โปรแกรม Ozone Therapy ฟื้นฟูสุขภาพจาก PM 2.5


สรุปการรีวิว

ขยาย

ปิด

  • Ozone Therapy คือ การบำบัดด้วยโอโซน โดยการนำเลือดออกมา จากนั้นทดแทนด้วยเลือดที่มีโอโซนกลับเข้าไป โดยโอโซนเป็นก๊าซที่มีอยู่ในธรรมชาติ การทำ Ozone Therapy ถือการเป็นการรักษาด้วยธรรมชาติบำบัด
  • Ozone Therapy ช่วยให้เซลล์ต่างๆ รับออกซิเจนได้ดียิ่งขึ้น ส่งผลถึงเนื้อเยื่อทุกส่วนในร่างกาย ช่วยกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาว กระตุ้นการทำงานของ NK Cell ช่วยให้ร่างกายและเซลล์ในร่างกายยับยั้งเชื้อโรคหรือไวรัสได้ดีขึ้น
  • ขั้นตอนการทำ Ozone Therapy เริ่มด้วยเจาะเลือดประมาณ 200 cc แล้วนำโอโซนจากเครื่องผลิตโอโซน อัดแรงดันเข้าไปผสมกับเลือดจากนั้นถ่ายเลือดที่มีโอโซนกลับเข้าสู่ร่างกาย
  • การทำ Ozone Therapy เป็นตัวเลือกที่จะช่วยแก้ปัญหาสุขภาพ และช่วยฟื้นฟูภาวะแพ้ฝุ่น PM 2.5 ได้ดี
  • บทความนี้ได้รับการสปอนเซอร์จาก Bangkok Anti-Aging Center แพทย์ผู้ให้ข้อมูลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโฆษณาหรือการซื้อขายแพ็กเกจ #HDinsight

เลือกหัวข้อที่สนใจได้ที่นี่

  • Ozone Therapy คืออะไร?
  • Ozone Therapy มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไร?
  • Ozone Therapy เหมาะกับใคร?
  • Ozone Therapy ช่วยฟื้นฟูภาวะภูมิแพ้ที่เกิดจาก PM 2.5 ได้อย่างไร?
  • Ozone Therapy ปลอดภัยหรือไม่?
  • Ozone Therapy ต่างจากการดริปวิตามินอย่างไร?
  • จุดเด่นของ Ozone Therapy ที่โดดเด่นกว่าการฟื้นฟูแบบอื่น
  • การเตรียมตัวก่อนทำ Ozone Therapy
  • ขั้นตอนการทำ Ozone Therapy
  • Ozone Therapy ใช้เวลากี่นาที?
  • การดูแลตัวเองหลังทำ Ozone Therapy
  • ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการทำ Ozone Therapy
  • Ozone Therapy ทำได้บ่อยแค่ไหน?
  • ทำ Ozone Therapy ที่ไหนดี?
  • บทความที่ HDmall.co.th แนะนำ

  • เคยสังเกตไหมทำไมบางครั้งเราถึงดูไม่แข็งแรง? อ่อนเพลียง่าย? โดนฝนหรืออากาศเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยน้ำมูกก็ไหล อาการภูมิแพ้กำเริบ?

    สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดปัญหาและไม่สามารถเลี่ยงได้เลยคือ ฝุ่น PM 2.5 ซึ่งเราก็ยังคงต้องใช้ชีวิตและหายใจร่วมกับทุกคนต่อไป แต่ว่าวันนี้เรามีคำตอบว่าจะสามารถดูแลตัวเองจากฝุ่น PM 2.5 ให้ดีขึ้นได้โดยการรักษาด้วยโอโซนบำบัด หรือที่เรียกว่า Ozone Therapy

    โดย HDmall.co.th ร่วมกับ Bangkok Anti-Aging Center โดยนายแพทย์สมนึก ศิริพานทอง แพทย์เวชศาสตร์ชะลอวัย จะมาให้ความรู้ และไขข้อสงสัยในทุกประเด็น

    นายแพทย์สมนึก ศิริพานทอง แพทย์เวชศาสตร์ชะลอวัย

    Ozone Therapy คืออะไร?

    Ozone Therapy คือ การบำบัดด้วยโอโซน โดยการนำเลือดออกมา จากนั้นทดแทนด้วยเลือดที่มีโอโซนกลับเข้าไป ช่วยให้เซลล์ต่างๆ รับออกซิเจนได้ดียิ่งขึ้น

    Ozone Therapy คืออะไร?

    ออกซิเจนที่เพิ่มขึ้นในเลือดจะส่งผลถึงเนื้อเยื่อทุกส่วนในร่างกายทันทีหลังทำ ช่วยกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาวให้จัดการสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย กระตุ้นการทำงานของ NK Cell ช่วยให้ร่างกายและเซลล์ในร่างกายมีพลังงานในการป้องกัน ยับยั้งเชื้อโรคหรือไวรัสได้ดีมากยิ่งขึ้น

    Ozone Therapy มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไร?

    Ozone Therapy ช่วยยับยั้ง ป้องกัน เชื้อโรคหรือไวรัส และยังช่วยกระตุ้น เสริมระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้ทำงานได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ ลดอาการเจ็บป่วยเรื้อรัง ลดอาการอ่อนเพลีย และยังช่วยฟื้นฟูภาวะแพ้ฝุ่น PM 2.5 ได้อีกด้วย

    ซึ่งออกซิเจนจะถูกแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบก็คือ แบบโมเลกุล 2 อะตอม หรือก็คือ O2 เป็นออกซิเจนทั่วไปที่อยู่ในชั้นบรรยากาศ แต่ในขณะเดียวกัน ออกซิเจนก็สามารถเกาะรวมกันเป็น 3 อะตอมได้ ซึ่งก็คือ โอโซน O3 นั้นเอง

    จะสังเกตได้ว่าโอโซนมักถูกตรวจพบในบริเวณที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีอากาศบริสุทธิ์ เช่น ชายทะเล ป่าเขา หรือบริเวณที่ฝนเพิ่งหยุดตกใหม่ๆ เราจะรู้สึกได้ว่าอากาศสดชื่นขึ้นมากกว่าปกติ ซึ่งนั้นก็คือ โอโซนที่มีอยู่ในธรรมชาติ

    แต่ปัจจุบันร่างกายของเราต้องเจอมลพิษทางอากาศอยู่บ่อยครั้ง และที่เป็นปัญหาใหญ่อยู่ในขณะนี้ก็คือ ฝุ่น PM 2.5 การบำบัดด้วย Ozone Therapy จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เพราะโอโซนมีประโยชน์ต่อร่างกายดังนี้

    • โอโซนมีคุณสมบัติในการทำลายสิ่งสกปรก หรือเชื้อแบคทีเรียต่างๆ
    • โอโซนเมื่อเข้าสู่ร่างกายจะส่งผลให้ร่างกายสามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้สูงขึ้นได้

    Ozone Therapy เหมาะกับใคร?

    การทำ Ozone Therapy เหมาะกับทุกคนที่ต้องการมีสุขภาพที่ดี หรือผู้ที่ต้องเผชิญกับมลพิษทางอากาศ เช่นฝุ่น PM 2.5 อยู่บ่อยครั้ง ก็สามารถเข้ารับการบำบัดด้วย Ozone Therapy เพื่อทำลายสารพิษตกค้างในร่างกาย และเพิ่มภูมิคุ้มกัน หรือผู้ที่ป่วยโรคต่างๆ ดังนี้

    • ผู้ที่ป่วยเป็นไข้หวัด
    • ผู้ป่วยโรคตับอักเสบ
    • ผู้ป่วยโรคมะเร็ง
    • ผู้ที่มีปัญหาภูมิแพ้ ลมพิษ หอบหืด
    • ผู้ป่วยโรคภูมิเพี้ยน
    • ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบไหลเวียนโลหิต
    • ผู้ที่มีปัญหาแผลเรื้อรัง เช่น แผลเบาหวาน หรือแผลกดทับ

    ในกรณีของผู้เป็นโรคเบาหวาน หรือโรคหัวใจ ถ้ายังอยู่ในภาวะที่ไม่วิกฤตอย่างเช่น ภาวะหัวใจวาย น้ำท่วมปอด หรือระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินจนเกิดอาการช็อก ก็สามารถทำ Ozone Therapy ได้เช่นกัน

    แต่เนื่องจากการทำ Ozone Therapy คือการเติมออกซิเจนเข้าไปสู่หลอดเลือดโดยตรง จึงไม่สามารถทำได้กับที่มีปัญหาดังต่อไปนี้

    • ผู้ที่มีปัญหาเม็ดเลือดแดงเปราะ หรือแตกง่าย
    • ผู้ที่มีปริมาณเลือดในร่างกายน้อย เช่น เด็ก ผู้มีน้ำหนักตัวน้อย หรือผู้ที่เป็นโรคโลหิตจาง เนื่องจากต้องใช้เลือดของผู้ที่เข้ารับการบำบัดประมาณ 200cc
    • ผู้ที่ใช้ยาละลายลิ่มเลือด เพราะอาจส่งผลทำให้เลือดออกมาเกินไป และเป็นอันตรายได้

    นอกจากนี้การทำ Ozone Therapy ไม่เหมาะกับผู้มีสภาวะ หรือมีปัญหาต่าง ๆ เช่น

    • ผู้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับความดันโลหิต เช่น ความดันโลหิตต่ำ หรือ สูงเกินไป
    • ผู้ที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด เกล็ดเลือดต่ำ หรือผู้ที่เป็นโรค G6PD
    • สตรีมีครรภ์ และ เด็กอายุ 1-3 ปี

    สำหรับผู้สูงอายุมักพบปัญหาหลอดเลือดแดงเปราะหรือแตกง่าย จำเป็นต้องทำการประเมินเส้นเลือดจากแพทย์ว่าสามารถถ่ายเทเลือดเข้าออกได้อย่างสะดวกหรือไม่ หากเส้นเลือดไม่ตีบ หรือไม่แข็งมากเกินไป ก็สามารถทำได้ตามปกติ

    ส่วนในเด็ก ควรให้ร่างกายเข้าสู่วัยผู้ใหญ่อย่างเต็มตัวก่อนจึงจะทำ Ozone Therapy ได้ ซึ่งก็คืออายุ 15 ปีขึ้นไป เนื่องจากเด็กส่วนใหญ่ ขนาดร่างกายเล็ก ยังไม่แข็งแรงเต็มที่ และปริมาณเลือดที่มีไม่มากพอ จึงอาจทำให้การบำบัดไม่มีประสิทธิภาพเท่ากับการทำกับผู้ใหญ่

    Ozone Therapy ช่วยฟื้นฟูภาวะภูมิแพ้ที่เกิดจาก PM 2.5 ได้อย่างไร?

    เนื่องจากโอโซนมีคุณสมบัติในการทำลายสิ่งสกปรก หรือเชื้อแบคทีเรียในร่างกาย และยังสร้างเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้สูงขึ้น การทำ Ozone Therapy จึงส่งผลดี และช่วยฟื้นฟูภาวะภูมิแพ้ที่เกิดจาก PM 2.5 ได้ดังนี้

    • ลดการอักเสบ การระคายเคือง อีกทั้งยังช่วยลดอาการภูมิแพ้ที่เกิดจาก PM 2.5 ลงได้ เช่น อาการจาม น้ำมูกไหล อาการอักเสบบริเวณหลอดลมและถุงลม ซึ่งเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ
    • ช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับสารพิษที่มากับฝุ่น PM 2.5 ได้ดีขึ้น
    • ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังเนื้อเยื่อ และเซลล์ต่างๆ ภายในร่างกายได้ดีขึ้น

    เมื่อโอโซนเข้าสู่ร่างกายทำให้เซลล์ต่างๆ รับออกซิเจนได้ดียิ่งขึ้น กระตุ้นให้เม็ดเลือดขาวแข็งแรง และทำงานได้ดีขึ้นจนสามารถทำลายสิ่งสกปรก หรือเชื้อแบคทีเรียต่างๆ ที่ตกค้างอยู่ในร่างกาย ส่งผลทำให้ภูมิคุ้มกันสูงขึ้นด้วย

    Ozone Therapy ปลอดภัยหรือไม่?

    โอโซนเป็นก๊าซที่มีอยู่ในธรรมชาติ การทำ Ozone Therapy ถือการเป็นการรักษาด้วยธรรมชาติบำบัด จึงค่อนข้างมีความปลอดภัยสูง

    อย่างไรก็ตาม ผู้ที่อยากทำ Ozone Therapy ควรปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนเข้ารับการรักษา ซึ่งหากแพทย์ประเมินแล้วว่าทำได้โดยไม่มีอันตรายใดๆ ก็สามารถเริ่มทำ Ozone Therapy ได้อย่างสบายใจหายห่วง

    Ozone Therapy ต่างจากการดริปวิตามินอย่างไร?

    โดยทั่วไปสารธรรมชาติมีอยู่ด้วยกันในหลายสถานะ มีทั้ง ก๊าซ ของเหลว และของแข็ง โอโซนก็เป็นหนึ่งในสารธรรมชาติที่จำเป็นต่อร่างกายมนุษย์ แต่อยู่ในสถานะของก๊าซ ส่วนการดริปวิตามิน หรือ NAD+ เป็นการนำสารที่มีสถานะเป็นของเหลวเข้าสู่ร่างกายผ่านทางเส้นเลือดดำ

    แม้ว่าสถานะของสารจะแตกต่างกัน แต่จุดประสงค์หลักของสารเหล่านี้ก็คือ เป็นสารธรรมชาติที่ร่างกายของต้องการ โดยสารแต่ละตัวนี้ไม่สามารถนำมาทดแทนกันได้ เนื่องจากเป็นสารคนละชนิด ต่างทำหน้าที่ที่แตกต่างกันออกไป และอยู่ในคนละสถานะ

    จุดเด่นของ Ozone Therapy ที่โดดเด่นกว่าการฟื้นฟูแบบอื่น

    ในกรณีที่ผู้ป่วยมีการติดเชื้อและเป็นไข้ การทำ Ozone Therapy จะช่วยฟื้นฟูร่างกายของผู้ป่วยโดยเห็นผลได้ทันที หรือในกรณีผู้ป่วยที่มีอาการป่วยเรื้อรัง เช่น น้ำตาลสูงเรื้อรัง ไขมันสูงเรื้อรัง เลือดมีภาวะเป็นกรด

    การเติมโอโซนเข้าไปในร่างกายจะช่วยทำให้ระบบไหล่เวียนเลือด และเซลล์ต่างๆ ได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ ส่งผลให้ผู้ป่วยรู้สึกสดชื่น มีเรี่ยวแรง และนอนหลับได้ดีมากขึ้น

    การเตรียมตัวก่อนทำ Ozone Therapy

    สิ่งสำคัญก่อนทำ Ozone Therapy อย่างแรกเลยต้องปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้แพทย์ตรวจสอบ และประเมินตามข้อควรระวังดังต่อไปนี้

    • ตรวจปริมาณเลือด
    • ตรวจหาภาวะโลหิตจาง
    • ตรวจหากรณีเม็ดเลือดแดงเปราะ หรือแตกง่าย
    • ตรวจประวัติการใช้ยา

    หากแพทย์ประเมินแล้วว่าสามารถทำได้โดยไม่มีอันตรายใดๆ ก็สามารถเริ่มทำ Ozone Therapy ได้เลย

    ส่วนยาที่ควรระวังเป็นพิเศษก็คือ ยาระบายลิ่มเลือด เนื่องจากการทำ Ozone Therapy เป็นการบำบัดที่จำเป็นต้องใช้เลือดในปริมาณพอสมควร การใช้ยาระบายลิ่มเลือดอาจทำให้เลือดออกมาเกินไป และหยุดไหลยาก

    ขั้นตอนการทำ Ozone Therapy

    สำหรับขั้นตอนการทำ Ozone Therapy แบ่งออกเป็นขั้นตอนใหญ่ๆ 3 ขั้นตอนดังนี้

    1. เจาะเลือดบริเวณข้อพับออกมาจากหลอดเลือดดำใหญ่ ต่อเข้ากับสายและถุงเก็บเลือดปลอดเชื้อครั้งละประมาณ 200 cc โดยปกติแล้วการทำ Ozone Therapy จะใช้เลือดประมาณ 200 cc เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนจึงไม่ควรใช้เลือดในปริมาณที่น้อยจนเกินไป
    2. นำโอโซนจากเครื่องผลิตโอโซน อัดแรงดันผ่านสายเข้าไปผสมกับเลือดดำที่เก็บเอาไว้ในถุง ในขั้นตอนนี้จะสังเกตได้ว่าจากเลือดที่เป็นสีดำ เมื่อผสมกับโอโซนแล้วจะทำให้เลือดค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงมากขึ้น
    3. ถ่ายเลือดที่มีโอโซนกลับเข้าสู่ร่างกายของผู้รับบริการ

    หลังจากถอดเข็มออกแล้วก็เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการทำ Ozone Therapy

    Ozone Therapy ใช้เวลากี่นาที?

    Ozone Therapy ใช้เวลากี่นาที?

    ขั้นตอนการทำ Ozone Therapy จะใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 30-40 นาที ขึ้นกับผู้เข้ารับบริการแต่ละคน ซึ่งมีระยะเวลาไม่เท่ากัน แต่จะใช้เวลามากสุดไม่เกิน 45 นาที

    การดูแลตัวเองหลังทำ Ozone Therapy

    เพื่อให้ร่างกายได้รับการฟื้นฟูอย่างเต็มที่ หลังจากการทำ Ozone Therapy แพทย์ส่วนใหญ่จึงแนะนำให้งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดบุหรี่ และพักผ่อนให้เพียงพอ

    ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการทำ Ozone Therapy

    ในกรณีที่การตรวจประเมินก่อนเริ่มทำ Ozone Therapy ไม่ละเอียดรอบคอบและร่างกายไม่พร้อมสำหรับการทำ Ozone Therapy อาจส่งผลให้เม็ดเลือดแดงแตกและเกิดภาวะโลหิตจางได้

    หากเกิดภาวะโลหิตจาง แพทย์จะแนะนำให้พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายค่อยๆ ฟื้นตัวเองตามธรรมชาติ และไม่ควรลุกเดิน หรือเคลื่อนที่อย่างฉับพลันในขณะที่มีภาวะโลหิจจางอาจทำให้เกิดอาการหน้ามืดได้

    หลังจากนั้นควรกลับไปพบแพทย์เพื่อตรวจสอบถึงปริมาณเลือดที่เสียไป แพทย์อาจจ่ายยาบำรุงหรือวิตามินต่างๆ เพื่อเสริมสร้างร่างกายให้มีปริมาณเลือดกลับขึ้นมาอีกครั้ง

    แต่โดยทั่วไปแล้วแพทย์จะทำการตรวจหาความเสี่ยงทุกอย่างจนมั่นใจว่าจะไม่เกิดอันตราย จึงสามารถเริ่มการทำ Ozone Therapy ได้

    Ozone Therapy ทำได้บ่อยแค่ไหน?

    การทำ Ozone Therapy สามารถทำได้ตั้งแต่อาทิตย์ละ 1 ครั้ง ขึ้นไปจนถึง เดือนละ 1 ครั้ง และหากมีอาการติดเชื้อไวรัสสามารถทำซ้ำได้อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง เพื่อกำจัดเชื้อให้หมดไปอย่างเร่งด่วน

    ทำ Ozone Therapy ที่ไหนดี?

    การทำ Ozone Therapy สามารถทำได้ทั่วไปตามศูนย์การแพทย์ต่างๆ โดย BAAC (Bangkok Anti-Aging Center) เป็นหนึ่งในศูนย์การแพทย์ที่มีเจ้าหน้าที่ ทีมแพทย์ที่มีความรู้ ความชำนาญ และมีประสบการณ์ สามารถมั่นใจได้ว่าจะได้รับบริการที่มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยจาก BAAC

    ทำ Ozone Therapy ที่ไหนดี?

    ในปัจจุบัน ฝุ่น PM 2.5 เป็นปัญหาใหญ่ต่อชีวิตประจำวัน การหายใจเอาสารพิษเข้าไปสะสมในร่างกายในระยะเวลานาน เป็นสิ่งที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก การทำ Ozone Therapy จึงเป็นตัวเลือกที่จะช่วยแก้ปัญหาสุขภาพ และช่วยฟื้นฟูภาวะแพ้ฝุ่น PM 2.5 ได้ดีอีกด้วย

    สำหรับใครที่สนใจอยากใช้บริการ Ozone Therapy สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ HDmall.co.th หรือดูได้ที่ลิงก์ด้านล่างคลิปนี้

    หรือหากคุณมีข้อสงสัย มีคำถามที่กังวลใจเกี่ยวกับผลกระทบต่อสุขภาพที่เกิดจาก PM 2.5 แพทย์จากBAAC ยินดีเป็นผู้ช่วยให้คำปรึกษาและดูแลสุขภาพให้กับคุณในระยะยาวด้วยความใส่ใจ

    เช็กราคาและเลือกซื้อแพ็กเกจโปรแกรม Ozone Therapy ที่ Bangkok Anti-Aging Center ในราคาส่วนลดผ่าน HDmall.co.th สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ไลน์ @HDcoth


    บทความที่ HDmall.co.th แนะนำ

    @‌hdcoth line chat