หากร่างกายปราศจากหัวใจที่แข็งแรง เราทุกคนก็อาจมีชีวิตอยู่ได้ไม่ยืนยาว การตรวจสมรรถภาพหัวใจจึงเป็นอีกสิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้ในรายการตรวจสุขภาพประจำปีของคนทุกเพศทุกวัย
ในบทความนี้ HDmall.co.th จะมาเจาะลึกข้อมูลที่คุณควรรู้เกี่ยวกับการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ซึ่งเป็นอีกกระบวนการตรวจอวัยวะหัวใจที่จำเป็น เพื่อเป็นคู่มือให้กับผู้ที่สนใจอยากตรวจสมรรถภาพอวัยวะสำคัญของร่างกาย
สารบัญ
- ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ คืออะไร?
- ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ตรวจเพื่ออะไร?
- ใครควรตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
- ข้อดีของการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
- ข้อเสียของการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
- การเตรียมตัวก่อนตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
- ขั้นตอนการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
- การดูแลหลังจากตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
- ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เจ็บไหม?
- ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจบ่อยแค่ไหน?
- คนท้องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจได้ไหม?
ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ คืออะไร?
การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (Electrocardiography: EKG) หรือที่หลายคนมักเรียกสั้นๆ ว่า “ตรวจ ECG” หรือ “ตรวจ EKG” คือ การตรวจเช็กสมรรถภาพการทำงานของหัวใจ ผ่านการตรวจจับคลื่นกระแสไฟฟ้าที่ผ่านเข้าออกอยู่ภายในหัวใจของเรา จัดเป็นการตรวจสุขภาพหัวใจแบบเริ่มต้นที่ใช้เวลาไม่นาน แต่สามารถคัดกรองความผิดปกติและโรคต่างๆ ได้ค่อนข้างครอบคลุม
โดยข้อมูลเกี่ยวกับหัวใจที่เราจะรู้ได้จากการตรวจ EKG จะได้แก่
- อัตราการเต้นของหัวใจ
- ขนาดกล้ามเนื้อหัวใจ
- คลื่นหัวใจที่อาจบ่งบอกถึงรอยโรคบางอย่าง
- คลื่นกระแสไฟฟ้าภายในหัวใจ
ข้อมูลเหล่านี้จะสามารถนำทางไปสู่การวินิจฉัยหรือวิเคราะห์ความเสี่ยงเกี่ยวกับโรคต่างๆ ที่เกิดกับอวัยวะหัวใจและระบบไหลเวียนเลือดได้
ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ตรวจเพื่ออะไร?
การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจเป็นการตรวจคัดกรองความผิดปกติเกี่ยวข้องกับหัวใจกับระบบไหลเวียนเลือด เช่น
- โรคหลอดเลือดหัวใจ
- โรคเกี่ยวกับกล้ามเนื้อหัวใจ เช่น โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด โรคกล้ามเนื้อหัวใจห้องล่างซ้ายหนาตัวผิดปกติ โรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย
- โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ
- โรคเกี่ยวกับหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจ เช่น โรคหลอดเลือดเลี้ยงหัวใจตีบตัน
- ภาวะหรือโรคเกี่ยวกับสารเกลือแร่ในหลอดเลือด เช่น ภาวะโพแทสเซียมในเลือดสูงหรือต่ำเกินไป ภาวะแคลเซียมในเลือดสูงหรือต่ำเกินไป
ใครควรตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
กลุ่มผู้ที่มีเงื่อนไขด้านสุขภาพซึ่งควรรับการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจเพื่อหาข้อมูลในการดูแลสุขภาพเพิ่มเติม ได้แก่
- ผู้ที่อายุ 40 ปีขึ้นไป เนื่องจากเป็นกลุ่มช่วงอายุที่เริ่มเสี่ยงเกิดโรคหรือความผิดปกติเกี่ยวกับหัวใจ
- ผู้ที่มีประวัติเป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจหรือระบบไหลเวียนเลือดมาก่อน
- ผู้ที่มีพฤติกรรมหรือปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ เช่น ภาวะไขมันในเลือดสูง สูบบุหรี่ บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ เป็นโรคเบาหวาน หรือภาวะอ้วน
- ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง
ข้อดีของการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจเป็นกระบวนการตรวจที่ง่ายมาก โดยจะเป็นเพียงการติดอุปกรณ์สื่อรับกระแสไฟฟ้าภายในหัวใจที่ตำแหน่งสำคัญของร่างกายประมาณ 10 จุด จากนั้นผู้เข้ารับบริการนอนอยู่ทำตัวสบายๆ ให้เครื่องตรวจสแกนคลื่นไฟฟ้าที่หัวใจประมาณ 5-10 นาที ก็เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอน
ข้อเสียของการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจยังมีข้อจำกัดอยู่ที่ไม่สามารถให้ข้อมูลความผิดปกติในส่วนของลิ้นหัวใจและหลอดเลือดหัวใจได้ อีกทั้งอาจพบผลตรวจลวงได้ในบางกรณี โดยเฉพาะในผู้ที่มีประวัติโรคหัวใจบางชนิดอยู่แล้ว
หากไม่มั่นใจในผลตรวจส่วนนี้ ผู้เข้ารับบริการก็อาจต้องรับบริการตรวจหัวใจแบบอื่นๆ เพิ่มเติมอีก เพื่อหาความผิดปกติของหัวใจในเชิงลึกมากขึ้น เช่น การตรวจหัวใจด้วยคลื่นความถี่สูง หรือการตรวจ ECHO การตรวจสมรรถภาพหัวใจด้วยการวิ่งสายพานหรือการตรวจ EST
การเตรียมตัวก่อนตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
ก่อนเข้ารับบริการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ผู้เข้ารับบริการไม่จำเป็นต้องเตรียมตัวใดๆ ล่วงหน้า ไม่ต้องงดน้ำ งดอาหาร เพียงทำจิตใจให้ผ่อนคลาย ไม่ตื่นเต้นในระหว่างรับบริการตรวจก็พอ
ขั้นตอนการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
กระบวนการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจจะใช้เวลาแทบไม่เกิน 10 นาทีก็เสร็จเรียบร้อย โดยมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
- ผู้เข้ารับบริการเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดสำหรับตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ โดยปกติจะคล้ายกับเสื้อคลุมอาบน้ำที่สามารถเปิดผ่าหน้าเพื่อติดตั้งอุปกรณ์บนผิวหนังได้
- เจ้าหน้าที่หรือพยาบาลติดตั้งอุปกรณ์สื่อรับกระแสไฟฟ้าตามตำแหน่งต่างๆ ของร่างกาย เช่น หน้าอก แขน ขา ข้อมือ ข้อเท้า หากผู้เข้ารับบริการมีขนตามตำแหน่งที่ต้องติดอุปกรณ์ค่อนข้างเยอะ เช่น ขนหน้าอก ขนแขน ทางสถานพยาบาลอาจพิจารณาขอโกนขนบริเวณนั้นออกก่อนติดตั้งอุปกรณ์
- ผู้เข้ารับบริการนอนนิ่งๆ เพื่อให้เครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจวัดค่าสื่อกระแสไฟฟ้าที่หัวใจออกมา
- หลังจากเครื่องวัดคลื่นกระแสไฟฟ้าเสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่หรือพยาบาลจะถอดอุปกรณ์รับสื่อกระแสไฟฟ้าออกให้ จากนั้นผู้เข้ารับบริการรอฟังผลตรวจกับแพทย์ได้
การดูแลหลังจากตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
ผู้เข้ารับบริการแทบจะไม่ต้องดูแลตนเองใดๆ เป็นพิเศษเลย สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติทันทีหลังตรวจ นอกเสียจากได้ฟังผลตรวจกับแพทย์แล้วพบความผิดปกติเกี่ยวกับหัวใจบางอย่าง ทำให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อบรรเทาความเสี่ยงที่เกิดขึ้นให้น้อยลง
ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เจ็บไหม?
ระหว่างที่ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ผู้เข้ารับบริการจะไม่รู้สึกเจ็บใดๆ สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างการตรวจจะแทบไม่ต่างจากการนอนราบกับเตียงนอนปกติ และมีสายไฟมาโยงติดอยู่กับผิวแค่ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น
ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจบ่อยแค่ไหน?
หากคุณไม่มีข้อบ่งชี้ที่เป็นสัญญาณของโรคเกี่ยวกับหัวใจ และไม่มีโรคประจำตัวที่กระทบต่อการทำงานของหัวใจ การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจประมาณปีละ 1 ครั้งก็ถือว่า เพียงพอต่อการตรวจคัดกรองสมรรถภาพของหัวใจแล้ว
คนท้องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจได้ไหม?
การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจสามารถตรวจได้กับคนทุกกลุ่ม ไม่เว้นแม้แต่หญิงตั้งครรภ์ซึ่งก็สามารถตรวจได้เช่นกัน