รีวิว ทำกายภาพบำบัด ฟื้นฟูออฟฟิศซินโดรม ที่ โรงพยาบาลวิมุต


รีวิว ทำกายภาพบำบัด ฟื้นฟูออฟฟิศซินโดรม ที่ โรงพยาบาลวิมุต

สรุปการรีวิว

ขยาย

ปิด

  • ตั้งแต่โควิดระบาดชีวิตประจำวันของซีนก็เปลี่ยนไปค่ะ นั่งทำงานทั้งวัน ไม่ได้ขยับตัวออกไปไหนเลย จนทำให้มีอาการปวดหลัง ปวดบ่า ปวดคอ รวมถึงปวดกระบอกตาด้วย ซีนเลยอยากไปทำกายภาพบำบัดค่ะ
  • ซีนเลือกทำกายภาพบำบัดที่ โรงพยาบาลวิมุต เนื่องจากเป็นโรงพยาบาลเอกชนเปิดใหม่ที่อยู่ใกล้บ้าน แถมยังมีโปรโมชั่นราคาพิเศษอยู่ด้วย
  • การทำกายภาพบำบัดของซีน นักกายภาพจะรักษา 2 ขั้นตอนหลักๆ คือการใช้เครื่องมือเพื่อช่วยให้เส้นประสาทคลายตัว และการทำกายภาพบำบัด 6 ท่า ที่จะช่วยลดอาการปวดหลัง คอ และบ่า
  • ผลลัพธ์หลังจากที่ทำกายภาพบำบัดไปแล้ว 1 ครั้ง ช่วง 2 วันแรกจะยังมีอาการปวดๆ ตึงๆ อยู่นิดหน่อย แต่หลังจากผ่านไปแล้ว 2 วัน อาการปวดก็ดีขึ้นค่ะ
  • รีวิวนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ #HDreview ได้รับการสปอนเซอร์จากทาง HDmall.co.th และ โรงพยาบาลวิมุต

รีวิวทำกายภาพบำบัด ฟื้นฟูออฟฟิศซินโดรม ที่ โรงพยาบาลวิมุต ประสบการณ์จริงที่ช่วยฟื้นฟูอาการปวดหลัง คอ บ่า ให้ดีขึ้น อธิบายครบทุกรายละเอียดในรีวิวนี้ที่เดียว

เลือกหัวข้อที่สนใจได้ที่นี่

  • รีวิว ทำกายภาพบำบัด ฟื้นฟูออฟฟิศซินโดรม ที่ โรงพยาบาลวิมุต
  • ขั้นตอนการรักษาออฟฟิศซินโดรมด้วยเครื่อง PMS และ TECAR Therapy
  • ขั้นตอนการทำกายภาพบำบัด
  • ผลลัพธ์หลังจากทำกายภาพบำบัด
  • บรรยากาศของ โรงพยาบาลวิมุต
  • บทความที่ HDmall.co.th แนะนำ

  • ก่อนหน้าที่จะมีโควิด ซีนยังพอได้ขยับตัว ได้ออกกำลังกาย หรือออกไปเดินเล่นอยู่บ้าง แต่พอมีโควิดเข้ามาปุ๊บ ช่วงที่ล็อกดาวน์ก็ทำให้พฤติกรรมของซีนเปลี่ยนไป กลายเป็นว่าซีนนั่งทำงานทั้งวัน ไม่ได้ขยับตัวออกไปไหน และอีกอย่างคือเก้าอี้ที่บ้านก็ไม่ได้ซัพพอร์ตตัวเราด้วย

    การที่มีพฤติกรรมแบบนี้นานๆ เลยทำให้ซีนมีอาการปวดหลัง ลามมาบ่า คอ และช่วงไหนที่มีความเครียดมากๆ ก็จะทำให้ปวดกระบอกตาร่วมด้วย

    ซีนเลยคิดว่าอาการเหล่านี้น่าจะเป็นอาการของออฟฟิศซินโดรม เลยพยายามหาทางแก้ด้วยตัวเองอย่างการ เล่นโยคะ หรือยืดตัวตาม YouTube

    แต่การแก้ปัญหาด้วยตัวเองแบบนี้ก็อาจจะไม่ได้ทำให้เห็นผลลัพธ์ที่ดี 100% เพราะบางทีเราอาจจะเล่นไม่ถูกท่า เล่นไม่โดนจุดที่ปวดจริงๆ หรือมีวินัยไม่มากพอ ทำให้มีอาการปวดเพิ่มขึ้นไปอีก

    พอเริ่มรู้สึกว่าอาการปวดมันหนักขึ้นเรื่อยๆ ซีนก็เลยอยากหาวิธีการรักษาแบบอื่นดู ซึ่งวิธีที่ซีนสนใจนั่นก็คือการทำกายภาพบำบัดนั่นเองค่ะ

    การทำกายภาพบำบัด จริงๆ แล้วก็คล้ายกับที่เรายืดเส้นด้วยตัวเองนี่แหละค่ะ แต่การทำกายภาพบำบัดนั้นจะมีนักทำกายภาพเป็นคนมารักษาอาการปวดให้ แถมยังมีใช้เครื่องมือเสริมต่างๆ ในการกระตุ้นกล้ามเนื้อเข้ามารักษาร่วมด้วย ซีนเลยมองว่าการเข้าไปทำกายภาพบำบัดน่าจะเห็นผลลัพธ์ที่ดีและตรงจุดมากกว่าการยืดเส้นด้วยตัวเอง

    พอตัดสินใจที่จะไปทำกายภาพบำบัดแล้ว ซีนเลยลองเข้ามาหาโปรแกรมทำกายภาพบำบัดใกล้บ้านดูบน HDmall.co.th เนื่องจากเคยใช้บริการในนี้อยู่บ่อยๆ เลยรู้ว่าเค้าต้องมีโปรแกรมเกี่ยวกับสุขภาพราคาดีๆ ให้เราเลือกใช้บริการแน่นอน

    และซีนก็ได้มาเจอกับโปรแกรมทำกายภาพบำบัด ฟื้นฟูออฟฟิศซินโดรม ที่ โรงพยาบาลวิมุต ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเอกชนเปิดใหม่ที่อยู่ใกล้บ้าน แถมเค้ายังร่วมโปรโมชันกับ HDmall.co.th อยู่ด้วย ซีนเลยไม่รอช้า เลือกจองใช้บริการที่นี่ทันทีค่ะ

    ด้วยความที่ซีนยังไม่เคยเข้าไปใช้บริการที่ โรงพยาบาลวิมุต มาก่อน เลยลองเสิร์ชหาข้อมูลเกี่ยวกับโรงพยาบาลดู ซึ่งโรงพยาบาลวิมุต ถึงแม้จะเป็นโรงพยาบาลเปิดใหม่ แต่ก็เป็นโรงพยาบาลที่มีมาตรฐานสากล ทั้งในด้านการรักษา การให้บริการ รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ ทำให้ซีนรู้สึกมั่นใจที่จะมาใช้บริการค่ะ

    โรงพยาบาลวิมุต

    รีวิว ทำกายภาพบำบัด ฟื้นฟูออฟฟิศซินโดรม ที่ โรงพยาบาลวิมุต

    พอมาถึงที่ โรงพยาบาลวิมุต ก็เข้ามาติดต่อเจ้าหน้าที่หน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ว่ามาใช้บริการทำกายภาพบำบัด เจ้าหน้าที่ก็จะแนะนำให้ขึ้นไปที่ชั้น 10 ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูเลยค่ะ

    ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู

    พอขึ้นมาที่ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูแล้ว ก็ติดต่อเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์พร้อมกับยื่นคูปองที่ได้รับจาก HDmall.co.th ให้ดู จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะให้ลงทะเบียนทำประวัติคนไข้ใหม่เล็กน้อย พาไปวัดความดัน วัดส่วนสูง ชั่งน้ำหนัก และเข้าไปพบคุณหมอเพื่อวางแผนการรักษาได้เลยค่ะ

    ติดต่อเจ้าหน้าที่หน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์
    วัดความดันก่อนเข้าใช้บริการ

    เริ่มแรกคุณหมอก็จะซักประวัติของเราอย่างละเอียดก่อนว่า มีอาการปวดตรงไหน ก่อนหน้าที่จะปวดและหลังจากปวดมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตยังไง ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ดูแลตัวเองยังไงบ้าง และผลลัพธ์ที่ได้เป็นยังไง ซีนก็เล่าอาการต่างๆ ของตัวเองให้คุณหมอฟังไป

    พอคุณหมอทราบข้อมูลต่างๆ แล้ว คุณหมอก็จะตรวจเช็กอีกรอบด้วยการกดและบีบดูบริเวณที่เราปวดว่าตรงไหนเจ็บมาก เจ็บน้อย มีอาการปวดแบบทึบ คม แหลม หรือตึงตรงไหน และก็ให้ยืนตรงพร้อมกับก้มแตะที่เท้า เพื่อดูว่ารู้สึกตึงตรงไหนเป็นพิเศษมั้ย

    ขั้นตอนทดสอบอาการปวด

    หลังจากที่คุณหมอเช็กดูแล้ว ก็จะสามารถวินิจฉัยได้เลยว่าอาการปวดของซีนเป็นอาการปวดจากกล้ามเนื้อ เนื่องจากร่างกายไม่ได้เคลื่อนไหว หรือขาดความยืดหยุ่นไปนานๆ ซึ่งเป็นอาการเริ่มต้นของออฟฟิศซินโดรมนั่นเองค่ะ

    สำหรับอาการออฟฟิศซินโดรมของซีนก็ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ปกติ ไม่ถึงขั้นปวดร้ายแรงมากจนน่าเป็นห่วง พอคุณหมอวินิจฉัยอาการออกมาแล้ว ขั้นตอนต่อไปคุณหมอก็จะเริ่มวางแผนการรักษาและการทำกายภาพบำบัดให้เลย

    คุณหมอวินิจฉัยอาการปวด

    โดยการรักษาของซีนจะเป็นการรักษา 2 ขั้นตอนนั่นก็คือ การใช้เครื่องมือเพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว และการทำกายภาพบำบัด 6 ท่า ที่จะช่วยลดอาการปวดหลัง คอ และบ่านั่นเองค่ะ

    ขั้นตอนการรักษาออฟฟิศซินโดรมด้วยเครื่อง PMS และ TECAR Therapy

    หลังจากที่คุณหมอวางแผนการรักษาเรียบร้อยแล้ว คุณหมอก็จะให้ไปเปลี่ยนเป็นชุดของทางโรงพยาบาลและเริ่มทำการรักษาออฟฟิศซินโดรมกันเลยค่ะ

    ชุดเปลี่ยนของ โรงพยาบาลวิมุต

    ขั้นตอนแรกจะเป็นการรักษาด้วยเครื่อง PMS หรือ Peripheral Magnetic Stimulation ซึ่งเครื่องนี้จะเป็นการบำบัดอาการปวดด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่สามารถกระตุ้นทะลุผ่านเสื้อผ้าลงลึกได้ถึงชั้นเนื้อเยื่อและกระดูกประมาณ 10 เซนติเมตร

    โดยเครื่อง PMS จะช่วยเข้าไปกระตุ้นเส้นประสาท และเพิ่มระบบการไหลเวียนของเลือด ทำให้อาการปวดของกล้ามเนื้อลดลงได้ค่ะ

    ขั้นตอนการรักษาด้วยเครื่อง PMS หรือ Peripheral Magnetic Stimulation

    ขั้นตอนการรักษาด้วยเครื่อง PMS พี่นักกายภาพบำบัดจะให้นำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ออกมาให้อยู่ห่างจากตัวก่อนประมาณ 1 เมตร จากนั้นก็ให้นอนคว่ำลงบนเตียงและนำหัวแม่เหล็กของเครื่อง PMS มาระบายทั่วๆ บริเวณที่ปวด

    สำหรับความรู้สึกระหว่างทำก็จะรู้สึกสั่นๆ เพราะโดนกระตุ้นจากคลื่นแม่เหล็กนิดนึงค่ะ แต่ไม่ได้รู้สึกเจ็บอะไรเลย ใช้เวลาทำประมาณ 20 นาทีก็เสร็จแล้ว

    ขั้นตอนที่ 2 จะเป็นการรักษาด้วยเครื่อง TECAR Therapy ค่ะ สำหรับเครื่องนี้จะเป็นการบำบัดด้วยความร้อนภายในร่างกาย โดยอาศัยคลื่นวิทยุ เพื่อทำให้กล้ามเนื้อที่มันตึงเกิดการคลายตัว ช่วยลดอาการปวดของกล้ามเนื้อได้

    โดยขั้นตอนนี้พี่นักกายภาพบำบัดจะให้เรานอนคว่ำ พร้อมกับมีหมอนมารองไว้ที่บริเวณใต้ลำตัวอีกชั้นนึง จากนั้นก็เปิดเสื้อด้านหลังและทาเจลเพื่อรับคลื่นวิทยุไปทั่วๆ บริเวณที่จะรักษา เสร็จแล้วก็เริ่มนำเครื่อง TECAR Therapy มาวนรอบๆ บริเวณที่ปวดเลยค่ะ

    ขั้นการรักษาด้วยเครื่อง TECAR Therapy

    ความรู้สึกตอนทำก็จะรู้สึกอุ่นๆ นิดนึง ใช้เวลาทำประมาณ 20 นาทีก็เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ หลังจากนั้นก็ไปเปลี่ยนชุดและไปทำกายภาพบำบัดกันต่อเลย

    ขั้นตอนการทำกายภาพบำบัด

    สำหรับการทำกายภาพบำบัด คุณหมอจะให้ท่ามาทั้งหมด 6 ท่า เพื่อช่วยลดอาการปวดหลัง คอ และบ่า โดย 3 ท่าแรกจะเป็นท่าที่ช่วยยืดสะโพกและหลัง มีรายละเอียดดังนี้ค่ะ

    1. ดึงเข่าเข้ามาชิดลำตัว ทำค้างไว้ประมาณ 10 วินาที ทั้งหมด 10 ครั้ง ทำ 2 ข้าง
    2. ดึงเข่าเข้ามาชิดลำตัวแล้วพลิกเข่าให้ตัวช่วงล่างบิด ในขณะที่ตัวช่วงบนยังอยู่ที่เดิม ทำค้างไว้ 10 วินาที ทั้งหมด 10 ครั้ง ทำ 2 ข้าง
    3. ดึงเข่าเข้ามาชิดอก กางเข่าให้น่องขนานกับลำตัว และยกเข่าอีกข้างนึงขึ้นมาหาตัวเพื่อขัดกันเป็นเลข 4 และดึงเข่าเข้าหาตัวเพื่อเป็นการเปิดสะโพก ทำค้างไว้ประมาณ 10 วินาที ทั้งหมด 10 ครั้ง ทำ 2 ข้าง
    ขั้นตอนการทำกายภาพบำบัด

    ต่อไปจะเป็นท่ายืดกล้ามเนื้อคอและบ่า มีทั้งหมด 3 ท่า ดั้งนี้ค่ะ

    1. ให้นั่งตัวตรง เอาขาห้อยลง และเอามือข้างนึงไคว่หลัง อีกข้างจับบริเวณศีรษะไว้ และเอียงลงมาด้านข้าง เพื่อให้เส้นคอด้านข้างตึง ทำค้างไว้ 10 วินาที ทั้งหมด 10 ครั้ง ทำ 2 ข้าง
    2. ให้นั่งตัวตรง เอาขาห้อยลงมา และเอามือข้างนึงไคว่หลัง อีกข้างจับบริเวณศีรษะไว้ และเอียงเฉียงลงมาด้านข้างประมาณ 45 องศา ทำค้างไว้ 10 วินาที ทั้งหมด 10 ครั้ง ทำ 2 ข้าง
    3. มือสองข้างประสานท้ายทอย และกดลงมาให้คางชิดอก ทำค้างไว้ 10 วินาที ทั้งหมด 10 ครั้ง

    และนี่ก็เป็นท่ากายภาพบำบัดทั้งหมดที่คุณหมอให้มา ซึ่งคุณหมอก็แนะนำว่าควรทำเป็นประจำทุกวัน ทั้งเช้าและเย็นได้ยิ่งดี ท่าเหล่านี้ก็จะช่วยบรรเทาอาการปวดหลัง คอ และบ่าของเราได้ด้วยค่ะ

    สำหรับใครที่มีอาการแบบซีนแล้วมารับการรักษาที่โรงพยาบาลวิมุต อาจจะไม่ได้รักษาด้วยวิธีเดียวกับซีนนะคะ รวมถึงท่ายืดกล้ามเนื้อด้วย เพราะที่นี่เค้าจะรักษาเป็นแบบรายบุคคลเลย และออกแบบท่าที่เหมาะกับแต่ละคนให้ค่ะ

    หลังจากเสร็จทุกขั้นตอนแล้ว พยาบาลก็จะให้ออกมาทำนัดสำหรับครั้งถัดไป ซึ่งปัญหาของซีนคุณหมอแนะนำให้มาทำประมาณ 4-5 ครั้งภายในหนึ่งเดือน ส่วนหลังจากนั้นก็ขึ้นอยู่กับเราเลยค่ะว่าอยากจะมารักษาต่อมั้ย

    ผลลัพธ์หลังจากทำกายภาพบำบัด

    สำหรับผลลัพธ์หลังจากที่ทำกายภาพบำบัดไปแล้ว 1 ครั้ง ช่วง 2 วันแรกก็จะยังมีอาการปวดๆ ตึงๆ บริเวณที่รักษาอยู่ค่ะ แต่คุณหมอแจ้งว่าหลังจากผ่านไปแล้ว 2 วัน อาการปวดก็จะดีขึ้น

    หลังทำกายภาพบำบัด

    บรรยากาศของ โรงพยาบาลวิมุต

    โรงพยาบาลวิมุต ก็ถือว่าเป็นโรงพยาบาลที่ใหม่ สะอาด และทันสมัยมากๆ เลยค่ะ เริ่มตั้งแต่การจอดรถของที่นี่ ปกติแล้วเราจะต้องรับบัตรจอดรถและชอบเจอปัญหาหาบัตรจอดรถไม่เจอตอนจะออกจากตึก

    เครื่องสแกนหน้าเข้าอาคารจอดรถ

    แต่ที่นี่เค้าจะใช้เป็นการสแกนใบหน้าแทนการรับบัตรจอดรถ ซึ่งซีนรู้สึกประทับใจตรงนี้มากๆ เพราะมันเป็นอะไรที่สะดวกสบาย รวดเร็ว หมดบัตรหาการหาบัตรจอดรถไม่เจอ และแก้ปัญหารถติดตอนออกจากตึกได้ด้วยค่ะ

    ส่วนบรรยากาศภายในโรงพยาบาลก็ตกแต่งสวยงาม กว้างขวาง สะอาดสะอ้าน ที่สำคัญคือเค้าออกแบบสถานที่มาดีมากๆ ถึงแม้จะมีคนเข้ามาใช้บริการเยอะ แต่เข้าไปแล้วก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกอึดอัดอะไรเลยค่ะ จัดแบ่งโซนได้เป็นอย่างดี แถมข้างล่างเค้ายังมีคาเฟ่น่ารักๆ ให้บริการอีกด้วย

    คาเฟ่ด้านในโรงพยาบาลวิมุต

    ด้านการให้บริการ พนักงานทุกคนตั้งแต่รปภ. เจ้าหน้าที่หน้าเคาน์เตอร์ พยาบาล และคุณหมอ ให้บริการดีมากๆ พูดจาไพเราะ ให้คำแนะนำเป็นอย่างดี ซีนคิดว่าใครที่พึ่งเข้ามาใช้บริการครั้งแรกจะต้องติดใจ และกลับมาใช้บริการที่ โรงพยาบาลวิมุต อีกแน่นอนค่ะ

    เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ที่ โรงพยาบาลวิมุต

    เพื่อนๆ คนไหนที่มีอาการออฟฟิศซินโดรมแบบซีนอยู่แล้วสนใจอยากมาทำกายภาพบำบัด ซีนก็แนะนำให้เข้ามาใช้บริการที่ โรงพยาบาลวิมุต เลยค่ะ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน

    ผู้ใช้บริการทำกายภาพบำบัด ฟื้นฟูออฟฟิศซินโดรม ที่ โรงพยาบาลวิมุต

    และถ้าจะให้คุ้มค่าสุดๆ ก็อย่าลืมเข้าไปจองแพ็กเกจบน HDmall.co.th นะคะ เพราะในนี้เค้ารวบรวมแพ็กเกจ ราคาดีๆ โปรโมชั่นสุดพิเศษของ โรงพยาบาลวิมุต ไว้อยู่มากมายเลย ห้ามพลาดเลยนะคะ


    บทความที่ HDmall.co.th แนะนำ

    @‌hdcoth line chat