด หากยังมีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่อิ่ม กลืนอาหารลำบาก ปวดหน้าอกหรือช่องท้องไม่หาย ยังคงคลำพบก้อนโตและเต้นตามจังหวะของหัวใจอยู่ ให้รีบกลับมาพบแพทย์โดยทันที

หลังผ่าตัด หากพบความผิดปกติอีกสามารถผ่าตัดที่จุดเดิมหรือจุดอื่นได้หรือไม่?

สามารถผ่าตัดได้อีกทั้งที่ตำแหน่งเดิมหรือตำแหน่งอื่น ๆ ที่หลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพองในภายหลัง

การดูแลตนเองเพื่อป้องกันไม่ให้เป็นโรคหลอดเลือดแดงโป่งพอง ทำได้อย่างไรบ้าง?

การป้องกันไม่ให้เผชิญกับโรคหลอดเลือดแดงโป่งพองสามารถทำได้ผ่านการลดปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคนี้ ได้แก่

  • หมั่นวัดความดันโลหิต หรือหากมีงบประมาณก็ควรซื้อเครื่องวัดความดันติดไว้ที่บ้าน โดยให้ระมัดระวังอย่าให้เลขความดันโลหิตตัวบนเกินกว่า 140 ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงอายุใดก็ตาม
  • งดการสูบบุหรี่ หรือหากกำลังสูบบุหรี่ ให้พยายามเลิกอย่างถาวร เนื่องจากบุหรี่เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ผนังหลอดเลือดอ่อนแอลง และโป่งพองจนปริแตกได้ง่าย
  • หากมีโรคประจำตัว เช่น โรคไต โรคเบาหวาน ให้คุมอาการของโรคให้อยู่ในระดับที่ไม่เป็นอันตราย หากเป็นโรคไตก็ควรประคองอาการอย่าให้ถึงขั้นต้องล้างไต เนื่องจากผู้ที่มีโรคประจำตัวกลุ่มนี้มักมีโอกาสเป็นโรคหลอดเลือดแดงโป่งพองเป็นภาวะแทรกซ้อนควบคู่ด้วย

ผ่าตัดสอดใส่หลอดเลือดเทียมผ่านสายสวน (EVAR) กับ นพ. ชินะภูมิ ด้วยบริการจาก HDcare

มีอาการแน่นหน้าอก ปวดท้องแบบเป็น ๆ หาย ๆ คลำเจอก้อนเต้นตามจังหวะหัวใจที่ท้อง ไม่แน่ใจว่า มีสาเหตุมาจากอะไร หรือได้รับการวินิจฉัยแล้วว่า เป็นโรคหลอดเลือดแดงโป่งพอง แต่ยังไม่แน่ใจถึงแนวทางการรักษา 

แอดมิน HDcare สามารถเป็นตัวกลางช่วยประสานงานนัดปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการศัลยกรรมหัวใจและทรวงอกให้กับคุณ โดยสามารถนัดคุยได้ทั้งช่องทางออนไลน์ และที่โรงพยาบาล โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ

และหากได้รับการวินิจฉัยให้รักษาด้วยวิธีผ่าตัด ก็สามารถทำนัดผ่าตัดกับแอดมินของ HDcare ได้ทันที โดยบริการ HDcare เป็นบริการผ่าตัดรักษาโรคพร้อมพยาบาลผู้ช่วยส่วนตัว ที่จะคอยอยู่เป็นเพื่อนและเป็นผู้ประสานงานระหว่างตัวคนไข้กับโรงพยาบาลให้ พร้อมช่วยตอบทุกคำถามหรือข้อสงสัยในระหว่างที่พักอยู่ที่โรงพยาบาล

โรคหลอดเลือดแดงโป่งพองเป็นโรคอันตรายที่สามารถทำให้คนไข้เสียชีวิตได้อย่างฉับพลัน ดังนั้นอย่ารอช้าที่จะรับการตรวจวินิจฉัยเมื่อสงสัยถึงอาการ หรือรับการรักษาทันทีที่ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์แล้ว

สอบถามทุกประเด็นเกี่ยวกับการผ่าตัดที่สงสัย กับทางทีมของ HDcare จนกว่าจะมั่นใจ และหากต้องการผู้ช่วยประสานงานด้านใดในโรงพยาบาล หรืออยากสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับบริการ HDcare สามารถพูดคุยผ่านทางไลน์ @HDcare ได้เลย

Scroll to Top