สรุปการรีวิว
ปิด
ปิด
- สำหรับคนวัยทำงานอย่างบุ้ง ก็มักเจอปัญหาทำงานจนไม่มีเวลาพักผ่อน เป็นหวัดง่าย เกิดความเครียดสะสมจากงานทำให้นอนหลับไม่ค่อยดี
- บุ้งทำงานได้ไม่เต็มที่และรู้สึกว่าร่างกายของเราไม่ไหวแล้ว หากปล่อยไว้คงเป็นปัญหาเรื้อรังระยะยาว เราเลยลองค้นหาข้อมูลว่ามีคลินิกไหนที่รักษาอาการเหล่านี้ได้บ้าง
- ทำให้บุ้งได้รู้จักกับการรักษาแบบ โอโซนบำบัด หรือ Ozone Therapy ที่เป็นการเพิ่มออกซิเจนให้กับร่างกายผ่านการบำบัดเลือด โดยนำเลือดของเราผสมกับโอโซนหรือออกซิเจนบริสุทธิ์ จากนั้นก็ปล่อยเลือดกลับคืนสู่ร่างกายของเรา
- หลังจากทำโอโซนบำบัด (Ozone Therapy) แล้ว เราเห็นผลตั้งแต่วันแรกเลยค่ะ พอตื่นตอนเช้าแล้วสดชื่นมากเลยค่ะ กลางคืนก็หลับดี ไม่มีการตื่นขึ้นมากลางดึกเหมือนเมื่อก่อน
- รีวิวนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ #HDreview ได้รับการสปอนเซอร์จากทาง HDmall.co.th และ Navella Medical & Wellness
- ดูรายละเอียด ราคาโปรแกรม Ozone Therapy ที่ Navella Medical & Wellness
- ดูโปรแกรมทั้งหมดจาก Navella Medical & Wellness บน HDmall.co.th
- สอบถามแอดมินเพิ่มเติมเกี่ยวกับแพ็กเกจได้ที่ไลน์ @HDcoth
เลือกหัวข้อที่สนใจได้ที่นี่
สำหรับคนวัยทำงานอย่างบุ้ง ก็มักเจอปัญหาทำงานจนไม่มีเวลาพักผ่อน เป็นหวัดง่าย เกิดความเครียดสะสมจากงาน พลอยทำให้ตื่นบ่อยลางดึก นอนหลับไม่ค่อยสนิท เวลาตื่นนอนตอนเช้าก็ไม่สดชื่น พึ่งเริ่มวันใหม่ก็รู้สึกเหนื่อยล้าซะแล้ว
ซึ่งมันส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันของบุ้งมากเลยค่ะ บุ้งทำงานได้ไม่เต็มที่และรู้สึกว่าร่างกายของเราไม่ไหวแล้ว หากปล่อยไว้คงเป็นปัญหาเรื้อรังระยะยาว เราเลยลองค้นหาข้อมูลว่ามีคลินิกไหนที่รักษาอาการเหล่านี้ได้บ้าง
ทำให้บุ้งได้รู้จักกับการรักษาแบบ โอโซนบำบัด (Ozone Therapy) ที่ Navella Medical & Wellness โดยคุณหมอของที่นี่มีชื่อเสียงด้านเวชศาสตร์ป้องกัน ฟื้นฟู และชะลอวัย
วันนี้บุ้งก็จะมาแบ่งปันเคล็ดลับตื่นตัวของสาววัยทำงานให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกันค่ะ โดยบุ้งได้จองโปรแกรมผ่าน HDmall.co.th เพราะที่นี่มีแพ็กเกจและโปรโมชั่นดีๆ เยอะมาก
รีวิวโปรแกรม โอโซนบำบัด (Ozone Therapy) ที่ Navella Medical & Wellness Center
พอมาถึงที่ Navella Medical & Wellness Center ก็เข้ามาติดต่อพี่เจ้าหน้าที่หน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์พร้อมกับยื่นคูปองที่ได้รับจาก HDmall.co.th ให้ค่ะ
จากนั้นพี่ๆ เจ้าหน้าที่ก็จะให้ทำประวัติและกรอกข้อมูลอย่างละเอียดค่ะ เพราะคุณหมอให้ความสำคัญกับประวัติของคนไข้มากๆ มีการถามถึงรายละเอียดปัญหาสุขภาพจนถึงระดับฮอร์โมน และวัดความดันด้วยค่ะ
ระหว่างที่รอพบคุณหมอ ที่คลินิกก็มีบริการเครื่องดื่มและอาหารว่างให้ด้วยค่ะ รอแป๊บเดียวก็ถึงคิวของเราแล้ว เพราะที่ ณ เวฬา คลินิก จะรับคนไข้จำนวนจำกัดต่อวัน เลยทำให้ไม่พลุกพล่านและเป็นส่วนตัวมากๆเลยค่ะ
บุ้งได้เข้าพบกับ แพทย์หญิงเอมอร ภัทรมงคลกาล หรือ คุณหมอเอมมี่ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยและสมุทัยเวชศาสตร์ (Anti-aging & Integrative Doctor)
คุณหมอก็จะถามเราว่ามีปัญหาอะไรบ้างและปกติเราใช้ชีวิตแบบไหน เพื่อประเมินถึงสาเหตุของอาการเหนื่อยล้า อย่างเราก็จะมีปัญหานอนดึก ตื่นเช้าแล้วไม่สดชื่น รู้สึกอ่อนเพลียเหนื่อยล้า เวลาขับรถไปทำงานก็จะเป็นปัญหาค่ะ
คุณหมอเอมมี่ก็บอกว่า ปัญหาหลักของบุ้งเกิดจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ นอนน้อย และมีความเครียดจากงาน ทำให้สะดุ้งตื่นกลางดึก เกิดอาการเหนื่อยล้า
คุณหมอจึงแนะนำโปรแกรมโอโซนบำบัด (Ozone Therapy) เพื่อเพิ่มออกซิเจนบริสุทธิ์ให้กับเซลล์ในร่างกาย ซึ่งนอกจากจะช่วยให้สดชื่นและยังช่วยลดอาการอักเสบอีกด้วย เช่น คนที่มีอาการไอ หลังเติมโอโซนอาการก็จะบรรเทาลงถึง 20% เลย
โอโซนบำบัด (Ozone Therapy) คืออะไร?
จากที่ได้ฟังจากคุณหมออธิบายให้ฟัง บวกกับที่หาข้อมูลเอง บุ้งขออธิบาย จากที่ได้ฟังจากคุณหมออธิบายให้ฟัง บวกกับที่หาข้อมูลเอง บุ้งขออธิบายโอโซนบำบัด หรือ Ozone Therapy แบบเข้าใจง่ายนะคะ
โอโซนบำบัด หรือ Ozone Therapy เป็นการเพิ่มออกซิเจนให้กับร่างกายผ่านการบำบัดเลือดค่ะ โดยใช้วิธีนำเลือดของเราผสมกับโอโซนหรือออกซิเจนบริสุทธิ์ จากนั้นจึงปล่อยเลือดกลับคืนสู่ร่างกายของเรา
โอโซนบำบัด (Ozone Therapy) นอกจากจะช่วยเพิ่มออกซิเจนให้เซลล์ร่างกายมากขึ้นแล้ว ยังช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันเพื่อต่อสู้กับมลภาวะ หรือเชื้อโรคต่างๆ ด้วยค่ะ
และยังช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง เพิ่มพลังงานให้เซลล์ต่างๆ ในร่างกาย เมื่อปริมาณออกซิเจนในร่างกายเพิ่มขึ้น จะทำให้เรารู้สึกสดชื่นและไม่อ่อนเพลียค่ะ
คุณหมอก็ให้ความรู้เพิ่มเติมค่ะ ว่าการทำโอโซนบำบัดเหมาะกับคนที่เป็นภูมิแพ้ ภูมิเพี้ยน มะเร็ง ป่วยเป็นเชื้อเรื้อรังอย่างไวรัสตับ หรือมีปัญหาระบบไหลเวียนเลือด
สำหรับคนที่มีความผิดปกติในเรื่องการแข็งตัวของเลือด คุณหมอไม่แนะนำให้ทำค่ะ นอกจากนี้คนไข้ควรแจ้งยาที่รับประทานและอาการแพนิค (Panic) เช่น กลัวเลือด เพื่อคุณหมอจะได้ประเมินการทำโอโซนบำบัดได้อย่างปลอดภัยค่ะ
การเตรียมตัวก่อนทำโปรแกรม โอโซนบำบัด (Ozone Therapy)
คุณหมอก็ได้แนะนำการเตรียมตัว ดังต่อไปนี้ค่ะ
- พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อปรับสมดุลร่างกายก่อนได้รับ Ozone
- ดื่มน้ำมากๆ ช่วยให้หลอดเลือดขยายตัว ช่วยให้เลือดไหลเวียนไปได้อย่างรวดเร็ว
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1 วันก่อนรับบริการ
เราควรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัยและเพื่อให้การทำโอโซนบำบัดมีประสิทธิภาพค่ะ
ขั้นตอนการทำโอโซนบำบัด (Ozone Therapy)
พี่พยาบาลก็จะพาเรามานอนที่เตียงและเตรียมความพร้อมของอุปกรณ์ รวมไปถึงเครื่องโอโซนค่ะ ซึ่งอุปกรณ์ 1 ชุด ต่อ 1 คนเท่านั้น มีการห่อปิดแบบ Sterile โดยปราศจากเชื้อ พี่พยาบาลก็จะแกะซองอุปกรณ์ให้เราดูตรงหน้า มั่นใจได้เลยว่าสะอาดปลอดภัย ไม่ใช่ของที่ใช้ซ้ำแน่นอน
ขั้นตอนแรกของการทำโอโซนบำบัด พี่พยาบาลก็จะให้เราบีบลูกบอลเพื่อขยายหลอดเลือดค่ะ จากนั้นนำสายมารัดต้นแขนและทำการเจาะเลือด โดยจะดูดเลือดไปประมาณ 200 cc ระหว่างที่เจาะเลือดเราไม่รู้สึกเจ็บเลยค่ะเหมือนไปเติมวิตามิน พี่พยาบาลมือเบามาก
จากนั้นเราก็นอนบีบ-คลายลูกบอลเฉยๆ เลยค่ะ เพื่อปั๊มเลือด ระหว่างที่มองเลือดไหลเข้าไปในขวดแก้วผ่านสายน้ำเกลือ เราก็สังเกตว่าเลือดมีสีเข้มมาก พี่พยาบาลก็อธิบายค่ะว่าเกิดจากความเครียด นอนไม่พอ และดื่มน้ำน้อย ทำให้ปริมาณออกซิเจนในเลือดน้อย เลือดเลยมีสีแดงเข้มเหมือนไวน์
ในส่วนขั้นตอนการผสมโอโซน พอเราปั๊มเลือดครบ 200 cc แล้ว ตัวเครื่องจะทำการเติมโอโซนเข้าไปในขวดแก้วที่เก็บเลือดของเราไว้และหมุนเขย่าขวดแก้วตลอดเวลาเพื่อผสมออกซิเจนบริสุทธิ์ให้เข้ากับเลือด
ในการทำโปรแกรมโอโซนบำบัดจะทำการเติมโอโซน 3 ครั้งค่ะ แต่สำหรับเราที่ทำครั้งแรกจะเติมโอโซนเพียง 2 ครั้งเพื่อประเมินอาการก่อน ในขั้นตอนนี้เราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงได้เลยว่าพอเติมโอโซนเข้าไปแล้ว เลือดมีสีแดงสดขึ้น
พี่พยาบาลบอกว่า ขั้นตอนนี้บางคนจะรู้สึกง่วงเพราะออกซิเจนบริสุทธิ์ที่เติมเข้าไปทำให้ผ่อนคลาย หรือบางคนสามารถได้กลิ่นโอโซนเลยค่ะ
หลังจากที่เติมโอโซนเสร็จแล้ว พี่พยาบาลก็จะทำการปล่อยเลือดเข้าสู่ร่างกายของเราเหมือนเดิม โดยเปลี่ยนไปใช้สายน้ำเกลืออีกเส้นหนึ่งค่ะ เพื่อไม่ให้เกิดการปนเปื้อน
รวมๆ แล้วเราใช้เวลาโอโซนบำบัดประมาณ 20-30 นาทีก็เสร็จแล้วค่ะ ระหว่างทำเรามีอาการแสบเส้นนิดหน่อย แต่ไม่ได้มีอาการเจ็บใดๆ ทั้งสิ้น
หลังทำ โอโซนบำบัด (Ozone Therapy) ควรดูแลตัวเองยังไง?
เราเจาะเลือดที่แขนข้างขวา พี่พยาบาลแนะนำว่าควรหลีกเลี่ยงการถือของหนักที่แขนข้างนี้เพื่อไม่ให้เกิดอาการปวดและช้ำค่ะ
นอกจากนี้คุณหมอเอมมี่ยังแนะนำว่าการทำโอโซนบำบัด บางเคสก็ทำเพื่อการรักษาโดยตรง แต่สำหรับเคสของบุ้งเป็นการบำบัดเพื่อบรรเทาอาการ ช่วยให้เราปรับวิธีการใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น ดังนั้นนอกจากทำโอโซนบำบัดแล้ว เราก็ต้องแก้ปัญหาที่ต้นเหตุด้วย
นั่นก็คือการดูแลสุขภาพของตนเองค่ะ โดยจัดการเวลานอนให้ดีขึ้น พักผ่อนให้เพียงพอ และหาวิธีคลายเครียดบ้าง ยิ่งเราวัย 30 แล้ว ระบบในร่างกายอย่างต่อมหมวกไตหรือฮอร์โมนมีการทำงานช้าลง หากเราไม่ถนอมร่างกายไว้ เมื่ออายุมากขึ้นก็จะเป็นปัญหาในอนาคตได้ค่ะ
ส่วนการทำ โอโซนบำบัด (Ozone Therapy) ควรทำบ่อยแค่ไหน? คุณหมอเอมมี่ก็แนะนำค่ะว่าควรทำอาทิตย์ละ 1 ครั้ง แต่ถ้ารู้สึกว่าร่างกายเราดีขึ้นแล้วก็สามารถทำเดือนละ 1 ครั้งได้ค่ะ
ผลลัพธ์หลังจากใช้บริการ
หลังจากทำโอโซนบำบัดแล้ว เราเห็นผลตั้งแต่วันแรกเลยค่ะ พอตื่นนอนตอนเช้าแล้วสดชื่นมาก กลางคืนก็หลับดี ไม่มีการตื่นขึ้นมากลางดึกเหมือนเมื่อก่อน สามารถนอน 6-7 ชั่วโมงได้ยาวๆ เลย
บรรยากาศของ Navella Medical & Wellness
สำหรับบรรยากาศที่ Navella Medical & Wellness บอกเลยว่าสะอาดและสวยมากเลยค่ะ ด้วยความที่คลินิกตกแต่งโทนสีขาวทำให้ดูสบายตา ถ่ายรูปก็ออกมาดีเพราะแสงสวย
ที่เราประทับใจมากๆ ก็คือพี่ๆ ทุกคน ทั้งพี่เจ้าหน้าที่ที่เคาน์เตอร์ หรือพี่พยาบาลที่ให้ข้อมูลกับเราได้อย่างชัดเจน ครบถ้วน และเข้าใจง่าย ระหว่างที่ทำโอโซนบำบัดเราได้ความรู้เรื่องการดูแลสุขภาพจากพี่พยาบาลเยอะมากเลยค่ะ
คุณหมอที่คลินิกก็มีความเชี่ยวชาญเรื่องโปรแกรมเกี่ยวกับสุขภาพโดยตรง การันตีด้วยใบประกาศนียบัตรและใบรับรองประกอบวิชาชีพจากสหภาพยุโรป อเมริกา และประเทศไทย
สุดท้ายนี้เราก็อยากชวนให้เพื่อนๆ มาดูแลสุขภาพที่ Navella Medical & Wellness ด้วยกันค่ะ เพราะที่คลินิกมีโปรแกรมเกี่ยวกับสุขภาพเยอะมาก มีความน่าเชื่อถือ และเป็น Wellnes center ที่ดูแลเรื่องสุขภาพในระยะยาวแบบเฉพาะทาง
และการเดินทางก็สะดวกมาก สามารถนั่งรถไฟฟ้า BTS ลงที่สถานีศาลาแดง (ทางออก 5) เดินต่อมาอีกนิดก็ถึง Silom Edge แล้วค่ะ
ที่สำคัญเลยก็คือ เราจอง โอโซนบำบัด (Ozone Therapy) ที่ Navella Medical & Wellness ผ่าน HDmall.co.th เพื่อนๆ สามารถเช็กคิวหรือแพ็กเกจโปรโมชั่นต่าง ๆ ได้ที่เว็บไซต์เลยค่ะ รับประกันว่าราคาคุ้มค่าแน่นอน