เสริมหน้าอก เทคนิค ADPT กับ นพ. อัครวัฒน์ วงศ์เทพ Vincent Clinic ด้วยบริการจาก HDcare


HDcare

ขยาย

ปิด

  • การเสริมหน้าอก เป็นการทำหัตถการผ่าตัดเพื่อเพิ่มหน้าอก ให้มีขนาดใหญ่และรูปทรงสวยมากขึ้น
  • ปัจจุบันการผ่าตัดเสริมหน้าอกจะทำเป็น One Day Surgery คือการผ่าตัดแล้วสามารถกลับบ้านได้เลยภายในวันเดียว
  • การผ่าตัดเสริมหน้าอกด้วยเทคนิค ADPT ของ Vincent Clinic มีจุดเด่นหลายด้าน ขนาดใหญ่ขึ้นตามความต้องการของคนไข้ คนไข้ได้หน้าอกสวยเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นบล็อก หน้าอกชิด หน้าอกยกกระชับ หน้าอกเต่งตึงเต็มเต้ามากขึ้น และที่สำคัญคือเทคนิค ADPT จะได้ขนาดแผลที่เล็กและเรียบเนียน
  • การดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดเสริมหน้าอกที่ Vincent Clinic หลังการผ่าตัดพักฟื้นประมาณ 2-3 วัน สามารถกลับมาใช้ชีวิตทำกิจวัตรประจำวันได้ปกติ
  • บทความนี้ได้รับการสปอนเซอร์จาก HDcare ศูนย์รวมการผ่าตัดโดยทีมแพทย์ที่มี่ประสบการณ์ จาก HDmall.co.th แพทย์ผู้ให้ข้อมูลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโฆษณา

การเสริมหน้าอกด้วยเทคนิค ADPT เฉพาะของ Vincent Clinic หน้าอกสวยเป็นธรรมชาติ หน้าอกยกกระชับ อัพไซซ์ได้ขนาดตามต้องการ และรับเอกลักษณ์เฉพาะของเทคนิค ADPT แผลเล็กเรียบเนียน ช่วยเสริมบุคลิกภาพและความมั่นใจให้แก่สาวๆ

การเสริมหน้าอก คือ การทำหัตถการผ่าตัด โดยการเติมสารเข้าไปในหน้าอก ซึ่งจะมีทั้งแบบเป็นของเหลว และไขมันของคนไข้ ลักษณะสารเติมเต็มคล้ายฟิลเลอร์ หรือการใช้ซิลิโคนเจลที่อยู่ในถุง เพื่อเพิ่มหน้าอกให้มีขนาดใหญ่และรูปทรงสวยมากขึ้น

หากคุณอยากเสริมหน้าอก อยากทำนม หรือทำมาแล้วอยากแก้หน้าอก แต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกศัลยกรรมหน้าอกที่ไหนดี แนะนำให้ทักเข้ามาปรึกษากับ HDcare ที่ไลน์ @HDcare เพื่อประสานนัดหมายทีมแพทย์ให้คำแนะนำแนวทางการรักษาที่เหมาะสมได้

หมอแบค หรือ นายแพทอัครวัฒน์ วงศ์เทพ ศัลยแพทย์ผู้ชำนาญการ เฉพาะทางด้านทรวงอก (Thoracic Surgery) ผู้ช่วยคิดค้นเทคนิค ADPT เทคนิคเฉพาะของ Vincent Clinic และหนึ่งในแพทย์จากบริการของ HDcare จะมาให้ข้อมูลการเสริมหน้าอก อย่างละเอียด  อ่านประวัติของหมอแบคได้ที่นี่ [รู้จัก “หมอแบค” เพิ่มความมั่นใจให้หน้าอกผู้หญิงมามากกว่า 1,000 คน]

เลือกหัวข้อที่สนใจได้ที่นี่

สิ่งที่ควรรู้ก่อนเสริมหน้าอก?

สิ่งที่คนจะเสริมหน้าอกควรรู้อันดับแรก คือ การรู้ตัวเอง เรามีความพร้อมและแข็งแรงพอสำหรับการผ่าตัดใหญ่ โดยการผ่าตัดจะต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพก่อน โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว

การรู้ค่าใช้จ่าย กำลังทรัพย์ของแต่ละคนสามารถจ่ายได้ในงบเท่าไหร่ เพราะราคาเสริมหน้าอกแต่ละคลินิกต่างกัน สิ่งสุดท้าย คือ แพทย์และคลินิก แพทย์ที่จะผ่าตัดต้องมีความเชี่ยวชาญ คลินิกเปิดถูกต้องตามกฎหมาย และได้รับการรับรองตามมาตรฐาน

การเลือกหมอเสริมหน้าอกสามารถเสิร์ชดูได้ง่าย เช่น ในเว็บไซต์ของแพทยสภา ซึ่งมีความน่าเชื่อถือ สามารถเช็กข้อมูลของแพทย์ได้ ตรวจเช็กประวัติการศึกษา รวมถึงความเชี่ยวชาญในการผ่าตัด โดยเฉพาะหมอที่ผ่านการอบรม และมีพื้นฐานในการผ่าตัดเฉพาะทางก็จะยิ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับเรามากขึ้น

สำหรับใครที่ลังเลหรือกำลังตัดสินใจอยู่ ควรเช็กข้อมูลดังกล่าวในข้างต้นเพื่อเตรียมความพร้อมในการผ่าตัดเสริมหน้าอก และอีกสิ่งสำคัญคือการผ่าตัดเสริมหน้าอกจำเป็นที่จะต้องมีการพักฟื้นร่างกายเพราะฉะนั้นควรมีการวางแผนในเรื่องการลาพักงานหรือคนที่สามารถดูแลหลังการผ่าตัดได้จนกว่าจะหายดี

ก่อนตัดสินใจเลือกคลินิกเสริมหน้าอกควรเช็กอะไรบ้าง?

สำหรับใครที่ต้องการเสริมหน้าอก สิ่งแรกที่เราควรศึกษาคือ ความน่าเชื่อถือของคลินิกที่สนใจ เปิดถูกต้องตามกฎหมายและผ่านการรับรองหรือไม่ โดยเฉพาะห้องผ่าตัด ซึ่งจะแบ่งออกเป็นห้องผ่าตัดเล็กและห้องผ่าตัดใหญ่ กรณีห้องผ่าตัดใหญ่ต้องได้รับการรับรองจากกระทรวง

สิ่งอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญ คือ เทคนิคการผ่าตัด รวมถึงการดมยาสลบ ยาชา หรือยานอนหลับ คลินิกในปัจจุบันจะเลือกใช้เทคนิคการดมยาสลบจะช่วยเพิ่มความมั่นใจในเรื่องของความปลอดภัยให้กับคนไข้มากขึ้น

การดูรีวิวจะช่วยให้การตัดสินใจของคนไข้ง่ายขึ้น เปรียบเสมือนการยืนยันประสบการณ์ของแพทย์แต่ละท่าน คลินิกหรือโรงพยาบาลนั้นๆ หากเคสรีวิวเยอะประสบการณ์ก็เยอะตาม เมื่อเคสเกิดปัญหาจะมีวิธีการแก้ไขปัญหาได้แบบปลอดภัย

อันตรายของการเลือกหมอเสริมหน้าอกผิด?

การเลือกหมอผิดมีโอกาสเกิดอันตรายขึ้นในห้องผ่าตัดได้ เช่น การเสียเลือด การบาดเจ็บของอวัยวะภายใน หรือแม้กระทั่งถึงขั้นอันตรายถึงชีวิต ส่วนหลังผ่าตัดก็มีโอกาสเกิดอันตรายได้ เช่นผลของการผ่าตัดไม่เป็นไปตามที่ต้องการ รูปทรงของหน้าอกไม่เป็นที่พึงพอใจ มีอาการชา หรืออาการเจ็บ

เสริมหน้าอกที่คลินิกแตกต่างกับโรงพยาบาลอย่างไร?

ปัจจุบันการผ่าตัดเสริมหน้าอกสามารถทำได้ทั้ง 2 ที่ ขึ้นอยู่กับความต้องการของคนไข้แต่ละคน สำหรับการเสริมหน้าอกที่คลินิกมักจะทำเป็น One Day Surgery คือการผ่าตัดแล้วสามารถกลับบ้านได้เลยภายในวันเดียว โดยแต่ละคลินิกจะมีการดูแลคนไข้หลังผ่าตัดตามมาตรฐาน และต้องรอสังเกตดูอาการก่อนสักระยะหนึ่ง เมื่อมั่นใจว่าปลอดภัยสามารถกลับบ้านได้

วิธีลดความกลัวของคนไข้เสริมหน้าอก?

คนส่วนใหญ่กลัวมากที่สุด คือ ความเจ็บ แต่ปัจจุบันเทคนิคการผ่าตัดเสริมหน้าอก จะใช้การดมยาสลบก่อนผ้าตัด นอกจากนี้ยังมีการให้ยาแก้ปวดทางเส้นเลือดและแบบชนิดรับประทาน เทคนิคทั้งหมดนี้จะทำให้การผ่าตัดเสริมหน้าอกเจ็บน้อยที่สุด

จุดเด่นของการเสริมหน้าอกด้วยเทคนิค ADPT?

การผ่าตัดเสริมหน้าอกด้วยเทคนิค ADPT ของ Vincent Clinic มีจุดเด่นหลายด้าน อันดับแรกคือ ซิลิโคนจะอยู่ใต้กล้ามเนื้อเป็นหลัก ขนาดของซิลิโคนจะให้ขนาดใหญ่ขึ้นตามความต้องการของคนไข้

การเสริมหน้าอกด้วยเทคนิค ADPT จะทำให้คนไข้ได้หน้าอกสวยเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นบล็อก หน้าอกชิด หน้าอกยกกระชับ หน้าอกเต่งตึงเต็มเต้ามากขึ้น และที่สำคัญคือเทคนิค ADPT จะได้ขนาดแผลที่เล็กและเรียบเนียน

เสริมหน้าอกด้วยเทคนิค ADPT ได้หน้าอกชิด

เสริมหน้าอกด้วยเทคนิค ADPT ทำให้หน้าอกมีความชิดได้มากพอสมควร ขนาดหน้าอกที่สวยรอบหน้าอกก็จะต้องวางนิ้วลงได้ประมาณ 1-2 นิ้ว หลังผ่าตัดแผลหายดีสามารถโนบรา (No bra) หรือใส่เพียงที่ปิดจุกได้เช่นเดียวกัน

เสริมหน้าอกด้วยเทคนิค ADPT หน้าอกไม่เป็นบล็อก

เสริมหน้าอกด้วยเทคนิค ADPT จะวางซิลิโคนไว้ที่ชั้นใต้กล้ามเนื้อ ซึ่งจะช่วยให้หน้าอกไม่เป็นบล็อกหรือมีโอกาสเกิดบล็อกน้อยลง เนื่องจากมีกล้ามเนื้อคลุมอยู่ แต่ในบางกรณี เช่น คนไข้ในกลุ่มที่มีเนื้อบางก็มีโอกาสที่จะเห็นขอบนมหรือบล็อกชัดเจน

เสริมหน้าอกด้วยเทคนิค ADPT ไม่เจอริ้วหรือขอบซิลิโคน

เนื่องจากเสริมหน้าอกด้วยเทคนิค ADPT จะวางซิลิโคนไว้ที่ชั้นใต้กล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อจะช่วยคลุมขอบซิลิโคน โดยเฉพาะหลังการผ่าตัดในระยะเวลานาน เมื่อเกิดพังผืดไปคุมขอบซิลิโคนหรือคุมซิลิโคนอยู่ ก็ช่วยให้มีโอกาสน้อยลงที่จะคลำเจอขอบหรือริ้วของซิลิโคน

เสริมหน้าอกด้วยเทคนิค ADPT ได้ขนาดซิลิโคนใหญ่ตามที่ต้องการ

เสริมหน้าอกด้วยเทคนิค ADPT สามารถช่วยให้คนไข้ใส่ซิลิโคนได้ตามขนาดที่ต้องการ ไม่ว่าจะต้องการเสริมหน้าอกให้ได้ขนาดใหญ่ หรือใหญ่ขึ้นตามความต้องการก็สามารถเพิ่มขนาดของซิลิโคนได้ แต่จะอยู่ในระดับที่ปลอดภัยสำหรับคนไข้

เสริมหน้าอกด้วยเทคนิค ADPT ช่วยให้หน้าอกไม่หย่อนคล้อย

สำหรับคนที่หน้าอกมีความหย่อนคล้อย การเสริมหน้าอกเทคนิค ADPT จะช่วยในการยกกระชับหน้าอกให้มีความเต่งตึงและเป็นเต้ามากขึ้น

เสริมหน้าอกด้วยเทคนิค ADPT ได้แผลเล็กและเรียบเนียน

เสริมหน้าอกด้วยเทคนิค ADPT จะช่วยให้แผลมีความเล็กลงกว่าปกติประมาณ 1 ซม. แผลมีความเรียบเนียน ลักษณะของแผลคล้ายกับรอยแมวข่วน

ซิลิโคนทรงกลมกับซิลิโคนทรงหยดน้ำต่างกันยังไง?

ซิลิโคนทรงกลมถือว่าเป็นทรงที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เป็นทรงซิลิโคนที่สามารถเลือกใช้ได้กับคนไข้ทุกราย

ซิลิโคนทรงหยดน้ำ ได้รับความนิยมในอดีต แต่ในปัจจุบันความนิยมลดลงเมื่อเทียบกับซิลิโคนทรงกลม ซิลิโคนทรงหยดน้ำจะพบปัญหาในเรื่องของการหมุนเอียงผิดรูปได้ง่าย จึงเหมาะกับคนที่มีเนื้อหน้าอกอยู่เดิม โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีความคล้อยของหน้าอกเล็กน้อย ปริมาณเนินของฐานอกซิลิโคนทรงหยดน้ำช่วยให้ได้หน้าอกที่เป็นรูปทรงหยดน้ำมากขึ้น

ซิลิโคนน้ำเกลือกับซิลิโคนแบบเจลต่างกันยังไง?

ซิลิโคนน้ำเกลือ มีลักษณะเป็นถุงที่มีการเติมน้ำเกลือเข้าไปได้รับความนิยมในสมัยก่อน ปัจจุบันไม่นิยมใช้เนื่องจากมักพบปัญหาการแตกรั่วของถุงซิลิโคน ทำให้หน้าอกไม่ได้ตามรูปทรงที่ต้องการ และพบปัญหาพังผืดในหินปูนเกาะ

ซิลิโคนแบบเจล เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนได้ทุกราย

ซิลิโคนผิวเรียบ ผิวทราย ผิวแบบนาโนต่างกันยังไง?

ซิลิโคนผิวเรียบผิวทราย ที่ Vincent Clinic จะเลือกใช้ Mentor โดยจะมีอยู่ 2 ลักษณะคือผิวเรียบและผิวทราย ซิลิโคนทั้ง 2 ตัวจะมีความแตกต่างกันในเรื่องของผิวสัมผัส ความแตกต่างของซิลิโคนทั้ง 2 ลักษณะ

สำหรับซิลิโคนผิวเรียบผิวทราย เหมาะกับคนไข้ที่ต้องวางซิลิโคนไว้เหนือกล้ามซิลิโคนตัวนี้จะเหมาะที่สุด เพราะมีการยึดเกาะที่ดีกว่าและมีโอกาสเกิดพังผืดได้น้อยกว่า แต่ในกรณีที่วางซิลิโคน 2 ตัวนี้ไว้ใต้กล้ามเนื้อโอกาสเกิดพังผืดแทบจะไม่ต่างกัน

ซิลิโคนผิวนาโน หรือผิวกำมะหยี่ โดย Vincent Clinic จะเลือกใช้เป็นของ Motiva มีลักษณะไม่เรียบไม่หยาบ ซิลิโคนผิวนาโนเหมาะกับคนไข้ที่ต้องการวางไว้เหนือกล้าม จะค่อนข้างดีกว่า แต่ถ้าเป็นการวางซิลิโคนไว้ใต้กล้ามสามารถเลือกใช้ได้ทั้ง 3 ผิว ไม่แตกต่างกัน

ซิลิโคนที่พุ่งกับซิลิโคนไม่พุ่งต่างกันยังไง?

การเลือกใช้ซิลิโคนที่พุ่งและไม่พุ่ง นิยมดูตามสรีระของคนไข้แต่ละราย สำหรับการเลือกใช้ซิลิโคนที่มีความพุ่งน้อย เช่น กลุ่ม LGBTQ หรือ ผู้ที่ที่มีเนื้อหน้าอกน้อย เนื้อหน้าอกตึง หรือคนที่มีความหย่อนคล้อยเยอะ ไม่ต้องการผ่าตัดยกกระชับจะเหมาะกับการเลือกใส่ซิลิโคนที่มีความพุ่งสูงที่สุด

ซิลิโคนฐานกว้างกับซิลิโคนฐานแคบต่างกันยังไง?

คนที่มีฐานหน้าอกกว้างแคบไม่เท่ากันการเลือกซิลิโคนมีผลอย่างมากโดยเฉพาะคนที่ฐานหน้าอกกว้างแนะนำเลือกใช้ซิลิโคน Mentor เพราะเป็นซิลิโคนที่มีลักษณะพิเศษคือฐานกว้าง ส่วนคนที่หน้าอกฐานแคบ สามารถใส่ได้ทั้งหมดเ ไม่ว่าจะเป็น Mentor Memory Gel Xtra หรือ Motlva

ซิลิโคนฝั่งชิพกับซิลิโคนไม่ฝังชิพต่างกันยังไง?

สำหรับซิลิโคนฝังชิพกับไม่ฝังชิพ จะเป็นของยี่ห้อ Motiva ข้อดีของการมีชิพ คือ สามารถบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับการผ่าตัดได้ผ่านเครื่องสแกน เช่น สถานที่ผ่าตัด ระยะเวลา หรือขนาดของ cc ที่ทำการผ่าตัด จึงเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับคนไข้ที่มีเหตุการณ์ต้องผ่าตัดใหม่หรือปรับแก้การผ่าตัด

วิธีการเลือกตำแหน่งในการเปิดแผลผ่าตัดเสริมหน้าอก?

การเลือกตำแหน่งในการผ่าตัดเสริมหน้าอกปัจจุบันที่นิยมทำจะมีอยู่ 3 ตำแหน่ง ได้แก่ รักแร้ รอบปานนม และฐานหน้าอก ซึ่งแต่ละตำแหน่งมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน ดังนี้

แผลผ่าตัดเสริมหน้าอกตำแหน่งรักแร้

แผลผ่าตัดที่รักแร้จะมีข้อดี คือ ผ่าตัดได้ง่ายและสามารถซ่อนแผลไว้ตรงบริเวณรักแร้ ข้อเสียการผ่าตัดแผลใต้รักแร้เวลาเกิดรอยแผลเป็น จะทำให้เกิดรอยเขียวลามขึ้นมาบริเวณรักแร้หรือหัวไหล่

แผลผ่าตัดเสริมหน้าอกตำแหน่งรักแร้ไม่เหมาะสำหรับคนที่ชอบการแต่งตัวที่มีการเปิดหัวไหล่ และการผ่าตัดแผลบริเวณรักแร้ นอกจากนี้ยังมีโอกาสทำให้เกิดความห่างของหน้าอกได้บ่อยกว่าวิธีอื่น

แผลผ่าตัดเสริมหน้าอกตำแหน่งรอบปานนม

แผลผ่าตัดที่รอบปานนม มีข้อดี คือ การวางซิลิโคนไว้ที่เนื้อสามารถทำได้ง่ายกว่าการวางซิลิโคนไว้ใต้กล้ามเนื้อ ส่วนข้อเสีย คือ ทำให้เกิดข้อจำกัดในการวางตำแหน่งซิลิโคนใต้กล้ามเนื้อได้ยาก รวมถึงอาจเกิดการบาดเจ็บของเส้นเลือดประสาทหรือท่อน้ำนม

แผลผ่าตัดเสริมหน้าอกตำแหน่งฐานหน้าอก

แผลบริเวณฐานหน้าอก เป็นเทคนิคที่นิยมทำมากที่สุดในปัจจุบัน เพราะสามารถที่จะจัดการปัญหาต่างๆได้ ไม่ว่าจะเป็นการล็อกโพรงสำหรับให้ซิลิโคนอยู่ หรือหาตำแหน่งนี้สามารถห้ามเลือดได้ดี

การวางซิลิโคนเสริมหน้าอกเหนือกล้ามเนื้อกับใต้กล้ามเนื้อต่างกันอย่างไร?

การวางซิลิโคนเสริมหน้าอกเหนือกล้ามเนื้อ มีข้อดีคือ สามารถผ่าตัดได้ง่าย และเจ็บตัวน้อยกว่าแบบใต้กล้ามเนื้อ

ในส่วนของข้อเสียคือซิลิโคนมีโอกาสไหลได้ง่ายกว่า โดยเฉพาะเวลาที่น้ำหนักลดลงหลังให้นมบุตรหรืออายุเพิ่มขึ้น ทำให้มีโอกาสที่จะเห็นขอบซิลิโคนได้ง่ายรวมถึงการคำเจอพังผืดหรือริ้วของพังผืดได้ง่ายกว่า

การวางซิลิโคนเสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อ มีข้อดีคือ การผ่าตัดจะทำให้กล้ามเนื้อคุมขอบบนของซิลิโคนได้เป็นอย่างดี ทำให้เนินหน้าอกดูธรรมชาติหากเกิดพังผืดจะทำให้ไม่เจอริ้วหรือขอบซิลิโคน ในส่วนของข้อเสียการผ่าตัดเทคนิคนี้จะทำได้ยากกว่าแบบเหนือกล้ามเนื้อ

การผ่าตัดทั้ง 2 แบบมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน จึงมีการพิจารณาเป็นรายบุคคลว่าใครเหมาะกับแบบไหน ทาง Vincent Clinic นิยมเลือกใช้เป็นเทคนิคใต้กล้ามเนื้อเป็นส่วนใหญ่

สำหรับคนไข้ที่จะเลือกใช้การเสริมหน้าอกแบบเหนือกล้ามเนื้อจะมีอยู่แค่ 2 กรณีคือคนไข้ที่มีน้ำหนักเยอะและผู้ที่หน้าอกมีความหย่อนคล้อย แต่ไม่อยากผ่าตัดยกกระชับ การวางซิลิโคนไว้เหนือกล้ามเนื้อจะช่วยยกกระชับหน้าอกขึ้นได้ระดับหนึ่ง

การประเมินก่อนเสริมหน้าอก

วิธีการประเมินคนไข้ก่อนเสริมหน้าอกสิ่งแรก คือ สุขภาพของคนไข้แต่ละราย เช่น โรคประจําตัว ความแข็งแรงของร่างกาย การประเมินขนาดของไซซ์ซิลิโคนที่สามารถใส่ได้ ต้องเป็นขนาดที่พอดีและปลอดภัยกับคนไข้

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัดเสริมหน้าอก?

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดเสริมหน้าอก ต้องมีความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ สำหรับคนไข้ที่ยังมีความกลัวหรือกังวลอยู่อาจจะต้องมีการปรึกษาแพทย์เพื่อคลายความกังวลและพร้อมในการผ่าตัด ก่อนการผ่าตัดจำเป็นที่จะต้องงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ รวมถึงยาที่เสี่ยงต่อการผ่าตัด

เคสผ่าตัดเสริมหน้าอกใหม่ ประเมินอะไรบ้าง?

สำหรับเคสผ่าตัดเสริมหน้าอกใหม่ จะต้องเข้ารับการตรวจร่างกายกับคุณหมอ โดยจะมีการประเมินฐานหน้าอก ขนาดความกว้าง ความแคบของแต่ละราย เพราะมีผลในการเลือกไซต์และทรงของซิลิโคน การประเมินวัดไซซ์ที่ถูกต้องจะช่วยให้การผ่าตัดเสริมหน้าอกออกมาสวยงาม

เทคนิคการผ่าตัดเสริมหน้าอกแต่ละเคส ที่ Vincent Clinic จะผ่าตัดแผลบริเวณใต้ฐานหน้าอกเป็นหลัก แผลจะซ่อนไว้ที่บริเวณฐานหน้าอก โดยเทคนิคนี้จะทำให้การผ่าตัดง่ายและก็ได้ทรงหัวหน้าอกตามที่ต้องการ

ขั้นตอนการเสริมหน้าอกสำหรับเคสใหม่

การเสริมหน้าอกด้วยเทคนิค ADPT มีขั้นตอนดังนี้

  1. คนไข้เข้ามารับการตรวจร่างกาย เมื่อผลตรวจร่างกายผ่านสามารถผ่าตัดได้ หมอจะทำการวัดไซซ์ เพื่อสั่งซื้อซิลิโคนให้เหมาะสมกับคนไข้แต่ละราย ซิลิโคนของ Vincent Clinic มีการสั่งทำใหม่ของแต่ละราย
  2. คนไข้จะต้องมีการงดน้ำ งดอาหารก่อนเข้ารับการผ่าตัด
  3. เมื่อเข้าห้องผ่าตัด การผ่าตัดจะใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 1 ชั่วโมง แผลจะอยู่ที่รอยพับของฐานหน้าอก ประมาณ 3-4 ชั่วโมง
  4. หลังผ่าตัดเสร็จ คนไข้พักฟื้นที่ห้องพักฟื้นจนกว่าจะตื่นดี ไม่อ้วก ไม่เบลอยา สามารถทานอาหารดื่มน้ำได้ปกติ จึงสามารถกลับบ้านได้ โดยมีพยาบาลคอยดูแลอย่างใกล้ชิด
  5. หลังผ่าตัดควรสวมซัพพอร์ตบราประมาณ 3 เดือน เพื่อช่วยพยุงหน้าอกและซิลิโคนให้อยู่กับที่

เคสผ่าตัดเสริมหน้าอกกลุ่ม LGBTQ ประเมินอะไรบ้าง?

สำหรับเคส LGBTQ สิ่งที่จำเป็นต้องมีการประเมินเพิ่มเติมขึ้นมาจากกลุ่มคนไข้ทั่วไปคือ ความตึงของหน้าอก เนื่องจากคนไข้ในกลุ่มนี้จะไม่มีเต้าเหมือนของผู้หญิง จึงทำให้มีความตึงและความห่างของขนาดหน้าอกอยู่พอสมควร

หลังผ่าตัดหน้าอกจะมีความห่างเล็กน้อย แต่ไม่เป็นที่กังวลเพราะเมื่อเราใส่บราดันหน้าอกจะช่วยให้หน้าอกมีความชิดกันมากขึ้นเรื่อยๆ แต่สำหรับคนไข้ที่มีฮอร์โมนและมีเต้านมอยู่ประมาณนึงจะได้เปรียบเมื่อผ่าตัดจะทำให้หน้าอกชิดและเป็นเต้าสวยงาม

ขั้นตอนการเสริมหน้าอกสำหรับกลุ่ม LGBTQ

สำหรับเคสกลุ่ม LGBTQ การผ่าตัดเสริมหน้าอกจะมีเทคนิคพิเศษที่ขึ้นมาคือ การยืดหน้าอก เพราะกลุ่มนี้จะมีหน้าอกที่ค่อนข้างตึงมาก การยืดหน้าอกเป็นหนึ่งในเทคนิค ADPT ของ Vincent Clinic

เคสผ่าตัดแก้หน้าอก ประเมินอะไรบ้าง?

สำหรับเคสแก้หน้าอก จะมีการประเมินจากประวัติของคนไข้ รวมถึงปัญหาที่คนไข้ต้องการอยากแก้ ซึ่งส่วนใหญ่เคสแก้จะมีปัญหาอยู่ไม่กี่อย่าง เช่น ต้องการเปลี่ยนหรือเพิ่มขนาดไซซ์ หน้าอกผิดรูป มีความห่างหรือชิดเกินไป เนินอกสูงต่ำไม่เท่ากัน หรือพังผืดหน้าอกแข็งเป็นริ้ว

ขั้นตอนการเสริมหน้าอกสำหรับเคสแก้

สำหรับเคสแก้หน้าอกที่ต้องการเปลี่ยนซิลิโคน คนไข้จะต้องมาประเมินปัญหาก่อนว่าต้องการปรับแก้ตรงไหน เช่น เคสแก้ที่ต้องการเพิ่มขนาดไซซ์ สามารถที่จะอัพได้เป็น 100 cc หรือสำหรับเคสที่ต้องการลดขนาดไซซ์ก็สามารถที่จะลดได้

สำหรับเคสที่ต้องการลดไซซ์แต่มีความหย่อนคล้อยมาก อาจจะต้องผ่าตัดยกกระชับร่วมด้วย

การเสริมหน้าอกพร้อมยกกระชับช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง?

การผ่าตัดเสริมหน้าอกพร้อมกับการผ่าตัดยกกระชับ จะมีประโยชน์ในกลุ่มคนไข้ที่มีหน้าอกหย่อนคล้อย ไม่ว่าจะเป็นหลังให้นมบุตร กลุ่มคนไข้ที่หลังลดน้ำหนัก หรือคนที่มีอายุมากขึ้น

เทคนิคผ่าตัดเสริมหน้าอกพร้อมยกกระชับมีกี่วิธี?

การผ่าตัดเสริมหน้าอกพร้อมยกกระชับ มีการผ่าตัด 2 วิธี แบ่งเป็นแผลเล็กกับแผลใหญ่ แผลเล็กคือแผลผ่าตัดที่อยู่บริเวณรอบปานนม ในส่วนของแผลใหญ่จะมีการผ่าตัดเป็นตัว T คว่ำ หรือคล้ายตาสมอง ซึ่งแผลจะมีความใหญ่กว่าแผลรอบปานนม

การตรวจสุขภาพก่อนเสริมหน้าอก ตรวจอะไรบ้าง?

การตรวจสุขภาพก่อนเสริมหน้าอก จะมีการตรวจหลายรายการ ได้แก่ การตรวจความเข้มข้นของเลือดและเกล็ดเลือด การตรวจเกลือแร่ การทำงานของไต การเอกซเรย์ปอด การฟังเสียงหัวใจ รวมถึงการตรวจหาเชื้อ HIV

คนไข้ที่จะเสริมหน้าอกต้องมีเข้ารับการตรวจก่อนผ่าตัดใหญ่ภายใต้การดมยาสลบ กรณีที่ผลตรวจผ่านจะช่วยให้มั่นใจในการผ่าตัดและมีความปลอดภัยมากขึ้น

ผลตรวจร่างกายแบบไหนที่ไม่สามารถเสริมหน้าอกได้?

ผลตรวจที่ไม่สามารถที่จะผ่าตัดให้ได้ คือการตรวจหาเชื้อ HIV และคนไข้ที่มีผลตรวจผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นภาวะซีด เกล็ดเลือดต่ำ เกลือแร่ผิดปกติ หรือว่าการทำงานของไตผิดปกติ

โรคอะไรบ้างที่ไม่สามารถผ่าตัดเสริมหน้าอกได้?

โรคที่ไม่สามารถผ่าตัดเสริมหน้าอกได้ คือ โรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ และคนไข้กลุ่มที่มีโรคประจำตัว ที่ไม่สามารถควบคุมอาการได้ เช่น เบาหวาน ความดัน หรือโรคภูมิแพ้ตัวเอง

ผ่าตัดเสริมหน้าอกเจ็บเหมือนโดนสิบล้อทับจริงไหม?

การผ่าตัดเสริมหน้าอกในปัจจุบันมีหลายวิธีที่จะช่วยให้คนไข้เจ็บน้อยลง จะใช้วิธีการดมยาสลบ การฉีดยาแก้ปวดเข้าเส้น การฉีดยาชาในเต้า รวมถึงการทานยาแก้ปวด ซึ่งเป็นเทคนิคที่ทำให้การผ่าตัดเสริมหน้าอกเจ็บน้อยที่สุด

การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดเสริมหน้าอก

วิธีการดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดเสริมหน้าอกที่ Vincent Clinic เราจะให้คนไข้ใช้ชีวิตได้ปกติมากที่สุดเพราะคนไข้ที่เข้ารับการผ่าตัดเสริมหน้าอกไม่ใช่คนป่วย

หลังการผ่าตัดเสริมหน้าอก พักฟื้นประมาณ 2-3 วันก็สามารถกลับมาใช้ชีวิตทำกิจวัตรประจำวันได้ปกติ งดกิจกรรมหนักหรือกิจกรรมที่ต้องออกแรง 1 เดือนหลังผ่าตัดสามารถทำกิจกรรม Exercise เบาได้ 3 เดือน หลังผ่าตัดสามารถทำกิจกรรม Exercise หนักได้ เช่น เวทเทรนนิ่ง

ในส่วนของอาหารแนะนำเป็นอาหารหลัก 5 หมู่ ยกเว้นของแสลงทั้งหลาย เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ ของหมักดอง อาหารทะเล และกินยาตามกำหนด

สำหรับท่าทางในการนอน หลังผ่าตัดเสริมหน้าอกแนะนำให้นอนหัวสูงประมาณ 1 สัปดาห์ นอนในระดับที่ตัวเองจะรู้สึกสบายที่สุด หลังจากนั้นสามารถนอนตะแคงได้ปกติหลังจากผ่าตัดครบ 1 เดือน ส่วนท่านอนคว่ำยังไม่แนะนำจนกว่าหน้าอกจะเข้าที่

หลังผ่าตัดเสริมหน้าอก จะมีการติดตามผลการรักษา ที่ Vincent Clinic จะปิดแผลแบบกันน้ำ จึงไม่ต้องลำบากในการทำแผลเอง หลังผ่าตัด 1 สัปดาห์ มีการติดตามผลการรักษา การดูอาการข้างเคียง อาการชาบริเวณต่างๆ และการดูรูปทรงของหน้าอก ระยะเวลาในการติดตาม คือ 1 สัปดาห์, 2 สัปดาห์, 1 เดือนและ 3 เดือน

เสริมหน้าอก ใช้เวลากี่เดือนถึงจะเข้าที่?

ระยะเวลาที่อกส่วนใหญ่เริ่มเข้าที่ประมาณอย่างน้อย 3 เดือน หลังการผ่าตัดหน้าอกจะยุบบวม แผลหายดี หน้าอกมีความชิดไม่ห่าง ฐานอกเท่ากัน เนื้อหน้าอกยืดเป็นทรงมากขึ้น

การนวดหลังเสริมหน้าอก จำเป็นไหม?

ปัจจุบันเทคโนโลยีซิลิโคนที่ใช้ค่อนข้างได้มาตรฐาน หากเข้ารับการผ่าตัดเสริมหน้าอกด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง และปลอดภัย จึงไม่จำเป็นที่จะต้องนวดเสริมหน้าอก แต่สำหรับใครที่อยากนวด ก็สามารถทำได้หลังผ่าตัดเสริมหน้าอกประมาณ 1 เดือน

สำหรับบางรายที่ผ่าตัดไม่ได้มาตรฐาน ปากไม่นวดเสริมหน้าอกอาจทำให้หน้าอกมีความแข็ง เกิดพังผืด หรือเป็นริ้วตามมา ความถี่ในการนวดขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลนะ แนะนำช่วงแรกๆ กว่าหน้าอกจะเข้าที่ให้นวดทุกวันได้ หลังจากนั้นขยับความห่างออกเป็นทั้ง 2-3 ครั้ง

หมอแบคแนะนำขนาดการเสริมหน้าอกและซิลิโคนให้คนไข้อย่างไร?

การแนะนำจะขึ้นอยู่กับคนไข้แต่ละราย ก่อนเสริมหน้าอกจึงจะต้องมีการประเมินว่าคนไข้เหมาะกับซิลิโคนรูปแบบไหนและขนาดของไซซ์ประมาณกี่ cc เนื่องจากสรีระของคนไข้แต่ละรายมีความแตกต่างกัน และเรื่องของงบประมาณและค่าใช้จ่าย

เสริมหน้าอก กับ นพ. อัครวัฒน์ ด้วยบริการจาก HDcare

สำหรับใครที่มีความสนใจต้องการเสริมหน้าอก สามารถที่จะเข้ามาปรึกษาคุณหมอได้ฟรี ส่งรูปภาพผ่าน HDcare เพื่อให้คุณหมอประเมินก่อนได้ หรือสามารถที่จะเข้ามาตรวจร่างกายกับคุณหมอแบบละเอียดที่ Vincent Clinic

สามารถสอบถามทุกประเด็นเกี่ยวกับการผ่าตัดที่สงสัยกับทางทีมของ HDcare จนกว่าจะมั่นใจ และหากต้องการผู้ช่วยประสานงานด้านใดในโรงพยาบาล หรืออยากสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับบริการ HDcare สามารถพูดคุยผ่านทางไลน์ @HDcare ได้เลย

บทความที่ HDmall.co.th แนะนำ

@‌hdcoth line chat