สรุปการรีวิว
ปิด
ปิด
- เราปวดหัวมานานเป็น 10 ปีแล้วค่ะ ไม่รู้ว่าสาเหตุจริงๆ ว่าเป็นอะไร เวลาปวดมากๆ ถึงขั้นต้องฉีดยาเพื่อลดอาการปวดเลย เราเลยอยากไปตรวจให้รู้สาเหตุค่ะ
- เรามาตรวจที่ รพ. พญาไท 2 เพราะที่นี่เค้ามีโปรแกรมตรวจคัดกรองอาการปวดศีรษะ ที่รายการตรวจครบครอบคลุม ได้ปรึกษากับคุณหมอเฉพาะทาง แถมเดินทางสะดวกด้วย
- ขั้นตอนการตรวจ จะเริ่มจากการซักประวัติและเก็บตัวอย่างเลือดก่อน ปิดท้ายด้วยการตรวจ MRI สมองก็เสร็จแล้วค่ะ สะดวกมากๆ
- ผลตรวจคัดกรองที่ออกมา ปรากฎว่าตรวจพบเนื้องอกใกล้ๆ หลอดเลือดแดงบริเวณช่องคอข้างซ้าย แต่ยังไม่ส่งผลอันตรายใดๆ ต่อร่างกายค่ะ จะต้องเจาะชิ้นเนื้อมาตรวจและวางแผนการรักษาต่อไป
- รีวิวนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ #HDreview ได้รับการสปอนเซอร์จากทาง HDmall.co.th และ โรงพยาบาลพญาไท 2
- ดูรายละเอียดแพ็กเกจทั้งหมดจาก โรงพยาบาลพญาไท 2 บน HDmall.co.th
- สอบถามแอดมินเพิ่มเติมเกี่ยวกับแพ็กเกจได้ที่ไลน์ @HDcoth
เลือกหัวข้อที่สนใจได้ที่นี่
เราปวดหัวมานานเป็น 10 ปีแล้วค่ะ เวลาปวดมากๆ ถึงขั้นต้องฉีดยาเพื่อลดอาการปวดเลย ตอนนั้นเราเลยไปตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อตรวจเช็กร่างกายปรากฎว่าผลตรวจทุกอย่างดันออกมาปกติดี
ด้วยความที่ปวดหัวไม่หายสักที แถมตอนนี้ก็เริ่มดื้อยาแล้ว ยิ่งกินยาแก้ปวดหรือฉีดยาไปแล้วอาการปวดหัวก็กลับมาเหมือนเดิม
เราไม่รู้ว่าสาเหตุจริงๆ ว่าปวดหัวเพราะอะไร ก็เลยอยากปรึกษาคุณหมอเฉพาะทางให้รู้ไปเลยว่าเราเป็นอะไรกันแน่ เผื่อตรวจเจอความผิดปกติอะไรขึ้นมาจะได้รักษาได้ทัน
โดยครั้งนี้เราเลือกมาตรวจที่โรงพยาบาลพญาไท 2 เพราะที่นี่เค้ามีโปรแกรมตรวจคัดกรองอาการปวดศีรษะโดยเฉพาะ ได้ทั้งตรวจ MRI สมองแบบเจาะลึก และได้ปรึกษาพูดคุยกับคุณหมอเฉพาะทาง แถมที่นี่ยังเป็นโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียง ไม่ต้องรอคิวนาน และมีเครื่องไม้เครื่องมือที่ทันสมัยอีกด้วย
ที่สำคัญคือโรงพยาบาลอยู่ทำเลใจกลางเมือง เดินทางสะดวก สามารถนั่งรถไฟฟ้า BTS มาลงสถานีสนามเป้า ใช้ทางออกที่ 1 เดินต่อมานิดนึงก็ถึงแล้วค่ะ
รีวิวตรวจอาการปวดหัว ที่ รพ. พญาไท 2
พอมาถึงโรงพยาบาลพญาไท 2 ก็ตรงไปหาเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์เพื่อยื่นคูปองที่ได้จาก HDmall.co.th พร้อมทำประวัติกับโรงพยาบาลก่อน
หลังจากลงทะเบียนเสร็จแล้ว เราจะได้รับริสแบนด์ติดข้อมือเพื่อนำไปแสดงเข้ารับบริการตามจุดตรวจต่างๆ และเจ้าหน้าที่ก็จะพาไปที่ศูนย์สมองและระบบประสาทเลยค่ะ สะดวกสบายมากๆ
พอมาถึงที่ศูนย์สมองและระบบประสาท ก็จะมีพยาบาลพาไปชั่งน้ำหนัก วัดความดัน วัดส่วนสูง วัดอุณหภูมิ และวัดระดับออกซิเจนในร่างกาย
เสร็จแล้วก็เข้าไปปรึกษากับคุณหมอ นพ. บัญชา เสียมหาญ อายุรศาสตร์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญประจำศูนย์สมองและระบบประสาทกันเลยค่ะ
เริ่มแรกก็เล่าปัญหาให้คุณหมอฟังก่อนค่ะว่าเรามีปัญหาปวดหัวข้างเดียว ปวดจนเส้นเลือดปูดขึ้นมาตรงขมับ แต่บางครั้งก็จะปวดสลับข้างจนลามมาถึงท้ายทอย อาการปวดนี้เป็นประจำทุกวันนานถึง 10-15 นาที
ตอนนั้นไปปรึกษาคุณหมอที่โรงพยาบาล แต่ก็ได้แค่ยาแก้ปวดกลับมากิน ยิ่งเวลาปวดมากๆ ยาแก้ปวดก็เอาไม่อยู่แล้วค่ะ จะต้องฉีดมอร์ฟีนเพื่อลดอาการปวดแทนเลยล่ะ
และช่วงหลังๆ มานี้ เรารู้สึกเครียดน้อยลงก็เลยทำให้รู้อาการปวดหัวลดน้อยลงจากเมื่อก่อน เฉลี่ยแล้วมีอาการปวดประมาณเดือนละ 3-4 ครั้งแล้วค่ะ แต่พอเจอแสงแดดจัดๆ หรือได้ยินเสียงเพลงดังๆ ก็กลายเป็นว่าอาการปวดหัวก็กลับมาทันที
สาเหตุของอาการปวดหัวคืออะไร?
จากการซักประวัติเบื้องต้น คุณหมออธิบายว่าลักษณะการปวดหัวเคสของเราจะเป็นอาการปวดเรื้อรัง บวกกับมีความเครียดเป็นตัวกระตุ้นร่วมด้วย ทำให้เส้นเลือดเกิดการหดและขยายตัวได้ จึงส่งผลให้เรามีอาการปวดหัวในระยะเวลาสั้นๆ ค่ะ
โดยลักษณะอาการปวดแบบนี้ยังไม่เข้าข่ายการปวดหัวไมเกรน เนื่องจากไมเกรนจะปวดหัวเพียงข้างเดียวเท่านั้น ไม่มีการย้ายข้างสลับไปมา และที่สำคัญจะมีอาการปวดหัวค่อนข้างนานเกิน 4 ชั่วโมงขึ้นไป
ซึ่งอาการปวดหัว สามารถแบ่งออกเป็นลักษณะได้ 2 กลุ่มหลักๆ ได้แก่
- กลุ่มที่มีอาการปวดหัวแบบมีเหตุชัดเจน เช่น การติดเชื้อในสมอง เส้นเลือดสมองโป่งพอง เส้นเลือดสมองตีบ และมีเนื้องอกในสมอง รวมถึงการติดเชื้อในสมอง เป็นต้น
- กลุ่มที่มีอาการปวดหัวแบบไม่มีเหตุชัดเจน เช่น ไมเกรน ปวดหัวจากความเครียด การปวดหัวแบบคลัสเตอร์ เป็นต้น
ถ้าใครที่มีอาการปวดหัวเหล่านี้ จะต้องรีบเข้ามาพบแพทย์เฉพาะทาง เพื่อประเมินอาการเบื้องต้น พร้อมกับให้คุณหมอวินิจฉัยวิธีการตรวจหาสาเหตุ และวางแผนการรักษาอาการต่อไป
การแก้ไขอาการปวดหัวเบื้องต้น
สำหรับการแก้ไขอาการปวดหัวเบื้องต้น คุณหมอแนะนำให้นอนพักผ่อนในที่มืดทันทีเมื่อมีอาการปวดหัว หลีกเลี่ยงอาการร้อนๆ แสงแดดจ้า และจะต้องหลีกเลี่ยงอาหารประเภทชา กาแฟ ช็อกโกแลต และผงชูรสด้วยค่ะ
หากแก้ไขอาการปวดด้วยการกินยาแก้ปวดบ่อยๆ ยิ่งจะทำให้อาการปวดรุนแรงยิ่งขึ้น ส่งผลให้เรายิ่งต้องกินยาแก้ปวดมากขึ้นไปอีก ท้ายที่สุดแล้วจะเกิดอาการดื้อยานั่นเอง
สุดท้ายก็ทำให้เกิดอาการปวดหัวจากการกินยา และรักษาอาการยากยิ่งขึ้นไปอีก ส่วนในกรณีที่มีการติดเชื้อหรือมีเนื้องอกในสมอง ก็อาจจะทำให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้เลยค่ะ
ขั้นตอนที่ 1 ตรวจเลือด
หลังจากพูดคุยกับคุณหมอเสร็จแล้ว พยาบาลก็จะพาเราเข้าไปเจาะเลือดกันเลยค่ะ เนื่องจากเรารู้ว่าในโปรแกรมนี้จะมีการตรวจเลือดด้วย เราเลยงดอาหารและเครื่องดื่มมาแล้วไม่น้อยกว่า 8-10 ชั่วโมงค่ะ
สำหรับขั้นตอนการเจาะเลือดก็ไม่มีอะไรมากค่ะ แค่วางแขนขึ้นมาไว้บนเบาะรอง จากนั้นพยาบาลก็จะรัดสายเพื่อทำให้เห็นเส้นเลือดชัดขึ้น พอเจอเส้นเลือดแล้วก็จะเช็ดทำความสะอาดบริเวณข้อพับแขนและเริ่มเจาะเลือดเลย
ส่วนใครที่กังวลหรือกลัวเข็ม ขอบอกเลยว่าพยาบาลมือเบามากๆ แทบไม่รู้สึกเจ็บเลย และเค้าก็จะคอยชวนคุยให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นด้วยค่ะ
ขั้นตอนที่ 2 ตรวจ MRI สมอง
ขั้นตอนต่อมาจะเป็นการตรวจ MRI สมอง สำหรับขั้นตอนนี้ก็จะมีเจ้าหน้าที่มาเช็กอีกทีว่าเราได้ถอดเครื่องประดับ รวมถึงนำอุปกรณ์ที่เป็นโลหะออกจากตัวหมดหรือยัง
จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะพาเราเข้าไปในห้องตรวจ MRI พร้อมกับให้ขึ้นไปนอนบนเตียงแล้วจัดท่าทางการนอนให้ถูกตำแหน่งก่อน
หลังจากจัดท่าทางเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ก็จะนำฟองน้ำอุดหูมาให้ใส่เพื่อป้องกันเสียงรบกวนจากตัวเครื่อง เสร็จแล้วก็นำเครื่องจับสัญญาณคลื่นแม่เหล็กมาครอบที่หัวและค่อยๆ เลื่อนเตียงเข้าไปในอุโมงค์ MRI เลย
ในระหว่างนี้เราก็จะต้องนอนนิ่งๆ ไม่ขยับร่างกายไปมาเพื่อให้ผลตรวจออกมาแม่นยำ โดยรวมใช้เวลาตรวจประมาณ 45 นาทีก็เสร็จแล้วค่ะ หลังจากนั้นก็ออกไปเปลี่ยนชุดและทำนัดเข้ามาฟังผลตรวจกับคุณหมอได้เลย
ผลตรวจคัดกรองอาการปวดหัว
จากผลตรวจที่ออกมา คุณหมอบอกว่าโดยรวมแล้วสุขภาพของเราก็อยู่ในเกณฑ์ที่ปกติดีทุกรายการ แต่จะมีค่าระดับไขมันและคอเลสเตอรอลที่ค่อนข้างสูงเท่านั้น
คุณหมอเลยแนะนำให้ปรับเปลี่ยนอาหาร หลีกเลี่ยงของหวาน ของมัน ของทอด และแนะนำให้ออกกำลังกายมากขึ้น นอกจากนี้ควรตรวจคัดกรองสุขภาพเป็นประจำทุกปีด้วยค่ะ
ส่วนปัญหาที่กังวลตอนแรกอย่างอาการปวดหัว จากผลตรวจ MRI สมองที่ออกมาก็ถือว่าดีมากๆ ค่ะ คุณหมอบอกว่าไม่พบเลือดออกในสมอง และไม่มีเนื้องอกในสมอง
แต่ตรวจพบความผิดปกติ ก็คือมีเนื้องอกใกล้ๆ หลอดเลือดแดงบริเวณช่องคอข้างซ้าย ทั้งนี้ทั้งนั้นก้อนเนื้อนี้ยังไม่ส่งผลอันตรายใดๆ ต่อร่างกายค่ะ แต่ถ้าก้อนเนื้อนี้เริ่มโตขึ้นเรื่อยๆ ก็จะทำให้ปวดหัวได้เช่นกัน
คุณหมอก็เลยทำการส่งต่อเคสของเราไปยังคุณหมอด้านศัลยกรรมเพื่อทำการเจาะชิ้นเนื้อมาตรวจว่าเป็นเนื้อดีหรือเนื้อร้าย และจะได้ให้คำแนะนำในการรักษาต่อไปค่ะ
บรรยากาศของโรงพยาบาลพญาไท 2
บรรยากาศของ โรงพยาบาลพญาไท 2 ก็ดีมากค่ะ โรงพยาบาลอยู่ในกลางเมือง เดินทางสะดวก และมีการแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วน ทั้งโซนห้องเจาะเลือดและตรวจ MRI ไม่ทำให้รู้สึกอึดอัดเลยค่ะ
ด้านการให้บริการ เจ้าหน้าที่ทุกคนให้การต้อนรับดี พูดจาไพเราะ คุณหมอก็เป็นกันเอง ให้คำแนะนำอธิบายรายละเอียดได้เข้าใจง่ายมากๆ แถมยังเปิดโอกาสให้เราได้ซักถามอยู่ตลอด รู้สึกตัดสินใจไม่ผิดเลยที่เลือกมาใช้บริการที่นี่
สุดท้ายนี้ใครปวดหัวบ่อยๆ อย่างมองข้ามอาการเหล่านี้เด็ดขาด เราก็อยากแนะนำให้ลองมาตรวจคัดกรองดูนะคะ ถ้าเกิดเจอความผิดปกติอะไรขึ้นมาจะได้รักษาได้ทัน
สำหรับใคร ที่กำลังมองหาสถานที่ตรวจตรวจคัดกรองอาการปวดศีรษะอยู่ เราแนะนำให้มาตรวจที่ โรงพยาบาลพญาไท 2 เลยค่ะ
ที่สำคัญเลยจองโปรแกรมตรวจคัดกรองอาการปวดศีรษะผ่าน HDmall.co.th ก็จะได้ทั้งโปรโมชั่นและส่วนลดเด็ดๆ ของ โรงพยาบาลพญาไท 2 อีกด้วยนะคะ รับรองคุ้มค่าถูกใจแน่นอนค่า