เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ผิวพรรณที่เคยกระชับย่อมเริ่มหย่อนคล้อยไปในตามวัย การดูแลผิวด้วยการทาครีมบำรุงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ สำหรับใครที่กำลังมองหาเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ช่วยยกกระชับผิวโดยต้องผ่าตัด ช่วยกำจัดเซลลูไลท์ และทำให้ผิวเรียบเนียน “เทอร์มาจ (Thermage)” อาจเป็นคำตอบสำหรับคุณ
สารบัญ
- ทำความรู้จักกับ Thermage, Thermage CPT และ Thermage FLX
- หลักการทำงานของ Thermage ช่วยกระชับผิว และลดริ้วรอยอย่างไร?
- Thermage ทำบริเวณไหนได้บ้าง มีประโยชน์อย่างไร?
- การเตรียมตัวก่อนทำ และดูแลตัวเองหลังทำ Thermage
- ผลลัพธ์ของการทำ Thermage เป็นอย่างไร กี่วันเห็นผล?
- ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้จากการทำ Thermage
- ความแตกต่างระหว่าง Thermage, Ulthera และ HIFU
- Thermage ราคาเท่าไหร่ ทำที่ไหนดี?
ทำความรู้จักกับ Thermage, Thermage CPT และ Thermage FLX
Thermage เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวด้วยคลื่นวิทยุความถี่สูง (High Radio Frequency) ชนิดขั้วเดียว (Monopolar) โดยหัวยิงสามารถส่งพลังงานในลักษณะเป็นก้อนใหญ่ๆ ลงลึกได้ถึงชั้นหนังแท้ และชั้นไขมันใต้ชั้นผิว แต่ไม่ถึงชั้นเนื้อเยื่อ SMAS (Superfical Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นผิวหนังที่แพทย์ผ่าตัดยกกระชับผิว
การทำ Thermage จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง (อ่านเพิ่มเติม: Thermage เหมาะกับใคร?) มีไขมันใต้ชั้นผิวค่อนข้างมาก เช่น มีแก้มเยอะ หรือมีเหนียง หรือมีปัญหาเรื่องเซลลูไลท์ (Cellulite) หรือผิวเปลือกส้ม เพราะแม้ว่าจะมีประสิทธิภาพในการยกกระชับผิวไม่เท่ากับการทำ Ultherapy หรือ HIFU แต่ Thermage สามารถลดไขมันใต้ชั้นผิวได้ดีกว่ามาก
อย่างไรก็ตาม เครื่อง Thermage มีหลายรุ่น โดยรุ่นที่นิยมใช้ในประเทศไทย คือ Thermage CPT และ Thermage FLX ซึ่งมีความแตกต่างกัน ดังนี้
- Thermage CPT เป็นเครื่องรุ่นเก่า ไม่มีระบบคำนวณพลังงานความร้อนใต้ผิว จึงต้องอาศัยแพทย์ที่มีความชำนาญสูงในการทำ โดยใช้ระยะเวลาในการทำประมาณ 1-2 ชั่วโมง และมีราคาที่ถูกกว่า Thermage FLX
- Thermage FLX เป็นเครื่องรุ่นใหม่ หัวยิงมีขนาดใหญ่กว่า มีระบบช่วยคำนวณพลังงานความร้อนใต้ชั้นผิว และโฟกัสแม่นยำแบบเรียลไทม์ ใช้จำนวนช็อตน้อยกว่ารุ่นเก่า แต่ได้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกัน เจ็บน้อยกว่า และใช้เวลาในการทำเร็วกว่า Thermage CPT ประมาณ 25%
หลักการทำงานของ Thermage ช่วยกระชับผิว และลดริ้วรอยอย่างไร?
Thermage จะส่งคลื่นวิทยุความถี่สูงลึกไปที่ชั้นหนังแท้ (Dermis) และชั้นไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous) แล้วทำให้เกิดความร้อนลึก (Deep heating) ที่เนื้อเยื่อบริเวณดังกล่าว ซึ่งส่งผลให้เส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินที่หย่อนคล้อยเกิดการหดตัว และเรียงตัวใหม่ ทำให้ผิวกระชับ และเรียบเนียนขึ้น
นอกจากนี้ความร้อนลึกที่เกิดขึ้นยังส่งผลให้เซลล์ไขมันในชั้นไขมันใต้ผิวหนังบางส่วนเกิดการสลายตัว ซึ่งเซลล์ไขมันดังกล่าวเป็นหนึ่งในสาเหตุของเซลลูไลท์ หรือที่เรียกว่า “ผิวเปลือกส้ม” การทำ Thermage จึงช่วยแก้ปัญหานี้ได้ในคราวเดียวกัน
โดยในระหว่างที่ทำการรักษา เครื่อง Thermage ยังมีระบบให้ความเย็น (Spray Cooling) ควบคู่ไปด้วย เพื่อป้องกันอุณหภูมิสูงเกินไป และลดโอกาสในการเกิดผิวไหม้ด้วย
หลังจากที่ทำ Thermage เสร็จเรียบร้อยแล้ว ชั้นผิวหนังที่ทำ Thermage จะยังคงถูกกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลให้ผิวแข็งแรงขึ้น ริ้วรอยต่างๆ ค่อยๆ ลดลง รูขุมขุนเล็กลง และผิวกระชับมากขึ้น โดยจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนที่สุดภายใน 3-6 เดือน
Thermage ทำบริเวณไหนได้บ้าง มีประโยชน์อย่างไร?
Thermage สามารถทำได้ทั้งบริเวณใบหน้า รอบดวงตา และลำตัว โดยจำนวนช็อตที่ใช้จะขึ้นอยู่กับบริเวณที่ต้องการทำ สภาพผิว และการประเมินของแพทย์
ตัวอย่างประโยชน์ที่ได้รับจากการทำ Thermage
- ยกกระชับใบหน้า ปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กลง
- ลดไขมันสะสมบริเวณแก้ม ใต้คาง และลำคอ
- ลดริ้วรอยรอบดวงตา ร่องแก้ม รอยย่นบนหน้าผาก และตีนกา
- แก้ปัญหาคิ้วตก หนังตาตก และผิวเปลือกตาที่มีรอยย่น
- ลดปัญหาผิวเหี่ยวย่น หย่อนคล้อย และเพิ่มความเรียบเนียน
- ลดขนาดรอบเอว รอบขา หรือรอบแขน และเพิ่มความตึงกระชับ
- ยกกระชับสะโพก ลดปัญหาผิวเปลือกส้มที่สะโพก และต้นขา
- ฟื้นฟูโครงสร้างผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่
การเตรียมตัวก่อนทำ และดูแลตัวเองหลังทำ Thermage
ก่อนเข้ารับการทำ Thermage ไม่จำเป็นต้องเตรียมเป็นพิเศษ ยกเว้นในกรณีที่เพิ่งเข้ารับการฉีดสารเติมเต็ม หรือร้อยไหม ที่ควรเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 เดือน และหลังการทำ Thermage ผู้เข้ารับบริการสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องพักฟื้น
ในส่วนของการดูแลผิวหลังทำ Thermage ไม่จำเป็นต้องดูแลส่วนไหนเป็นพิเศษ นอกจากการบำรุงผิวขึ้นพื้นฐาน เช่น ทาครีมที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ (Moisturizer) เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น และทาครีมกันแดดเป็นประจำ
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ผลลัพธ์ของการทำ Thermage มีประสิทธิภาพมากที่สุด แพทย์อาจแนะนำให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสความร้อนที่ผิวหน้าโดยตรง เช่น นวดหน้าด้วยความร้อน การทำเลเซอร์ หรือซาวน่า ในช่วงสัปดาห์แรกหลังทำ Thermage
ผลลัพธ์ของการทำ Thermage เป็นอย่างไร กี่วันเห็นผล?
การทำ Thermage จะเห็นการเปลี่ยนแปลงทันทีหลังทำ โดยผิวจะกระชับขึ้น ริ้วรอยลดเลือนลง และผิวเรียบเนียนขึ้น หลังจากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการสร้างคอลลาเจนใหม่อย่างต่อเนื่อง และจะค่อยๆ เห็นผลลัพธ์ชัดเจนภายในระยะเวลา 3-6 เดือน
ผลลัพธ์ของการทำ Thermage นั้น จะสามารถอยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี และสามารถทำซ้ำได้ปีละ 1 ครั้ง
ทั้งนี้ผลลัพธ์ที่ได้จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับอายุ สภาพผิวดั้งเดิม การใช้ชีวิตประจำวัน และการดูแลผิวหลังทำ
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้จากการทำ Thermage
แม้ว่า การยกกระชับผิวด้วย Thermage จะเป็นวิธีการที่ปลอดภัย ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น แต่ก็อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ หากทำโดยแพทย์ผู้ไม่ชำนาญการ หรือใช้เครื่องที่ไม่ได้มาตรฐาน เช่น
- อาการบวม เป็นอาการที่พบได้ทั่วไป ไม่เป็นอันตราย สามารถหายได้เองภายใน 2-3 วัน
- เจ็บระบมใต้ผิว เป็นอาการที่พบได้ทั่วไป สามารถหายได้เองภายใน 3-10 วัน
- ผิวไหม้ หรือพอง เกิดจากการควบคุมพลังงานได้ไม่ดีพอ ใช้พลังงานสูงเกินไป หรือใช้เครื่องที่ไม่ได้มาตรฐาน
- ปากเบี้ยว หรือหนังตาตกชั่วคราว เกิดจากการปล่อยพลังงานโดนเส้นประสาท
- ไม่เห็นผล เกิดจากการยิงพลังงานไม่แม่นยำ ใช้พลังงานต่ำเกินไป หรือใช้เครื่องที่ไม่ได้มาตรฐาน
ความแตกต่างระหว่าง Thermage, Ulthera และ HIFU
Thermage, Ulthera และ HIFU จัดอยู่ในกลุ่มเครื่องมือที่ช่วยยกกระชับผิวเหมือนกัน แต่ใช้เทคโนโลยีในการสร้างพลังงานความร้อนใต้ชั้นผิว และลักษณะในการส่งพลังงานที่แตกต่างกัน จึงทำให้ทั้งสามเครื่องมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ดังนี้
- Thermage ใช้คลื่นวิทยุความถี่สูงในการสร้างความร้อน ส่งพลังงานในลักษณะก้อนใหญ่ๆ ลงไปถึงชั้นชั้นไขมันใต้ผิวหนัง แต่ไม่ถึงชั้นเนื้อเยื่อ SMAS จึงทำให้ประสิทธิภาพในการยกกระชับผิวไม่เท่ากับการทำ Ultherapy แต่ช่วยลดไขมันใต้ชั้นผิว หรือลดเซลลูไลท์ (Cellulite) ได้ดีที่สุด
- Ultherapy หรือเรียกว่า “อัลเทอร่า (Ulthera)” ใช้คลื่นอัลตราซาวด์พลังงานสูง MFU-V ในการสร้างความร้อน ส่งพลังงานในลักษณะจุดไข่ปลาเรียงต่อกันเป็นเส้นๆ ลงลึกได้ถึงชั้นเนื้อเยื่อ SMAS จึงช่วยยกกระชับผิวได้ดีที่สุด แต่ไม่เหมาะกับการลดไขมัน
- HIFU (High Intensity Focus Ultrasound) เป็นเทคโนโลยีที่ต่อยอดมาจาก Ultherapy มีหลายยี่ห้อ หลายเกรด แม้ว่าจะไม่เห็นผลชัดเจนเท่ากับการทำ Ultherapy แต่มีราคาถูกกว่า และเจ็บน้อยกว่า โดยการทำ HIFU 3 ครั้ง เทียบเท่ากับการทำ Ultherapy 1 ครั้ง
Thermage ราคาเท่าไหร่ ทำที่ไหนดี?
การยกกระชับผิวด้วย Thermage มีราคาเริ่มต้นที่ 40,000-150,000 บาท ต่อการทำ 1 ครั้ง ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ต้องการทำ จำนวนช็อตที่ใช้ และราคาโปรโมชันของสถานพยาบาลที่เข้าไปใช้บริการ