รวมข้อควรรู้ก่อนปลูกผมแบบ FUE แก้ปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน


รวมข้อควรรู้ก่อนปลูกผมแบบ FUE แก้ปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน

สรุปการรีวิว

ขยาย

ปิด

  • การปลูกผมแบบ FUE (Follicular unit extraction) เป็นเทคนิคการปลูกผมแบบถาวร และย้ายเซลล์รากผมโดยไม่ต้องผ่าตัด ด้วยการใช้เครื่องมือชนิดพิเศษที่มีหัวเจาะขนาดเล็กเพียงแค่ 0.8-1.2 มิลลิเมตร
  • การปลูกผมแบบ FUE เป็นเทคนิคที่สามารถทำได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน ศีรษะเถิก หรือผู้ที่มีแนวผมที่สูงเกินไป
  • การปลูกผมแบบ FUE เป็นเทคนิคที่ใช้เครื่องมือพิเศษที่มีหัวเจาะขนาดเล็กมากๆ ในการเจาะย้ายเซลล์รากผม ทำให้ด้านหลังศีรษะจึงมีแผลที่ขนาดเล็กมากๆ จนไม่สามารถสังเกตเห็นได้
  • บทความนี้ได้รับการสปอนเซอร์จาก Flow Clinic แพทย์ผู้ให้ข้อมูลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโฆษณาหรือการซื้อขายแพ็กเกจ #HDinsight

เลือกหัวข้อที่สนใจได้ที่นี่

  • การปลูกผมแบบ FUE คืออะไร?
  • การปลูกผมแบบ FUE แตกต่างจากการปลูกผมแบบ FUT อย่างไร?
  • ใครเหมาะกับการปลูกผมแบบ FUE?
  • ใครที่ไม่สามารถปลูกผมแบบ FUE ได้?
  • การปลูกผมแบบ FUE ปลูกได้ตั้งแต่อายุเท่าไร?
  • การเตรียมตัวก่อนปลูกผมแบบ FUE
  • ขั้นตอนการปลูกผมแบบ FUE
  • การดูแลตัวเองหลังปลูกผมแบบ FUE
  • ปลูกผมแบบ FUE จะเริ่มเห็นผลลัพธ์ตอนไหน?
  • ปลูกผมแบบ FUE อยู่ได้ถาวรไหม?
  • ปลูกผมแบบ FUE ที่ Flow Clinic
  • บทความที่ HDmall.co.th แนะนำ

  • ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ผม เป็นส่วนหนึ่งของร่างกายที่ช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดีได้ ปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน จึงเป็นปัญหาใหญ่สำหรับใครหลายๆ คน เนื่องจากทำรู้สึกไม่ดีกับบุคลิกภาพของตัวเอง และสูญเสียความมั่นใจไปเป็นอย่างมาก

    “การปลูกผมแบบ FUE” จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยเติมเต็มเส้นผม ทำให้ผมดูหนาขึ้น และช่วยเรียกความมั่นใจให้กลับมาได้อีกครั้ง

    หลายๆ คนอาจยังสงสัยอยู่ว่า การปลูกผมแบบ FUE คืออะไร? แตกต่างจากเทคนิคอื่นยังไงบ้าง? ปลูกผมไปแล้วอยู่ได้ถาวรหรือเปล่า? คนอายุน้อยปลูกผมได้ไหม?

    HDmall.co.th ร่วมกับ Flow Clinic โดย พญ.ธนาภรณ์ ปุญญาจินดาทรัพย์ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านเส้นผม จึงจะมานำเสนอวิธีการ “ปลูกผมแบบ FUE” ซึ่งเป็นเทคนิคการปลูกผมโดยไม่ต้องผ่าตัด และช่วยแก้ปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้านได้อย่างถาวร

    การปลูกผมแบบ FUE คืออะไร?

    การปลูกผมแบบ FUE คืออะไร?

    การปลูกผมแบบ FUE หรือ Follicular unit extraction เป็นเทคนิคการปลูกผม โดยไม่ต้องผ่าตัด ด้วยการใช้เครื่องมือชนิดพิเศษที่มีหัวเจาะขนาดเล็กเพียงแค่ 0.8-1.2 มิลลิเมตร มาเจาะเอาเซลล์รากผมบริเวณท้ายทอยหรือด้านหลังศีรษะออกไปปลูกใหม่ตรงตำแหน่งที่ต้องการ

    การใช้เซลล์รากผมบริเวณท้ายทอยหรือด้านหลังศีรษะมาใช้ในการปลูกผม จะทำให้ผมที่นำมาปลูกใหม่อยู่ได้คงทน แข็งแรง เนื่องจากเซลล์รากผมบริเวณนี้เป็นส่วนที่ไม่มีต่อมรับฮอร์โมนเพศชาย ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่มีส่วนในการกระตุ้นให้รากผมหลุดร่วง เซลล์รากผมบริเวณท้ายทอยจึงเป็นส่วนแพทย์ส่วนใหญ่นิยมใช้ในการปลูกผม

    การปลูกผมแบบ FUE แตกต่างจากการปลูกผมแบบ FUT อย่างไร?

    การปลูกผมแบบ FUT หรือ Follicular Unit Hair Transplant เป็นเทคนิคการปลูกผมที่ย้ายเซลล์รากผมด้วยวิธีการผ่าตัดเอาหนังศีรษะชั้นบนบางส่วนพร้อมกับรากผมออก จากนั้นจึงนำหนังศีรษะที่ได้เป็นชิ้นไปแยกกอรากผมแล้วนำกลับมาปลูกใหม่ทีละกอบริเวณที่ต้องการ

    การปลูกผมแบบ FUT เป็นวิธีที่ทำให้เกิดรอยแผลเป็นด้านหลังศีรษะ เนื่องจากเป็นการเย็บแผลในลักษณะแนวยาว และทำให้ไม่สามารถตัดผมสั้นๆ ได้ เพราะจะทำให้เห็นรอยแผลเป็นได้ชัดเจน

    ในขณะที่การปลูกผมแบบ FUE เป็นเทคนิคที่ใช้เครื่องมือพิเศษที่มีหัวเจาะขนาดเล็กมากๆ ในการเจาะย้ายเซลล์รากผม ทำให้ด้านหลังศีรษะมีแผลที่ขนาดเล็กมากๆ จนไม่สามารถสังเกตเห็นได้ และสามารถตัดผมสั้นเพื่อโชว์ท้ายทอยได้โดยไม่รู้ว่าเคยนำผมออกไป

    ใครเหมาะกับการปลูกผมแบบ FUE?

    การปลูกผมแบบ FUE เป็นเทคนิคที่สามารถทำได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน ศีรษะเถิก หรือผู้ที่มีแนวผมที่สูงเกินไป รวมถึงผู้ที่ไม่ต้องการใช้เวลาพักฟื้นนานๆ ชอบตัดผมสั้น และต้องการปกปิดรอยแผลเป็นที่ศีรษะด้วย

    ใครที่ไม่สามารถปลูกผมแบบ FUE ได้?

    ในการปลูกผมแบบ FUE จะต้องเป็นผู้ที่มีผมส่วนท้ายทอยที่ยังหนาแน่น แข็งแรง และมีความสมบูรณ์ของรากผมที่เพียงพอต่อการปลูก

    ซึ่งถ้าหากรากผมไม่แข็งแรงพอหรือมีจำนวนน้อยเกินไป ก็อาจจะทำให้การปลูกผมได้ผลลัพธ์ไม่เต็มที่และดูไม่สวยงามได้

    นอกจากนั้น ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางโรคที่เป็นสาเหตุในการทำให้ผมบางหรือร่วง เช่น ภาวะไทรอยด์ผิดปกติ หรือภาวะผมร่วงเป็นหย่อม ถ้าหากโรคเหล่านี้ยังคงอยู่ ควรรอให้รักษาจนหายหรือให้อาการคงที่ก่อน

    การปลูกผมแบบ FUE ปลูกได้ตั้งแต่อายุเท่าไร?

    การปลูกผมแบบ FUE สามารถเริ่มทำได้ตั้งแต่อายุ 18 ปีขึ้นไป แต่ในกรณีผู้ที่มีอายุน้อยแล้วต้องการปลูกผมก็จำเป็นจะต้องมีการวางแผนระยะยาวก่อน

    เนื่องจากการปลูกผมจะต้องใช้ผมบริเวณด้านหลัง ซึ่งผมบริเวณนี้จะมีอยู่อย่างจำกัด ดังนั้นถ้าหากใช้ผมบริเวณนี้จนหมดแล้วและในอนาคตเกิดมีปัญหาผมบางอีก ก็อาจจะทำให้ไม่สามารถปลูกผมเพิ่มเติมได้

    การเตรียมตัวก่อนปลูกผมแบบ FUE

    สำหรับการเตรียมตัวก่อนปลูกผม แพทย์จะแนะนำให้ปฏิบัติตามดังนี้

    • หากมีโรคประจำตัว หรือมียาที่ทานอยู่เป็นประจำ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนเข้ารับบริการ
    • งดยาหรืออาหารเสริมที่ทำให้เลือดแข็งตัวช้า เช่น ยากลุ่มแอสไพริน (Aspirin), วิตามินอี (Vitamin E), น้ำมันตับปลา (Fish oil) อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการปลูกผม
    • งดเครื่องดื่มชา กาแฟ
    • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
    • งดใช้เจลหรือสเปรย์ตกแต่งทรงผม และควรสระผมให้สะอาดก่อนมาปลูกผม
    • ควรสวมเสื้อที่มีกระดุมด้านหน้า เพื่อสะดวกต่อการเปลี่ยนเสื้อก่อนและหลังปลูกผมจะได้ไม่โดนแผล

    ขั้นตอนการปลูกผมแบบ FUE

    ขั้นตอนการปลูกผมแบบ FUE จะใช้เวลาในการทำประมาณ 6-8 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับจำนวนกราฟต์ผมที่ทำ โดยมีขั้นตอนสำคัญดังนี้

    • แพทย์ผู้ชำนาญการด้านเส้นผมใช้กล้องส่องเพื่อตรวจเช็กสภาพผม และซักประวัติเกี่ยวกับปัจจัยที่ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดภาวะผมร่วง จากนั้นจึงวางแผนการรักษา
    • หากเส้นผมแข็งแรงพอ และสามารถปลูกผมแบบ FUE ได้ แพทย์จะเริ่มออกแบบและวาดแนวผมที่จะปลูก พร้อมกับวัดพื้นที่เพื่อประเมินกราฟต์ที่ใช้ในการปลูกผม
    • วันปลูกผม แพทย์จะให้นอนคว่ำหน้าเพื่อทำความสะอาด ฆ่าเชื้อบริเวณศีรษะด้านหลัง จากนั้นก็จะฉีดยาชาเพื่อลดความเจ็บระหว่างทำ
    • หลังจากยาชาออกฤทธิ์ แพทย์จะใช้เครื่องมือชนิดพิเศษที่มีหัวเจาะขนาดเล็กเพียงแค่ 0.8-1.2 มิลลิเมตร ค่อยๆ เจาะเอาเซลล์รากผมด้านหลังศีรษะออกมาทีละกอจนครบตามจำนวน
    • นำเซลล์รากผมที่เจาะออกมาไปแช่ในน้ำยาเฉพาะ และเก็บรักษาไว้ในอุณหภูมิที่เหมาะสม เพื่อไม่ทำให้เซลล์รากผมเสื่อมสภาพ
    • หลังจากนั้นแพทย์จะให้คนไข้นอนหงายพร้อมกับทำความสะอาดศีรษะบริเวณที่จะปลูกผม และฉีดยาชา
    • เมื่อยาชาออกฤทธิ์แล้ว แพทย์จะเจาะรูตรงบริเวณที่ต้องการปลูกผม และนำเซลล์รากผมที่ได้มาปลูกในบริเวณที่ออกแบบไว้ จากนั้นแพทย์จะปิดผ้าพันแผลเอาไว้ 1-2 วัน

    โดยหลังจากปลูกผมเสร็จแล้ว ผู้รับบริการสามารถกลับบ้านได้ ไม่ต้องนอนพักฟื้นเพื่อดูอาการ แต่ควรมีญาติหรือคนรู้จักมารับ เพราะหลังจากปลูกผมเสร็จทันทียังไม่ควรขับรถด้วยตัวเอง

    การดูแลตัวเองหลังปลูกผมแบบ FUE

    หลังจากปลูกผมไปแล้ว ผู้รับบริการจะต้องดูแลตัวเองตามคำแนะนำจากแพทย์ดังนี้

    • หลีกเลี่ยงการแกะ เกา ถู หรือจับบริเวณที่ปลูกผม เพราะต้องใช้ระยะเวลาในการสมานตัวติดแน่นประมาณ 2 สัปดาห์ หากไปโดนอาจทำให้กราฟต์ผมหลุดได้
    • หลังปลูกผมควรนอนในท่าที่ไม่ทำให้กระทบแผล ด้วยการนอนหงายหรือนอนตะแคง และควรนอนหมอนสูงหรือใช้หมอนรองคอ
    • หลังปลูกผม 24 ชั่วโมง สามารถสระผมได้ แต่ควรสระผมอย่างเบามือ และควรใช้ยาสระผมชนิดอ่อนโยน
    • ควรมาทำแผลด้านหลังศีรษะตามที่แพทย์นัดหมาย
    • หลีกเลี่ยงไปในที่มีฝุ่นและควันเยอะๆ เพื่อป้องกันแผลติดเชื้อ
    • เลี่ยงเลี่ยงการยืนตากแดดนานๆ เนื่องจากความร้อนมีผลต่อเซลล์รากผมที่ปลูก ทำให้ผมขึ้นได้ไม่ดีเท่าที่ควร
    • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ และงดของหมักดอง ตามคำแนะนำของแพทย์
    • งดออกกำลังกาย หรือยกของหนัก ในช่วงสัปดาห์แรกหลังจากการปลูกผม

    ปลูกผมแบบ FUE จะเริ่มเห็นผลลัพธ์ตอนไหน?

    หลังจากปลูกผมแบบ FUE ไปแล้ว จะเริ่มเห็นผมงอกใหม่ตรงบริเวณที่ปลูกตอนช่วงประมาณ 3-4 เดือน และจะเห็นผมขึ้นเต็มที่หลังจากผ่านไปแล้วประมาณ 12-18 เดือน

    ปลูกผมแบบ FUE จะเริ่มเห็นผลลัพธ์ตอนไหน?

     

    ปลูกผมแบบ FUE อยู่ได้ถาวรไหม?

    ผมที่เลือกมาปลูก เป็นผมที่ได้จากบริเวณ Safe Zone หรือบริเวณท้ายทอยและด้านหลังศีรษะ ซึ่งบริเวณนี้ไม่มีต่อมรับฮอร์โมนเพศชายที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดผมร่วง

    อย่างไรก็ตาม การที่จะให้ผมปลูกใหม่อยู่ได้อย่างถาวรขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของแต่ละบุคคล หลังจากปลูกผมไปแล้วคนไข้ควรทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด และควรกินวิตามินบำรุงควบคู่ไปด้วย เช่น ซิงค์ (Zinc) ไบโอติน (Biotin) หรือวิตามินบี (Vitamin B)

    ปลูกผมแบบ FUE ที่ Flow Clinic

    การปลูกผมแบบ FUE จำเป็นจะต้องอาศัยการทำโดยแพทย์ผู้มีความชำนาญการเฉพาะทาง และมีความรู้ ความเข้าใจเรื่องเส้นผมเป็นอย่างดี เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ออกมาสวยงามตามต้องการ มีความปลอดภัย และไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงร้ายแรง

    ที่ Flow Clinic แพทย์ผู้ชำนาญการด้านเส้นผมจะวินิจฉัย วางแผนการรักษา และเลือกวิธีให้เหมาะสมกับคนไข้แต่ละคนที่สุด โดยแพทย์จะใช้กล้องส่องเพื่อเช็กดูสภาพเส้นผมของแต่ละคนก่อนว่ามีสภาพเส้นผมที่แข็งแรงพอจะปลูกผมไหม นอกจากนี้ยังมีการซักประวัติถึงปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดผมร่วงด้วย

    ขั้นตอนการปลูกผมแบบ FUE ที่ Flow Clinic

    ในคนไข้บางรายที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง ศรีษะล้าน อาจยังไม่ถึงขั้นจะต้องปลูกผม แพทย์ก็จะทำการวินิจฉัยและเลือกวิธีรักษาอื่นๆ ให้คนไข้ก่อน เช่น การทานวิตามินบำรุง การทำทรีตเมนต์ การฉีด PRP หรือการฉีดสเต็มเซลล์

    ส่วนคนไข้ที่ได้รับการวินิจฉัยแล้วว่าควรปลูกผม และมีเส้นผมแข็งแรงพอที่จะปลูก แพทย์ก็จะวางแผนการรักษาและวาดออกแบบแนวผมด้านหน้า โดยเน้นออกแบบให้มีความธรรมชาติและได้สัดส่วนที่เข้ากับรูปหน้าของคนไข้มากที่สุด

    นอกจากนี้แพทย์ยังประเมินกราฟต์ที่จะใช้ในการปลูกผมพร้อมกับประเมินราคาออกมาให้คนไข้ได้ทราบเลยด้วย

    รับบริการปลูกผมแบบ FUE แก้ปัญหาผมร่วง ผมบาง ศรีษะล้านกับแพทย์ผู้ชำนาญการด้านเส้นผมที่ Flow Clinic หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมผ่านทางไลน์ @HDcoth


    บทความที่ HDmall.co.th แนะนำ

    @‌hdcoth line chat