Norepinephrine มีความสำคัญอย่างไร


Norepinephrine นอร์อิพิเนฟริน คืออะไร?

การมีระดับฮอร์โมน Norepinephrine (นอร์อิพิเนฟริน) ลดลงนั้นเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคสมาธิสั้น (ADHD) โรคซึมเศร้า และโรคความดันในเลือดต่ำได้ มาดูกันว่าสาร Norepinephrine นี้สำคัญอย่างไร และทำไมถึงสัมพันธ์กับโรคเหล่านี้

Norepinephrine (นอร์อิพิเนฟริน) คือสารเคมีธรรมชาติในร่างกายชนิดหนึ่งซึ่งทำหน้าที่เป็นทั้งฮอร์โมนที่ตอบสนองต่อภาวะเครียด และเป็นสารสื่อประสาทที่ทำหน้าที่ส่งกระแสประสาทระหว่างเส้นประสาท 

เมื่อสารชนิดนี้จะถูกปล่อยเข้าสู่กระแสเลือด จะทำหน้าที่เป็นฮอร์โมนตอบสนองต่อภาวะเครียดเมื่อสมองรับรู้ว่ามีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้น นอกจากนั้น Norepinephrine ยังมีส่วนเกี่ยวข้องในการทำให้สมองให้ตอบสนองต่อเหตุการณ์ต่างๆ ดังต่อไปนี้

  • เพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ
  • กระตุ้นให้มีการหลั่งน้ำตาลกลูโคสสู่กระแสเลือดมากขึ้น
  • เพิ่มการไหลเวียนเลือดไปยังกล้ามเนื้อ

ส่วนหน้าที่ในการเป็นสารสื่อประสาทในระบบประสาทส่วนกลางนั้น Norepinephrine จะเพิ่มให้สมองมีการตื่นตัว ถูกกระตุ้น และเพิ่มความเร็วในการตอบสนอง นอกจากนี้ Norepinephrine ยังเกี่ยวข้องกับอารมณ์และความสามารถในการจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ดังนั้น การมีระดับ Norepinephrine ลดลงจึงทำให้เกิดภาวะต่างๆ ตามมาได้ เช่น โรคสมาธิสั้น โรคซึมเศร้า และโรคความดันในเลือดต่ำ

Norepinephrine กับโรคสมาธิสั้น (ADHD)

นอร์อิพิเนฟริน (Norepinephrine) และโดปามีน (Dopamine) ที่ทำหน้าที่เป็นสารสื่อประสาทนั้นช่วยให้มีความสามารถในการตั้งใจจดจ่อกับกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ซึ่งหากสารเหล่านี้ในสมองมีปริมาณลดลงก็อาจทำให้การจดจ่อนั้นยากขึ้น ซึ่งเป็นอาการหนึ่งของโรคสมาธิสั้น โรคนี้ส่งผลต่อความสามารถในการจัดการกับปัญหา การวางแผนต่างๆ ความสามารถในการเข้าใจพฤติกรรมคนรอบข้าง และการควบคุมอารมณ์ การรักษาทำได้โดยการรับประทานยา ซึ่งจะช่วยเพิ่มระดับของ Norepinephrine และ Dopamine ในร่างกายให้มากขึ้น ทำให้มีสมาธิมากขึ้นไปด้วย

ตัวอย่างยาที่ช่วยเพิ่มระดับ Norepinephrine และ Dopamine มีดังนี้

  • Methylphenidate)
  • Dextroamphetamine)
  • Amphetamine และ Dextroamphetamine)
  • Atomoxetine 

นอกจากนี้ยังมียาชนิดอื่นที่ใช้รักษาโรคสมาธิสั้น แต่มีฤทธิ์ช่วยเพิ่มระดับของนอร์อิพิเนฟรินเท่านั้น ไม่ได้เพิ่มระดับโดปามีน

Norepinephrine กับภาวะซึมเศร้า

ระดับ Norepinephrine ที่ลดลงนั้นส่งผลให้เกิดโรคซึมเศร้าได้เช่นกัน ซึ่งถือเป็นภาวะที่ร้ายแรงหนึ่งทางการแพทย์ เพราะส่งผลต่อความรู้สึกนึกคิด และการกระทำของบุคคลนั้น 

ผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าอาจใช้ยาในกลุ่มของ Serotonin-norepinephrine reuptake inhibitors (SNRIs) ซึ่งยากลุ่มนี้จะช่วยเพิ่มระดับของสาร Norepinephrine และเซโรโทนิน ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทในสมองอีกชนิดหนึ่ง ยาในกลุ่มของ SNRIs ที่มักใช้ ดังนี้

  • Effexor (Venlafaxine)
  • Cymbalta (Duloxetine)

ยาอีกกลุ่มหนึ่งที่แพทย์อาจแนะนำให้ใช้ คือ Tricyclic antidepressants ใช้ในการรักษาโดยเพิ่มระดับของ Norepinephrine ในสมองได้เช่นกัน แต่ยากลุ่มนี้มักมีผลข้างเคียงมาก ได้แก่ อาการง่วงนอน ปากแห้ง ท้องผูก ตามัว และน้ำหนักขึ้น

Norepinephrine และความดันในเลือดต่ำ

ระดับ Norepinephrine ที่ลดลงยังส่งผลต่อความดันเลือด ทำให้ระดับความดันเลือดลดต่ำลง ในบางครั้งจึงมีการใช้ Norepinephrine ฉีดเข้าทางเส้นเลือดดำเพื่อรักษาภาวะความดันในเลือดต่ำในภาวะฉุกเฉิน ซึ่งถือเป็นภาวะที่อันตราย เพราะเป็นอาการหนึ่งที่แสดงถึงภาวะช็อก ซึ่งหนึ่งในนั้นคือภาวะช็อกเหตุพิษติดเชื้อ (Septic shock) อันเกิดจากการที่มีสารพิษจากการติดเชื้อนั้นหลั่งออกมา ทำให้เกิดการอักเสบขึ้นทั่วทั้งร่างกาย

นอกจากนี้ยังมีภาวะช็อกชนิด Neurogenic shock ซึ่งเกิดจากการส่งกระแสประสาทถูกขัดขวาง มักจะเกิดขึ้นในผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บบริเวณไขสันหลัง 

ภาวะความดันโลหิตต่ำอาจทำให้เกิดอาการมึนหัวหรือเป็นลมหมดสติ นอกจากนี้ ในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงมากอาจส่งผลต่อหัวใจและสมองได้

สาเหตุที่ผู้ป่วยโรคเหล่านี้มีระดับ Norepinephrine ต่ำลงนั้นยังไม่อาจทราบอย่างแน่ชัด แต่พบว่าสาเหตุหนึ่งมาจากการเผชิญกับความกลัวและความวิตกกังวลอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นผู้ที่เผชิญเหตุการณ์ร้ายแรง มีโรควิตกกังวล หรือโรคแพนิค อาจมีระดับสารนี้ลดลงและนำไปสู่ปัญหาสุขภาพอื่นๆ ทั้ง 3 อย่างข้างต้นได้


เปรียบเทียบราคาแพ็กเกจตรวจระดับฮอร์โมน


บทความแนะนำ


ที่มาของข้อมูล

ขยาย

ปิด

@‌hdcoth line chat