
สรุปการรีวิว
ปิด
ปิด
- เราเป็นคนที่ริมฝีปากหนามาก ดูไม่เป็นกระจับสวยงามเหมือนคนอื่นๆ เลย ด้วยความที่ทำงานเป็นบิวตี้บล็อกเกอร์ก็อยากจะรับงานรีวิวลิปสติกบ้าง แต่ก็ยังไม่มั่นใจกับริมฝีปากของตัวเอง เราเลยตัดสินใจอยากไปทำปากกระจับค่ะ
- เราเลือกทำปากกระจับ ที่ Better Me Clinic by Dr. Chanya (Chanya Clinic) เนื่องจากดูรีวิวแล้วรู้สึกถูกใจ ที่สำคัญคือคุณหมอมีเทคนิคฉีดยาชาที่ไม่เจ็บด้วย ทำให้รู้สึกอุ่นใจและตัดสินใจเลือกใช้บริการที่นี่ค่ะ
- ขั้นตอนการทำ อันดับแรกเจ้าหน้าที่จะเช็ดทำความสะอาดหน้าให้ก่อน จากนั้นคุณหมอก็จะบล็อกเส้นประสาทและฉีดยาชา หลังจากยาชาออกฤทธิ์ก็จะเริ่มผ่าตัดศัลยกรรมปากเลย
- ผลลัพธ์ที่ได้ หลังทำเสร็จทันทีเราก็รู้สึกว่าปากดูกระจับสวยงามและเข้ากับรูปหน้าของตัวเองมาก ที่สำคัญคือไม่มีความเขียวช้ำเลยค่ะ
- รีวิวนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ #HDreview ได้รับการสปอนเซอร์จากทาง HDmall.co.th และ Better Me Clinic by Dr. Chanya (Chanya Clinic)
- ดูรายละเอียด ราคาทำปากกระจับ ที่ Better Me Clinic by Dr. Chanya (Chanya Clinic)
- ดูโปรแกรมทั้งหมดจาก Better Me Clinic by Dr. Chanya (Chanya Clinic) บน HDmall.co.th
- สอบถามแอดมินเพิ่มเติมเกี่ยวกับแพ็กเกจได้ที่ไลน์ @HDcoth
เราเป็นคนนึงที่มีริมฝีปากหนามาก ดูไม่เป็นกระจับสวยงามเหมือนกับคนอื่นๆ เลย และด้วยความที่ทำงานเป็นบิวตี้บล็อกเกอร์ เราเองก็อยากจะรับงานรีวิวลิปสติกได้บ้าง
แต่เพราะเป็นคนที่มีริมฝีปากหนาเลยทำให้เวลาถ่ายรูปออกมาแล้วดูไม่สวย ไม่มั่นใจที่จะรับงานรีวิวลิปสติก เราเลยตัดสินใจที่จะไปทำปากกระจับค่ะ
ตอนที่ตัดสินใจจะทำปากกระจับเราก็เลือกดูคลินิกอยู่หลายที่เหมือนกัน เพราะทำศัลยกรรมทั้งทีก็ต้องคิดแล้วคิดอีก ต้องเลือกคลินิกที่ดีที่สุดและสามารถไว้วางใจได้ว่าทำออกมาแล้วจะได้ผลลัพธ์ที่สวยเป๊ะแน่นอน
จนเราได้ไปเจอกับรีวิวทำปากกระจับ ที่ Better Me Clinic by Dr. Chanya (Chanya Clinic) ซึ่งเป็นเคสรีวิวที่มีรูปทรงปากคล้ายกับเรา แถมผลลัพธ์ที่ได้ก็ออกมาดูสวยเป็นธรรมชาติมากๆ ที่สำคัญคือเค้ารีวิวไว้ว่าคุณหมอเก่ง มือเบา อีกทั้งยังมีเทคนิคพิเศษฉีดยาชาแล้วไม่ทำให้รู้สึกเจ็บอีกด้วย
ด้วยความที่เป็นคนกลัวความเจ็บอยู่แล้ว พอเห็นรีวิวแบบนี้ก็ทำให้รู้สึกสนใจขึ้นมาและคิดว่าคลินิกนี้แหละที่จะไว้วางใจเลือกทำปากกระจับ เราเลยตัดสินใจเลือกใช้บริการทำปากกระจับ ที่ Better Me Clinic by Dr. Chanya (Chanya Clinic) ค่ะ
การเตรียมตัวก่อนทำปากกระจับ
ก่อนที่จะไปทำปากกระจับก็จะต้องมีการเตรียมตัวให้พร้อมกันก่อนค่ะ โดยข้อมูลการเตรียมตัวที่ทางคลินิกให้มาก็มีดังนี้
- งดวิตามิน อาหารเสริม บุหรี่ แอลกอฮอล์ และยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน ก่อนมาทำปากกระจับ 1 เดือน
- ให้ประวัติการแพ้ยา แพ้อาหาร ยาที่ใช้ประจำ และโรคประจำตัวกับคุณหมอก่อนทำปากกระจับ
- งด ชา กาแฟ ก่อนมาทำปากกระจับ 1 วัน
นอกจากนี้ทางคลินิกก็แนะนำว่าควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และทำใจให้สบายก่อนมาทำศัลยกรรมด้วยนะคะ
รีวิวทำปากกระจับ ที่ Better Me Clinic by Dr. Chanya (Chanya Clinic)
ถึงวันนัดหมายก็เข้ามาที่ Better Me Clinic by Dr. Chanya (Chanya Clinic) พอเข้ามาแล้วก็แจ้งพี่พนักงานว่ามาใช้บริการทำปากกระจับ พี่พนักงานก็จะพาไปนั่งที่โซฟานุ่มๆ พร้อมกับนำน้ำและขนมมาเสิร์ฟให้ก่อนค่ะ
จากนั้นก็จะนำเอกสารมาให้เรากรอกข้อมูลส่วนตัวเพื่อลงทะเบียนทำประวัติกับทางคลินิกก่อน เสร็จแล้วก็นั่งรอคิวเข้าพบคุณหมอสักครู่

พอถึงคิวเข้าพบคุณหมอ อันดับแรกคุณหมอจะถามถึงปัญหาและความต้องการของเราก่อนว่าอยากได้ทรงปากกระจับแบบไหน มีตัวอย่างมาให้ดูมั้ย
เราเลยเล่าปัญหาให้คุณหมอฟังไปว่า ริมฝีปากบนของเรามันหนาเกินไป อยากให้ปากดูกระจับเป็นทรงสวยกว่านี้ และจริงๆ แล้วก็อยากได้ทรงปากกระจับแบบใบเฟิร์น พิมพ์ชนกเลย แต่ไม่รู้ว่าจะเข้ากับรูปหน้าของตัวเองมั้ย
คุณหมอเลยทำการประเมินใบหน้าและทรงปากเดิมของเราให้ พร้อมกับแนะนำว่า ทรงปากกระจับแบบใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ริมฝีปากด้านบนของเค้าจะค่อนข้างบางมากๆ แต่ในเคสของเราคุณหมอไม่แนะนำให้ตัดออกเยอะ
เนื่องจากถ้าตัดริมฝีปากบนออกไปเยอะ ก็จะทำให้เวลาประกบปากแล้วมันประกบกันได้ไม่สนิทและทำให้เห็นฟันด้านใน คุณหมอเลยแนะนำให้แก้ไขด้วยการปรับรูปทรงปากให้ดูกระจับมากขึ้น แต่ยังคงความหนาไว้หน่อยนึงค่ะ

พอปรึกษากับคุณหมอเสร็จแล้ว เราก็รู้สึกตื่นเต้นมากๆ ที่จะได้มีปากกระจับสวยๆ แบบคนอื่นเค้าแล้ว แต่ที่ตื่นเต้นกว่าก็คือเรื่องของความเจ็บ ด้วยความที่เรากลัวเจ็บมากๆ ก็เลยถามคุณหมอไปว่าตอนทำปากกระจับจะเจ็บมั้ย
คุณหมอก็ยืนยันว่าไม่เจ็บแน่นอน เพราะคุณหมอมีเทคนิคพิเศษคือการบล็อคเส้นประสาทและฉีดยาชา เพราะฉะนั้นแล้วจึงทำให้ตอนทำปากกระจับเราก็จะไม่มีความรู้สึกเจ็บอะไรเลย
มาถึงขั้นตอนต่อไปก่อนเข้าห้องผ่าตัด คุณหมอจะให้ไปตรวจเลือดเพื่อดูความสมบูรณ์ของเม็ดเลือดก่อน จากนั้นก็ให้ไปล้างหน้าเฉพาะช่วงจมูกลงมาและเข้าห้องผ่าตัดได้เลยค่ะ

เราจะบอกว่าที่นี่เค้าค่อนข้างใส่ใจกับทุกรายละเอียดมากๆ เพราะตอนที่ไปล้างหน้าเราก็สังเกตเห็นว่า ผลิตภัณฑ์ทุกอย่างที่เค้าใช้ในคลินิกเป็นของดีทั้งนั้นเลย ประทับใจมากค่ะ
ขั้นตอนการทำปากกระจับ
ขั้นตอนแรกเจ้าหน้าที่จะให้นอนลงบนเตียงพร้อมกับนำหมวกคลุมผมมาใส่ให้ จากนั้นก็จะเช็ดทำความสะอาดหน้าให้อีกครั้ง
ขั้นตอนต่อมาคุณหมอจะออกแบบและวาดรูปทรงปากให้ดูก่อนว่าประมาณนี้โอเคมั้ย ถ้าอยากได้ตรงไหนเพิ่มเติมก็สามารถแจ้งคุณหมอได้เลยค่ะ

หลังจากโอเคกับรูปทรงปากที่คุณหมอออกแบบให้แล้ว ต่อมาคุณหมอก็จะทำการบล็อกเส้นประสาทและฉีดยาชาให้เลย
โดยขั้นตอนการบล็อกเส้นประสาท คุณหมอจะฉีดยาชาเข้าไปตรงที่ตำแหน่งของเส้นประสาทซึ่งจะอยู่ด้านในปากของเราแถวๆ กระพุ้งแก้มลึกเกือบถึงโหนกแก้มเลยค่ะ ความรู้สึกตอนนั้นก็คือไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิดค่ะ คุณหมอมือเบามากจริงๆ
จากนั้นคุณหมอก็จะให้นอนรอยาชาออกฤทธิ์ประมาณ 30 นาที ระหว่างนี้เจ้าหน้าที่ก็จะเปิดเพลงให้ฟังไปด้วยพร้อมกับถามว่าเราชอบฟังเพลงอะไร อยากได้อะไรเพิ่มเติมมั้ย ดูแลเอาใจใส่ดีมากค่ะ
หลังจากยาชาออกฤทธิ์แล้ว ขั้นตอนต่อมาคุณหมอก็จะเริ่มทำการผ่าตัดศัลยกรรมปากเลย โดยจะเริ่มทำทีละข้าง เริ่มจากข้างขวาก่อนแล้วค่อยมาทำที่ข้างซ้ายต่อ
หลังจากทำปากกระจับเสร็จแล้ว คุณหมอก็จะเย็บแผลให้ด้วยไหมละลายและให้ลุกมาส่องกระจกเพื่อดูผลลัพธ์หลังทำทันทีว่าเป็นยังไงบ้าง พอใจกับทรงปากที่ทำมั้ย
ซึ่งจากที่เราส่องกระจกดู อย่างแรกที่สังเกตได้ก็คือหลังทำไม่มีความบวมเขียวหรือช้ำอะไรเลยค่ะ แถมทรงปากที่ได้ก็ออกมาสวยดูเป็นธรรมชาติและเข้ากับรูปหน้าของเรามากๆ
หลังจากดูผลลัพธ์เสร็จแล้ว คุณหมอก็จะปิดแผลด้วยผ้าก๊อซให้พร้อมกับจ่ายยาลดบวม ยาแก้ปวด ยาแก้อักเสบ แปรงสีฟันและยาสีฟันสำหรับเด็ก อุปกรณ์ทำแผล รวมถึงให้หมอนรูปปากมาให้ด้วย

จากนั้นคุณหมอจะแนะนำการดูแลตัวเองหลังทำให้ฟังว่าควรดูแลตัวเองยังไงบ้าง มีข้อห้าม หรือข้อควรระวังอะไร เสร็จแล้วก็นัดวันเข้ามาตัดไหมพร้อมกับติดตามผลอีกที 2 สัปดาห์และให้กลับบ้านได้เลยค่ะ

โดยรวมใช้เวลาทำปากกระจับไปทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งก็เสร็จแล้วค่ะ ความรู้สึกตอนทำปากกระจับก็คือไม่มีความเจ็บเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะฉะนั้นใครที่กลัวว่าจะเจ็บก็ไม่ต้องกลัวเลยค่ะ
การดูแลตัวเองหลังทำ
สำหรับการดูแลตัวเองหลังทำปากกระจับ คุณหมอก็ได้ให้คำแนะนำมาทั้งหมดดังนี้ค่ะ
- หลังทำเสร็จแล้วควรประคบเย็นรอบปากเป็นระยะภายใน 48 ชั่วโมงแรกหลังทำ จากนั้นให้ประคบอุ่นตอนเช้าและเย็น
- บ้วนปากด้วยน้ำเกลือทั้งตอนเช้าและเย็น รวมถึงเวลาหลังอาหารทุกครั้ง
- ควรแปรงฟันด้วยยาสีฟันอ่อนๆ ในช่วงแรกหลังผ่าตัด
- ควรใช้ขี้ผึ้งทาบริเวณปากอ่อนๆ เพื่อให้ปากชุ่มชื้น
- ควรรับประทานอาหารเหลวในช่วงแรกหลังผ่าตัด หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด ของหมักดอง อาหารทะเล กาแฟ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 3 สัปดาห์หลังผ่าตัด
ผลลัพธ์หลังทำปากกระจับ
ผลลัพธ์ที่ได้หลังทำปากกระจับ ตอนนี้ปากก็ยังมีความบวมๆ อยู่นิดนึง ยังไม่ได้เข้าที่อะไรมากค่ะ แต่หลังจากทำเสร็จทันทีและได้ส่องกระจกดูผลลัพธ์ก็ถือว่าประทับใจในผลลัพธ์ที่ได้มากๆ เพราะปากดูเป็นกระจับสวยงาม ธรรมชาติ และเข้ากับรูปหน้าของเรามากค่ะ

ส่วนการใช้ชีวิตประจำวันหลังทำปากกระจับไปแล้ว เอาจริงๆ ก็ไม่ได้ใช้ชีวิตประจำวันหรือดูแลแผลยากอะไรเลยนะคะ แค่ทำตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัดก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว
และสิ่งที่เราประทับใจมากๆ อีกอย่างนึงก็คือ หลังทำปากกระจับแผลผ่าตัดก็ไม่มีความเขียวช้ำเลย แต่อาจจะมีบวมๆ บ้างนิดหน่อยเท่านั้น ทำให้สามารถออกไปใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างสบายๆ เลยค่ะ

บรรยากาศของ Better Me Clinic by Dr. Chanya (Chanya Clinic)
บรรยากาศของ Chanya Clinic ด้านในคลินิกสะอาดสะอ้าน กว้างขวาง ที่สำคัญคือคลินิกหอมมากๆ หอมแบบมีกลิ่นติดตัวกลับบ้านไปเลยค่ะ

ด้านการให้บริการ พี่ๆ พนักงานและเจ้าหน้าที่ทุกคนก็ดูแลเอาใจใส่ดีมาก คุณหมอเก่ง อธิบายข้อมูลต่างๆ ได้อย่างละเอียดและให้คำแนะนำดีมากๆ โดยรวมแล้วประทับใจค่ะ
สำหรับใครที่อ่านรีวิวจนจบแล้วสนใจอยากทำปากกระจับ เราแนะนำให้มาปรึกษาคุณหมอเกียร์ที่ Better Me Clinic by Dr. Chanya (Chanya Clinic) ได้เลยค่ะ คุณหมอมีประสบการณ์มากกว่า 10,000 เคส แถมมีเทคนิคฉีดยาชาที่ไม่ทำให้เจ็บอีกด้วย

และที่สำคัญ Better Me Clinic by Dr. Chanya (Chanya Clinic) เค้ายังมีโปรโมชั่นดีๆ ร่วมกับ HDmall.co.th อยู่ด้วย ใครที่สนใจอยากทำปากกระจับในราคาสบายกระเป๋าห้ามพลาดเด็ดขาดเลยนะคะ สามารถเข้ามาจองแพ็กเกจบน HDmall.co.th ได้เลยค่ะ