แนวทางการคุมกำเนิดหรือการป้องกันการตั้งครรภ์นั้นทำได้หลายวิธี ทั้งการสวมถุงยางอนามัย การกินยาคุมกำเนิด การฉีดยาคุมกำเนิด หรือการฝังยาคุมกำเนิด แต่วิธีเหล่านี้ก็จะเป็นการคุมกำเนิดแบบชั่วคราวเท่านั้น หากเกิดการละเลยหรือไม่ใช้อุปกรณ์คุมกำเนิดอย่างรัดกุม ก็มีโอกาสที่จะเกิดการตั้งครรภ์ขึ้นได้
คู่รักหลายคู่ที่ไม่มีแผนการจะมีลูกในอนาคตจึงใช้วิธีการคุมกำเนิดถาวร หรือ “การทำหมัน” เป็นตัวช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยสามารถเลือกทำได้ทั้งในฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย
ในบทความนี้ HDmall.co.th จะพาคุณไปเจาะลึกเกี่ยวกับวิธีการทำหมันหญิงในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้คุณผู้หญิงหรือคู่รักที่สนใจอยากคุมกำเนิดแบบถาวรใช้เป็นข้อมูลเพื่อศึกษาก่อนตัดสินใจรับบริการทำหมัน
สารบัญ
การทำหมันหญิงคืออะไร?
การทำหมันหญิง (Female Sterilization) คือ การคุมกำเนิดเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์แบบถาวร ผ่านการใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ ทำให้ท่อนำไข่ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในอวัยวะสืบพันธุ์ของเพศหญิงเกิดการอุดตัน
การทำหมันหญิงจะส่งผลกระทบต่อประจำเดือนหรือการมีเพศสัมพันธ์ด้วยหรือไม่?
การทำหมันหญิงเป็นเพียงการป้องกันโอกาสการปฏิสนธิระหว่างไข่กับเชื้ออสุจิเท่านั้น แต่ไม่ได้กระทบในส่วนของกิจกรรมทางเพศหรือการมีรอบประจำเดือนแต่อย่างใด โดยผู้ที่ทำหมันหญิงจะยังมีอารมณ์ความรู้สึกทางเพศอยู่เช่นเดิม รวมถึงมีระดับฮอร์โมนในร่างกาย และมีรอบประจำเดือนอยู่เช่นเดิม
การทำหมันหญิงมีกี่แบบ?
การทำหมันหญิงแบ่งออกได้ 2 รูปแบบ ตามช่วงเวลาที่ลงมือทำหมัน ได้แก่
1. ทำหมันหลังคลอด
ทำหมันหลังคลอด (Postpartum tubal sterilization) เรียกได้อีกชื่อว่า “ทำหมันเปียก” คือ การทำหมันหญิงที่จะเกิดขึ้นในระหว่างหรือหลังคลอดบุตรภายในเวลาไม่เกิน 24-72 ชั่วโมง หรือไม่เกิน 7 วันหลังคลอดบุตร
การทำหมันหลังคลอดเป็นการทำหมันที่แพทย์อาศัยข้อได้เปรียบจากยอดมดลูกที่อยู่สูงระดับสะดือจากการคลอดบุตร ซึ่งจะทำให้คลำพบรังไข่ผ่านบริเวณหน้าท้องได้ง่ายขึ้น และผ่าตัดทำให้ท่อนำไข่อุดตันได้ง่ายกว่า รวมถึงมีแผลหลังผ่าตัดขนาดเล็ก
ด้วยเหตุนี้ ผู้ทำหมันจะได้คลอดบุตรและได้ทำหมันไปด้วยเลยในเวลาใกล้กัน จึงส่งผลให้ช่วงพักฟื้นหลังทำหมันที่โรงพยาบาลเป็นช่วงคาบเกี่ยวกับช่วงพักฟื้นหลังคลอดบุตรพอดี จึงไม่ต้องอยู่โรงพยาบาลนานมากนัก และไม่ต้องกลับมาผ่าตัดพร้อมนอนพักฟื้นซ้ำอีก
การเตรียมตัวก่อนการทำหมันหลังคลอด
ก่อนทำหมันหญิงไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดก็ตาม ผู้เข้ารับบริการทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชายควรชั่งใจและปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดเกี่ยวกับผลกระทบที่ตามมาหลังการทำหมัน นั่นก็คือ โอกาสมีบุตรที่จะเกิดขึ้นได้น้อยลงถึง 99% รวมถึงโอกาสที่ฝ่ายหญิงจะยังตั้งครรภ์ได้อยู่ประมาณ 1%
หากผู้เข้ารับบริการเปลี่ยนใจอยากมีบุตรภายหลังทำหมันไปแล้ว ถึงแม้ในปัจจุบันจะมีกระบวนการ “แก้หมัน” เกิดขึ้น แต่ก็จัดเป็นกระบวนการที่มีค่าใช้จ่ายราคาแพง และยังมีโอกาสที่จะแก้หมันไม่สำเร็จได้ จึงควรมีการไตร่ตรองเกี่ยวกับกระบวนทำหมันให้ถี่ถ้วนเสียก่อน และควรเป็นการยินยอมพร้อมใจทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย
เมื่อถึงช่วงเวลาใกล้คลอด หรือใกล้ช่วงเวลาที่จะเริ่มทำหมันหลังคลอดตามที่วางแผนกับแพทย์เอาไว้ ผู้เข้ารับบริการจะต้องเตรียมสุขภาพให้พร้อมต่อการผ่าตัดอย่างครบถ้วนด้วย เช่น
- แจ้งโรคประจำตัว ยาประจำตัว อาหารเสริม สมุนไพรเสริมสุขภาพให้แพทย์ทราบอย่างครบถ้วนเสียก่อน
เนื่องจากหากผู้ที่ต้องการทำหมันที่มีโรคประจำตัวที่ยังควบคุมไม่ได้ หรือมีโอกาสเกิดภาวะบางอย่างหลังคลอดบุตรเสร็จซึ่งจะเป็นอุปสรรคต่อการทำหมัน แพทย์ก็อาจยังไม่พิจารณาทำหมันให้ เช่น ตกเลือด เป็นโรคเบาหวาน โรคโลหิตจาง โรคที่เสี่ยงทำให้เกิดพังผืดในช่องท้อง - แพทย์อาจแนะนำรับยาคุมกำเนิดก่อนวันผ่าตัดทำหมัน 1 วัน รวมถึงภายหลังการผ่าตัดจนกว่ารอบประจำเดือนถัดไปจะมาถึง
- ต้องงดน้ำ งดอาหารอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง
- ควรปัสสาวะให้เรียบร้อยก่อนเตรียมเข้าห้องผ่าตัด เพื่อลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงจากการผ่าตัดกับกระเพาะปัสสาวะ
- ทำความสะอาดหน้าท้องจนถึงหัวหน่าวให้สะอาด
ขั้นตอนการทำหมันหลังคลอด
การทำหมันหลังคลอดจะเป็นการทำหมันด้วยวิธีผ่าตัดเพื่อกำจัดปลายท่อนำไข่ให้ตันทั้ง 2 ด้าน ส่งผลให้เชื้ออสุจิไม่สามารถเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ได้อีก โดยจะมีกระบวนการหลักๆ ดังต่อไปนี้
- แพทย์ให้ยาสลบและยาชาเฉพาะที่กับผู้เข้ารับบริการ
- แพทย์ทำคลอดบุตรให้ผู้เข้ารับบริการจนเสร็จสิ้นขั้นตอน
- แพทย์กรีดเปิดแผลบริเวณใต้สะดือ ตามแนวกลางลำตัว หรือตามแนวขวางต่ำกว่ายอดมดลูก ขึ้นอยู่กับแต่ละเทคนิคที่เลือกใช้
- แพทย์หาท่อนำไข่ด้วยอุปกรณ์จับท่อนำไข่ หรือจากการส่องกล้องขนาดเล็ก จนกระทั่งเห็นส่วนปลายของท่อนำไข่ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายปากแตร
- แพทย์ทำการตัด จี้ไฟฟ้า หนีบ หรือรัดส่วนปลายของท่อนำไข่ด้วยห่วงรัดหรือตัวหนีบขนาดเล็กให้ท่อนำไข่ตันทั้ง 2 ข้าง
- แพทย์เย็บปิดแผลให้เรียบร้อย
การดูแลตนเองหลังทำหมันหลังคลอด
- หลังจากผ่าตัดทำหมันหลังคลอดเสร็จแล้ว ผู้เข้ารับบริการต้องหลีกเลี่ยงไม่ให้แผลสัมผัสน้ำหรือความชื้น 7 วัน
- งดยกของหนัก การทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงหนักๆ อย่างน้อย 7 วันหรือตามที่แพทย์แนะนำ
- งดมีเพศสัมพันธ์ 1-2 เดือน หรือตามที่แพทย์แนะนำ
- เดินทางมาตัดไหมหลังผ่าตัดกับแพทย์ ซึ่งโดยปกติจะอยู่ที่ประมาณ 7 วันหลังผ่าตัด
- หากพบความผิดปกติใดๆ ที่อาจเป็นภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัด ให้รีบกลับมาพบแพทย์ทันที เช่น เลือดไหลหรือมีน้ำไหลจากแผลไม่หยุด ปวดท้องอย่างหนัก กินยาแก้ปวดแล้วอาการก็ยังไม่ดีขึ้น มีไข้สูง
2. ทำหมันแห้ง
ทำหมันแห้ง (Interval tubal sterilization) คือ การทำหมันหญิงที่จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาอื่นซึ่งไม่ได้อยู่ในระยะเวลาหลังคลอดบุตร อาจเป็นช่วงเวลาที่ผู้เข้ารับบริการรู้สึกสะดวกใจในการทำหมัน หรือตามความเหมาะสมของสุขภาพจากการประเมินโดยแพทย์
การทำหมันแห้งเป็นการทำหมันด้วยวิธีการผ่าตัดเช่นเดียวกับทำหมันหลังคลอด โดยจะผ่าตัดบริเวณเหนือหัวหน่าวซึ่งในปัจจุบันนิยมใช้เป็นเทคนิคการผ่าตัดส่องกล้อง (Laparoscopic Surgery) เพื่อการฟื้นตัวหลังผ่าตัดที่รวดเร็วขึ้น และมีแผลหลังผ่าตัดขนาดเล็กกว่า
อย่างไรก็ตาม การทำหมันแห้งก็มีจุดด้อยตรงที่แพทย์อาจคลำหาท่อนำไข่ได้ยากกว่าวิธีทำหมันหลังคลอด เนื่องจากขนาดมดลูกที่จะเล็กลงกว่าช่วงตั้งครรภ์ และตำแหน่งของยอดมดลูกจะไม่ได้ยกสูงเหมือนกับช่วงที่เพิ่งคลอดบุตรใหม่ๆ
การเตรียมตัวก่อนการทำหมันแห้ง
กระบวนการเตรียมสุขภาพและร่างกายให้พร้อมต่อการทำหมันแห้ง มีดังต่อไปนี้
- ไตร่ตรองเกี่ยวกับแผนการมีบุตรในอนาคตอย่างละเอียดและรอบคอบเสียก่อน เพราะหากทำหมันไปแล้วและต้องการมาแก้หมันในภายหลัง โอกาสจะกลับมาตั้งครรภ์อีกครั้งก็อาจยังมีโอกาสน้อยอยู่ดี
- ต้องมีการตรวจสุขภาพ และซักประวัติด้านสุขภาพกับแพทย์เสียก่อน เพราะหากมีโรคประจำตัวบางชนิด ก็จำเป็นต้องประคองอาการของโรคให้อยู่ในระดับที่ควบคุมได้เท่านั้น มิฉะนั้นแพทย์อาจพิจารณายังไม่ผ่าตัดทำหมันแห้งให้ เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิต โรคปอด โรคเบาหวาน โรคที่เสี่ยงทำให้เกิดพังผืดในช่องท้อง
- ผู้เข้ารับบริการต้องไม่ตั้งครรภ์ในช่วงเวลาที่ทำหมันแห้ง และต้องมีการตรวจยืนยันการตั้งครรภ์ก่อนรับการผ่าตัด
- นัดหมายวันผ่าตัดให้อยู่ในช่วงหลังมีประจำเดือนเท่านั้น
- พาญาติมาด้วยในวันผ่าตัด เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในระหว่างพักฟื้นหลังผ่าตัด
- แพทย์อาจแนะนำรับยาคุมกำเนิดก่อนวันผ่าตัดทำหมันแห้ง 1 วัน รวมถึงภายหลังการผ่าตัดจนกว่ารอบประจำเดือนถัดไปจะมาถึง
- ต้องงดน้ำ งดอาหาร 6-8 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด
- ควรปัสสาวะให้เรียบร้อยก่อนเตรียมเข้าห้องผ่าตัด เพื่อลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงหลังผ่าตัดกับกระเพาะปัสสาวะ
- ทำความสะอาดหน้าท้องจนถึงหัวหน่าวให้สะอาด
ขั้นตอนการทำหมันแห้ง
ขั้นตอนการทำหมันแห้งจะมีความคล้ายคลึงกับการทำหมันหลังคลอด เพียงแต่จะเกิดขึ้นต่างช่วงเวลากันเท่านั้น
- โดยในขั้นตอนแรก ผู้เข้ารับบริการจะถูกจัดให้อยู่ในท่านอนหงาย
- มีการให้ยาชาระงับความรู้สึกเฉพาะที่ และยาสลบก่อนเริ่มการผ่าตัด
- แพทย์จะกรีดแผลตามตำแหน่งที่กำหนดไว้ แล้วใช้กล้องขนาดเล็กส่องหาท่อนำไข่
- ทำให้ท่อให้ท่อนำไข่อุดตันผ่านวิธีการตัด จี้ไฟฟ้า หนีบ หรือรัดส่วนปลายของท่อนำไข่ด้วยห่วงรัด หรือตัวหนีบขนาดเล็ก
- เย็บปิดแผล เป็นอันเสร็จสิ้น
การดูแลตนเองหลังทำหมันแห้ง
การดูแลตนเองหลังทำหมันแห้งจะมีแนวทางเช่นเดียวกับการดูแลตนเองหลังทำหมันหลังคลอด ได้แก่
- ต้องระมัดระวังไม่ให้แผลสัมผัสน้ำหรือความชื้น 7 วัน
- งดการยกของหนัก การออกกำลังกาย หรือการทำกิจกรรมที่ใช้แรงมากๆ ประมาณ 7 วัน หรือตามที่แพทย์แนะนำ
- มาตัดไหมและตรวจความเรียบร้อยของแผลกับแพทย์ตามนัดหมาย
- งดมีเพศสัมพันธ์ 1-2 เดือนหลังทำหมัน
- สังเกตอาการแทรกซ้อนหลังผ่าตัด หากพบก็ให้รีบกลับมาพบแพทย์ทันที เช่น มีเลือดหรือน้ำไหลออกมาจากแผล ปวดท้องอย่างรุนแรง และไม่สามารถบรรเทาได้ด้วยยาแก้ปวด มีไข้สูง
ความเสี่ยงของการทำหมันหญิง
แม้การทำหมันหญิงจะช่วยป้องกันโอกาสการตั้งครรภ์ได้เกือบ 100% แต่ก็ยังมีความเสี่ยงหลายอย่างที่อาจเกิดขึ้นได้จากการผ่าตัดทำหมันได้ เช่น
- โอกาสกลับมาตั้งครรภ์อีกครั้ง แม้ทำหมันสำเร็จไปแล้ว
- ผู้ที่ทำหมันอยากเปลี่ยนใจกลับมามีบุตรอีกครั้งในภายหลัง
- อวัยวะใกล้เคียงในช่องท้องอาจได้รับความเสียหายจากการผ่าตัดไปด้วย เช่น กระเพาะปัสสาวะ
- อาจเกิดท่อนำไข่ฉีกขาดจากการผ่าตัด
- ภาวะเสียเลือดมากระหว่างการผ่าตัด
- ห่วงหรือคลิปหนีบท่อนำไข่หลุดหลังจากผ่าตัด
- ติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เพราะการทำหมันหญิงไม่ได้ช่วยป้องกันและลดโอกาสติดเชื้อจากโรคติดต่อประเภทนี้ได้ ผู้ที่ทำหมันไปแล้วยังต้องระมัดระวังเกี่ยวกับพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ และการรักษาสุขอนามัยทางเพศอยู่เช่นเดิม
การทำหมันหญิงเป็นการป้องกันโอกาสการตั้งครรภ์ที่ให้ประสิทธิภาพสูง และแทบจะลดโอกาสเกิดการตั้งครรภ์ได้เกือบ 0% เลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้ ผู้เข้ารับบริการจึงควรมีการวางแผนครอบครัวหรือแผนการมีบุตรอย่างละเอียดรอบคอบกับคู่ชีวิตเสียก่อน
มิฉะนั้นการทำหมันไม่ว่าจะในหญิงหรือชายอาจเปลี่ยนจากความสบายใจเป็นฝันร้ายที่ทำให้ความต้องการมีลูกของคุณไม่มีทางเป็นจริงได้
และเมื่อตัดสินใจทำหมันแล้ว คุณก็ควรเข้ารับบริการทำหมันในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานเท่านั้น เพื่อลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงจนเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ในภายหลังการผ่าตัด