ตรวจวิตามิน จะได้เลือกกินให้เหมาะกับร่างกาย


ตรวจวิตามิน, ตรวจวิตามาก่อนเลือกกินอาหารเสริม

HDmall สรุปให้!

ขยาย

ปิด

  • การตรวจวิตามิน มีจุดประสงค์เพื่อวัดระดับวิตามินในร่างกาย ว่ามีวิตามินหรือสารอาหารตัวใที่ร่างกายขาดแคลน และอาจนำไปสู่อาการผิดปกติหรือไม่
  • ประโยชน์ของการตรวจวิตามินก็คือ เมื่อเราทราบแล้วว่าเราขาดวิตามินหรือสารอาหารชนิดใด เราก็จะสามารถเลือกอาหารเสริมให้เหมาะสมกับเราได้มากขึ้น รวมถึงอาจช่วยให้หมอวินิจฉัยอาการได้ง่ายขึ้นด้วย 
  • อาการที่อาจเป็นสัญญาณของการขาดวิตามิน เช่น อ่อนเพลีย ป่วยง่าย ผมร่วง อารมณ์แปรปรวน ชาตามมือและเท้า รวมถึงผู้ที่เคยได้รับวินิจฉัยว่าเป็นโลหิตจาง คนที่ลำไส้ดูดซึมได้ไม่ค่อยดี เป็นต้น
  • ดูแพ็กเกจตรวจวิตามิน เปรียบเทียบราคาได้ผ่าน HDmall หรือทักไลน์สอบถามรายละเอียดได้ที่นี่ 

การตรวจวิตามิน หนึ่งในทางเลือกสำหรับคนรักสุขภาพที่จะช่วยให้คุณใส่ใจตัวเองได้ดียิ่งขึ้น


เลือกหัวข้อที่สนใจเกี่ยวกับวิตามินในเลือดได้ที่นี่

  • ตรวจวิตามินในเลือดคืออะไร?
  • ประโยชน์ของการตรวจวิตามิน
  • ใครควรตรวจวิตามิน
  • ตรวจวิตามินตรวจอะไรบ้าง?
  • ตรวจวิตามินตรวจอย่างไร?

  • ตรวจวิตามินในเลือดคืออะไร?

    การตรวจวิตามิน คือการเจาะเลือดไปวัดระดับวิตามินและแร่ธาตุในร่างกาย ว่าอยู่ในระดับที่เหมาะสมหรือไม่ วิตามินตัวไหนที่ยังขาดอยู่และอาจนำไปสู่อาการผิดปกติในร่างกาย

    วิตามินและแร่ธาตุ หรือที่เรียกรวมกันว่า Micronutrients เป็นสารอาหารสำคัญต่อการเจริญเติบโต และการทำงานของร่างกาย โดยปกติเราจะได้รับวิตามินและสารอาหารจากพืชและเนื้อสัตว์ที่เรากิน

    แต่หากเรากินอาหารไม่หลากหลาย หรือไม่ครบ 5 หมู่ ก็จะเกิดภาวะขาดวิตามิน จนอาจนำไปสู่อาการผิดปกติในที่สุด

    ตรวจวิตามิน ราคา

    ประโยชน์ของการตรวจวิตามิน

    การตรวจวิตามินสามารถช่วยให้เราเลือกวิตามินหรืออาหารเสริมได้เหมาะสมขึ้น หลายครั้งที่ในชีวิตประจำวันเราไม่สามารถเลือกกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ได้ จนขาดวิตามินบางชนิด

    หลายคนหันมาสนใจวิตามินและอาหารเสริมทดแทน แต่หากกินวิตามินชนิดที่ร่างกายไม่ได้ขาดแคลน ร่างกายก็จะขับออกทางปัสสาวะไป ทำให้เราไม่ได้ประโยชน์อย่างเต็มที่

    การตรวจวิตามินจึงช่วยให้เราทราบได้จริงๆ ว่าร่างกายเราขาดวิตามินชนิดใดอยู่ จะได้เลือกเติมวิตามินหรืออาหารเสริมได้ถูกต้อง

    นอกจากนี้ ยังอาจช่วยให้แพทย์วินิจฉัยอาการผิดปกติที่มาสาเหตุมาจากวิตามินได้ด้วย เพราะอาการที่มีสาเหตุมาจากการขาดวิตามินนั้นมีหลายอย่าง และอาการเหล่านั้นก็ยังเกิดได้จากหลายสาเหตุด้วย

    การตรวจวิตามินจึงอาจช่วยยืนยันได้ว่าอาการนั้นมีโอกาสเกิดจากการขาดวิตามินหรือไม่ จะได้กำหนดแผนการรักษาได้เหมาะสมยิ่งขึ้น

    ใครควรตรวจวิตามิน

    การขาดวิตามินแต่ละชนิดอาจมีอาการแสดงออกหลายอย่างมาก ดังนั้นหนึ่งในวิธีทีประเมินตัวเองเบื้องต้นอาจเป็นการสังเกตอาการผิดปกติต่างๆ ดังนี้

    • ผู้ที่สงสัยว่าตนเองขาดวิตามินบี 12 (Vitamin B12) อาจมีอาการ อ่อนเพลีย เกิดความสับสน เกิดอาการชาตามมือและเท้า ปวดหัว หงุดหงิด โดยเฉพาะคนที่มีภาวะโลหิตจาง อาจมีแนวโน้มที่จะขาดวิตามินบี 12 มากกว่าผู้อื่น
    • ผู้ที่สงสัยว่าตนเองขาดวิตามินดี (Vitamin D) อาจป่วยง่าย อ่อนเพลีย ปวดหลัง ปวดกระดูก ปวดกล้ามเนื้อ อารมณ์ไม่ดี ผมร่วง
    • ผู้ที่สงสัยว่าตนเองขาดวิตามินเอ (Vitamin A) อาจมีอาการมองไม่ค่อยเห็นในเวลากลางคืน เสี่ยงต่อการติดเชื้อที่ลำคอ หน้าอก และช่องท้องง่ายขึ้น อาจทำให้ผิวแห้ง อาจส่งผลต่อระบบสืบพันธุ์ และอาจทำให้เกิดปัญหาเจริญเติบโตช้าในเด็ก
    • ผู้ที่สงสัยว่าตนเองขาดวิตามินอี (Vitamin E) อาจนำไปสู่อาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง อาการชาตามร่างกาย การมองเห็นแย่ลง และอาจทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานด้อยลง
    • ผู้ที่สงสัยว่าตนเองขาดวิตามินซี (Vitamin C) อาจนำไปสู่ผิวไม่เรียบ ผิวแห้ง เล็บมีจุดหรือเส้นสีแดง ฟกช้ำง่าย แผลหายช้า กระดูกไม่แข็งแรง มีเลือดออกตามไรฟันหรือเหงือก และระบบภูม้คุ้มกันไม่แข็งแรง
    • ผู้ที่กำลังจะกินวิตามินเสริม และอาหารเสริม หรือกินวิตามินและอาหารเสริมอยู่แล้วเป็นประจำ
    • ผู้ที่มีความเครียดสูง วิถีชีวิตเร่งรีบ รับประทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่
    • ผู้ที่มีปัญหาลำไส้ อาจมีปัญหาเกี่ยวกับการดูดซึมได้ไม่ดี
    ตรวจวิตามิน ราคา

    ตรวจวิตามินตรวจอะไรบ้าง?

    โปรแกรมตรวจวิตามินแต่ละที่มีความแตกต่างกันออกไป โดยรายการที่อาจพบได้บ่อย มีดังนี้

    • ตรวจวิตามิน บี 12
    • ตรวจวิตามิน ดี (25-OH Vitamin D Total)
    • ตรวจวิตามินเอ
    • ตรวจวิตามินซี
    • ตรวจวิตามินอี (Vitamin E: Alpha-Tocopheral)
    • ตรวจวิตามินอี (Vitamin E: Gamma-Tocopherol)
    • ลูทีนและซีแซนทีน (Lutein, Zeaxanthin)
    • เบตาคริปโตแซนทีน (Beta-cryptoxanthin)
    • ไลโคปีน (Lycopene)
    • แอลฟาแคโรทีน (Alpha-Carotene)
    • เบตาแคโรทีน (Beta-Carotene)
    • โคเอนไซม์คิวเท็น (Coenzyme Q10)
    • ตรวจสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant)

    ตรวจวิตามินตรวจอย่างไร?

    การตรวจวิตามินนั้นเหมือนกับการตรวจเลือดธรรมดา โดยปกติมักไม่จำเป็นต้องอดอาหารก่อนตรวจ เว้นแต่แพทย์จะกำชับเป็นบางโปรแกรมเท่านั้น

    ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบถึงยาและอาหารเสริมที่ใช้ก่อนการตรวจ เพราะอาหารเสริมบางชนิดอาจส่งผลกระทบต่อผลลัพธ์ได้

    หลังจากตรวจเสร็จแล้ว บางโปรแกรมแพทย์อาจให้วิตามินเสริมส่วนที่ขาดกลับมากินเสริมด้วย ซึ่งผู้ใช้บริการควรต้องดูแลตัวเองควบคู่ไปกับคำแนะนำของแพทย์ กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อป้องกันไม่ใหเกิดอาการผิดปกติจากการวิตามินอีก

    ตรวจวิตามิน ราคา

    เปรียบเทียบราคาการตรวจวิตามินได้ที่ HDmall ศูนย์รวมบริการสุขภาพ ทำฟัน และความงามที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

    มีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถสอบถามแอดมินได้ที่ไลน์ @hdcoth เรามีแอดมินคอยให้บริการตอบทุกข้อสงสัยทุกวันตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึงต 1 ทักเลย!


    บทความที่เกี่ยวข้อง


    ที่มาของข้อมูล

    ขยาย

    ปิด

    • Megan Ware, RDN, L.D., What are the health benefits of vitamin D?, (https://www.medicalnewstoday.com/articles/161618), 7 November 2019.
    • WebMD, What’s a Vitamin B12 Test?, (https://www.webmd.com/a-to-z-guides/vitamin-b12-test#1), 7 May 2019.
    • Megan Ware, RDN, L.D., Everything you need to know about vitamin A, (https://www.medicalnewstoday.com/articles/219486), 11 January 2018.
    • Cathleen Crichton-Stuart, What are the symptoms of low vitamin E?, (https://www.medicalnewstoday.com/articles/321800), 14 May 2018.
    • Erica Julson, MS, RDN, CLT, 15 Signs and Symptoms of Vitamin C Deficiency, (https://www.healthline.com/nutrition/vitamin-c-deficiency-symptoms), 25 May 2018.
    @‌hdcoth line chat