ไส้เลื่อน คือ ภาวะที่อวัยวะภายในเคลื่อนออกจากตำแหน่งปกติ จนไหลเลื่อนออกนอกช่องท้อง ผ่านรูกล้ามเนื้อหรือเนื้อเยื่อที่อ่อนแอ เกิดเป็นก้อนนูนผิดปกติ ตามบริเวณต่างๆ ของร่างกาย โดยส่วนมากมักเกิดที่ขาหนีบ และพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง
ไส้เลื่อน เมื่อเป็นแล้วสามารถรักษาให้หายได้ ซึ่งวิธีที่มีประสิทธิภาพคือ การผ่าตัดไส้เลื่อนแบบเปิด โดยสามารถเลือกได้ว่าจะระงับความรู้สึกด้วยยาชาเฉพาะที่ บล็อกหลัง หรือใช้ยาสลบ
นอกจากนี้ยังมีเทคนิคผ่าตัดไส้เลื่อนแบบอื่นด้วย ได้แก่ ผ่าตัดไส้เลื่อนแบบส่องกล้อง และ ผ่าตัดไส้เลื่อนแบบส่องกล้องแผลเดียว
เปรียบเทียบการผ่าตัดรักษาไส้เลื่อนเทคนิคต่างๆ ข้อดี ข้อจำกัด ผลข้างเคียง อ่านต่อคลิกเลย
สารบัญ
การผ่าตัดไส้เลื่อนแบบเปิดคืออะไร
การผ่าไส้เลื่อนแบบผ่าตัดเปิด (Open Hernia Repair) คือการผ่าตัดรักษาไส้เลื่อน โดยแพทย์จะกรีดเปิดผิวหนังบริเวณที่เป็นไส้เลื่อน จำนวน 1 แผล ขนาดประมาณ 6-8 เซนติเมตร แล้วจึงดันไส้เลื่อนให้กลับเข้าที่ ก่อนเย็บซ่อมแซมรูเปิดที่ผนังช่องท้องจากด้านนอก อาจมีการเสริมตาข่ายทางการแพทย์ร่วมด้วย เพื่อลดโอกาสการเป็นไส้เลื่อนซ้ำ
การผ่าตัดไส้เลื่อนแบบเปิด โดยทั่วไปแล้วใช้เวลาประมาณ 30-60 นาที ขึ้นอยู่กับบริเวณผ่าตัดและความซับซ้อนของโรค
ในบางกรณี หากแพทย์เลือกใช้เทคนิคการผ่าตัดรูปแบบอื่นๆ เช่น การผ่าตัดไส้เลื่อนแบบส่องกล้อง หรือ การผ่าตัดไส้เลื่อนแบบส่องกล้องแผลเดียว แล้วขณะผ่าตัดพบว่าโรคมีความซับซ้อนมากกว่าที่ประเมินซึ่งไม่สามารถดำเนินการผ่าตัดด้วยเทคนิคที่วางแผนไว้ได้ ก็อาจเปลี่ยนมาใช้การผ่าตัดแบบเปิดแทน
การผ่าตัดไส้เลื่อนแบบเปิดเหมาะกับใคร
การผ่าตัดไส้เลื่อนแบบเปิดเหมาะกับผู้เป็นไส้เลื่อนทุกขนาด ทุกตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็นไส้เลื่อนขาหนีบ ไส้เลื่อนใต้ขาหนีบ ไส้เลื่อนสะดือ ไส้เลื่อนจากแผลผ่าตัด ฯลฯ
ไส้เลื่อนคืออะไร เป็นตำแหน่งไหนได้บ้าง ต่างกันอย่างไร อ่านต่อคลิก
ข้อดีของการผ่าตัดไส้เลื่อนแบบเปิด
ข้อดีของการผ่าตัดไส้เลื่อนแบบเปิด เมื่อเทียบกับการผ่าตัดไส้เลื่อนแบบส่องกล้อง ได้แก่
- ใช้รักษาไส้เลื่อนได้ทุกขนาด ทุกตำแหน่ง
- เลือกได้ว่าจะระงับความรู้สึกด้วยยาชาเฉพาะที่หรือยาสลบ โดยขึ้นอยู่กับตำแหน่งไส้เลื่อนที่เป็นและภาวะสุขภาพของผู้ป่วยแต่ละคนด้วย แพทย์จะเป็นผู้ประเมินความเหมาะสม โดยวิธีนี้จะเหมาะกับผู้ที่แพ้ยาสลบ
- ค่าใช้จ่ายถูกกว่าการผ่าตัดวิธีอื่นๆ
ข้อจำกัดของการผ่าตัดไส้เลื่อนแบบเปิด
เมื่อเปรียบเทียบกับการผ่าตัดไส้เลื่อนแบบส่องกล้อง การผ่าตัดแบบเปิดมีข้อจำกัดดังนี้
- แผลผ่าตัดมีขนาดใหญ่กว่า ทำให้เสียเลือดขณะผ่าตัดได้มากกว่า บอบช้ำจากการผ่าตัดมากกว่า
- ผู้ป่วยเจ็บแผลมากกว่า
- หลังผ่าตัดแล้วมีโอกาสเกิดแผลเป็นขนาดใหญ่กว่า
- ระยะเวลาพักฟื้นหลังผ่าตัดนานกว่า
ผลข้างเคียงของการผ่าตัดไส้เลื่อนแบบเปิด
โดยทั่วไปการผ่าไส้เลื่อนไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงร้ายแรง แต่เป็นธรรมดาของการผ่าตัดที่มีโอกาสเกิดผลข้างเคียงขึ้นได้ แต่โอกาสค่อนข้างน้อย เช่น
- อาการแพ้ยาชาหรือยาสลบ
- เส้นประสาทบริเวณผ่าตัดถูกทำลาย ทำให้ชาบริเวณผิวหนังใกล้แผลผ่าตัด
- เกิดลิ่มเลือดหรือแผลติดเชื้อบริเวณที่ผ่าตัด
- อวัยวะข้างเคียงบาดเจ็บ
- อาการปวดเรื้อรังที่แผลผ่าตัด
วิธีนี้ดีที่สุดสำหรับเราจริงมั้ย? อยากขอความเห็นที่สอง จากคุณหมอเฉพาะทาง เพื่อเลือกวิธีรักษาที่เหมาะกับเรามากที่สุด ติดต่อทีม HDcare ช่วยทำนัดเข้าปรึกษาคุณหมอ ดูแลกันตั้งแต่ต้นจบ ทำให้การผ่าตัดไม่ยุ่งยากและไม่น่ากลัวอย่างที่คิด คลิกเลย
วิธีการรักษาไส้เลื่อนด้วยการผ่าตัดแบบเปิด
- วิสัญญีแพทย์ระงับความรู้สึกของผู้ป่วยด้วยวิธีให้ยาชาเฉพาะที่ บล็อกหลัง หรือวางยาสลบ
- ศัลยแพทย์กรีดเปิดแผลที่ผิวหนังผู้ป่วย 1 แผล ขนาดประมาณ 6-8 เซนติเมตร
- เมื่อพบตำแหน่งไส้เลื่อน ศัลยแพทย์จะดันลำไส้เข้าสู่ตำแหน่งปกติภายในช่องท้องผู้ป่วย
- จากนั้นเย็บปิดเนื้อเยื่อผนังช่องท้องที่เป็นรู อาจมีการเสริมความแข็งแรงของผนังลำไส้ด้วยตาข่ายทางการแพทย์ เพื่อป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นไส้เลื่อนอีก
- เย็บปิดแผล เป็นอันเสร็จ
การผ่าไส้เลื่อนแบบเปิด เป็นหนึ่งในเทคนิคการผ่าตัดรักษาไส้เลื่อน ที่มีข้อจำกัดในการผ่าตัดน้อย ให้ผลลัพธ์ที่ดี เทียบเท่ากับการผ่าตัดด้วยเทคนิคอื่นๆ
แต่อย่างไรก็ตาม แต่ละวิธีผ่าตัดอาจไม่ได้เหมาะกับผู้ป่วยไส้เลื่อนทุกคน ขึ้นอยู่กับบริเวณที่เป็น ความรุนแรง ขนาดไส้เลื่อน ภาวะสุขภาพ รวมถึงงบประมาณของผู้ป่วยเองด้วย
ดังนั้นควรสอบถามแพทย์ถึงทางเลือกที่เรามีให้ครบถ้วน เพื่อตัดสินใจเลือกวิธีรักษาได้อย่างเหมาะสมที่สุด
ต้องผ่าตัดไส้เลื่อน แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกวิธีไหนดี? ปรึกษาทีม HDcare ได้เลย เราพร้อมเป็นผู้ช่วยส่วนตัวดูแลสุขภาพคุณ สอบถามข้อมูลเบื้องต้นกับคุณหมอเฉพาะทาง ทำนัดปรึกษาคุณหมอได้รวดเร็ว หรือค้นหาแพ็กเกจผ่าตัดไส้เลื่อน จาก รพ. หรือคลินิกใกล้คุณได้ทันที คลิกที่นี่เลย