ไฝ และขี้แมลงวันเป็นปัญหาผิวที่พบได้บ่อย คนเราอาจมีไฝหรือขี้แมลงวันขึ้นตามใบหน้าและร่างกายได้มาถึง 10–45 จุดเลยทีเดียว แล้วไฝ ขี้แมลงวันเหล่านี้เกิดได้อย่างไร อันตรายไหม กลายเป็นมะเร็งหรือเปล่า อยากเอาออก วิธีไหนปลอดภัยบ้าง ไปดูกัน!
สารบัญ
ขี้แมลงวัน VS ไฝ เหมือนกันไหม ต่างกันตรงไหน
คนทั่วไปอาจจะแยกไฝและขี้แมลงวันออกจากกัน แต่ทางการแพทย์แล้ว จัดทั้งสองอย่างเป็นสิ่งเดียวกัน เรียกว่า ไฝ
ไฝเกิดจากการกระจุกตัวของเซลล์สร้างสีที่เรียกว่า เมลาโนซาย (Melanocyte) ที่มีหน้าที่สร้างเม็ดสีที่เรียกว่า เมลานิน (Melanin) ที่เป็นตัวการทำให้เกิดสีผิว ทำให้เห็นเป็นจุดหรือรอยสีเข้มที่ผิวหนัง สีของไฝอาจจะแต่ต่างกันไปตามสีผิวของแต่ละคน อย่างสีแดง สีน้ำตาล หรือสีดำ
ถ้าแบ่งประเภทใหญ่ ๆ มักจะแบ่งได้ 2 ประเภท คือ
- ไฝตั้งแต่แรกเกิด เกิดจากการกระจุกตัวของเซลล์สร้างสีในชั้นหนังแท้ มักมีขนาดใหญ่ ตั้งแต่ 5 มิลลิเมตรขึ้นไป เป็นก้อนนูน และอาจมีขนขึ้นบริเวณไฝ
- ไฝที่เกิดภายหลัง เกิดจากการกระจุกตัวของเซลล์สร้างสีในชั้นหนังกำพร้า มักเป็นบริเวณที่โดนแสงแดด ขนาดเล็ก ผิวเรียบ ส่วนมากจะมีขนาดเล็กกว่า 5 มิลลิเมตร คนส่วนมากจะเรียกว่า ขี้แมลงวันนั่นเอง
ไฝ ขี้แมลงวัน อันตรายไหม ต้องกำจัดออกหรือเปล่า
ไฝเกิดขึ้นได้ทุกส่วนบนร่างกาย สามารถเปลี่ยนรูปร่างได้ภายหลัง เมื่ออายุมากขึ้นมักมีขนาดเล็กลง และอาจจางหายไปได้
สาเหตุคาดว่าเกิดจากการที่ผิวหนังโดนกระตุ้นจากปัจจัยต่าง ๆ จนไปกระตุ้นการสร้างเม็ดสีให้มากขึ้น เช่น โดนแสงแดดจัด ๆ ถูกถูไถจนเป็นแผล หรือถูกสารเคมี เป็นต้น
โดยมากแล้ว ทั้งไฝและขี้แมลงวันนั้นไม่ได้เป็นอันตรายต่อสุขภาพหรือผิวหนัง นอกจากกระทบต่อความสวยงาม ความมั่นใจ หรือแม้แต่ความเชื่อส่วนบุคคลในด้านดวงชะตาที่เรียกกันว่าโหงวเฮ้ง บางคนอาจจะเรียกไฝเสน่ห์
ถ้าไฝหรือขี้แมลงอยู่ในจุดที่ทำให้ไม่มั่นใจ หรือกระทบต่อรูปลักษณ์ก็สามารถกำจัดออกได้หลายวิธี โดยวิธีทางการแพทย์ที่ได้รับความนิยม มักจะเป็นการจี้ไฝและขี้แมลงวันด้วยเลเซอร์ หรือการตัดออก
อย่างไรก็ตาม ไฝและขี้แมลงวันอาจเป็นสัญญาณของโรคทางผิวหนังได้เช่นกัน โดยเฉพาะไฝที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนหรือรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นสี รูปร่าง หรือขนาด เช่น ตกสะเก็ด มีเลือดออก หรือโตเร็วผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์แต่เนิ่น ๆ
ไฝและขี้แมลงวันแบบไหนที่ควรระวัง
แม้ว่าไฝและขี้แมลงวันส่วนใหญ่จะปลอดภัย แต่บางครั้งก็อาจเป็นสัญญาณของโรคมะเร็งผิวหนัง โดยเฉพาะไฝ ขี้แมลงวัน หรือจุดสีตามร่างกายที่มีลักษณะต่อไปนี้
- ไฝหรือขี้แมลงวัน เมื่อแบ่งครึ่งแล้วไม่สมส่วน อีกด้านไม่เท่ากัน ไม่กลมมน เป็นรอยหยัก หรือรอยบาก
- ไฝหรือขี้แมลงวัน ขอบเขตไม่สม่ำเสมอหรือไม่ชัดเจน ขอบไม่กลมไม่เรียบ
- ไฝหรือขี้แมลงวัน ขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว ขนาดมากกว่า 6 มิลลิเมตร
- ไฝหรือขี้แมลงวัน มีสีไม่สม่ำเสมอกัน สีเปลี่ยนไป หลากหลายสีในเม็ดเดียวกัน
- มีการเปลี่ยนแปลงของสี ขนาด รูปร่างอื่น ๆ อย่างชัดเจนหรือรวดเร็วในระยะสั้น ๆ เช่น เจ็บ คัน เลือดออก ตกสะเก็ด นูนขึ้นตรงกลางและบุ๋มลงไปด้านข้าง
ถ้าพบลักษณะไฝหรือขี้แมลงวันในข้างต้นควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด เพราะมีโอกาสจะเป็นมะเร็งไฝ หรือมะเร็งผิวหนังเมลาโนมา (Melanoma) ซึ่งเป็นมะเร็งผิวหนังชนิดหนึ่งที่ร้ายแรง และสามารถแพร่กระจายไปส่วนอื่นได้
อย่างไรก็ตาม การตรวจเจอเร็วเท่าไร ยังมีโอกาสในการรักษาให้หายขาดได้มากขึ้น หากคาดว่ามีความเสี่ยงจะเป็นมะเร็งผิวหนัง แพทย์จะเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อของไฝไปตรวจหาเซลล์มะเร็งต่อไป
ไฝและขี้แมลงวัน จัดการอย่างไรดี วิธีไหนปลอดภัย?
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ หรือความพึงพอใจส่วนตัว ควรไปพบแพทย์ผิวหนัง ไม่ควรกำจัดไฝและขี้แมลงวันด้วยตัวเอง หรือทำตามวิธีในอินเทอร์เน็ต เพราะอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อ หรือปัญหาสุขภาพอื่นได้
1. การกำจัดไฝด้วยการใช้เลเซอร์
มักนิยมใช้คาร์บอนไดออกไซด์เลเซอร์หรือ CO2 Laser จี้ทำลายเนื้อเยื่อหรือเซลล์ไฝออกไป เลเซอร์มีความแม่นยำสูง สามารถเลือกตำแหน่งที่ต้องการยิ่งเลเซอร์ได้เฉพาะเจาะจง ไม่ทำให้เลือดออก ไม่ก่อให้เกิดอันตรายหรือมะเร็ง และหลังทำจะเป็นแผลตกสะเก็ดอยู่ราว 1 อาทิตย์
การใช้คาร์บอนไดออกไซด์เลเซอร์จะเหมาะกับไฝที่อยู่ในผิวหนังชั้นตื้น
ถ้าเป็นไฝนูนหรืออยู่ในผิวหนังชั้นลึก จะไม่สามารถทำลายได้หมดในครั้งเดียว มักต้องทำหลายครั้งจนอาจเสี่ยงเกิดรอยแผลเป็นขึ้นได้ แต่ละครั้งควรทำห่างกัน 1–2 เดือน หรือตามแพทย์แนะนำ
เช็กโปรราคา CO2 Laser จากคลินิก และรพ. ใกล้บ้านคุณ
2. การกำจัดไฝด้วยการผ่าตัด
เป็นการรักษามาตรฐานที่ใช้กำจัดไฝ ขี้แมลงวัน แพทย์จะให้ยาชา ผ่าตัดนำไฝออก และเย็บปิดแพทย์ การผ่าตัดจะทำให้โอกาสในการเกิดไฝขึ้นใหม่มีน้อยลง เพราะสามารถตัดเอาเนื้อเยื่อไฝที่อยู่ในผิวหนังชั้นลึกออกได้หมดในครั้งเดียว
รวมถึงยังสามารถตัดตัวอย่างเนื้อเยื่อไฝส่งตรวจหาเซลล์มะเร็งได้ด้วย หากพบว่าเป็นเซลล์มะเร็ง แพทย์สามารถวางแผนการรักษาได้ทันที แต่ข้อเสียคือ หลังการผ่าตัดจะทิ้งรอยแผลเป็นหรือรอยเย็บไว้ ขึ้นอยู่กับตำแหน่ง ลักษณะ และขนาดของไฝ
3. การกำจัดไฝด้วยวิธีตัดออก
เป็นอีกหนึ่งเทคนิคทั่วไปที่ใช้กำจัดไฝ ขี้แมลงวัน แพทย์จะให้ยาชาและเฉือนไฝออกด้วยเครื่องมือลักษณะคล้ายมีดโกน แต่ต่างจากการผ่าตัดตรงที่ไม่ได้ผ่าลงไปใต้ผิวหนัง และวิธีนี้อาจเป็นไปได้ที่ไฝจะกลับมานูนขึ้นอีกครั้ง
ช่วงหลังการกำจัดไฝและขี้แมลงวันออก ควรดูแลแผลตามที่แพทย์แนะนำ เพื่อป้องกันผลข้างเคียงจากการกำจัดไฝหรือขี้แมลงวัน นอกจากนี้ ก่อนเลือกกำจัดไฝ ขี้แมลงวันด้วยวิธีใด ควรตรวจประเมินกับแพทย์ผิวหนังก่อน
ถ้าเป็นไฝที่ลักษณะผิดปกติหรือมีโอกาสเป็นมะเร็งผิวหนัง ควรงดการใช้เลเซอร์เด็กขาด เพราะจะไม่สามารถนำเนื้อเยื่อไฝมาตรวจชิ้นเนื้อได้ หรือหากทำได้ ก็จะทำให้การวินิจโรคทำได้ยากมากขึ้น
มีไฝ ขี้แมลงวัน ประเมินกับหมอผิวหนังให้ชัวร์ ก่อนกำจัดออก HDmall.co.th รวมโปรจี้ไฝ ขี้แมลงวันด้วยเลเซอร์ จากคลินิก และรพ. ชั้นนำ ราคาไม่แรงอย่างที่คิด
