รีวิวทำ CT Scan หาความผิดปกติบริเวณช่องท้อง ที่ โรงพยาบาลพญาไท 2


รีวิวทำ CT Scan หาความผิดปกติบริเวณช่องท้อง ที่ โรงพยาบาลพญาไท 2

สรุปการรีวิว

ขยาย

ปิด

  • ทำไมถึงเลือกใช้บริการนี้: ก่อนหน้านี้มีปัญหาการขับถ่าย พอไปหาหมอก็ได้รับคำแนะนำว่าให้ไปตรวจลำไส้ดูค่ะ
  • ทำไมถึงเลือกสถานบริการนี้: เราตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลพญาไท 2 อยู่แล้ว ก็เลยคิดว่าตรวจสุขภาพที่นี่น่าจะสะดวกกับตัวเองค่ะ ไม่ต้องไปเปิดประวัติคนไข้ใหม่ที่อื่น
  • ขั้นตอนการใช้บริการ: คุณหมอจะทำ CT Scan แบบไม่ฉีดสีให้ก่อน 1 รอบ จากนั้นก็มากินน้ำ สวนทวาร แล้วก็ฉีดสารทึบรังสีเข้าที่เส้นเลือดแล้วทำ CT Scan อีกครั้งค่ะ
  • เปรียบเทียบราคา แพ็กเกจสุขภาพ พร้อมจองที่ HDmall.co.th
  • รีวิวนี้เป็นการชำระค่าบริการด้วยตัวเอง

ก่อนหน้านี้เรามีปัญหาเกี่ยวกับการขับถ่าย พี่ก็เลยแนะนำว่าให้ไปหาหมอเพราะว่าเป็นค่อนข้างบ่อย หมอก็บอกว่าอยากให้ไปตรวจลำไส้ ด้วย CT Scan (Computerized Tomography Scan) หรือเอกซเรย์ด้วยคอมพิวเตอร์ คือการตรวจอวัยวะต่างๆ ในร่างกายของเราทำให้มองเห็นในรูปแบบ 3 มิติ คุณหมอจะเห็นความผิดปกติได้ละเอียดและแม่นยำกว่าเอกซ์เรย์ปกติค่ะ  

เรามีแพลนจะตรวจสุขภาพประจำปีอยู่แล้ว ก็เลยเลือกดูโปรแกรมตรวจสุขภาพใน HDmall.co.th แล้วก็เจอกับโปรแกรม All You Can Check ที่โรงพยาบาลพญาไท 2 ซึ่งมีรายการตรวจ CT Scan อยู่ด้วยก็เลยตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

รีวิวทำ CT Scan หาความผิดปกติบริเวณช่องท้อง ที่ โรงพยาบาลพญาไท 2

ในโปรแกรมนี้มีรายการตรวจหลายอย่างมากๆ แต่รีวิวนี้จะเล่าแค่ตอนทำ CT Scan นะคะ แต่ถ้าใครอยากรู้ขั้นตอนรวมๆ ในการตรวจก็คลิก อ่าน รีวิวการตรวจสุขภาพโปรแกรม All You Can Check ได้เลย

ในรายการตรวจโปรแกรม All You Can Check การทำ CT Scan เราเลือกได้แค่รายการเดียว และตรวจได้ 1 ครั้งต่อปีนะคะ

  • ตรวจสมองด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ความเร็วสูง (CT Brain)
  • ตรวจปอดด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ความเร็วสูง (CT Chest)
  • ตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ช่องท้องส่วนบนและล่าง (CT Upper or Lower)
  • ตรวจวัดปริมาณแคลเซี่ยมที่ผนังหลอดเลือดหัวใจ (CT Coronary Artery Calcification)
  • ตรวจกระดูกสันหลังด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า 1 ส่วน (MRI Spine 1 part)
  • ตรวจสมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI Brain)

รีวิวทำ CT Scan หาความผิดปกติบริเวณช่องท้อง ที่ โรงพยาบาลพญาไท 2

ครั้งนี้เราเลือกตรวจบริเวณช่องท้องส่วนบนและล่าง ซึ่งในโปรแกรมตรวจจะไม่รวมค่าสารทึบแสงหรือสารทึบรังสี ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 5,000 - 10,000 บาทค่ะ

สำหรับการทำ CT Scan ก็เหมือนสแกนตรวจอวัยวะข้างในเฉยๆ แต่ถ้าอยากตรวจเพื่อหาความผิดปกติก็ต้องฉีดสี หรือสารทึบแสงเข้าไปในร่างกาย แต่จะฉีดหรือไม่ฉีดขึ้นกับการวินิจฉัยจากแพทย์ก่อนนะคะว่าเรามีความจำเป็นในการตรวจด้วยวิธีนี้รึเปล่า

ผู้ใช้บริการทำ CT Scan หาความผิดปกติบริเวณช่องท้อง ที่ โรงพยาบาลพญาไท 2

อันดับแรกพยาบาลจะให้เปลี่ยนชุดก่อน จากนั้นคุณหมอจะเข้ามาพูดคุยถึงปัญหาที่เราเจอ อยากรู้ว่ามาทำ CT Scan เพราะอะไร เนื่องจาก CT Scan เป็นเครื่องฉายรังสี และต้องฉีดสารทึบรังสีเข้าไปในร่างกาย 

ก่อนฉีดจะต้องตรวจเลือดก่อนว่าค่าไตเป็นยัง ไตเราขับสารอันตรายเหล่านี้ไปได้หมดมั้ย อย่างของเราผลตรวจสุขภาพออกแล้วว่าค่าไตปกติ ก็เลยตรวจได้

ใครที่กังวลอยู่ คุณหมอบอกว่าตัวสารนี้จะไม่อยู่ในร่างกายของเรานานค่ะ มันจะถูกขับออกจากร่างกายภายในประมาณ 48 ชั่วโมง ดังนั้นไม่ต้องกังวลเลย แต่ที่ต้องตรวจค่าไตก่อนก็เพื่อความปลอดภัยค่ะ หากใครมีปัญหาก็อาจจะต้องพิจารณาในรูปแบบอื่น

ขั้นตอนการทำ CT Scan

หลังจากพูดคุยกันเสร็จคุณหมอก็พาเข้าไปในห้อง CT Scan จะมีเครื่องอยู่ตรงกลางห้อง และข้างๆ กันเป็นห้องกันรังสีสำหรับคุณหมอและพยาบาลที่จะคอยดูทุกความเคลื่อนไหวของเราผ่านกระจกค่ะ 

ขั้นตอนการทำ CT Scan หาความผิดปกติบริเวณช่องท้อง ที่ โรงพยาบาลพญาไท 2

คุณพยาบาลจะเสียบหัวเข็มเอาไว้ที่แขนสำหรับฉีดสารทึบแสง จากนั้นก็เอาเทปกาวติดเอาไว้ให้แล้วก็วัดความดัน ระหว่างนี้พยาบาลจะถามอาการแพ้ต่างๆ เพราะสารทึบรังสีเป็นสารที่มีส่วนผสมของไอโอดี บางคนอาจมีอาการแพ้ ซึ่งตรงนี้ถ้าใครเคยแพ้อะไรให้บอกได้เลยนะคะ

การทำ CT Scan ครั้งแรกจะทำแบบไม่ฉีดสี ไม่ฉีดสารทึบรังสีก่อนนะคะ จากนั้นคุณพยาบาลก็ให้เราขึ้นไปนอนบนเตียง ซึ่งจะมีแท่นรองให้เราขึ้นไปนอน ในเคสของเราคือการตรวจช่วงท้องก็จะหันปลายเท้าเข้าหาเครื่อง พยาบาลจะปรับระดับเตียงให้พอดีกับตัวเครื่อง จากนั้นก็เดินออกไปที่ห้องกันรังสีค่ะ

พอเครื่องเริ่มทำงานก็จะมีเสียงจากลำโพงคอยบอกว่าให้เราทำอะไร หายใจเข้า หายใจออก กลั้นหายใจ แล้วก็มีเสียงคุณหมอพูดแทรกมาเป็นระยะๆ ค่ะ ระหว่างนั้นเครื่องก็จะส่งเสียงติ๊ดๆๆ ตลอดเลย

ฉีดสารทึบรังสี หรือฉีดสี

หลังจากทดลองทำ CT Scan รอบแรก ก็จะมาถึงขั้นตอนการฉีดสารทึบรังสีกันค่ะ ของเราจะมีกินน้ำ ฉีดสารเข้าเส้น และทางทวาร

ขั้นตอนการทำ CT Scan หาความผิดปกติบริเวณช่องท้อง ที่ โรงพยาบาลพญาไท 2

ก่อนอื่นคุณพยาบาลจะนำน้ำหวานผสมสารมาให้ ถ้าเราปวดปัสสาวะก็ให้จัดการตัวเองก่อน เพราะเดี๋ยวถึงขั้นตอนสวนทวารจะทนไม่ไหว น้ำหวานก็คือน้ำแดงปกติเลยค่ะ ไม่ได้รู้สึกแปลกอะไรเลย 

จากนั้นพอเข้าไปในห้องทำ CT Scan ก็ขึ้นนอนตะแคงบนเตียงเหมือนเดิม แล้วคุณพยาบาลจะปลดกางเกงเราลงเล็กน้อย แล้วนำอุปกรณ์มาเสียบเข้าที่ก้นแล้วปล่อยน้ำเข้ามาค่ะ ขั้นตอนนี้รู้สึกเลยว่ามีน้ำเข้าไปในลำไส้ของเรา แต่เราไม่ได้หันไปมองนะคะว่าเค้าทำยังไง ขั้นตอนนี้ค่อนข้างอึดอัดค่ะ รู้สึกอยากจะถ่ายท้องตลอดเวลาแต่คุณพยาบาลบอกให้อั้นน้ำเอาไว้

ขั้นตอนสุดท้ายคือการฉีดที่เส้นเลือด ซึ่งคุณหมอบอกแต่แรกแล้วว่าจะรู้สึกร้อนๆ และขมคอนิดหน่อย คุณพยาบาลเอาเข็มมาฉีดสารเข้าบริเวณที่เสียบหัวเข็มเอาไว้ แล้วปล่อยสารเข้าไปในเส้นเลือด ตรงนี้เราจะรู้สึกเลยว่าสารมันวิ่งไปถึงตรงไหนของร่างกายบ้าง 

พอมันเข้าไปที่แขนความรู้สึกคือมันจะแสบร้อน แต่ความรู้สึกร้อนก็ทนได้ค่ะ จากนั้นมันก็วิ่งไปตามร่างกายเราทั่วเลยค่ะซึ่งเราจะรู้ได้เลยว่ามันไปถึงไหนแล้ว เพราะความร้อนก็จะวิ่งตามเราไป ส่วนตอนที่ขึ้นไปถึงคอก็จะรู้สึกขมคอตามที่เค้าแจ้งเอาไว้แต่แรก

จากนั้นก็เข้าสู่ขั้นตอน CT Scan อีกรอบ มีเสียงติ๊ดๆ แล้วก็เสียงบอกให้หายใจเข้าออกเหมือนเดิม พอทำเสร็จออกมาก็รีบเข้าห้องน้ำก่อนเลยค่ะ ไปปล่อยน้ำที่อั้นเอาไว้ รู้สึกเหมือนดีท็อกซ์ไปในตัว 555+

การดูแลตัวเองหลังทำ CT Scan

หลังทำ CT Scan คุณพยาบาลจะให้นั่งรอที่หน้าห้องสักพักเพื่อดูว่าเรามีอาการแพ้สารทึบรังสีรึเปล่า ซึ่งเราก็ไม่มีความผิดปกติอะไร จากนั้นก็ไปวัดความดันอีกรอบค่ะ

บรรยากาศของ โรงพยาบาลพญาไท 2

คุณพยาบาลอธิบายขั้นตอนการดูแลตัวเองหลังฉีดสารทึบแสงว่า ควรกินน้ำเยอะมากๆ เพื่อให้สารในร่างกายออกไปจนหมด จากนั้นก็ให้ไปเปลี่ยนชุดและขึ้นไปที่ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพเพื่อฟังผลอีกครั้งค่ะ

เสร็จขั้นตอนการทำ CT Scan และฉีดสารทึบรังสีเรียบร้อยค่ะ ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด แล้วผลข้างเคียงหลังจากทำเสร็จก็ไม่มีอะไรผิดปกติ แต่ถ้าใครที่มีโรคประจำตัวหรือปัญหาทางสุขภาพอื่นๆ อาจมีผลข้างเคียงขึ้นกับแต่ละบุคคลไปนะคะ

จริงๆ แล้วการฉีดสารทึบรังสี หรือฉีดสีไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดนะคะ ถ้าเราอยู่ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญการฉีดสีก็เหมือนกับการฉีดยาทั่วไปเลย แต่คุณหมอจะบอกเอาไว้แต่แรกว่าอาจมีอาการร้อนวูบวาบ หรือคลื่นไส้เล็กน้อยค่ะ


บทความที่เกี่ยวข้อง

@‌hdcoth line chat