สรุปการรีวิว
ปิด
ปิด
- ตั้งแต่เป็นโรคข้อเข่าเสื่อม ชีวิตป้าลำบากขึ้นมาก เพราะเข่ามันเจ็บทั้งวันทั้งคืน เวลานอนก็นอนหลับไม่สนิท ป้าเลยตัดสินใจที่จะไปรักษาด้วยการผ่าตัดข้อเข่าเทียมค่ะ
- ป้าเลือกใช้บริการผ่าตัดข้อเข่าเทียม ที่โรงพยาบาลบางปะกอก 1 เนื่องจากราคาดีกว่าที่อื่น และโรงพยาบาลอยู่ใกล้บ้านด้วย
- การผ่าตัดข้อเข่าเทียม จะใช้เวลาผ่าตัดข้างละประมาณ 45 นาที โดยคุณหมอจะตัดเอาผิวข้อเข่าที่สึกออกก่อน จากนั้นจึงจะใช้ผิวข้อเข่าเทียมที่เป็นวัสดุโลหะมาใส่แทน
- ผลลัพธ์ที่ได้หลังใช้บริการ ตอนนี้ป้าก็สามารถเดินเหินได้คล่องเลยค่ะ ไม่ต้องทนทรมานกับอาการปวดอีกแล้ว
- รีวิวนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ #HDreview ได้รับการสปอนเซอร์จากทาง HDmall.co.th และ โรงพยาบาลบางปะกอก 1
- ดูรายละเอียด ราคา ผ่าตัดรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม 1 ข้าง ที่ โรงพยาบาลบางปะกอก 1
- ดูรายละเอียดโปรแกรมทั้งหมดจาก โรงพยาบาลบางปะกอก 1 บน HDmall.co.th
ป้ามีอาการเจ็บเข่ามานานประมาณ 10 ปีแล้วค่ะ เรียกได้ว่าเจ็บมากและเจ็บตลอดเวลา ไม่ว่าจะตอนนั่ง ตอนยืน หรือแม้กระทั่งตอนนอน
ก่อนหน้านี้เคยลองซื้อพวกคอลลาเจนบำรุงกระดูกมากิน รวมถึงเคยลองฉีดยารักษามาแล้ว แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็ไม่ทำให้ดีขึ้นเลย
จนพักหลังๆ การชีวิตของป้าก็ลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมีอาการเจ็บเข่าทั้งวันทั้งคืนจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ป้าเลยมีความคิดที่จะไปผ่าตัดข้อเข่าเทียมเพื่อรักษาอาการนี้ให้หายขาดสักทีค่ะ
หลังจากตัดสินใจที่จะไปผ่าตัดข้อเข่าแล้ว ป้าก็ไม่มั่นใจว่าควรจะไปผ่าตัดข้อเข่าที่ไหนดี และโรงพยาบาลไหนที่มีโปรโมชั่นราคาดีๆ บ้าง
จนวันนึงป้าได้รับโบรชัวร์โปรโมชั่นผ่าตัดข้อเข่าเทียม ที่ โรงพยาบาลบางปะกอก 1 มา ป้าเลยลองอ่านรายละเอียดดูและรู้สึกว่าเป็นแพ็กเกจที่สนใจดี เนื่องจากเคยเห็นราคาผ่าตัดข้อเข่าเทียมของที่อื่นมาก่อน ซึ่งมีราคาแพงมากๆ แต่โปรโมชั่นของโรงพยาบาลบางปะกอก 1 ก็คือราคาดีกว่าเยอะ
ที่สำคัญคือโรงพยาบาลอยู่ใกล้บ้าน เดินทางสะดวกด้วย ป้าเลยลองติดต่อเข้าไปที่โรงพยาบาลพร้อมกับจองคิวทำนัดเพื่อเข้าไปปรึกษากับคุณหมอเลยค่ะ
รีวิว ผ่าตัดข้อเข่าเทียม ที่ โรงพยาบาลบางปะกอก 1
พอมาถึงที่ โรงพยาบาลบางปะกอก 1 ก็ติดต่อเจ้าหน้าที่หน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ว่ามาปรึกษาคุณหมอเรื่องการผ่าตัดข้อเข่าเทียม
จากนั้นถ้าใครเคยมีประวัติกับโรงพยาบาลแล้ว เจ้าหน้าที่ก็จะให้ขึ้นไปพบคุณหมอที่ศูนย์ศัลยกรรมกระดูกและข้อเลย แต่ถ้าใครยังไม่เคยมีประวัติกับโรงพยาบาลก็จะต้องทำประวัติก่อนนะคะ
ในครั้งนี้ ป้าได้พบกับคุณหมอเอกพจน์ เกิดดอนแฝก ผู้ชำนาญการด้านผ่าตัดข้อเข่าข้อไหล่ ซึ่งจะมาเป็นผู้ให้คำปรึกษาและดูแลเคสผ่าตัดข้อเข่าเทียมให้ค่ะ
เริ่มแรกป้าก็เล่าปัญหาและอาการเจ็บเข่าให้คุณหมอฟังก่อนว่ามีอาการยังไง ปวดมานานรึยัง และเคยรักษาด้วยวิธีอะไรมาแล้วบ้าง
ซึ่งจุดเริ่มต้นอาการปวดเข่าของป้าก็คือ เคยประสบอุบัติเหตุมาก่อนจนต้องเปลี่ยนกระดูกสะโพกข้างขวาเป็นกระดูกเทียม หลังจากนั้นก็ชอบกังวลว่ากระดูกเทียมจะรับน้ำหนักตัวเยอะเกินไป เวลาเคลื่อนไหวร่างกายเลยจะชอบทิ้งน้ำหนักตัวไปที่ขาข้างซ้ายมากกว่า
ส่วนการดูแลรักษา ก่อนหน้านี้ก็เคยลองซื้อพวกอาหารเสริมคอลลาเจนบำรุงกระดูกมากิน รวมถึงเคยลองฉีดยารักษาอาการปวดมาแล้ว แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็ไม่ช่วยทำให้อาการเจ็บปวดดีขึ้นเลย
หลังจากเล่าปัญหาให้ฟัง คุณหมอก็บอกว่า การทิ้งน้ำหนักตัวไปที่ขาข้างใดข้างหนึ่งแบบนี้นานๆ จะยิ่งทำให้กระดูกข้อเข่าข้างนั้นรับน้ำหนักมากเกินไปและทำให้เกิดการเสื่อมตัวจนกระดูกข้างในสึกหมดได้
คุณหมอเลยแนะนำให้รักษาโดยการผ่าตัดข้อเข่าเทียมเลยจะดีที่สุด เพื่อเป็นการเปลี่ยนเอากระดูกส่วนที่สึกแล้วออกไป และเอาวัสดุข้อเทียมใส่เข้าไปแทน ซึ่งวัสดุข้อเทียมนี้จะมีอายุการใช้งานได้ถึง 15-20 ปีเลยค่ะ
ผ่าตัดข้อเข่าเทียม มีกี่ประเภท?
คุณหมออธิบายให้ฟังว่าการผ่าตัดข้อเข่าเทียมจะมีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภท คือ
- ผ่าตัดข้อเข่าบางส่วน (Unicompartment Knee Arthroplasty: UKA) ใช้สำหรับคนที่มีกระดูกข้อเข่าเสื่อมนิดหน่อย ไม่ได้รุนแรงมาก
- ผ่าตัดข้อเข่าทั้งหมด (Total Knee Arthroplasty: TKA) ใช้ในคนที่มีกระดูกสึกมากหรือเสื่อมหมดเลย
ซึ่งในเคสของป้า คุณหมอก็แนะนำให้ผ่าตัดข้อเข่าทั้งหมด เนื่องจากกระดูกมีความเสื่อมและสึกหมดแล้วค่ะ
หลังจากพูดคุยกับคุณหมอเสร็จแล้ว ป้าก็ตกลงที่จะผ่าตัดข้อเข่าเทียมทันที โดยคุณหมอบอกว่า ก่อนผ่าตัดจะต้องตรวจสุขภาพ เช่น ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ และเอกซเรย์ก่อน เพื่อดูว่าร่างกายของเราพร้อมผ่าตัดมั้ย
นอกจากนั้นก็จะมีการสอบถามโรคประจำตัวด้วยว่า มีโรคประจำตัวอะไรที่ต้องคุมก่อนมั้ย เช่น โรคหัวใจ เพราะถ้ามีและอาการของโรคยังรุนแรงอยู่ คุณหมอก็ไม่สามารถผ่าตัดให้ได้ตอนนี้ค่ะ
ซึ่งหลังจากที่ป้าได้ตรวจสุขภาพเรียบร้อยแล้ว ผลตรวจที่ออกมาก็สามารถผ่าตัดได้ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ คุณหมอก็จะทำการนัดวันเพื่อเข้ามาผ่าตัดข้อเข่าเทียมเลย
ขั้นตอนการผ่าตัดข้อเข่าเทียม
วันที่มาผ่าตัดข้อเข่าเทียม ป้าก็รู้สึกตื่นเต้นอยู่บ้างเหมือนกันนะคะ แต่น้องๆ พยาบาล เจ้าหน้าที่ รวมถึงคุณหมอ ก็คอยชวนคุยและคอยให้กำลังใจอยู่ตลอด เลยทำให้ความตื่นเต้นของป้าลดลงค่ะ
สำหรับขั้นตอนการผ่าตัดคุณหมอได้อธิบายให้ฟังว่า จะใช้เวลาในการผ่าตัดข้างละประมาณ 45 นาที โดยคุณหมอจะตัดเอาผิวข้อเข่าที่สึกออกก่อน จากนั้นจึงจะใช้ผิวข้อเข่าเทียมที่เป็นเวชภัณฑ์ข้อเข่าเทียมมาใส่แทน
ความรู้สึกตอนผ่าตัด ถ้าถามว่าเจ็บมั้ย มันก็มีรู้สึกเจ็บบ้างนิดหน่อยนะคะ แต่อยู่ในระดับที่ทนได้ค่ะ
หลังจากผ่าตัดเสร็จแล้ว ป้าก็ต้องนอนโรงพยาบาลเพื่อพักฟื้นและรอดูอาการหลังผ่าตัดก่อน ผ่านไปประมาณ 2 วัน คุณหมอก็จะให้ลองลุก ยืน และให้หัดเดินดู ถ้าสามารถทำได้ปกติไม่มีปัญหาอะไรก็กลับไปพักฟื้นต่อที่บ้านได้เลยค่ะ
การดูแลตนเองหลังผ่าตัดข้อเข่าเทียม
การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดข้อเข่าเทียม คุณหมอก็ได้ให้คำแนะนำมาทั้งหมดดังนี้
- ควรเข้าติดตามอาการตามที่คุณหมอนัดทุกครั้ง
- หลังจากกลับบ้านแล้ว ควรหัดเดินด้วยวอล์คเกอร์
- คุณหมอจะปิดแผลแบบกันน้ำให้ สามารถอาบน้ำได้ ประมาณสัปดาห์ที่ 2 หลังผ่าตัดคุณหมอจะนัดมาติดตามอาการและแกะแผลผ่าตัด
- ไม่ต้องตัดไหม เพราะคุณหมอจะเย็บแผลด้วยไหมละลาย ประมาณ 1-2 เดือน ไหมจะละลายหมด
- คุณหมอและนักกายภาพบำบัดจะสอนการบริหารเข่าหลังกลับบ้านแล้ว
นอกจากนี้คุณหมอก็บอกว่า สามารถกินยาแก้ปวดก่อนเข้ารับการทำกายภาพบำบัดได้ แต่ควรปรึกษาคุณหมอก่อนการใช้ยาค่ะ
ผลลัพธ์หลังผ่าตัดข้อเข่าเทียม
ผลลัพธ์หลังจากผ่าตัดข้อเข่าเทียม ป้าก็สามารถเดินเหินได้คล่องขึ้น ไม่ต้องทนปวดเข่าทรมานเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้วค่ะ
อีกอย่างคือ หลังจากผ่าตัดข้อเข่าเทียม ป้าก็ไม่ต้องเสียเงินเพื่อซื้อยา ซื้อวิตามินแพงๆ รวมถึงไม่ต้องคอยไปฉีดยาที่ข้อเข่าซ้ำหลายๆ รอบแล้วด้วย ผ่าตัดรักษารอบเดียวจบทุกปัญหาเลย
บรรยากาศของ โรงพยาบาลบางปะกอก 1
บรรยากาศของ โรงพยาบาลบางปะกอก 1 ภายในโรงพยาบาลสะอาดสะอ้าน มีเครื่องไม้เครื่องมือที่ทันสมัย ห้องพักฟื้นสะดวกสบาย มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
ด้านการให้บริการ น้องๆ เจ้าหน้าที่และพยาบาลทุกคนดูแลเป็นอย่างดี คอยช่วยเหลืออยู่ตลอดตั้งแต่ป้าก้าวเข้ามาในโรงพยาบาลเลย ส่วนคุณหมอก็เป็นกันเอง ให้คำแนะนำได้ดีมาก มีความชำนาญ ทำให้ผลลัพธ์หลังผ่าตัดออกมาดี คิดไม่ผิดเลยค่ะที่ไว้วางใจมาผ่าตัดข้อเข่าเทียมที่นี่
ป้าก็อยากจะเตือนผู้สูงวัยทุกท่าน ให้ระมัดระวังเรื่องการใช้เข่าให้ดีๆ นะคะ พยายามอย่าทิ้งน้ำหนักตัวที่ขาข้างใดข้างหนึ่งจนเกินไป ไม่งั้นเข่าจะเสื่อมสภาพลงได้
รวมถึงอยากระมัดระวังเรื่องการออกกำลังกายด้วย ให้ออกกำลังกายแต่พอดี สูงวัยแบบเราไม่ควรหักโหมหรือออกกำลังกายหนักจนเกินไป เพราะมันจะเสี่ยงทำให้ข้อเข่าเกิดการบาดเจ็บได้ค่ะ
แต่สำหรับใครที่มีอาการปวดเข่าหรือเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมอยู่ ป้าก็แนะนำให้ลองเข้ามาปรึกษากับคุณหมอเอกพจน์ เกี่ยวกับการผ่าตัดข้อเข่าเทียม ที่ โรงพยาบาลบางปะกอก 1 เลยค่ะ คุณหมอให้คำแนะนำดีมากๆ
ที่สำคัญคือ โรงพยาบาลบางปะกอก 1 เค้ามีโปรโมชั่นราคาพิเศษอยู่ แถมยังสามารถผ่อน 0% นาน 10 เดือนกับ HDpay ได้อีกด้วย
ผู้ที่สนใจผ่อนชำระค่าบริการกับ HDpay สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่หน้าเคาน์เตอร์ของโรงพยาบาลพร้อมถามเงื่อนไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการผ่อนชำระได้เลยค่ะ เรียกได้ว่าราคาดี คุ้มค่า ผ่อนชำระได้แบบสบายกระเป๋ามากๆ