ตรวจอัลตราซาวด์เต้านม ทำอย่างไร? ใครควรทำบ้าง?


HDmall สรุปให้!

  • การอัลตราซาวด์เต้านม เป็นการตรวจหาความผิดในเต้านมด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงหาความผิดปกติของเต้านมด้วยคลื่นเสียงที่มีความถี่สูง ช่วยให้แยกแยะได้ว่าเป็นนื้อเยื่อปกติ ก้อนเนื้อ หรือถุงน้ำ
  • ไม่สามารถตรวจหาจุดหินปูนได้ จึงควรตรวจคู่กับการทำแมมโมแกรมเพื่อเพิ่มความแม่นยำ
  • เหมาะกับเต้านมที่มีความหนาแน่นมาก หรือผู้ที่มีอายุน้อยแต่ยังตรวจหาหินปูนไม่ได้
  • กดดูแพ็กเกจ ตรวจมะเร็งเต้านม เปรียบเทียบราคา พร้อมจองได้ทันที ทาง HDmall

นอกจากการใช้เทคนิคในการคลำตรวจเต้านมของแพทย์แล้ว อาจมีการตรวจด้วยวิธีอัลตราซาวด์ร่วมด้วย ช่วยในการค้นหาหรือยืนยันความผิดปกติในเต้านมว่าเป็นมะเร็งเต้านมหรือไม่ เพื่อให้ผลตรวจที่ได้แม่นยำมากขึ้น ทำให้เพิ่มโอกาสรักษาได้ทันท่วงที

การตรวจอัลตราซาวด์

การตรวจอัลตราซาวด์ (Ultrasound) เป็นการใช้คลื่นเสียงความถี่สูงในการตรวจหาความผิดปกติในเต้านม โดยส่งคลื่นเสียงไปกระทบกับเนื้อเยื่อต่างๆ และสะท้อนผลกลับมาแสดงภาพที่เครื่องตรวจ ทำให้แยกแยะได้ว่าส่วนไหนเป็นเนื้อเยื่อปกติ ก้อนเนื้อ หรือถุงน้ำ แต่ไม่สามารถตรวจหาหินปูนได้เหมือนวิธีแมมโมแกรมหรือดิจิทัลแมมโมแกรม

การตรวจอัลตราซาวด์ เป็นการตรวจภายนอก โดยแพทย์จะทาเจลหล่อลื่นบริเวณเต้านม ก่อนใช้หัวตรวจ ทรานสดิวเซอร์ (Transducer) เคลื่อนไปมาบนผิวหนัง เพื่อส่งและรับคลื่นเสียงความถี่สูงแล้วส่งภาพไปยังจอมอนิเตอร์ แพทย์จะบันทึกภาพไว้

เหมาะกับใคร?

วิธีนี้เหมาะกับผู้ที่เต้านมมีความหนาแน่นมาก และผู้ที่อายุน้อยกว่า 25 ปีแต่ยังไม่สามารถตรวจหาหินปูนได้ เป็นการช่วยทำให้แพทย์เห็นเนื้อเยื่อบริเวณเต้านม รวมถึงผู้หญิงตั้งครรภ์ อยู่ระหว่างให้นมบุตร และผู้ที่ผ่านการเสริมหน้าอกมาด้วย

วิธีเตรียมตัวก่อนทำ

วิธีการเตรียมตัวก่อนเข้ารับการตรวจอัลตราซาวด์ มีดังนี้

  • ไม่ต้องอดอาหารและสามารถดื่มน้ำได้ตามปกติ
  • ไม่ทาโลชั่น ครีม แป้ง หรือโรลออนบริเวณรักแร้และเต้านม
  • ใส่เสื้อผ้าตามที่สถานพยาบาลกำหนด
  • หากผ่านการเสริมหน้าอกมาก่อน หรือมีความผิดปกติ เช่น คลำพบก้อนเนื้อ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนตรวจ

ตรวจอัลตราซาวด์ Vs ตรวจแมมโมแกรม

การตรวจอัลตราซาวด์ เป็นการส่งคลื่นเสียงความถี่สูงเข้าไปในเต้านม คลื่นเสียงจะสะท้อนกลับมาที่เครื่องและแสดงความแตกต่างของเนื้อเยื่อที่ตรวจพบว่าผิดปกติหรือไม่ และสิ่งผิดปกติที่พบเป็นถุงน้ำหรือก้อนเนื้อ แต่ไม่สามารถตรวจหาจุดหินปูนในเต้านมได้แบบวิธีแมมโมแกรม

ขณะที่การตรวจแมมโมแกรมและดิจิทัลแมมโมแกรม ต่างก็ใช้รังสีเพื่อสร้างภาพของเต้านม ต่างกันแค่การตรวจแมมโมแกรมเป็นการใช้ฟิล์ม ส่วนดิจิทัลแมมโมแกรมในโปรแกรมดิจิทัลช่วยเพิ่มความคมชัดของภาพให้เห็นมุมมองมากขึ้น

ทั้งนี้ สถานพยาบาลหลายแห่งมักตรวจอัลตราซาวด์คู่ไปกับการตรวจแมมโมแกรม เพื่อให้การวินิจฉัยชัดเจนและแม่นยำมากขึ้น

ที่มา

  • Honestdocs, การตรวจอัลตร้าซาวด์เต้านมคืออะไร ป้องกันโรคอะไรได้บ้าง ราคา วิธีการเตรียมตัว และวิธีการดูแลตัวเองหลังการตรวจ (https://www.hd.co.th/how-to-prepare-take-care-after-breast-ultrasound), 4 สิงหาคม 2563.
  • Honestdocs, การตรวจเต้านมแบบแมมโมแกรมกับอัลตราซาวด์เหมาะสำหรับใคร ตรวจแบบไหนดี (https://www.hd.co.th/mammograms-ultrasound-compare-price), 17 กันยายน 2563.
  • Independent Imaging, The Difference Between Digital Mammography and Film Mammography
  • Brian Krans, Breast Ultrasound (https://www.healthline.com/health/breast-ultrasound), 20 August 2018.
@‌hdcoth line chat