ป่วยบ่อย อ่อนเพลีย ไม่สดใส เพราะไม่ค่อยมีโอกาสได้กินผักผลไม้ หลายคนที่เป็นเช่นนี้อาจกำลังมองหาวิธีอื่นที่จะทดแทนสารอาหารที่ร่างกายต้องการ ปัจจุบันนี้มีอาหารเสริมมากมายที่อ้างว่าสามารถช่วยทดแทนสารอาหารที่ร่างกายต้องการได้ แต่อาหารเสริมบางชนิดจะต้องกินติดต่อกันเป็นเวลานานจึงจะเห็นผล หนึ่งในวิธีที่เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นก็คึอการฉีดวิตามินเข้าเส้นเลือด
สารบัญ
ฉีดวิตามินเข้าเส้นเลือดคืออะไร?
การฉีดวิตามินเข้าเส้นเลือด (IV Nutritional therapy) หรือบางคนอาจเรียกว่า IV Vitamin drips เป็นการให้ของเหลวที่มีส่วนผสมของวิตามิน แร่ธาตุ เข้าทางเส้นเลือดโดยตรงเพื่อข้ามขั้นตอนการดูดซึมจากกระเพาะอาหาร
โดยปกติเมื่อเรากินอาหาร ร่างกายจะดูดซึมสารอาหารรวมถึงวิตามินได้ประมาณ 50% เท่านั้น แต่การฉีดวิตามินเข้าเส้นเลือดทำให้ร่างกายได้รับวิตามินสูงสุดถึง 90% ของปริมาณที่ให้
แต่เดิมทีการฉีดวิตามินเข้าเส้นเลือดใช้สำหรับทดแทนการขาดสารอาหารสำหรับผู้ป่วยติดเตียง แต่ปัจจุบันได้รับความนิยมมากขึ้นสำหรับคนทั่วไปที่ต้องการบำรุงร่างกาย เพราะสามารถทำได้รวดเร็ว สะดวก และราคาไม่สูงมาก
ฉีดวิตามินเข้าเส้นเลือดประกอบไปด้วยอะไรบ้าง?
การฉีดวิตามินเข้าเส้นเลือดมีทั้งแบบวิตามินรวม และแบบวิตามินชนิดเดียว โดยสารอาหารที่อาจพบในแพ็กเกจหรือโปรแกรมฉีดวิตามินเข้าเส้นเลือด อาจมีดังนี้
- วิตามินซี (Vitamin C)
- วิตามินบี (Vitamin B)
- แมกนีเซียม (Magnesium)
- แคลเซียม (Calcium)
- กรดอะมิโน (Amino acids)
- สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants)
การฉีดวิตามินเข้าเส้นเลือดไม่มีข้อจำกัดที่ชัดเจนว่าต้องมีส่วนผสมของสารอาหารอะไรบ้าง แต่ละสถานที่ที่มีบริการฉีดวิตามินอาจมีสูตรสารอาหารที่แตกต่างกันออกไป
ประโยชน์ของการฉีดวิตามินเข้าเส้นเลือด
ผู้ที่ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับการดูดซึม อาจเป็นกลุ่มคนที่ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการฉีดวิตามินเข้าเส้นเลือด โดยประโยชน์ที่ได้รับอาจมีดังนี้
- อาจมีส่วนช่วยทดแทนการเสียน้ำ (Dehydration) จากสาเหตุต่างๆ เช่น อาการเมาค้าง เสียเหงื่อจากการออกกำลังกาย
- อาจมีส่วนช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้น
- อาจมีส่วนช่วยในการกำจัดสารพิษในร่างกาย
- อาจมีส่วนช่วยในการปรับสมดุลฮอร์โมน
- อาจช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันต่อสู้กับอาการป่วยได้ดีขึ้น
- อาจมีส่วนช่วยบรรเทาอาการเกี่ยวระบบทางเดินหายใจ เช่น หอบหืด (Asthma) ไซนัส (Sinus) ภูมแพ้ (Allergies)
- อาจมีส่วนช่วยบรรเทาอาการปวดหัวไมเกรน (Migrains)
- อาจมีส่วนช่วยบรรเทาอาการอ่อนเพลียเรื้อรัง (Chronic fatigue syndrome)
- อาจมีส่วนช่วยบรรเทาโรคปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง หรือ ไฟโบรไมอัลเจีย (Fibromyalgia)
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังมีหลักฐานจำนวนจำกันทีบ่งบอกว่าการฉีดวิตามินเข้าเส้นเลือดมีประโยชน์มากแค่ไหนหรืออย่างไร จึงยังคงต้องอาศัยการศึกษาเพิ่มเติม
นอกจากนี้ การฉีดวิตามินเข้าเส้นเลือดไม่ใช่วิธีเหมาะสมที่สุดในการบำรุงร่างกายหรือการรับวิตามิน จึงเหมาะเป็นวิธีการบำรุงในระยะสั้นเท่านั้น
ผลข้างเคียงและข้อควรระวังของการฉีดวิตามินเข้าเส้นเลือด
ก่อนเริ่มทำการฉีดวิตามินเข้าเส้นเลือด ควรปรึกษาผู้ให้บริการถึงผลข้างเคียงและข้อควรระวังของการฉีดวิตามิน ดังต่อไปนี้
- อาจได้รับผลกระทบจากวิตามินที่มากเกินไป การให้วิตามินเข้าเส้นเลือดมีโอกาสทำให้รับวิตามินเกินพอดี และอาจส่งผลกระทบต่อร่างกาย เช่น ท้องร่วง เป็นตะคริว จึงควรปรึกษาผู้ชำนาญการก่อนให้วิตามิน
- อาจทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะในผู้ที่เป็นโรคหัวใจ การรับสารจำพวกอีเล็กโทรไลท์ (Electrolytes) มากเกินไปอาจทำให้คนที่เป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจมีอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะได้
- อาจทำให้ไตได้รับความเสียหาย ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคไต อาจไม่สามารถกำจัดอีเล็กโทรไลท์ (Electrolytes) ได้ หรือกำจัดได้ช้า จึงอาจส่งผลกระทบต่อไตได้เช่นกัน
- อาจส่งผลกระทบต่อผู้ที่มีอาการแพ้ ผู้ที่มีประวัติแพ้สารใดๆ ควรทราบส่วนประกอบของวิตามินหรือแจ้งกับผู้ชำนาญก่อนเสมอ
- อาจเกิดการติดเชื้อ ผิวหนังเป็นด่านชั้นแรกในการป้องกันเชื้อโรค การเจาะผิวหนังเพื่อฉีดวิตามินจึงมีโอกาสนำเชื้อโรคเข้าไปได้ ดังนั้นจึงควรทำกับผู้ชำนาญการเพื่อความปลอดภัย
โดยสรุปแล้วการฉีดวิตามินเข้าเส้นเลือด เป็นเพียงทางเลือกในการบำรุงร่างกายเท่านั้น ควรปรึกษาผู้ชำนาญการก่อนตัดสินใจทำ หากตัดสินใจใช้วิธีนี้บำรุงร่างกายควรเลือกสถานที่ให้บริการที่ได้มาตรฐานเท่านั้น