11 ข้อน่ารู้เกี่ยวกับภูมิแพ้อาหารแฝง


ภูมิแพ้อาหารแฝง

"ภูมิแพ้อาหารแฝง" หลายคนอาจเคยได้ยิน แต่ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วมันคืออะไรกันแน่ แตกต่างจากการแพ้อาหารโดยทั่วไปอย่างไร และคำถามสำคัญคือ คนเราจำเป็นต้องตรวจภูมิแพ้อาหารแฝงหรือไม่? ตรวจแล้วได้อะไร ทำไมรายการตรวจถึงมีมากเป็นร้อยๆ รายการ

HDmall จึงหาคำตอบมาให้จากทีมผู้เชี่ยวชาญของ N Health ออกมาเป็น 11 ข้อที่หลายคนมักสงสัยเกี่ยวกับการตรวจภูมิแพ้อาหารแฝง ด้านล่างนี้!

ภูมิแพ้อาหารแฝงคืออะไร ต่างจากภูมิแพ้อาหารอย่างไร

ภูมิแพ้อาหารแฝง เกิดจากการรับสารหรือรับประทานอาหารชนิดเดิมซ้ำๆ ทำให้ร่างกายเกิดปฏิกิริยาต่อต้าน โดยแสดงอาการผ่านโรคหรืออาการเจ็บป่วยเรื้อรัง โดยไม่แสดงอาการทันทีเหมือนโรคภูมิแพ้ทั่วไป

อาการของภูมิแพ้อาหารแฝงสามารถเกิดขึ้นได้ในหลายระบบของร่างกาย เช่น ปวดท้อง ท้องอืด ท้องเสีย ไมเกรน ปวดตามข้อ อาการสมาธิสั้น อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ น้ำหนักเพิ่มขึ้น เป็นสิว ประจำเดือนผิดปกติ เป็นต้น มักเกิดขึ้นเมื่อเลยช่วงวัยรุ่นมาแล้ว ส่วนมากมักเกิดขึ้นในช่วงอายุ 20 ปีเป็นต้นไป เพราะแอนติเจนหรือสิ่งแปลกปลอมจากอาหารชนิดเดิมที่รับประทานซ้ำๆ ได้สะสมในร่างกายมานานพอสมควรแล้ว

ภูมิแพ้แฝงสามารถเกิดขึ้นจากสารก่อภูมิแพ้อื่นที่ไม่ใช่อาหารได้หรือไม่

สารชนิดอื่นที่ไม่ใช่อาหารก็สามารถก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้แบบแฝงได้ เช่น สารประกอบสำหรับปรุงแต่งอาหารบางชนิด สารกันเสีย พาราเบน สารเคมีอื่นๆ ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหรือเครื่องสำอาง เป็นต้น

วิธีตรวจภูมิแพ้อาหารแฝงมีวิธีใดบ้าง ทำอย่างไร เหมือนตรวจภูมิแพ้ทั่วไปหรือไม่

ต่างกันเล็กน้อย โดยการตรวจภูมิแพ้ทั่วไปสามารถตรวจได้ทั้งวิธีเจาะเลือดและการทดสอบทางผิวหนัง แต่การตรวจภูมิแพ้อาหารแฝงจะใช้วิธีเจาะเลือดอย่างเดียว เป็นการเจาะเลือดเพื่อดู IgG ซึ่งเป็นแอนติบอดีสำหรับอาการแพ้ที่ไม่เฉียบพลัน และมีรายการตรวจจำนวนมาก

การตรวจแบบเจาะเลือดสำหรับภูมิแพ้อาหารแฝงจะมีรายการตรวจมากกว่า 200 ชนิด ทำให้สามารถทดสอบกับอาหารได้หลายชนิดด้วยการเจาะเลือดเพียงครั้งเดียว

การตรวจภูมิแพ้อาหารแฝงมีความจำเป็นหรือไม่

แพทย์มักแนะนำให้ตรวจเมื่อปรากฏอาการเรื้อรังที่หาสาเหตุในทางอายุรกรรมไม่ได้ เช่น โรคกระเพาะ กรดไหลย้อน ลมแน่น เป็นสิว ไมเกรน เป็นต้น เพราะอาจมีสาเหตุจากอาหารที่รับประทานอยู่เป็นประจำก็ได้ แต่หากร่างกายแข็งแรงดีไม่มีอาการเรื้อรังใดๆ ก็ไม่มีความจำเป็น ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์ด้วย

ใครควรเข้ารับการตรวจ และสามารถตรวจได้ตั้งแต่อายุเท่าไหร่

สามารถตรวจได้ตั้งแต่อายุ 2 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะคนที่มีอาการเจ็บป่วยเรื้อรัง หาสาเหตุไม่ได้ และอาการเหล่านี้เป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตประจำวัน หรือซ้ำเติมให้โรคประจำตัวที่เป็นอยู่แย่ลง เช่น ปวดไมเกรน เป็นโรคกระเพาะ ประจำเดือนผิดปกติ ลมแน่นในช่องท้อง นอนไม่หลับ เป็นต้น

สัญญาณที่บอกว่าคุณควรตรวจภูมิแพ้อาหารแฝง

จุดสังเกตของภูมิแพ้อาหารแฝงคือการเป็นแบบเรื้อรัง ควรรับการตรวจเมื่อมีอาการ เช่น ไมเกรน อารมณ์หดหู่ วิตกกังวล เหนื่อยล้าหรือนอนไม่หลับ ปัญหาทางผิวหนัง (ผื่น คัน สะเก็ด บวมแดง สิว ตาคล้ำ) จมูกอักเสบ ไซนัส น้ำมูกไหลเรื้อรัง หัวใจเต้นผิดปกติ ปวดเมื่อยตามข้อหรือส่วนอื่นๆ ของร่างกาย จุกเสียดเป็นตะคริวที่ท้อง ท้องอืด ท้องผูก ท้องเสีย น้ำหนักขึ้น

ทำไมการตรวจภูมิแพ้อาหารแฝงถึงมีราคาสูง

เทคโนโลยีที่ใช้ในการตรวจผลิตจากเครื่องมือที่ทันสมัยและเป็นเทคโนโลยีขั้นสูงสุดสำหรับการตรวจสอบหาแอนติบอดีต่ออาหารจำนวนมากจากตัวอย่างเลือดจำนวนน้อย เพื่อเพิ่มความถูกต้องและแม่นยำของผลการทดสอบที่ได้มากที่สุด และมีการทดสอบวิจัยกับกลุ่มประชากรมากกว่าห้าพันคนก่อนที่จะนำผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาด

ทำไมรายการตรวจถึงมีเป็นร้อยรายการ ยิ่งตรวจเยอะยิ่งดีจริงหรือเปล่า

เนื่องจากความหลากหลายทางเชื้อชาติและภูมิภาคจึงมีรายการอาหารหลายชนิด เพื่อให้ครอบคลุมพฤติกรรมการรับประทานอาหารมากที่สุด รายการอาหารที่เยอะจะช่วยให้ผู้ตรวจสามารถเลือกรับประทานอาหารชนิดที่ไม่แพ้ เพื่อทดแทนสารอาหารที่อาจขาดไปหากต้องงดอาหารชนิดที่มีอาการแพ้ได้

การตรวจภูมิแพ้อาหารแฝง มีข้อจำกัดใดหรือไม่

แพทย์ไม่แนะนำผู้ป่วยที่มีการรับประทานยากดภูมิ หรือรับยาเคมีรักษาโรคมะเร็งชนิดต่างๆ เข้ารับการตรวจภูมิแพ้อาหารแฝง แต่สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวอื่นๆ สามารถตรวจได้ตามปกติ แต่เพื่อความมั่นใจ สามารถปรึกษาแพทย์ก่อนได้

การตรวจภูมิแพ้อาหารแฝงในเด็กและผู้ใหญ่ ใช้วิธีหรือมีขั้นตอนแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร

ใช้วิธีและขั้นตอนเหมือนกันคือการเจาะเลือดส่งตรวจในห้องปฎิบัติการ

ผลที่ได้จากการตรวจภูมิแพ้อาหารแฝง สามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไร

ใช้ผลการทดสอบที่ได้เพื่อออกแบบพฤติกรรมการเลือกรับประทานอาหาร โดยเลี่ยงการรับประทานอาหารชนิดที่ผลการทดสอบรายงานว่าแพ้หรือเป็นสีแดง และเลือกรับประทานอาหารเพื่อทดแทน โดยเลือกอาหารที่ให้ผลว่าไม่แพ้หรือเป็นสีเขียว ที่อยู่ในกลุ่มอาหารเดียวกัน ส่วนอาหารกลุ่มที่เป็นสีเหลืองก็ให้ลดปริมาณและความถี่ในการรับประทานลงตามคำแนะนำของแพทย์

ถ้าสังเกตพบว่าตัวเองมักมีอาการผิดปกติเรื้อรัง เช่น เป็นสิว ท้องเสีย ท้องอืด น้ำมูกไหล น้ำหนักขึ้น ปวดหัวไมเกรน ฯลฯ ซึ่งอาการก็ไม่ได้รุนแรงมากแต่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะร่วมกับเป็นผู้มีพฤติกรรมชอบกินอาหารชนิดเดียวกันซ้ำๆ บ่อยๆ การตรวจภูมิแพ้อาหารแฝงอาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคุณ

โดยส่วนใหญ่แล้ว เมื่อทราบว่าตัวเองมีภาวะแพ้แฝง และหลีกเลี่ยงอาหารชนิดที่แพ้แฝงไปสักระยะ อาการเรื้อรังต่างๆ ที่มีก็มักจะทุเลาลง

อยากตรวจแต่ไม่รู้จะไปที่ไหนดี ดูสถานที่ให้บริการตรวจภูมิแพ้อาหารแฝงใกล้คุณ พร้อมจองอย่างสะดวก ได้ทาง HDmall ต้องการอ่านรีวิวตรวจภูมิแพ้อาหารแฝง กดที่นี่ หรือถ้าอยากได้ข้อมูลเพิ่มหรือต้องการสอบถาม สามารถแอดไลน์ @hdcoth เข้ามาถามแอดมินก่อนได้ แอดมินใจดีพร้อมให้บริการคุณตลอดตั้งแต่ 09.00-01.00 น. ทุกวัน

@‌hdcoth line chat