HDmall สรุปให้
ปิด
ปิด
- สำหรับคนที่มีเหงื่อออกมาก สามารถรักษาได้ด้วยการฉีดสารโบทูลินัมท็อกซิน (Botulinum toxin) หรือที่เรียกทั่วไปว่า “สารโบท็อกซ์” (Botox) ทำให้เหงื่อที่ขับออกมาทางผิวหนังลดน้อยลงหรือแทบไม่มีเลย
- ส่วนใหญ่มักทำบริเวณที่มีเหงื่ออกมากเป็นพิเศษจนส่งผลต่อภาพลักษณ์ ความมั่นใจ และการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น รักแร้ แผ่นหลัง สีข้าง ฝ่ามือ ฝ่าเท้า
- สามารถทำได้ตั้งแต่อายุ 18 ปีขึ้นไป ซึ่งปริมาณโบท็อกซ์ที่ใช้จะประเมินตามขนาดของร่างกายผู้เข้ารับบริการแต่ละราย รวมถึงตำแหน่งที่ต้องการลดเหงื่อด้วย
- ฉีดโบท็อกซ์ นอกจากลดเหงื่อแล้ว ยังช่วยลดกลิ่นตัว
- การฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อต้องทำโดยแพทย์ที่มีความชำนาญสูง เพื่อความปลอดภัยและการรักษาที่ได้ผลสูงสุด ดังนั้นควรเลือกรักษากับแพทย์ที่มีประสบการณ์และสถานที่ให้บริการที่ได้มาตรฐาน
- บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ #HDinsight ได้รับการสปอนเซอร์จาก Chinnawee Clinic (ชินวีย์ คลินิก) แพทย์ผู้ให้ข้อมูลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อขายแพ็กเกจดังกล่าว
- ดูรายละเอียดโปรแกรมฉีดลดเหงื่อบริเวณรักแร้หรือเท้า บน HDmall.co.th
- ดูแพ็กเกจทั้งหมดจากชินวีย์ คลินิก บน HDmall.co.th
- สอบถามแอดมินเพิ่มเติมเกี่ยวกับแพ็กเกจได้ที่ไลน์ @HDcoth
สารบัญ
- ฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อคืออะไร?
- เทคนิคการฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อ
- จำนวนยูนิตในการฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อ
- ฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อ อยู่ได้นานแค่ไหน?
- ฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อสามารถลดปัญหา “กลิ่นตัว” ได้ด้วยหรือไม่?
- สามารถฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อได้ตั้งแต่อายุเท่าไร? ใครเหมาะที่จะฉีด?
- จำกัดหรือไม่ว่าต้องเหงื่อออกมากเท่าไร จึงจะมาฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อได้?
- ขั้นตอนการฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อ
- การเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อ
- หลังฉีดแล้วเห็นผลเมื่อไร?
- การดูแลตนเองหลังฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อ มีอะไรบ้าง?
- ใครฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อไม่ได้บ้าง?
- บทความที่ HDmall.co.th แนะนำ
เหงื่อออกมากระหว่างวัน เป็นอีกปัญหาด้านภาพลักษณ์ที่ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของใครหลายคน เพราะทำให้เกิดความไม่มั่นใจในบุคลิกภาพ และยังทำให้เกิดข้อจำกัดในการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ต้องอยู่ในห้องแอร์ตลอดเวลา ต้องใส่เสื้อผ้าสีทึบเพื่อไม่ให้เห็นคราบเหงื่อ ต้องพกผ้าเช็ดหน้าหรือทิชชู่เพื่อซับเหงื่อตลอดเวลา
จากผลกระทบที่ตามมาหลายอย่าง จึงทำให้หลายคนพยายามมองหาวิธีลดเหงื่อเพื่อเรียกความมั่นใจของตนเองกลับมาอีกครั้ง และไม่ทำให้ของเสียในร่างกายชนิดนี้กลายเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตอีกต่อไป
ซึ่งอีกวิธีที่น่าสนใจและช่วยลดเหงื่อได้เป็นระยะเวลานานก็คือ การฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อ Chinnawee Clinic ร่วมกับ HDmall.co.th จะมาเจาะลึกการฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อ ผ่านคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ
ฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อคืออะไร?
การฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อ คือ การฉีดสารโบทูลินัมท็อกซิน (Botulinum toxin) หรือที่เรียกทั่วไปว่า “สารโบท็อกซ์” (Botox) เพื่อยับยั้งการส่งสารสื่อประสาทที่ไปกระตุ้นการทำงานของต่อมเหงื่อ และทำให้เหงื่อที่ขับออกมาทางผิวหนังลดน้อยลงหรือแทบไม่มีเลย
สารโบทูลินัมท็อกซินที่ใช้ฉีดเพื่อลดเหงื่อเป็นสารชนิดเดียวกับที่ฉีดเพื่อเสริมความงามด้านการยกกระชับผิวไม่ให้หย่อนคล้อย เพียงแต่มีการใช้งานที่ต่างวัตถุประสงค์กันเท่านั้น
เทคนิคการฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อ
เทคนิคการฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อจะแตกต่างไปจากการฉีดโบท็อกซ์เพื่อเสริมความงาม เพราะการฉีดโบท็อกซ์เพื่อเสริมความงามนั้นจะมุ่งเน้นไปที่การฉีดสารเข้ากล้ามเนื้อให้มีขนาดเล็กลง และเพื่อยกกระชับความหย่อนยาน
ในขณะที่การฉีดโบท็อกซ์เพื่อลดเหงื่อนั้น แพทย์จะไม่ได้ฉีดลงไปที่ชั้นกล้ามเนื้อซึ่งอยู่ลึกกว่า แต่จะฉีดลงไปยังบริเวณต่อมเหงื่อซึ่งอยู่ตื้นกว่าเพื่อยับยั้งการทำงานของต่อมเหงื่อให้ขับเหงื่อออกมาน้อยลงที่สุด
จำนวนยูนิตในการฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อ
การฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อมักใช้ปริมาณยูนิตมากว่าการฉีดโบท็อกซ์เพื่อเสริมความงาม เนื่องจากบริเวณที่มักมีเหงื่อออกตามร่างกายมักกว้างกว่าบริเวณที่ต้องการยกกระชับผิว
แพทย์จะมีการพิจารณาจำนวนยูนิตที่ฉีดตามบริเวณที่ผู้เข้ารับบริการต้องการ รวมถึงประเมินตามขนาดของร่างกายผู้เข้ารับบริการแต่ละรายด้วย โดยปริมาณยูนิตที่ใช้โดยเฉลี่ยคือ
- บริเวณรักแร้ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า อยู่ที่ 100-150 ยูนิต
- บริเวณแผ่นหลัง สีข้าง อยู่ที่ 300-600 ยูนิต
นอกจากนี้ผู้ที่ต้องการฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อ แต่บริเวณที่ฉีดเป็นบริเวณหรืออวัยวะสำคัญที่ต้องใช้งานเป็นประจำและต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก เช่น ในนักกีฬา ศิลปิน นักดนตรี ก็จำเป็นต้องแจ้งข้อมูลเหล่านี้ให้แพทย์ทราบด้วย
เนื่องจากแพทย์อาจพิจารณาลดจำนวนยูนิตให้น้อยลง หรือใช้สารโบท็อกซ์ยี่ห้อที่มีการกระจายตัวน้อย เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่อาจส่งผลต่ออาชีพหรือชีวิตประจำวัน
ฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อ อยู่ได้นานแค่ไหน?
การฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อสามารถยับยั้งปัญหาเหงื่อออกมากได้นานถึง 4-9 เดือน แต่โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 6 เดือน
ฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อสามารถลดปัญหา “กลิ่นตัว” ได้ด้วยหรือไม่?
ได้ เพราะปัญหากลิ่นตัวมีต้นตอมาจากการหมัมหมมของเหงื่อกับเชื้อแบคทีเรียและซากเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ทำให้หลายคนที่มีปัญหาเหงื่อออกมากจึงมีปัญหากลิ่นตัวแรงตามมาด้วย
การฉีดโบท็อกซ์จึงสามารถช่วยยับยั้งได้ทั้งปัญหาของเหงื่อและกลิ่นตัวควบคู่กันในครั้งเดียว
สามารถฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อได้ตั้งแต่อายุเท่าไร? ใครเหมาะที่จะฉีด?
ผู้ที่สามารถเข้ารับบริการฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อจะต้องมีอายุตามกฎหมายข้อบังคับของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา นั่นคือ อายุ 18 ปีขึ้นไป
สำหรับผู้ที่เหมาะต่อบริการฉีดสารโบท็อกซ์เพื่อลดเหงื่อ โดยหลักๆ คือ กลุ่มผู้ที่มีปัญหาเหงื่อออกในบางบริเวณของร่างกายจนรู้สึกไม่มั่นใจตนเอง และอยากจะลดปริมาณเหงื่อที่ออกให้น้อยลง
จำกัดหรือไม่ว่าต้องเหงื่อออกมากเท่าไร จึงจะมาฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อได้?
ปัจจุบันยังไม่มีเกณฑ์มาตรฐานที่วัดว่า ใครควรมารับการฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อหรือใครไม่จำเป็นต้องฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อ เพียงแค่มีความต้องการอยากจะลดเหงื่อบางบริเวณของร่างกาย ก็สามารถมารับบริการนี้ได้แล้ว
เพราะความกังวลใจเกี่ยวกับเหงื่อที่ออกตามร่างกายของผู้เข้ารับบริการแต่ละรายย่อมไม่เท่ากัน บางรายกังวลเพราะเหงื่อออกมากผิดปกติ บางรายมีเหงื่อออกเพียงเล็กน้อยแต่ยังคงรู้สึกไม่มั่นใจและอยากลดเหงื่ออยู่ดี ก็สามารถมาขอคำปรึกษาและฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อได้เช่นกัน
ขั้นตอนการฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อ
การฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อมีขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อนและไม่น่ากลัวแต่อย่างใด โดยหลักๆ จะมีดังต่อไปนี้
- ตรวจร่างกายเบื้องต้น ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง และให้ข้อมูลประวัติสุขภาพ โรคประจำตัว รวมถึงแจ้งบริเวณที่อยากฉีดโบท็อกซ์เพื่อลดเหงื่อกับแพทย์
- เจ้าหน้าที่พาผู้เข้ารับบริการไปทำความสะอาดผิวบริเวณที่จะฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อ จากนั้นแพทย์จะกำหนดจุดฉีดโบท็อกซ์ที่มีความเหมาะสมและช่วยลดเหงื่อได้มีประสิทธิภาพที่สุด
- เจ้าหน้าที่ทายาชาให้ผู้เข้ารับบริการ และรอยาชาออกฤทธิ์ประมาณ 30-45 นาที
- เมื่อยาชาออกฤทธิ์ดีแล้ว แพทย์จะเริ่มฉีดโบท็อกซ์บริเวณที่กำหนดไว้
ผลข้างเคียงหรืออาการแทรกซ้อนรุนแรงหลังฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อมักพบในน้อยมากๆ โดยที่พบได้บ่อยจะเป็นอาการปวดระบมเล็กน้อยบริเวณที่ฉีด ซึ่งโดยปกติจะดีขึ้นเองภายใน 1-3 วัน
การเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อ
ก่อนวันรับบริการฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อ ผู้เข้ารับบริการไม่จำเป็นต้องดูแลตนเองเป็นพิเศษแต่อย่างใด รวมถึงไม่จำเป็นต้องงดอาหาร เครื่องดื่ม ยา วิตามิน หรือสมุนไพรใดๆ ก่อนมาฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อด้วย
อย่างไรก็ตามหากผู้เข้ารับบริการมีแผลสด มีอาการผิวหนังอักเสบหรือติดเชื้อ ก็จำเป็นต้องรักษาอาการดังกล่าวให้หายดีเสียก่อนมาเข้ารับบริการ
หลังฉีดแล้วเห็นผลเมื่อไร?
หลังจากฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อประมาณ 2-3 วัน ผู้เข้ารับบริการจะเริ่มสังเกตเห็นว่า ปริมาณเหงื่อบริเวณที่ฉีดลดลง และจะลดลงเต็มที่เมื่อผ่านไปประมาณ 1-2 สัปดาห์
การดูแลตนเองหลังฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อ มีอะไรบ้าง?
การดูแลตนเองหลังฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อที่ทุกคนควรทราบ ได้แก่
- งดนวด ถู ขัด ถอนขน ใช้น้ำหอม สารส้ม ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย และงดเลเซอร์ผิวหนังบริเวณที่ฉีดประมาณ 1-2 สัปดาห์หลังฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อ
- ดูแลสุขอนามัยผิวให้สะอาดอยู่เสมอ
- สามารถสวมใส่เสื้อผ้าได้ตามที่ต้องการอย่างอิสระ
- สำหรับผู้ที่ฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อที่ฝ่าเท้า หลังฉีดแล้วควรสวมถุงเท้าเนื้อบางหรือใช้ผ้าฝ้าย ผ้าที่ระบายอากาศได้ดี และไม่ควรใส่รองเท้าที่คับแน่นเกินไป เพื่อป้องกันความอับชื้นบริเวณเท้า
นอกจากนี้หลังจากรับบริการไปประมาณ 2 สัปดาห์ แพทย์จะนัดหมายให้ผู้เข้ารับบริการเข้ามาตรวจดูความคืบหน้าของการรักษาอีกครั้ง หากผู้เข้ารับบริการพึงพอใจกับปริมาณเหงื่อที่ลดลง แพทย์ก็มักนัดหมายให้เข้ามาพบกันอีกครั้งหลังจากผ่านไป 4-6 เดือน เพื่อพิจารณาการฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อในครั้งต่อไป
แต่หากผู้เข้ารับบริการรู้สึกว่า ยังมีเหงื่อออกอยู่และต้องการลดเหงื่อให้น้อยลงกว่านี้ แพทย์ก็อาจพิจารณาฉีดโบท็อกซ์เพิ่มให้อีกครั้งตามความเหมาะสม
ใครฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อไม่ได้บ้าง?
โดยปกติแล้ว การฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อจะสามารถทำได้ในกลุ่มผู้ที่อายุ 18 ปีขึ้นไปทุกเพศทุกวัย อย่างไรก็ตาม ก็มีบางกลุ่มที่ไม่สามารถรับบริการนี้ได้ เช่น
- กลุ่มผู้ที่แพ้สารโบท็อกซ์ เนื่องจากเมื่อฉีดแล้วก็อาจเกิดอาการแพ้รุนแรงเฉียบพลัน (Anaphylaxis) ได้ เช่น คลื่นไส้อาเจียน มีผื่นแดงขึ้นตามลำตัว คันผิวหนังอย่างรุนแรง เวียนศีรษะ ช็อค หมดสติ อาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
- กลุ่มผู้ป่วยโรคผิวหนัง เช่น โรคผิวหนังอักเสบ โรคผิวหนังติดเชื้อ เพิ่งผ่านการผ่าตัดและแผลยังไม่สมานตัวดี ประสบอุบัติเหตุจนมีแผลสด จำเป็นจะต้องรับการรักษาให้หายดีก่อนรับริการ
- ผู้ป่วยที่มีโรคประจำซึ่งส่งผลทำให้มีเหงื่อออกมาก เช่น โรคเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ โรคเบาหวาน โรคซึมเศร้า รวมถึงผู้ที่รับประทานยารักษาโรคซึ่งอาจส่งผลข้างเคียงทำให้มีอาการเหงื่อออกมากผิดปกติ
แพทย์จะแนะนำให้ผู้ป่วยไปรับการรักษาโรคที่เป็นสาเหตุทำให้เหงื่อออกมากให้หายดีเสียก่อน จากนั้นหากยังมีอาการเหงื่อออกมากอยู่ จึงค่อยมารับการฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อต่อไป
นอกจากนี้ กลุ่มคนทั้ง 3 กลุ่มได้แก่ หญิงตั้งครรภ์ ผู้ที่มีอาการเลือดออกแล้วหยุดยาก และผู้ที่มีอาการเนื้อเยื่อหรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง ก็จัดเป็นกลุ่มที่ไม่สามารถฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อได้ เนื่องจากอาจเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงจนเป็นอันตรายต่อสุขภาพในภายหลัง
ฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อเสริมความมั่นใจ ปลอดภัย สะอาดอย่างเป็นมาตรฐาน ที่ Chinnawee Clinic
Chinnawee Clinic มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อที่แม่นยำ มีความชำนาญสูง สามารถให้คำแนะนำและลงมือรักษาปัญหาเหงื่อออกมากของผู้เข้ารับบริการทุกท่านได้อย่างถูกจุด
ทางคลินิกยังคำนึงถึงความปลอดภัยและสุขอนามัยที่ดีของผู้เข้ารับบริการทุกท่าน ผ่านการใช้เครื่องมือการแพทย์ที่สะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐานจากกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงใช้สารโบทูลินัมท็อกซินที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาเรียบร้อยแล้ว
อีกทั้งทางคลินิกยังให้ความสำคัญต่อความกลัวของผู้เข้ารับบริการบางรายที่อาจกลัวเข็มฉีดยา แต่ยังต้องการฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อเพื่อเสริมภาพลักษณ์ให้กับตนเอง โดยใช้เครื่องมือทางแพทย์ชนิดพิเศษเพื่อลดอาการเจ็บระหว่างฉีด
นอกจากนี้การฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อที่ Chinnawee Clinic จะใช้หลอดฉีดชาชนิด Low Dead Space Syringe ซึ่งเป็นหลอดฉีดยาที่มีไซริงค์ชนิดพิเศษช่วยลดการสูญเสียยาที่อยู่ปลายหลอด ทำให้แพทย์สามารถใช้ทุกยูนิตของสารโบทูลินัมท็อกซินในการรักษาได้อย่างคุ้มค่าที่สุด
หมดปัญหาไม่มั่นใจตัวเองเพราะเหงื่ออกมาก ใส่เสื้อผ้าก็ต้องเลือกแล้วเลือกอีก ออกไปข้างนอกกับเพื่อนๆ ก็กลัวกลิ่นตัวจะออก ด้วยบริการฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อที่ปลอดภัยและยืนยาว จาก Chinnawee Clinic
บทความที่ HDmall.co.th แนะนำ
- โบท็อกซ์ คืออะไร? ข้อดี-เสีย ข้อควรระวัง วิธีดูแลตัวเอง
- ทำความรู้จักกับโรค "แพ้เหงื่อ" ตัวเอง โรคภูมิแพ้ทางผิวหนัง
พบกับโปรแกรมความงามและอื่นๆ ที่ Chinnawee Clinic กดดูรายละเอียด จองผ่าน HDmall.co.th รับส่วนลดพิเศษทันที หรือติดต่อแอดมินได้ที่ไลน์ @hdcoth พร้อมให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 9 โมงเช้าถึงตีหนึ่ง