น้ำเต้าหู้ หรือที่รู้จักกันว่า “น้ำนมถั่วเหลือง” เครื่องดื่มธัญพืชรสชาติอร่อยที่ทำมาจากถั่วเหลือง เป็นเครื่องดื่มยอดนิยมสำหรับผู้ที่รักสุขภาพ เพราะมีราคาถูกและหาซื้อง่าย อีกทั้งยังให้คุณค่าทางสารอาหารได้ไม่แพ้เนื้อสัตว์ด้วยเช่นกัน จึงเป็นเครื่องดื่มทางเลือกเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่รับประทานเนื้อสัตว์นั่นเอง
สารบัญ
โภชนาการของน้ำเต้าหู้
น้ำเต้าหู้ ทำมาจากถั่วเหลือง ซึ่งถั่วเหลืองมีโปรตีนสูง ให้คุณค่าทางโภชนาการใกล้เคียงกับตว์ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่บริโภคเนื้อสัตว์ ถ้าเราบริโภคถั่วเหลืองในปริมาณที่สูงมากพอ ร่างกายก็จะได้รับโปรตีนเพียงพอกับความต้องการได้
ในน้ำเต้าหู้ มีทั้งคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน (carbohydrate) และโปรตีน (protein) ที่ไม่เป็นไขมันอิ่มตัวสายโมเลกุลยาวแบบเนื้อสัตว์ มีแคลเซียม (calcium) ในสัดส่วนที่ไม่มากเกินกว่าแมกนีเซียม (magnesium) ในแบบน้ำนมวัว รวมทั้งมีวิตามินแร่ธาตุ ต่างๆ มากมาย
น้ำเต้าหู้ ไม่มีน้ำตาลแลกโตส (lactose) และ กรดอะมิโนเคซีน (casein) ทำให้คนที่แพ้น้ำนมวัวสามารถดื่มได้โดยที่ไม่มีอาการท้องเสีย
คุณค่าของน้ำนมถั่วเหลือง น้ำเต้าหู้ 100 g
- พลังงาน 43 กิโลแคลอรี
- โปรตีน 2.6 กรัม
- คาร์โบไฮเดรต 4.92 กรัม
- แป้ง 5.7 กรัม
- น้ำตาล 3.65 กรัม
- ใยอาหาร 0.2 กรัม
- ไขมัน 1.47 กรัม
- แคลเซียม 123 กรัม
- แมกนีเซียม 15 มิลลิกรัม
- โพแทสเซียม 122 มิลลิกรัม
- ซิงก์ 0.26 มิลลิกรัม
ข้อมูลจาก : USDA Nutrient database
ประโยชน์ของน้ำเต้าหู้
น้ำเต้าหู้ อุดมไปด้วยสารไอโซฟลาโวน เมื่อดื่มแล้วร่างกายจะแปลงสารนี้เป็น “ไฟโตรเอสโตรเจน” ที่มีผลใกล้เคียงกับฮอร์โมนเอสเตรเจนในเพศหญิง ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธุ์ในเพศหญิง อีกทั้งยังมีวิตามินเอ วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินบี6 วิตามินบี12 วิตามินซี วิตามินดี วิตามินอี ไนอาซิน และเลซิทิน โดยมีผลวิจัยที่เกี่ยวกับประโยชน์ของน้ำเต้าหู้ ดังนี้
- ลดไขมันและช่วยลดน้ำหนัก ผู้หญิงก่อนวัยทองที่ดื่มนมถั่วเหลืองจะสามารถช่วยลดไขมันหรือลดความอ้วน อีกทั้งยังมีผลต่อการลดไขมันในหลอดเลือด ป้องกันไม่ให้เกิดปฏิกิริยาระหว่างสารต้านอนุมูลอิสระกับกรดไขมันอิ่มตัวในผู้ป่วยที่มีไขมันในเส้นเลือดสูงได้
- บำรุงกระดูก สารฟลาโวนอยด์ที่อยู่ในน้ำนมถั่วเหลืองมีส่วนช่วยในการลดการสลายกระดูก ทำให้มวลกระดูกหนาแน่นขึ้น และยังช่วยเพิ่มปริมาณวิตามินดีในกระดูกของผู้หญิงวัยทองอีกด้วย
- ทำให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้น เพราะถั่วเหลืองมีใยอาหารสูง ซึ่งจะช่วยทำให้ทางเดินอาหารสะอาดและระบบขับถ่ายดีขึ้น
- ลดความดันโลหิต พบว่าการดื่มน้ำเต้าหู้มีส่วนช่วยในเรื่องความดันโลหิตขณะที่หัวใจบีบตัวและคลายตัวได้ และยังพบว่าทำให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ร่วมกับการเป็นโรคไตนั้นสามารถควบคุมระดับความดันโลหิตได้
- บำรุงสมอง สารเลซิทินในน้ำเต้าหู้ช่วยบำรุงสมองและระบบประสาท ทำให้ความจำดีขึ้น
ข้อควรระวัง โทษของน้ำเต้าหู้
- ดื่มติดต่อนานๆ อาจเกิดอันตราย การดื่มน้ำเต้าหู้หรือรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ทำมาจากถั่วเหลือง ไม่ควรรับประทานติดต่อกันนานเกิน 6 เดือน เนื่องจากอาจก่อให้เกิดอันตรายกับสุขภาพได้
- ขาดสารอาหาร เพราะน้ำเต้าหู้ยังไม่สามารถใช้ดื่มเพื่อทดแทนอาหารชนิดอื่นได้ ดังนั้น จึงไม่ควรดื่มน้ำเต้าหู้เพียงอย่างเดียว
- มีผลข้างเคียง บางรายพบว่ามีอาการแพ้ ผิวหนังและใบหน้าบวมแดง รวมทั้งอาการท้องผูกหรือคลื่นไส้ เด็กทารกไม่ควรดื่มน้ำเต้าหู้ เพราะอาจก่อให้เกิดอาการแพ้หรืออาจมีอันตรายหากดื่มมากเกินไป สตรีมีครรภ์หรือคุณแม่กำลังให้นมบุตรควรหลีกเลี่ยง เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายที่อาจจะนำไปสู่เด็กทารก
- มีผลต่อโรคประจำตัว หากมีโรคประจำตัวแต่ต้องการดื่มน้ำเต้าหู้ก็ควรปรึกษาแพทย์เสียก่อน เนื่องจากโรคบางโรคมีข้อจำกัดและอาจมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นได้ เช่น ผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมหรือโรคมะเร็งเยื่อบุมดลูก เป็นต้น เพราะในถั่วเหลืองมีสารไอโซฟลาโวนที่คล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจนนั่นเอง ส่วนโรคอื่นๆ ก็มีผลทำให้เกิดความเสี่ยงหรืออาการกำเริบมากขึ้น เช่น โรคไต โรคนิ่วในไต โรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ โรคเบาหวาน โรคหอบหืด โรคภูมิแพ้ หรือแม้แต่ผู้ที่แพ้นมวัวก็อาจแพ้น้ำเต้าหู้ได้อีกด้วย
- นมถั่วเหลืองไม่เหมาะกับการดื่มทุกวันของผู้ชาย เนื่องจากเป็นการเพิ่มระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิงให้กับผู้ชายในปริมาณมากเกินความต้องการ จะส่งผลต่อการทำงานของฮอร์โมนเพศชายทำ ให้สามารถผลิตอสุจิได้น้อยลงและมีลูกยาก
วิธีทำน้ำเต้าหู้
ส่วนผสมของน้ำเต้าหู้ คือ ถั่วเหลืองแยกเปลือกออก 1 ถ้วย น้ำสะอาด 6 ถ้วย และน้ำตาลทรายขาวครึ่งถ้วย
สำหรับวิธีการทำ คือ ให้นำถั่วเหลืองมาล้างและแช่น้ำไว้ 6 ชั่วโมง จากนั้นนำมาบดให้ละเอียด กรองแยกกากออกแล้วเอาแต่น้ำ จากนั้นนำน้ำที่ได้มาตั้งไฟกลางๆ หมั่นคนบ่อยๆ เมื่อเดือดแล้วให้ใส่น้ำตาลลงไปเล็กน้อยให้พอมีรสชาติ
วิธีการเลือกซื้อน้ำเต้าหู้
น้ำเต้าหู้ที่ดีควรมีลักษณะของน้ำที่ไม่ใสจนเกินไป สังเกตดูว่าหากซื้อมาแล้วพอเย็นลงจะต้องไม่มีความเหนียวหรือน้ำเปลี่ยนจนข้นเป็นยาง หรือมีแผ่นคล้ายแป้งตกตะกอนนอนก้นตกอยู่ อีกทั้งต้องไม่มีกลิ่นเปลี่ยนไปจากเดิม ส่วนรสชาติต้องไม่หวานเกินไปเพราะจะทำให้ไปเพิ่มระดับน้ำตาลในหลอดเลือดได้ และมักจะมีอายุประมาณ 3 วัน เมื่อนำไปแช่ในตู้เย็น
นอกจากนั้น การดื่มน้ำเต้าหู้หรือน้ำนมถั่วเหลืองให้อร่อยควรใส่อาหารประเภทธัญพืชลงไปด้วย เพราะนอกจากความอร่อยที่เพิ่มขึ้นแล้ว ร่างกายยังได้รับสารอาหารที่เป็นประโยชน์ครบถ้วนมากกว่าแค่ดื่มน้ำเต้าหู้เพียงอย่างเดียวด้วย