รีวิว ประสบการณ์จริง จากผู้ที่เคยผ่าตัดปากมดลูก เพราะเสี่ยงเป็นมะเร็ง


รีวิว ประสบการณ์จริง จากผู้ที่เคยผ่าตัดปากมดลูก เพราะเสี่ยงเป็นมะเร็ง

สรุปการรีวิว

ขยาย

ปิด

  • ก่อนที่เราจะผ่าตัดปากมดลูก เรามีอาการเลือดออกจากช่องคลอดติดต่อกันประมาณ 3 วันค่ะ ลักษณะคล้ายกับเป็นประจำเดือนแต่ไม่น่าจะใช่เพราะเราพึ่งจะมีประจำเดือนไปเลยคิดว่ามันผิดปกติ
  • การตรวจมะเร็งปากมดลูกด้วยน้ำส้มสายชู เป็นการตรวจคัดกรองรอยโรคก่อนมะเร็งปากมดลูกโดยใช้สารละลาย Acetic Acid ชโลมลงไปบนปากมดลูกแล้วสังเกตดูการเปลี่ยนแปลงของสีเยื่อบุปากมดลูก
  • หลังจากที่ผลตรวจออกมา บริเวณปากมดลูกของเราก็มีเซลล์ผิดปกติอยู่ในระยะที่กำลังจะพัฒนาเป็นมะเร็ง จึงต้องทำการผ่าตัดเอาเซลล์ที่ผิดปกตินั้นออกไปค่ะ
  • ก่อนผ่าตัด 6 ชั่วโมง คุณหมอจะให้งดน้ำ งดอาหาร และก็ทำการสวนอุจจาระให้เราก่อน พอถึงเวลาผ่าตัดคุณหมอก็จะฉีดยานอนหลับเข้าไปกับน้ำเกลือให้เราและเริ่มผ่าตัดเลยค่ะ
  • รีวิวนี้เป็นการชำระค่าบริการด้วยตัวเอง

ก่อนที่เราจะผ่าตัดปากมดลูก เรามีอาการเลือดออกจากช่องคลอดติดต่อกันประมาณ 3 วันค่ะ ลักษณะคล้ายๆ กับเป็นประจำเดือน แต่ไม่น่าจะใช่เพราะเราพึ่งจะมีประจำเดือนไป เลยคิดว่ามันผิดปกติ

เราเลยปรึกษากับเพื่อนที่ทำงาน เค้าก็แนะนำให้ลองไปตรวจภายใน ตรวจมะเร็งปากมดลูกดูเผื่อจะมีอะไรผิดปกติ

ตอนนั้นเราก็ไปตรวจแบบพื้นฐานทั่วไปดูก่อนก็คือ การตรวจแบบแปปสเมียร์ (Pap Smear) โดยวิธีการตรวจแปปสเมียร์ คุณหมอจะใช้เครื่องมือสอดผ่านและถ่างช่องคลอด จากนั้นก็จะป้ายเซลล์จากมดลูกส่งไปตรวจที่ห้องแลปเพื่อตรวจหาเซลล์ที่ผิดปกติของมดลูกค่ะ

ครั้งนี้เป็นครั้งแรกเลยที่ตรวจภายใน เพราะปกติไม่เคยตรวจอะไรแบบมาก่อน เพราะกลัวและกังวลตลอดพอผลตรวจออกมาก็ปรากฏว่ามดลูกของเราผิดปกติ คุณหมอเลยแนะนำให้ไปตรวจซ้ำอีกทีนึงเผื่อผลที่ออกมาจะเป็นผลบวกลวง ซึ่งวิธีที่คุณหมอแนะนำให้ไปตรวจก็คือ การตรวจด้วยน้ำส้มสายชู (Visual inspection with acetic acid: VIA) นั่นเอง

การตรวจมะเร็งปากมดลูกด้วยน้ำส้มสายชูคืออะไร?

การตรวจมะเร็งปากมดลูกด้วยน้ำส้มสายชู (Visual inspection with acetic acid: VIA) เป็นการตรวจคัดกรองรอยโรคก่อนมะเร็งปากมดลูกโดยใช้สารละลาย Acetic Acid เจือจาง 3-5% ชโลมลงไปบนปากมดลูกของเราแล้วสังเกตดูการเปลี่ยนแปลงของสีเยื่อบุปากมดลูกค่ะ

สำหรับข้อดีของการตรวจด้วยน้ำส้มสายชูก็คือ สามารถรู้ผลได้ทันที ส่วนข้อเสียคือ สามารถตรวจได้เฉพาะผู้ที่เห็นรอยต่อระหว่างเยื่อบุปากมดลูกชัดเจนและไม่สามารถประเมินความผิดปกติ หรือตรวจดูรอยโรคที่อยู่ลึกภายในช่องคอมดลูกได้

ขั้นตอนการตรวจมะเร็งปากมดลูกด้วยน้ำส้มสายชู

สำหรับวิธีการตรวจมะเร็งปากมดลูกด้วยน้ำส้มสายชู คุณหมอจะใช้สารละลาย Acetic Acid เจือจางร้อยละ 3-5% มาฉีดเข้าไปบริเวณปากมดลูกประมาณ 1 นาที ความรู้สึกตอนที่คุณหมอฉีดสารละลายตัวนี้เข้าไปคือเรารู้สึกแสบมากๆ อารมณ์เหมือนตอนเป็นแผลสดๆ อยู่แล้วเอาแอลกอฮอล์มาราดเลยค่ะแสบมาก

จากนั้นคุณหมอก็จะสังเกตดูการเปลี่ยนแปลงของสีเยื่อบุปากมดลูก ถ้าปากมดลูกของเรามีตรงไหนที่สีซีดลง นั่นก็แปลว่าตรงนั้นมีรอยโรคที่ผิดปกติ ซึ่งผลปรากฏว่าปากมดลูกของเราผิดปกติไปครึ่งนึงค่ะ หมอเลยส่งตรวจซ้ำอีกทีนึงและนัดมาฟังผลอีก 2 สัปดาห์ค่ะ

ผลตรวจคัดกรองรอยโรคก่อนมะเร็งปากมดลูก

หลังจากผ่านไป 2 สัปดาห์ผลตรวจออก คุณหมอก็นัดมาฟังผลตรวจและอธิบายให้ฟังว่า ตรงนั้นที่เราเห็นคือเซลล์ผิดปกติอยู่ในระยะที่กำลังจะพัฒนาเป็นมะเร็ง ซึ่งคุณหมอจะแบ่งเป็น 3 ระดับ (ระดับที่ 1-3) ซึ่งของเราตกที่ระดับ 3 หรือ CIN III

ตอนนั้นพอรู้ผลเราก็สติกระเจิงไปพักนึงเลยค่ะ แต่ด้วยความที่เราเป็นพยาบาลเลยไม่ได้ช็อคมาก เพราะเจอคนไข้มาก็เยอะแล้ว เลยพยายามตั้งสติและถามคุณหมอว่าควรรักษายังไงให้เชื้อมันหมดไปได้บ้าง

คุณหมอเลยแนะนำว่าควรทำ LEEP หรือที่มีชื่อเรียกเต็มๆว่า Loop Electrosurgical Excision Procedure ก็คือการใช้ห่วงลวดไฟฟ้ามาตัดชิ้นเนื้อปากมดลูกออกเป็นทรงกรวยสำหรับคนที่ได้รับการตรวจวินิจฉัยว่ามีรอยโรคผิดปกติที่ปากมดลูก ซึ่งการทำ LEEP มีวัตถุประสงค์เพื่อนำชิ้นเนื้อไปตรวจวินิจฉัยและเป็นการรักษารอยโรคที่ปากมดลูกไปในตัวด้วย

แต่ก่อนที่จะตัดสินใจทำหมอจะซักประวัติก่อนว่ามีแพลนที่จะมีลูกอยู่มั้ย แต่งงานรึยัง เพราะหลังจากที่ผ่าตัดไปแล้วจะต้องงดมีลูกไป 2 ปีเลยเพื่อความปลอดภัยไม่ให้เสี่ยงแท้ง ซึ่งเราก็บอกคุณหมอไปว่ายังโสดและก็ไม่ได้มีแพลนที่จะมีลูกเร็วๆ นี้ด้วย ก็เลยตัดสินใจนัดผ่าตัดไปเลยค่ะ

แต่จริงๆ แล้วก็มีอีกวิธีนึงที่ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดก็ได้นะคะ คุณหมอจะแนะนำว่าให้ไปออกกำลังกาย ปรับเรื่องการกิน ดูแลสุขภาพให้มากขึ้น และเชื้อมันจะค่อยๆ หายไปเองถ้าร่างกายเราแข็งแรง แต่เรารู้สึกว่าตัวเองยังไม่ได้มีแพลนที่จะมีลูกและก็อยากผ่าตัดให้มันจบๆ ก็เลยเลือกวิธีการผ่าตัดปากมดลูกค่ะ

หลังจากที่ตัดสินใจแล้วว่าจะทำการผ่าตัดปากมดลูก คุณหมอก็จะให้เราไปทำประวัติ เจาะเลือด และทำนัดหมายวันที่จะเข้ามารับการผ่าตัดเลยค่ะ ซึ่งช่วงนั้นคิวผ่าตัดแน่นมาก เราเลยได้คิวอีกทีเดือนหน้าเลย คุณหมอเองก็บอกว่าระหว่างที่รอผ่าตัดก็ไม่ต้องกังวลอะไร ให้ดูแลสุขภาพไปเหมือนเดิมค่ะ

ขั้นตอนการผ่าตัดปากมดลูก

หลังจากที่รอคิวผ่าตัดปากมดลูกมาเดือนนึงวันนี้ก็มาถึงแล้วค่ะ ก่อนอื่นเลยคุณหมอจะให้เรามาแอดมิทที่โรงพยาบาล 1 คืนก่อนผ่าตัดเพื่อจะได้เตรียมตัวให้พร้อม โดยเรานัดคิวผ่าตัดเอาไว้ตอน 9 โมงเช้า ซึ่งก่อนผ่าตัด 6 ชั่วโมง คุณหมอจะให้งดน้ำ งดอาหาร และก็ทำการสวนอุจจาระให้เราก่อน

สำหรับการสวนอุจจาระนั้นก็ทำเพื่อเคลียร์ให้ลำไส้ของเราสะอาด เพราะการผ่าตัดปากมดลูกนั้นถ้าเกิดว่าตอนผ่าตัดแล้วเราหลับอยู่ไม่รู้สึกตัวการที่มีอุจจาระอยู่ในลำไส้ก็อาจจะทำให้อุจจาระนั้นไหลออกมาและเปื้อนได้ คุณหมอเลยต้องสวนอุจจาระให้ก่อนนั่นเองค่ะ

หลังจากเตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว ถึงเวลาผ่าตัดก็จะมีพยาบาลมาพาเราไปที่ห้องผ่าตัดเลยค่ะ พอเข้าไปในห้องผ่าตัด พยาบาลก็จะเปิดเส้นให้น้ำเกลือพร้อมกับให้เรานอนกางแขนและขาออกเหมือนเวลาขึ้นขาหยั่ง จากนั้นพยาบาลก็จะฉีดยานอนหลับเข้าที่สายน้ำเกลือให้เรา ไม่นานภาพก็ตัดไปเลยค่ะ

หลังจากผ่าตัดปากมดลูก

เรารู้สึกตัวอีกทีก็คือตอนที่พยาบาลเข็นออกมาจากห้องผ่าตัดแล้วค่ะ ความรู้สึกหลังจากผ่าตัดเสร็จก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บอะไรเลยนะคะ ชิวมาก ซึ่งตอนที่ออกมาเค้าก็จะมีผ้าผืนใหญ่ๆ มารองไว้ตรงหว่างขาเพื่อซับเลือด แต่เราดูแล้วบริเวณที่ผ่าตัดก็ไม่ได้มีเลือดอะไรไหลออกมาเลยนะคะ

หลังจากนั้นเค้าก็จะให้เรามานอนพักฟื้นก่อนประมาณครึ่งวันยังไม่ให้กลับบ้านทันที คุณหมอก็จะมาติดตามอาการของเราว่าเป็นยังไงบ้าง เจ็บตรงไหนมั้ย ซึ่งเราก็บอกคุณหมอไปว่าไม่มีอาการเจ็บอะไรเลยค่ะ

จากนั้นคุณหมอก็แจ้งว่าเราจะสามารถกลับบ้านได้ก็ต่อเมื่อเราสามารถปัสสาวะด้วยตัวเองได้แล้ว เพราะกลัวว่าถ้ากลับบ้านไปเลยตอนนี้ ระบบขับถ่ายอาจจะมีปัญหาได้ค่ะ

ซึ่งคุณหมอเค้าจะให้ปัสสาวะลงกระโถนบนเตียง ไม่ให้ลุกเดินไปห้องน้ำ เพราะถ้าลุกเดินมากๆ เลือดที่แผลผ่าตัดอาจจะไหลออกมาได้

พอผ่านไปประมาณครึ่งวันเราก็เริ่มฉี่ได้แล้วค่ะ คุณหมอเค้าก็จะให้กลับบ้านได้ โดยเค้าแนะนำว่ากลับไปแล้วให้พยายามนอนอยู่นิ่งๆ ซักวันสองวัน อย่าขยับตัวเยอะหรือลุกเดินบ่อย เพราะจะทำให้เลือดออกแล้วแผลมันจะแย่กว่าเดิม

ถ้าหากว่ากลับไปแล้วมีอาการเลือดออกหรือปวดมากผิดปกติก็ให้รีบกลับมาหาคุณหมอได้เลยค่ะ แต่ถ้าไม่มีอาการอะไรก็ให้มาตามนัดเพื่อติดตามอาการอีกทีในหนึ่งสัปดาห์

ติดตามอาการหลังจากผ่าตัดปากมดลูกครบ 1 สัปดาห์

หลังจากที่เราผ่าตัดปากมดลูกไปครบ 1 สัปดาห์แล้วก็กลับมาพบคุณหมอเพื่อติดตามอาการกันค่ะ คุณหมอจะตรวจดูแผลบริเวณปากมดลูกของเราก่อน โดยใช้อุปกรณ์ที่หลายคนเรียกว่าปากเป็ด มาเปิดดูแผลว่าแห้งดีมั้ย มีอะไรผิดปกติรึเปล่า ซึ่งก็ไม่พบความผิดปกติอะไรค่ะ

ในวันที่ผ่าตัดคุณหมอได้นำชิ้นเนื้อไปส่งตรวจดูด้วย และก็ได้แจ้งผลตรวจให้ฟังว่า ชิ้นเนื้อนั้นไม่ได้เป็นมะเร็ง พอเรารู้อย่างนี้แล้วก็ค่อยรู้สึกสบายใจขึ้นมาหน่อย แต่คุณหมอก็แนะนำว่าหลังจากนี้ก็ให้เราคอยติดตามอาการอยู่เรื่อยๆ และมาตรวจมะเร็งปากมดลูกทุกๆ 6 เดือน

ซึ่งปกติแล้วการตรวจมะเร็งปากมดลูกเค้าจะให้ตรวจปีละครั้ง แต่ของเราคุณหมอจะให้ตรวจปีละ 2 ครั้งก่อน ก็คือทุกๆ 6 เดือน แต่หลังจากนั้นก็ให้กลับมาตรวจแค่ปีละครั้งตามปกติได้ค่ะ

สำหรับใครที่มีอาการผิดปกติกับช่องคลอด หรือยังไม่เคยตรวจภายใน ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเลย เราแนะนำเลยว่าควรหมั่นตรวจเช็กทุกๆ ปีค่ะ เพราะสิ่งเหล่านี้อาจจะมาในตอนที่เราชะล่าใจ ไม่รู้ตัว ซึ่งถ้าหากเราตรวจพบแต่เนิ่นๆ ก็สามารถรักษาให้หายหรือทุเลาลงได้

ดีกว่าปล่อยให้โรคร้ายลุกลามจนสายเกินที่จะรักษา หรืออาจจะลุกลามไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกายได้ค่ะ ถ้าใครที่สนใจ ยังไม่รู้จะตรวจภายในที่ไหนดี หรือตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกที่ไหนดี เราแนะนำเลยว่า ที่ HDmall.co.th รวมโปรโมชั่นของหลายโรงพยาบาลเอาไว้ มีครบทั้งเรื่องสุขภาพ ทำฟัน และความงามเลยค่ะ ถ้าใครสนใจก็ลองแวะเข้าไปดูได้นะคะ


บทความที่ HDmall.co.th แนะนำ

@‌hdcoth line chat