fluticasone scaled

Fluticasone (ฟลูติคาโซน)

ยา ฟลูติคาโซน (Fluticasone) เป็นยาในกลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroid) ชนิดพ่นใช้สำหรับรักษาโรคระบบทางเดินหายใจ ในผู้ป่วยโรคหืดและโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ส่วนชนิดทาใช้สำหรับรักษาโรคผิวหนัง

สรรพคุณและข้อบ่งใช้ของยา Fluticasone

  • ป้องกันหืดกำเริบจากโรคหืด
  • โรคริดสีดวงจมูก
  • โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้
  • รักษาอาการทางผิวหนังที่ตอบสนองต่อการใช้คอร์ติโคสเตียรอยด์

กลไกการออกฤทธิ์ของยา Fluticasone

กลไกการออกฤทธิ์ของยา คือ มีฤทธิ์ยับยั้งการอักเสบ โดย Fluticasone จะเข้าจับกับตัวรับกลูโคคอร์ติคอยด์ (Glucocorticoid) เกิดการกระตุ้นการทำงานของไลโพคอร์ติน (Lipocortin) ซึ่งมีหน้าที่ยับยั้งฟอสโฟไลเพส ชนิด เอ 2 (Phospholipase A2) โดยฟอสโฟไลเพส ชนิด เอ 2 นี้มีหน้าที่เป็นตัวกระตุ้นกลไกเหนี่ยวนำการสร้างสารสื่อกลางการอักเสบ เช่น พรอสตาแกลนดินส์ (Prostaglandins) และลิวโคไตรอีนส์ (Leukotrienes) การยับยั้งการทำงานของฟอสโฟไลเพส ชนิด เอ 2 จึงเป็นการยับยั้งการเกิดการอักเสบของเซลล์ได้

รูปแบบของยา Fluticasone

Fluticasone ชนิดสำหรับใช้ทางจมูก จัดอยู่ในกลุ่มยาอันตราย ตามการจำแนกโดยคณะกรรมการอาหารและยา มีจำหน่ายเฉพาะร้านยาแผนปัจจุบันที่มีเภสัชกรชั้นหนึ่งควบคุมการขายยา ต้องมีการจัดทำบัญชียาอันตราย และสำหรับบุคคลทั่วไปเภสัชกรสามารถจำหน่ายยาและให้คำแนะนำในการใช้ยาได้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้ใบสั่งของผู้ประกอบวิชาชีพฯ รูปแบบยาที่ใช้ทางจมูกที่มีวางจำหน่ายในประเทศไทย ได้แก่

  • ตัวยาที่วางจำหน่ายมีทั้งในรูปของ Fluticasone Propionate และ Fluticasone Furoate ซึ่ง Propionate และ Furoate เป็นรูปเกลือที่ต่างกันของ Fluticasone แต่ตัวยาสำคัญออกฤทธิ์ยังเป็นตัวเดียวกันคือ Fluticasone
  • รูปแบบสเปรย์พ่นจมูก ขนาด 27.5 ไมโครกรัม (Fluticasone furoate) และ 50 ไมโครกรัม (Fluticasone propionate) ต่อการพ่น 1 ครั้ง
  • รูปแบบยาพ่นอีโวเฮเลอร์ (Evohaler – อุปกรณ์สำหรับสูดพ่นยาเข้าทางปากรูปแบบหนึ่ง) ขนาด 125 ไมโครกรัม (Fluticasone propionate) ต่อการพ่น 1 ครั้ง
  • รูปแบบยาน้ำ สำหรับใช้กับเครื่องพ่นเนบูไลเซอร์ (Nebulizer – เครื่องพ่นละอองยาไฟฟ้า โดยเครื่องจะทำการพ่นยาจากของเหลวให้เป็นละอองฝอย โดยผู้ใช้ต้องหายใจผ่านหน้ากากเพื่อรับละอองยา) ความแรง 0.5 (Fluticasone propionate) และ 2 (Fluticasone propionate) มิลลิกรัมต่อ 2 มิลลิลิตร

ขนาดและวิธีการใช้ยา Fluticasone

  • ป้องกันหืดกำเริบจากโรคหืด
    • ยาพ่นรูปแบบสูดพ่น (Fluticasone propionate)
      • ขนาดการใช้ยาในผู้ใหญ่ ขนาด 100 ไมโครกรัม วันละสองครั้ง ในผู้ป่วยโรคหืดระดับปานกลาง สามารถให้ขนาดยาได้ถึง 500-1,000 ไมโครกรัม วันละสองครั้งในรายที่มีอาการหืดรุนแรง
      • ขนาดการใช้ยาในเด็กอายุ 4-16 ปี ขนาด 50-100 ไมโครกรัม วันละสองครั้ง สามารถเพิ่มขนาดยาได้เป็น 200 ไมโครกรัม วันละสองครั้งหากการตอบสนองยังไม่ดีขึ้น
    • ยาชนิดใช้กับเครื่องพ่นเนบูไลเซอร์ (Fluticasone propionate)
      • ขนาดการใช้ยาในผู้ใหญ่ รายที่มีอาการหืดรุนแรง ขนาด 500-2,000 ไมโครกรัม วันละ สองครั้ง
      • ขนาดการใช้ยาในเด็กอายุ 4-16 ปี ขนาด 1,000 ไมโครกรัม วันละสองครั้ง
  • โรคริดสีดวงจมูก การใช้ยาในรูปแบบสเปรย์พ่นจมูก (Fluticasone propionate)
    • ขนาดการใช้ยาในผู้ใหญ่ ขนาดยารวม 200 ไมโครกรัม พ่นลงในจมูกแต่ละข้าง วันละ1-2 ครั้ง เป็นเวลา 4-6 สัปดาห์
    • ขนาดการใช้ยาในเด็ก อายุมากกว่า 16 ปี ให้ใช้ขนาดยาเดียวกันกับผู้ใหญ่
  • โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ การใช้ยาในรูปแบบสเปรย์พ่นจมูก (Fluticasone propionate)
    • ขนาดการใช้ยาในผู้ใหญ่ ขนาดยารวม 100 ไมโครกรัม ลงในจมูกแต่ละข้าง วันละครั้ง สามารถเพิ่มขนาดยาเป็น 100 ไมโครกรัม วันละสองครั้งได้หากอาการยังไม่ดีขึ้น
    • ขนาดการใช้ยาในเด็ก อายุ 4-11 ปี ขนาดยารวม 50 ไมโครกรัม ลงในจมูกแต่ละข้าง วันละครั้ง สามารถเพิ่มขนาดยาเป็น 50 ไมโครกรัม วันละสองครั้งได้หากอาการยังไม่ดีขึ้น
  • โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ การใช้ยาในรูปแบบสเปรย์พ่นจมูก (Fluticasone furoate)
    • ขนาดการใช้ยาในผู้ใหญ่ ขนาดยารวม 55 ไมโครกรัม ลงในจมูกแต่ละข้าง วันละครั้ง และหากอาการดีขึ้นแล้วลดขนาดยาเหลือ 27.5 ไมโครกรัม วันละครั้ง
    • ขนาดการใช้ยาในเด็ก อายุ 2-11 ปี ขนาดยารวม 27.5 ไมโครกรัม ลงในจมูกแต่ละข้าง วันละครั้ง สามารถเพิ่มขนาดยาเป็น 55 ไมโครกรัม วันละครั้งได้หากอาการยังไม่ดีขึ้น

ข้อควรระวังในการใช้ Fluticasone 

  • ห้ามใช้ยานี้ในผู้ป่วยที่แพ้ Fluticasone
  • ไม่ควรใช้ยานี้เพื่อรักษาอาการหืดกำเริบเฉียบพลัน
  • ควรระวังการใช้ยานี้ในผู้ป่วยที่ติดเชื้อวัณโรค ติดเชื้อรา หรือติดเชื้อไวรัส ในระบบทางเดินหายใจ
  • ควรระวังการใช้ยานี้ในผู้ป่วยต้อกระจก ต้อหิน
  • ควรระวังการใช้ยานี้ในผู้ป่วยที่ติดเชื้อในโพรงจมูกที่ยังไม่ได้รับการรักษา
  • ควรระวังการใช้ยานี้ในผู้ป่วยโรคตับระดับรุนแรง
  • ควรระวังการใช้ยานี้ในเด็ก สตรีมีครรภ์ และสตรีให้นมบุตร

ผลข้างเคียงของการใช้ Fluticasone

  • การใช้ยาต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน อาจเกิดผลข้างเคียง คือ กลุ่มอาการคุชชิง (Cushing’s syndrome) อาการแสดง ได้แก่ มีใบหน้ากลม แก้มแดง มีหนอกบริเวณคอ พุงยื่นแต่แขนขาลีบ กล้ามเนื้ออ่อนแรง กลุ่มอาการคุชชิงเกิดจากการที่ต่อมใต้สมองมีการสร้างฮอร์ไมน ACTH มากกว่าปกติ
  • ส่งผลต่อระดับเม็ดเลือดขาว ชนิดอีโอสิโนฟิล (Eosinophil)
  • กดการทำงานของต่อมหมวกไต
  • บกพร่องทางการเจริญเติบโต
  • ลดความหนาแน่นของมวลกระดูก
  • ทำให้เกิดต้อกระจก ต้อหิน
  • ผลข้างเคียงที่พบได้น้อย ได้แก่ ส่งผลต่อจิตประสาท และพฤติกรรม
  • ผลข้างเคียงที่รุนแรงถึงชีวิต ได้แก่ อาการจับหืดเกิดขึ้นภายหลังการสูดยาทันที สาเหตุเกิดจากการแพ้สารตัวอื่นในยา ควรงดใช้ยาทันที

ข้อควรทราบอื่นๆของยา Fluticasone

  • ยาถูกจัดอยู่ในกลุ่ม Category C ตามดัชนีความปลอดภัยการใช้ยาในหญิงตั้งครรภ์ (Pregnancy Safety Index) ควรใช้ยานี้เฉพาะเมื่อแพทย์มีความเห็นว่า ผู้ป่วยจะได้รับประโยชน์จากยามากกว่าความเสี่ยงรุนแรงที่จะเกิดขึ้นต่อทารกในครรภ์
  • ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ชนิดพ่นที่ใช้รักษาโรคหืด เป็นยาที่ใช้สำหรับควบคุมอาการเท่านั้น ยาไม่ได้มีฤทธิ์รักษาอาการ การใช้ยาจึงจำเป็นต้องใช้อย่างต่อเนื่องร่วมกับยาพ่นสำหรับรักษาอาการ
  • หากผู้ป่วยมีอาการหืดที่รุนแรง แนะนำให้รีบพบแพทย์ เนื่องจากการรักษาด้วยยาชนิดพ่นอาจรักษาหรือบรรเทาอาการไม่ได้ผล
  • หากเกิดอาการจับหืดเกิดขึ้นภายหลังการสูดยาทันที ให้งดใช้ยานั้นแล้วรีบพบแพทย์ เนื่องจากเป็นผลข้างเคียงที่อันตรายถึงชีวิต
  • หลังพ่นยาคอร์ติโคสเตียรอยด์แล้ว ผู้ป่วยควรบ้วนปากเพื่อล้างคราบยาที่หลงเหลือออกจากช่องปากและลำคอ เพื่อป้องกันการเจริญของเชื้อราในช่องปาก
  • ยานี้แนะนำให้เก็บรักษาที่อุณหภูมิไม่เกิน 30 องศาเซลเซียส เก็บให้พ้นจากแสงแดด

Scroll to Top