รักษาภาวะมีบุตรยากที่ไหนดี? ระหว่างโรงพยาบาลและคลินิก


HDmall สรุปให้

ขยาย

ปิด

  • การรักษาภาวะมีบุตรยาก คือ กระบวนการรักษาผู้ที่ไม่สามารถมีบุตรได้ด้วยวิธีธรรมชาติให้สามารถมีบุตรได้สำเร็จและอย่างปลอดภัย สามารถทำได้หลายวิธี เช่น การทำ IVF การทำ ICSI การทำ IUI
  • สูตินรีแพทย์จะให้คำแนะนำวิธีรักษาให้ ผ่านการวิเคราะห์จากเงื่อนไขด้านสุขภาพของทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย ทั้งคุณภาพของไข่และเชื้ออสุจิ ความแข็งแรงของมดลูกหรือรังไข่ พฤติกรรมการใช้ชีวิต
  • การรักษาภาวะมีบุตรยากที่โรงพยาบาลกับคลินิกต่างกันอยู่ 2 ส่วนคือ ความสะดวกและรวดเร็ว ซึ่งในส่วนนี้ทางคลินิกรักษาภาวะมีบุตรยากจะรวดเร็วกว่า ส่วนที่สองคือ การทำคลอด ซึ่งมีแต่โรงพยาบาลที่สามารถทำคลอดได้เท่านั้น
  • ใครอายุยังน้อยอยู่และวางแผนจะมีลูกแน่ๆ แต่ยังไม่แน่ใจเกี่ยวกับช่วงเวลาที่พร้อมที่สุด ก็สามารถเดินทางมาฝากแช่แข็งไข่ที่ Prime Fertility Center ได้เช่นกัน
  • รีวิวนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ #HDreview ได้รับข้อมูลและการสปอนเซอร์จากทาง Prime Fertility Center ทั้งนี้ผู้รับบริการชำระค่าบริการด้วยตัวเอง

เลือกหัวข้อที่สนใจได้ที่นี่

ประเทศไทยจัดเป็นอีกประเทศที่มีชื่อเสียงด้านการรักษาภาวะมีบุตรยาก เห็นได้จากในโรงพยาบาลแทบทุกแห่งที่มีแผนกรักษาภาวะมีบุตรยากตั้งอยู่แบบเฉพาะทาง รวมถึงมีคลินิกหรือสถานพยาบาลสำหรับรักษาภาวะมีบุตรยากที่มีชื่อเสียงอยู่หลายแห่ง

และด้วยจำนวนที่มาก ทำให้หลายคนเกิดข้อสงสัยว่า การรักษาภาวะมีบุตรยากที่โรงพยาบาลกับที่คลินิกแตกต่างกันอย่างไร? มีกระบวนการส่วนใดที่ได้เปรียบกว่ากันบ้าง?

HDmall.co.th ร่วมกับ Prime Fertility Center คลินิกเฉพาะทางด้านการรักษาภาวะมีบุตรยาก โดย นายแพทย์พูนเกียรติ ปัญญามิตร สูตินรีแพทย์เฉพาะทางด้านการรักษาภาวะมีบุตรยากประจำ Prime Fertility Center ขอมอบคำตอบเกี่ยวกับความต่างของบริการรักษาภาวะมีบุตรยากในบทความนี้

นายแพทย์พูนเกียรติ ปัญญามิตร สูตินรีแพทย์เฉพาะทางด้านการรักษาภาวะมีบุตรยากประจำ Prime Fertility Center

รักษาภาวะมีบุตรยากคืออะไร?

การรักษาภาวะมีบุตรยาก (Fertility and Infertility Treatment) คือ กระบวนการรักษาผู้ที่ไม่สามารถมีบุตรได้ด้วยวิธีธรรมชาติให้สามารถมีบุตรได้สำเร็จและอย่างปลอดภัย ทารกมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์

กระบวนการรักษาภาวะมีบุตรยากแบ่งออกได้หลายวิธี เช่น

  • การทำเด็กหลอดแก้ว ซึ่งแบ่งออกได้ 2 วิธี ได้แก่ การทำ IVF (In-Vitro Fertilization) และการทำ ICSI (Intracytoplasmic sperm injection)
  • การฉีดเชื้ออสุจิเข้าโพรงมดลูก หรือการทำ IUI (Intra – Uterine Insemination)
  • การแช่แข็งตัวอ่อน (Embryo Freezing)
  • การแช่แข็งไข่ (Egg Freezing)
  • การแช่แข็งเชื้ออสุจิ (Sperm Freezing)
  • การย้ายตัวอ่อนแช่แข็ง หรือการทำ FET (Frozen Embryo Transfer)

ผู้เข้ารับบริการจะเลือกใช้วิธีรักษาภาวะมีบุตรยากแบบไหนนั้น สูตินรีแพทย์จะเป็นผู้ให้คำแนะนำผ่านการวิเคราะห์จากเงื่อนไขด้านสุขภาพของทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย

ทั้งคุณภาพของไข่และเชื้ออสุจิ ความแข็งแรงของมดลูกหรือรังไข่ พฤติกรรมการใช้ชีวิต รวมถึงประวัติสุขภาพในอดีตของทั้งคู่

จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นภาวะมีบุตรยาก?

หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าตนเองอยู่ในภาวะมีบุตรยากหรือไม่ ซึ่งแพทย์จะวินิจฉันว่า หากคู่สามีภรรยาไม่สามารถมีบุตรด้วยวิธีธรรมชาติมากกว่า 1 ปีขึ้นปี ถือเข้าเกณฑ์เป็นผู้ที่มีภาวะมีบุตรยาก

ปัจจัยอะไรที่ทำให้เกิดภาวะมีบุตรยาก

นายแพทย์พูนเกียรติกล่าวถึง 3 ปัจจัยหลักที่พบได้บ่อยในยุคปัจจุบันที่ทำให้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายเกิดภาวะมีบุตรยากได้มากขึ้น ดังนี้

  • อายุของฝ่ายหญิง ผู้หญิงที่อายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป เป็นช่วงอายุที่รังไข่มีประสิทธิภาพในการผลิตไข่ได้น้อยลงแล้ว จึงมักเผชิญกับปัญหาภาวะมีบุตรยาก โดยบางรายไม่ได้ตั้งใจจะมีบุตรในช่วงอายุยังน้อย แต่เกิดเปลี่ยนใจอยากมีบุตรเมื่ออายุมากขึ้น จึงมีโอกาสจะต้องพึ่งพาวิทยาศาสตร์การแพทย์เข้าช่วยให้มีบุตรสำเร็จได้
  • ความสมบูรณ์ของร่างกาย โดยเฉพาะในยุคที่มีมลภาวะและสิ่งแวดล้อมที่เป็นพิษสูงขึ้น จึงเสี่ยงที่ร่างกายของฝ่ายหญิงที่ถึงแม้จะอายุยังน้อยก็สามารถผลิตไข่ที่มีคุณภาพลดลงได้ หรือมีภาวะรังไข่เสื่อมจากการรับสารพิษหรือสิ่งสกปรกเข้าร่างกายเป็นจำนวนมาก จนเกิดภาวะมีบุตรยาก
  • คุณภาพของเชื้ออสุจิ ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดได้กับผู้ชายทุกช่วงวัย โดยมักเกิดจากความเครียด การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ การทำงานหนัก การดื่มเหล้าและสูบบุหรี่เป็นประจำ จนส่งผลให้เชื้ออสุจิไม่มีคุณภาพและไม่แข็งแรงพอจะปฏิสนธิกับไข่ได้
สามีภรรยา ปรึกษาปัญหาภาวะมีบุตรยาก ที่ Prime Fertility Center

รักษาภาวะมีบุตรยากที่โรงพยาบาลกับคลินิก ต่างกันอย่างไร?

ความจริงแล้ว การรักษาภาวะมีบุตรยากที่โรงพยาบาลกับคลินิกนั้น ในส่วนของกระบวนการทำหัตถการต่างๆ แทบไม่แตกต่างกันเลย แต่จะต่างกันอยู่ 2 ส่วน คือ

1. ความสะดวกและรวดเร็ว

การรักษาภาวะมีบุตรยากในโรงพยาบาล ผู้เข้ารับบริการอาจต้องติดต่อกับหลายพื้น หลายแผนกของโรงพยาบาลมากกว่า เช่น ไปห้องตรวจภายใน ไปห้องอัลตราซาวด์ ไปห้องเจาะเลือด ไปห้องตรวจแพทย์ ไปแผนกการเงิน

ในขณะที่การรักษาภาวะมีบุตรยากในคลินิก ที่แม้ว่าจะเป็นอาคารที่เล็กกว่าและเป็นสถานพยาบาลที่เฉพาะทาง แต่ให้บริการทุกส่วนเกี่ยวกับการรักษาภาวะมีบุตรยากอยู่ในพื้นที่แห่งเดียว ไม่ต้องเดินไปไหนไกล ทำให้ผู้รับบริการได้รับความสะดวกในการทำหัตถการและกระบวนการอื่นๆ ได้รวดเร็วขึ้นกว่ามาก

2. การทำคลอด

การทำคลอดอาจเป็นข้อได้เปรียบหากคุณเลือกไปรักษาภาวะมีบุตรยากที่โรงพยาบาล เพราะผู้เข้ารับบริการสามารถใช้บริการได้ทั้งรักษาภาวะมีบุตรยาก ตรวจครรภ์ ฝากครรภ์ และคลอดบุตรในสถานพยาบาลเดียวกันได้ เนื่องจากในโรงพยาบาลจะมีทั้งห้องคลอด ธนาคารเลือด และห้องพักฟื้นผู้ป่วยอยู่ภายในอย่างครบครัน

ต่างจากคลินิกรักษาภาวะมีบุตรยากที่จะไม่มีบริการในส่วนนี้ เมื่อผู้เข้ารับบริการตั้งครรภ์ได้สำเร็จ ก็จำเป็นต้องเปลี่ยนสถานพยาบาลไปคลอดบุตรที่โรงพยาบาลแทน

จุดเด่นของการทำ IVF หรือทำ ICSI ที่ Prime Fertility Center

Prime Fertility Center มุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีรักษาภาวะมีบุตรยากที่ทันสมัย และมีการวิเคราะห์กระบวนการรักษาทุกขั้นตอนที่เห็นผลได้ดังหวังในผู้เข้ารับบริการทุกคู่ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่อายุมากหรือน้อยก็ตาม

และบริการอีกส่วนที่ทาง Prime Fertility Center ไม่เคยหยุดยั้งที่จะพัฒนาก็คือ ด้านการบริการลูกค้า เนื่องจากผู้เข้ารับบริการรักษาภาวะมีบุตรยากแทบทุกคู่มักเดินทางเข้ามาที่คลินิกพร้อมกับความกังวลหรือความเครียดที่ไม่สามารถมีบุตรได้สำเร็จ

ทาง Prime Fertility Center จึงมีการพัฒนาแผนงานดูแลผู้เข้ารับบริการอย่างต่อเนื่องและเต็มคุณภาพ เจ้าหน้าที่ทุกท่านภายในคลินิกล้วนแต่เป็นผู้ที่ผ่านการอบรมด้านการรักษาภาวะมีบุตรยากมากแล้ว จึงมีความรู้และความเข้าใจในทุกกระบวนการรักษา สามารถช่วยแบ่งเบาภาระทางใจของผู้เข้ารับบริการทุกท่านทั้งหญิงและชายได้อย่างละเอียดและใส่ใจ

เพื่อให้ทุกท่านที่เดินทางเข้ามาที่ Prime Fertility Center รู้สึกถึงความอบอุ่นใจ และพร้อมสำหรับทุกกระบวนการรักษาอย่างเต็มที่

มาตรฐานการรักษาที่ Prime Fertility Center ยังเป็นไปตามมาตรฐาน JCI (Joint Commission International) ของประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเป็นคลินิกรักษาผู้มีบุตรยากประเภท Stand-Alone (อยู่นอกโรงพยาบาล) แห่งที่ 3 ของประเทศไทยและแห่งที่ 6 ของโลกที่ได้รับรองมาตรฐาน JCI ในโปรแกรม Ambulatory Care

นอกจากนี้ทางคลินิกยังผ่านการรับรองมาตรฐาน ISO 15189 ซึ่งเป็นมาตรฐานด้านการรับรองความสามารถของห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ และ ISO 15190 ซึ่งเป็นมาตรฐานด้านความปลอดภัยทางห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ในระดับสากล

รีวิว รักษาภาวะมีบุตรยาก ที่ Prime Fertility Center

ด้วยความล้ำสมัยของเทคโนโลยี และมาตรฐานการให้บริการที่ Prime Fertility Center จึงให้การรักษาภาวะมีบุตรยากสำเร็จไปแล้วกับครอบครัวหลายคู่ เช่นเดียวกับ คุณสี่และคุณมุ ที่ต่างก็อยู่ในวัย 37 ปี ด้วยกันทั้งคู่ จัดเป็นช่วงอายุที่เสี่ยงเกิดภาวะมีบุตรยากได้

รักษาภาวะมีบุตรยาก ที่ Prime Fertility Center

โดยก่อนหน้านี้ทั้งคู่ไม่ได้มีแผนการจะมีลูกด้วยกัน จนกระทั่งเมื่อประเทศไทยเผชิญกับสถานการณ์แพร่ระบาด COVID-19 คุณสี่และคุณมุได้มีโอกาสใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น และมีเวลาว่างมากขึ้นกว่าเดิม ทั้ง 2 คนจึงเริ่มเปลี่ยนใจอยากจะมีลูกด้วยกัน

คุณสี่และคุณมุจึงเริ่มต้นขั้นตอนด้วยการไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล จากผลตรวจพบว่า คุณมุมีเนื้องอกที่มดลูกถึง 7 ก้อน ทำให้การพยายามมีลูกด้วยวิธีธรรมชาติยิ่งยากขึ้น

โชคดีที่เพื่อนสนิทของคุณมุ รู้จักกับคุณหมอพูนเกียรติ สูตินรีแพทย์เฉพาะทางด้านการรักษาภาวะมีบุตรยากประจำ Prime Fertility Center จึงได้ขอฟิล์มตรวจร่างกายไปขอคำปรึกษาเพิ่มเติม

คุณหมอพูนเกียรติเห็นต่างว่า โอกาสมีลูกของคุณมุกับคุณสี่ยังไม่ได้ริบหรี่จนเป็นไปไม่ได้ จึงขอให้ทั้ง 2 คนเดินทางมาพูดคุยด้วยกันเพิ่มเติมที่ Prime Fertility Center

โดยทางคุณหมอพูนเกียรติแจ้งว่า จากฟิล์มตรวจร่างกายของคุณมุ เนื้องอกทั้ง 7 ก้อนที่ตรวจพบ แม้ว่าจะอยู่ที่มดลูกก็จริง แต่อยู่นอกโพรงมดลูกทั้งหมด

นายแพทย์พูนเกียรติ ปัญญามิตร ให้คำปรึกษาเรื่องภาวะมีบุตรยาก

ซึ่งไม่ได้สร้างผลกระทบหรือทำอันตรายต่อตัวอ่อน จึงสามารถผ่าตัดนำออกทีหลังได้ และทั้ง 2 คนยังสามารถมีลูกได้ตามแผนเดิม แต่ควรทำด้วยวิธี ICSI เพื่อเพิ่มโอกาสสำเร็จในการตั้งครรภ์อย่างปลอดภัย

ซึ่งการทำ ICSI เป็นรักษาภาวะมีบุตรยากรูปแบบหนึ่ง ผ่านการเก็บไข่กับเชื้ออสุจิของฝ่ายชายและฝ่ายหญิงออกมาไว้ในห้องปฏิบัติการ

แล้วแพทย์กับนักวิทยาศาสตร์เพาะเลี้ยงตัวอ่อนจะคัดเลือกเชื้ออสุจิเพียง 1 ตัวที่แข็งแรงสมบูรณ์กับไข่ที่มีคุณภาพไปใส่ไว้ในจานทดลองอีกครั้งเพื่อให้เกิดการปฏิสนธิ จนกระทั่งเป็นตัวอ่อน

จากนั้นทางแพทย์กับนักวิทยาศาสตร์จะเพาะเลี้ยงตัวอ่อนจนถึงระยะบลาสโตซิสต์ แล้วจะมีการตรวจโครโมโซมตัวอ่อน เพื่อให้แน่ใจว่า ตัวอ่อนตัวนั้นมีโครโมโซมครบถ้วนจนสามารถเติบโตเป็นทารกที่แข็งแรงได้ ไม่เสี่ยงมีความผิดปกติทางพันธุกรรม

จากนั้นแพทย์จึงจะใส่ตัวอ่อนกลับเข้าไปเติบโตในโพรงมดลูกของฝ่ายหญิงเพื่อให้เกิดการตั้งครรภ์อีกครั้ง

จากการพูดคุยกับคุณหมอพูนเกียรติ ทั้งคุณสี่และคุณมุรู้สึกพึงพอใจและมีความหวังในการมีลูกมากขึ้น ทั้งคู่จึงตัดสินใจทำ ICSI กับคุณหมอพูนเกียรติที่ Prime Fertility Center

ระหว่างทำ ICSI กังวลในส่วนไหนมากที่สุด?

คุณสี่เล่าว่า ในส่วนของบริการที่คลินิกนั้นไม่มีความกังวลใดๆ แต่ช่วงเวลาที่หนักใจที่สุด คือ ตอนที่จะต้องช่วยคุณมุฉีดยากระตุ้นไข่

เนื่องจากผลการตรวจร่างกายเพิ่มเติมพบว่า คุณมุมีจำนวนไข่ค่อนข้างน้อย คุณหมอจึงจ่ายยาให้กลับไปฉีดเองที่บ้าน ซึ่งในช่วงแรกคุณสี่ยังฉีดยาไม่ค่อยเก่ง จึงกลัวคุณมุจะเจ็บ นอกจากนี้ช่วงเวลาในการฉีดยังสำคัญมากๆ

เพราะทางเจ้าหน้าที่ของ Prime Fertility Center ได้กำชับไว้ว่า การฉีดยากระตุ้นไข่จะต้องฉีดเวลาเดิมทุกวัน บวกลบเวลาต่างกันได้ไม่เกิน 5 นาทีเท่านั้น ดังนั้นความรัดกุมเรื่องเวลาจึงสำคัญมาก

ส่วนในมุมของคุณมุเล่าว่า ตนเองมีความกังวลในส่วนของการตรวจโครโมโซมตัวอ่อน เนื่องจากคุณมุมีไข่ค่อนข้างน้อย จึงไม่มีตัวเลือกในการใช้ไข่เพื่อปฏิสนธิมากนัก จึงกลัวว่าเมื่อได้ตัวอ่อนแล้ว ก็จะเป็นตัวอ่อนที่ไม่แข็งแรง

แต่ผลการตรวจโครโมโซมออกมาก็พบว่า ยังมีตัวอ่อนที่แข็งแรงสมบูรณ์อยู่ซึ่งก็ทำให้โล่งใจไปได้มากทีเดียว

แม้กระทั่งในวันที่ตั้งครรภ์สำเร็จไปแล้ว ทางคลินิกก็ยังดูแลคุณมุอย่างใกล้ชิด เนื่องจากในช่วงอายุครรภ์ไตรมาสแรก การใช้ยาฮอร์โมนต่างๆ ยังมีความสำคัญอยู่ แพทย์จึงจะยังคงนัดหมายให้เข้ามาตรวจร่างกายและติดตามการเปลี่ยนแปลงของการตั้งครรภ์อยู่ โดยในระหว่างนี้ เจ้าหน้าที่ของทางคลินิกก็เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกด้วยเช่นเดิม

ความประทับใจในบริการจาก Prime Fertility Center

เมื่อตั้งครรภ์สำเร็จ คุณมุเกิดความกังวลเกี่ยวกับชนิดของเครื่องสำอางที่ใช้ว่าอาจมีสารเคมีที่ไปทำอันตรายต่อเด็กได้ จึงถ่ายรูปเครื่องสำอางทุกชิ้นให้ทางเจ้าหน้าที่คลินิกดูเพื่อขอคำปรึกษา

บรรยากาศของ Prime Fertility Center

ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ช่วยนำทุกรูปไปปรึกษากับแพทย์และให้คำแนะนำกับคุณมุ เพื่อให้ยังสามารถแต่งหน้าดูแลตัวเองได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อเจ้าตัวน้อยในครรภ์

ในทุกคำถามที่สงสัยและความรู้สึกกังวลใจที่ทั้ง 2 คนยังคงมีอยู่บ้างในช่วงรักษาภาวะมีบุตรยาก ทางคุณหมอที่ Prime Fertility Center จะมีคำตอบที่ใช่และที่ทำให้ผู้ฟังมั่นใจขึ้นอยู่เสมอ

นอกจากนี้ยังมีความละเอียดรอบคอบในทุกกระบวนการและไม่มองข้ามความเป็นไปได้ในทุกๆ ส่วนของการทำ ICSI เลย

เช่นการตรวจโครโมโซมตัวอ่อน ซึ่งตอนแรกคุณสี่กับคุณมุยังไม่เข้าใจความสำคัญของกระบวนการนี้ แต่ทางเจ้าหน้าที่ ทีมงาน และแพทย์ของ Prime Fertility Center ก็ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญในการตรวจโครโมโซมตัวอ่อนก่อนใส่เข้าโพรงมดลูก

เนื่องจากการตรวจดูตัวอ่อนด้วยตาเปล่านั้น ไม่ได้การันตีว่าตัวอ่อนที่ดูแข็งแรงจะเป็นตัวอ่อนที่ดีพร้อมต่อการเติบโตเป็นทารกเสมอไป และไข่ที่ไม่ได้มีคุณภาพยอดเยี่ยมที่สุดก็ไม่ได้หมายความว่าจะเจริญเติบโตเป็นตัวอ่อนที่สมบูรณ์ไม่ได้

จนเมื่อคุณสี่และคุณมุตัดสินใจตรวจโครโมโซมตัวอ่อน ก็ได้พบว่าตัวอ่อนที่มีโครโมโซมครบถ้วนและร่างกายแข็งแรงนั้น เป็นตัวอ่อนที่ไม่ได้เกิดจากไข่ที่มีเกรดคุณภาพยอดเยี่ยมที่สุดอย่างที่คิดเอาไว้ในตอนแรก

นอกจากนี้คุณสี่และคุณมุยังประทับใจในบริการของเจ้าหน้าที่ทุกคน แค่เข้ามารับบริการแค่ครั้งแรก หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็จำชื่อของทั้ง 2 คนได้เลย ไม่ใช้แค่กับคุณมุและคุณสี่ แต่กับทุกคนที่เข้ามารับบริการที่นี่

ทำให้รู้สึกแตกต่างจากเวลาไปรักษาโรคที่โรงพยาบาล ซึ่งส่วนมากมักจะให้คนไข้นั่งรอ ไม่ได้มีเจ้าหน้าที่เข้ามาถามไถ่ความรู้สึกมากมาย จึงรู้สึกห่างเหินและมียังกังวลใจอยู่

ต่างจากบริการที่ Prime Fertility Center ทางคุณมุและคุณสี่รู้สึกอบอุ่นกับทุกขั้นตอนการรักษาที่นี่ เวลาที่ต้องนั่งรอตรวจและปรึกษาคุณหมอ ก็ไม่เคยรู้สึกอึดอัดใจ และในระหว่างที่ไม่ได้เจอกันที่คลินิก

และทางเจ้าหน้าที่จะแชทไลน์ติดต่อเข้ามาสอบถามการเปลี่ยนแปลงหรือความกังวลใจอยู่ตลอด มีการช่วยย้ำนัดหมายกลับเข้ามาพบแพทย์ในทุกครั้งไม่ขาด

ที่สำคัญเลยก็คือ ที่ Prime Fertility Center มีแอปพลิเคชั่นของคลินิกเองด้วย เราสามารถดูประวัติการรักษาย้อนหลังได้หมดเลย อยากจะย้อนดูว่าที่ผ่านมามีค่าผลตรวจเป็นยังไง ก็สามารถเปิดดูได้ แถมยังนัดหมายและแชทพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ได้ วิธีการชำระเงินก็ง่ายสะดวกสบายมากๆ

การให้บริการของ Prime Fertility Center

หรือหากคุณมุกับคุณสี่มีคำถามในส่วนใดกับทางคลินิก ทางเจ้าหน้าที่ก็พร้อมช่วยในทุกคำถามอย่างเต็มใจ ไม่ทำให้รู้สึกรำคาญ

สรุปง่ายๆ ก็คือ ผู้เข้ารับบริการเตรียมจิตใจให้พร้อมรับต่อการมีเจ้าตัวเล็กก็พอ ในส่วนของขั้นตอนอื่นๆ ที่เหลือ ทาง Prime Fertility Center จะเป็นผู้ดูแลทั้งหมด ให้ทุกช่วงเวลาที่เคยยากผ่านพ้นไปโดยง่าย และจบที่ผลตรวจเลือดออกมาเป็นตั้งครรภ์ได้สำเร็จเอง

คุณมุได้ฝากถึงผู้ที่อ่านบทความนี้ และกำลังเผชิญปัญหาความเครียดเนื่องจากไม่สามารถมีบุตรได้อย่างที่คาดหวัง ให้ลองเข้ามาปรึกษากับทีมแพทย์ที่ Prime Fertility Center เพราะที่นี่สามารถสร้างโอกาสให้ความหวังที่เคยมีอยู่น้อยนิดให้กลับมาสมบูรณ์ได้

รักษาภาวะมีบุตรยาก ที่ Prime Fertility Center

คุณมุได้กำชับถึงคุณผู้หญิงและคุณผู้ชายทุกคนด้วยว่า “เวลาเป็นสิ่งสำคัญ” ยิ่งเวลาผ่านไป เรายิ่งมีโอกาสมีลูกได้น้อยลง

ดังนั้นอย่าปล่อยผ่านให้ทุกนาทีเลยไปโดยไม่ทำอะไรเลย หรือถ้าใครอายุยังน้อยอยู่ และวางแผนจะมีลูกแน่ๆ แต่ยังไม่แน่ใจเกี่ยวกับช่วงเวลาที่พร้อมที่สุด ก็สามารถเดินทางมาฝากแช่แข็งไข่ที่ Prime Fertility Center ได้เช่นกัน

สำหรับใครที่สนใจรับบริการที่ Prime Fertility Center สามารถใช้บริการผ่อนกับ HDpay 0% นานสูงสุด 10 เดือน โดยดูเงื่อนไขได้ ที่นี่


บทความที่ HDmall.co.th แนะนำ

@‌hdcoth line chat