ซินนาริซีน เป็นยากลุ่มต้านการทำงานของฮีสทีมีน และกลุ่มยับยั้งการทำงานของแคลเซียม แชนแนล (calcium channel blocker) มีโครงสร้างอยู่ในกลุ่มของไดฟีนิลเมธิลไพเพอเรซีน (diphenylmethylpiperazine) ยาซินนาริซีนช่วยส่งเสริมการไหลเวียนของเลือดในสมอง และยังใช้ในการรักษาโรคสมองตกเลือด (cerebral apoplexy) กลุ่มอาการทางสมองหลังจากการบาดเจ็บ และโรคหลอดเลือดแดงสมองแข็ง อย่างไรก็ตาม ยังมีการใช้ยานี้ในอาการคลื่นไส้ อาเจียน เนื่องมาจากภาวะป่วยจากการเคลื่อนไหว หรือเนื่องมาจากสาเหตุอื่น เช่น จากเคมีบำบัด หรือโรค Ménière’s
ซินนาริซีนถูกสังเคราะห์ขึ้นครั้งแรกโดยบริษัท Janssen Pharmaceuticaในปีค.ศ. 1955 ชื่อซินนาริซีน ได้มาจากอนุพันธ์ของสารตั้งต้นคือ หมู่ซินนามิล (connamyl) ที่อยู่บนอะตอมของไนโตรเจน รวมกับคำลงท้ายว่า -ริซีน ซึ่งแสดงถึงกลุ่มของยาที่ใช้ต้านการทำงานของฮีสตามีน และใช้เป็นยาสำหรับขยายหลอดเลือดสมอง หรือหลอดเลือดส่วนปลาย ยานี้ไม่มีวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ยานี้เป็นยาที่ใช้มากที่สุดในราชนาวีอังกฤษในการใช้กับภาวะป่วยจากทะเล (sea sickness)
สารบัญ
โรค และอาการที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยานี้บรรเทา
- ข้อบ่งใช้สำหรับโรคหลอดเลือดส่วนปลาย
- ข้อบ่งใช้สำหรับโรคหลอดเลือดสมอง
- ข้อบ่งใช้สำหรับอาการป่วยจากการเคลื่อนไหว (Motion sickness)
- ข้อบ่งใช้สำหรับอาการมึนศีรษะ
กลไกการออกฤทธิ์ของยา Cinnarizine
กลไกการออกฤทธิ์ของยา คือ ซินนาริซีน เป็นยากลุ่มต้านอาการวิงเวียน ซินนาริซีน ออกฤทธิ์โดยยับยั้งการหดตัวของกล้ามเนื้อเรียบที่เกิดจากสารกลุ่มวาโซแอกทีฟ (vasoactive) เช่น ฮีสทามีน (histamine) ซินนาริซีนสามารถยับยั้งแคลเซียมไอออนในการเข้าสู่เซลล์ที่ได้รับการกระตุ้น (depolarized) จากสัญญาณประสาท เป็นผลให้ระดับแคลเซียมไอออนอิสระที่ใช้ในการเหนี่ยวนำและรักษาการส่งสัญญาณประสาทระหว่างเซลล์ประสาทลดลง
ข้อบ่งใช้ของยา Cinnarizine
ข้อบ่งใช้สำหรับโรคหลอดเลือดส่วนปลาย ยารูปแบบรับประทาน ขนาดการใช้ยาในผู้ใหญ่ ขนาด 75 มิลลิกรัม วันละสองครั้ง หรือวันละสามครั้ง
ข้อบ่งใช้สำหรับโรคหลอดเลือดสมอง ยารูปแบบรับประทาน ขนาดการใช้ยาในผู้ใหญ่ ขนาด 75 มิลลิกรัม วันละครั้ง
ข้อบ่งใช้สำหรับอาการป่วยจากการเคลื่อนไหว (Motion sickness) ขนาดการใช้ยาในผู้ใหญ่ ขนาด 30 มิลลิกรัม รับประทาน 2 ชั่วโมงก่อนเดินทาง จากนั้นรับประทานขนาด 15 มิลลิกรัม ทุก 8 ชั่วโมงในระหว่างเดินทางหรือเมื่อมีอาการ ขนาดการใช้ยาในเด็กอายุ 5 ถึง 12 ปี ขนาด 15 มิลลิกรัม 2 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง จากนั้นรับประขนาด 7.5 มิลลิกรัม ทุก 8 ชั่วโมงในระหว่างเดินทางหรือเมื่อมีอาการ
ข้อบ่งใช้สำหรับอาการมึนศีรษะ ขนาดการใช้ยาในผู้ใหญ่ ขนาด 30 มิลลิกรัม วันละสามครั้ง หรือขนาด 75 มิลลิกรัม วันละหนึ่งถึงสองครั้ง ขนาดการใช้ยาในเด็กอายุ 5 ถึง 12 ปี ขนาด 15 มิลลิกรัม วันละสามครั้ง
ข้อปฏิบัติเมื่อลืมรับประทานยา Cinnarizine
หากลืมรับประทานยาตามเวลาปกติที่รับประทาน ถ้าปกติรับประทาน 1 เม็ด ให้รับประทานยาทันทีที่นึกได้จำนวน 1 เม็ดโดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็น 2 เม็ดแทนเม็ดที่ลืมรับประทาน ในกรณีลืมรับประทานยาใกล้กับเวลารับประทานถัดไป ให้รับประทานยาในมื้อถัดไปในขนาด 1 เม็ด โดยข้ามยาในมื้อที่ลืมไปและไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็น 2 เม็ด
ข้อควรระวังของการใช้ยา Cinnarizine
- ระวังการใช้ยานี้ในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตต่ำ เมื่อใช้ในขนาดยาที่สูง
- ระวังการใช้ยานี้ในผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน
- ระวังการใช้ยานี้ในผู้ป่วยโรคพอร์ฟิเรีย (porphyria)
- ระวังการใช้ยานี้ในผู้ป่วยโรคตับ โรคไต
- ระวังการใช้ยานี้ในเด็ก สตรีมีครรภ์ และสตรีให้นมบุตร
- ยานี้อาจก่อให้เกิดอาการง่วงได้ จึงไม่ควรขับขี่ยานพาหนะหรือทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้เครื่องจักรหลังรับประทานยา
ผลข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา Cinnarizine ยานี้อาจก่อให้เกิดอาการอันไม่พึงประสงค์ ได้แก่อาการง่วงซึม น้ำหนักเพิ่ม คลื่นไส้ อาเจียน อาหารไม่ย่อย ปวดท้องบริเวณท้องส่วนบน ผิวหนังอักเสบจากการติดเชื้อไลเคน เช่น ไลเคน พลานัส (lichen planus) อ่อนเพลีย อาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้น้อย ได้แก่ กลุ่มอาการเอกซ์ตราไพริมิดัล (extrapyrimidal)
ข้อมูลการใช้ยา Cinnarizine ในสตรีมีครรภ์และสตรีให้นมบุตร
สำหรับการใช้ยาในสตรีมีครรภ์ ตัวยาจัดอยู่ในกลุ่ม category C คือควรระมัดระวังการใช้ยาในสตรีมีครรภ์ สำหรับสตรีให้นมบุตร ควรระวังการใช้ยาและอยู่ใน category D ในไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์
ประเภทของยาตามองค์การอาหารและยา ประเทศไทย ยาจัดอยู่ในกลุ่มยาอันตราย จำหน่ายเฉพาะในร้านขายยาแผนปัจจุบันที่มีเภสัชกรชั้นหนึ่งเป็นผู้จ่ายยาเท่านั้น
ข้อมูลการเก็บรักษายา Cinnarizine เก็บรักษาที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส
สิ่งที่ควรแจ้งแพทย์ เภสัชกร และพยาบาลในการสั่งใช้ยา
แพทย์และเภสัชกรสามารถให้ข้อมูลการใช้ยาอย่างปลอดภัย ผู้ป่วยควรแจ้งข้อมูลเหล่านี้แก่แพทย์หรือเภสัชกรเพื่อประโยชน์ต่อผู้ป่วยและลดความเสี่ยงในการเกิดอันตรายจากการใช้ยา
- แจ้งข้อมูลการใช้ยารักษาโรคประจำตัว ยาที่เพิ่งรับประทานก่อนหน้านี้ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่รับประทาน (รวมถึงวิตามิน และสมุนไพร) ในกรณีมียาประจำตัวจำนวนมาก ให้พกยาเพื่อให้แพทย์หรือเภสัชกรช่วยตรวจสอบก่อนสั่งจ่ายยาใหม่ ไม่ให้เกิดอันตรกิริยาระหว่างยาที่จะได้รับใหม่และยาที่เดิมที่ผู้ป่วยใช้อยู่
- แจ้งประวัติการแพ้ยา หรืออาการแพ้ที่เกิดขึ้นเมื่อใช้ยา ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หรือแพ้อาหารชนิดใดอยู่ (เนื่องจากยาบางชนิดมีส่วนประกอบของไข่ขาว นม ยีสต์) อาการที่เกิดขึ้น เช่น อาการบวม เกิดผื่น หายใจลำบาก หรือให้นำบัตรแพ้ยา พกติดตัวและแสดงบัตรนี้แก่แพทย์และเภสัชกรก่อนเข้าใช้บริการสุขภาพทุกครั้ง
- แจ้งข้อมูลในกรณีที่มีการตั้งครรภ์ หรือมีแผนที่จะตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร เนื่องจากยาบางชนิดส่งผลอันตรายต่อเด็กในครรภ์ หรือสามารถขับออกทางน้ำนมได้
- แจ้งข้อมูลที่จะส่งผลต่อการรับประทานยา เช่น มีปัญหาการกลืนลำบาก มีปัญหาด้านการมองเห็นหรืออ่านฉลากยา วิธีการรับประทานยา เพื่อแพทย์หรือเภสัชกรจะได้ช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้อง