โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่กลุ่มหญิงรักหญิงต้องระวัง


โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่กลุ่มหญิงรักหญิงต้องระวัง

HDmall สรุปให้

ขยาย

ปิด

  • โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่กลุ่มหญิงรักหญิงต้องระวังได้แก่ เชื้อ HIV โรคหูดหงอนไก่ โรคเริม โรคหนองใน โรคซิฟิลิส และโรคพยาธิในช่องคลอด
  • อาการโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ของกลุ่มหญิงรักหญิงที่อาจเกิดขึ้นได้แก่ คันระคายเคืองบริเวณอวัยวะเพศ มีตุ่ม ผื่น แผลพุพอง ตุ่มน้ำใส อาจมีอาการเจ็บปวดด้วยหรือไม่มีก็ได้ รู้สึกเจ็บปวด แสบขัด ขณะปัสสาวะ มีอาการปวดท้องน้อยผิดปกติ มีตกขาวผิดปกติ
  • หากพบความเสี่ยง แพทย์จะเก็บตัวอย่างเลือด สารคัดหลั่ง หรือของเหลวอื่นๆ ในร่างกายเพื่อนำไปตรวจหาสาเหตุและวินิจฉัยว่ากำลังเผชิญกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดไหนอยู่
  • การป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ของกลุ่มหญิงรักหญิง หากมีทางปากควรใช้แผ่นยางอนามัย หากมีด้วยการใช้มือ แนะนำสวมใส่ถุงมือยาง หากใช้เซ็กซ์ทอยร่วมกัน ควรสวมใส่ถุงยางอนามัย และหมั่นตรวจภายในเป็นประจำ

การให้ความสำคัญกับสุขภาพทางเพศ โดยเฉพาะโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เป็นสิ่งที่ควรทำ ไม่เว้นแม้แต่ความสัมพันธ์แบบกลุ่มหญิงรักหญิง ที่ดูเหมือนจะมีโอกาสต่ำในการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

แต่รู้หรือไม่? ว่ากลุ่มหญิงรักหญิงก็มีความเสี่ยงในการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ไม่น้อยกว่าความสัมพันธ์รูปแบบอื่นเลยทีเดียว หากไม่ได้มีการป้องกันที่ถูกต้องเหมาะสม

เลือกหัวข้อที่สนใจได้ที่นี่

สาเหตุที่กลุ่มหญิงรักหญิงมีความเสี่ยงต่อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เป็นเพราะการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่มีเชื้อ ไม่ว่าจะทางผิวหนัง น้ำลาย สารคัดหลั่งในช่องคลอด หรือแม้แต่เลือดประจำเดือน

ขณะเดียวกันในกลุ่มหญิงรักหญิงที่เคยมีความสัมพันธ์กับเพศชายมาก่อน และไม่มีการตรวจคัดกรองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ก็มีโอกาสที่จะเชื้อจะแฝงตัวอยู่ในร่างกายโดยที่ไม่รู้ตัวก็ได้

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่กลุ่มหญิงรักหญิงต้องระวังมีอะไรบ้าง?

สำหรับโรคติตต่อทางเพศสัมพันธ์ที่สามารถพบได้บ่อยในกลุ่มหญิงรักหญิง มีดังนี้

เชื้อ HIV

การติดเชื้อ HIV สามารถแพร่กระจายได้ในกลุ่มหญิงรักหญิงผ่านทางการมีเพศสัมพันธ์โดยการถูอวัยวะเพศเข้าด้วยกัน การมีเพศสัมพันธ์ทางปาก สัมผัสกับสารคัดหลั่ง หรือเลือดของผู้ติดเชื้อ

เมื่อรับเชื้อ HIV มาแล้วอาจแสดงอาการชัดเจน หรือไม่แสดงอาการนานนับ 10 ปีก็ได้ โดยอาการจะแสดงออกมาในลักษณะต่างๆ เช่น เหนื่อยล้าง่ายผิดปกติ รอบเดือนผิดแปลกไป มีการติดเชื้อบริเวณช่องคลอด และจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาอย่างเหมาะสมเพื่อไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายถึงชีวิต

โรคหูดหงอนไก่

โรคหูดหงอนไก่เกิดจากเชื้อ HPV สามารถติดได้ในกลุ่มหญิงรักหญิง ผ่านการมีเพศสัมพันธ์ เช่น การถูปากช่องคลอดเข้าด้วยกัน (Tribbing)

อาการของหูดหงอนไก่ในผู้หญิงจะมีอาการเป็นลักษณะติ่งเนื้อคล้ายดอกกะหล่ำ หรือหูดที่อวัยวะเพศ ไม่มีอาการเจ็บปวด สามารถรักษา หรือลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อได้โดยการตัด จี้ เลเซอร์ออกโดยแพทย์ผู้ชำนาญการ

ขณะเดียวกันเชื้อ HPV มีอยู่ด้วยกันหลายสายพันธุ์ หากติดเชื้อแล้วไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสม อนาคตอาจพัฒนาการเป็นเซลล์มะเร็ง และเป็นโรคมะเร็งปากมดลูกในที่สุดได้ จึงจำเป็นต้องเข้ารับการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูก (Pap Smear) อย่างเป็นประจำ

โรคเริม

โรคเริม (Herpes) เป็นโรคติดเชื้อไวรัสผ่านการมีเพศสัมพันธ์ทางอวัยวะเพศหญิง ทวารหนัก ช่องปาก หรือแม้แต่การใช้เซ็กซ์ทอยร่วมกัน มีลักษณะเป็นแผลตุ่มน้ำใส พุพอง มีอาการแสบร้อน และหากหนองแตกอาจรู้สึกเจ็บแสบ ปวด บริเวณที่เป็นแผล อาการของโรคเริมสามารถบรรเทาได้ด้วยการทายาต้านไวรัส

เริมเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ หากอยู่ในช่วงที่ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายตก หรือสัมผัสกับแผลผู้ติดเชื้อก็มีโอกาสกลับมาเป็นโรคเริมได้อีก

โรคหนองใน

โรคหนองใน ทั้งหนองในแท้ และหนองในเทียม เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่สามารถเกิดขึ้นกับกลุ่มหญิงรักหญิงได้ เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียในบริเวณปากมดลูก ท่อปัสสาวะ ลำคอ รวมถึงลำไส้ตรงผ่านการใช้เซ็กส์ทอยร่วมกันในกลุ่มหญิงรักหญิง หรือการถูช่องคลอด (Tribbing)

อาการของโรคหนองในจะทำให้มีตกขาวผิดปกติ และหากไม่รักษาให้ถูกต้องอาจนำไปสู่การติดเชื้อในท่อนำไข่ และก่อให้เกิดภาวะมีบุตรยากในอนาคตได้

โรคซิฟิลิส

โรคซิฟิลิส (Syphilis) เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่สามารถพบได้ในกลุ่มหญิงรักหญิง เป็นการติดเชื้อแบคทีเรียที่ในช่วงแรกอาจไม่แสดงอาการชัดเจน ไม่มีอาการเจ็บปวด โดยเชื้ออาจแฝงอยู่ในร่างกายนานนับปี หากไม่ได้รับการตรวจและรักษาจะส่งผลเสียต่ออวัยวะภายในและระบบประสาทให้เสียหายรุนแรงได้ในอนาคต

โรคพยาธิในช่องคลอด

โรคพยาธิในช่องคลอด หรือ Trichomoniasis เรียกสั้นๆ ว่า Trich เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากการติดเชื้อโปรโตซัว มีอาการที่เห็นได้ชัดคือ ตกขาวมีลักษณะเป็นฟอง รู้สึกเจ็บแสบขัดเมื่อปัสสาวะ เจ็บช่องคลอด หรือช่องคลอดอาจมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ ซึ่งสามารถรักษาให้อาการดีขึ้นได้ด้วยการใช้ยาปฏิชีวนะ

อาการโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ของกลุ่มหญิงรักหญิง

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางโรคอาจไม่แสดงอาการให้เห็นได้ชัด ทำให้หลายคนไม่รู้ตัวว่าเป็นอยู่ และเผลอมีเพศสัมพันธ์กับผู้อื่นจนกลายเป็นการแพร่เชื้อโดยไม่รู้ตัวได้ แต่ถ้าสังเกตอาการของตัวเอง หรือคู่นอนหญิงรักหญิงแล้วมีอาการดังนี้ ควรละเว้นการมีเพศสัมพันธ์ และจูงมือกันพาไปหาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการรักษาอย่างถูกต้องทันที

  • อาการคันระคายเคืองบริเวณอวัยวะเพศ เช่น หัวหน่าว ขาหนีบ แคม หรือแม้แต่ในช่องคลอด
  • มีตุ่ม ผื่น บริเวณอวัยวะเพศ อาจมีอาการเจ็บปวดร่วมด้วย หรือไม่มีก็ได้
  • รู้สึกเจ็บปวด แสบขัด ขณะปัสสาวะ
  • มีแผลพุพอง ตุ่มน้ำใสขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ หรือริมฝีปาก
  • มีอาการปวดท้องน้อยผิดปกติ
  • มีตกขาวผิดปกติ เช่น ปริมาณมากเกินไป สีตกขาวเปลี่ยน มีกลิ่นคาว
  • มีของเหลว สารคัดหลั่งที่ไม่ใช่ตกขาวไหลออกจากช่องคลอด

การตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในกลุ่มหญิงรักหญิงมีวิธีอะไรบ้าง?

การตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในกลุ่มหญิงรักหญิง สามารถทำได้ที่สถานพยาบาล หรือโรงพยาบาลชั้นนำทั่วไป โดยแพทย์จะทำการซักประวัติสุขภาพร่างกาย และสุขภาพทางเพศอย่างละเอียด

หากซักประวัติแล้วพบความเสี่ยง หรือมีแนวโน้มที่จะติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แพทย์จะเก็บตัวอย่างเลือด สารคัดหลั่ง หรือของเหลวอื่นๆ ในร่างกายเพื่อนำไปตรวจหาสาเหตุและวินิจฉัยโรคอีกครั้งว่าคุณกำลังเผชิญกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดไหนอยู่ หรือจะมีแนวทางในการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสมอย่างไรต่อไป เช่น

  • นำเลือดไปตรวจเพื่อหาเชื้อ HIV โรคซิฟิลิสแฝง
  • นำปัสสาวะไปตรวจเพื่อหาเชื้อแบคทีเรียที่อาจเป็นสาเหตุของโรคหนองในแท้ โรคหนองในเทียม
  • ใช้สารคัดหลั่งภายในช่องคลอด ทวารหนักไปตรวจเพื่อหารอยโรคจากการติดเชื้อแบคทีเรีย หรือโปรโตซัว

วิธีการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ของกลุ่มหญิงรักหญิง

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ของกลุ่มหญิงรักหญิงนอกจากจะสามารถรักษาได้ด้วยการปฏิบัติตัว หรือกินยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัดแล้ว ระหว่างนี้ก็สามารถป้องกันตัวเองให้ห่างไกลจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ ดังนี้

  • ก่อนและหลังมีเพศสัมพันธ์บริเวณช่องคลอด ควรล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง
  • หากมีการร่วมเพศทางปาก (Anilingus) ไม่ว่าจะกับช่องคลอดก็ดี หรือทางทวารหนักก็ดี ควรใช้แผ่นยางอนามัย (Dental Dam) เพื่อป้องกันการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
  • หากมีเพศสัมพันธ์ด้วยการใช้มือ นิ้วมือ แนะนำสวมใส่ถุงมือยาง พร้อมใช้สารหล่อลื่นสูตรน้ำ หรือสูตรซิลิโคนร่วมด้วย
  • หากมีการใช้เซ็กซ์ทอยร่วมกัน ไม่ว่าจะใช้ภายใน หรือภายนอกช่องคลอดก็ตาม ควรสวมใส่ถุงยางอนามัย หรือควรทำความสะอาดก่อนและหลังใช้งานทุกครั้ง
  • หลีกเลี่ยงพฤติกรรมทางเพศที่ไม่ปลอดภัย เช่น มีคู่นอนหลายคนทั้งชายและหญิง
  • หมั่นตรวจภายใน ตรวจคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูก (Pap Smear) รวมถึงตรวจคัดกรองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อย่างน้อยทุก ๆ 6-12 เดือน

กลุ่มหญิงรักหญิงมีความเสี่ยงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ไม่น้อยกว่าความสัมพันธ์ในรูปแบบอื่นๆ จึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องใส่ใจและคำนึงถึงความเสี่ยงในการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อร่างกายและชีวิตในอนาคต

คู่รักหญิงรักหญิงคู่ไหนกำลังมองหาแพ็กเกจตรวจคัดกรองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ตรวจร่างกายสำหรับผู้หญิง หรือตรวจภายใน สามารถเข้ามาเปรียบเทียบราคาได้ที่ HDmall.co.th หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line: @HDcoth

บทความที่ HDmall.co.th แนะนำ

ที่มาของข้อมูล

ขยาย

ปิด

  • Navy Medicine, LESBIAN AND BISEXUAL WOMEN'S SEXUAL HEALTH (https://www.med.navy.mil/Navy-and-Marine-Corps-Force-Health-Protection-Command/Population-Health/Health-Promotion-and-Wellness/Reproductive-and-Sexual-Health/Lesbian-and-Bisexual-Womens-Sexual-Health/)
  • NHS, Sexual health for lesbian and bisexual women (https://www.nhs.uk/live-well/sexual-health/sexual-health-for-lesbian-and-bisexual-women/)
  • Qahc, Lesbian Health Lesbian and Sexual Health (https://www.opendoors.net.au/wp-content/uploads/2009/10/lesbians-and-sexual-health.pdf)
  • Webmd, Lesbian Health (https://www.webmd.com/women/lesbian-health#1-4)
@‌hdcoth line chat